ตอนที่ 13 หยิ่งและจองหอง
แม้ว่านี่จะเป็นการถ่ายทอดสดครั้งแรกของเจียงเย่ แต่ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดก็อยู่กับเขาตลอดทั้งคืน
คืนนี้ มีเหตุการณ์ใบหน้าปีศาจก่อน ตอนนี้เป็นเสี่ยวรุ่ยที่โทรเข้ามาเป็นสายที่สอง
แต่ตั้งแต่ต้นจนจบ เจียงเย่ไม่เคยโกรธมาก่อนเลย
ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดและเสี่ยวรุ่ยต่างตกตะลึงกับเขา แต่พอมองดูในกระจกดีๆ ก็พบว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มีคนยืนอยู่ข้างหลังเสี่ยวรุ่ย
เป็นอาหยู!
ในมืออาหยูถือมีดปอกผลไม้ไว้!
มีดถูกยกขึ้น ถ้าเจียงเย่ไม่ตะโกนขึ้นมา มีดเล่มนั้นคงจะแทงใส่เสี่ยวรุ่ยไปแล้ว!
ในตอนนั้นเอง ร่างของชิงชิงก็ยืนขึ้น
ใบหน้าของเธอดูน่ากลัวอย่างมาก ดวงตา รูจมูกและหูมีเลือดไหลออกมา
อาหยูรีบถอยหลัง มองดูชิงชิงด้วยสีหน้าซีดเผือด "ออกไปนะ ออกไปให้พ้น!"
"อาหยู เธอจะทำอะไร?!"
ตอนนี้ เสี่ยวรุ่ยเห็นมีดในมือของอาหยูก็ตกใจเหมือนกัน
แต่อาหยูก็ชักกระตุกไปทั้งตัว ล้มลงกับพื้นทันที
เสี่ยวรุ่ยรีบวิ่งเข้าไปหา "อาหยู ตื่นสิ อาหยู เกิดอะไรขึ้น"
"เธอจะแกล้งทำอีกนานแค่ไหน?"
เสียงตะโกนเย็นชาของเจียงเย่ดังขึ้นอีกครั้ง อาหยูยังคงชักอยู่บนพื้น แต่เป็นการแกล้งทำ
"มีคำพูดที่ฮิตมากในอินเทอร์เน็ต แม้ผีจะน่ากลัว แต่ใจคนน่ากลัวกว่า ตอนที่เสี่ยวรุ่ยเล่าให้ฉันฟังว่าคนที่ตายคนแรกคือชิงชิง ฉันก็รู้สึกแปลกใจ ทำไมคนที่ตายคนแรกถึงเป็นเธอ ไม่ว่าจะคิดยังไงคนที่น่าจะโดนทรมานมากที่สุดก็น่าจะเป็นอาหยู"
"แต่หลังจากนั้นฉันก็เข้าใจ นี่อาจจะเป็นการแลกเปลี่ยน แต่เธอเลือกที่จะแลกเปลี่ยน ชิงชิงกับเสี่ยวหลิงไม่ได้เลือกเลย ฉันคิดว่าลึกๆ ในใจพวกเธอกำลังต่อต้านสิ่งนั้นอยู่ ตอนที่ทำการแลกเปลี่ยนก็คงจะเลือกคนที่สวยที่สุดสินะ?"
"ชิงชิงสวยมาก ความสวยของเธอเลยแผ่รัศมีเร็วที่สุด เธอเลยตายเร็วที่สุด อีกสองวันก็จะเป็นเสี่ยวหลิง ส่วนอาหยู เธออาจจะต้องตาย แต่กับสิ่งนั้น ถึงแม้เธอเป็นคนเปิดประตู แต่เธอก็จะตาย แค่ช้ามาก"
คำพูดของเจียงเย่ทำให้ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดไม่อยากจะเชื่อ แม้แต่เสี่ยวรุ่ยก็มองดูเจียงเย่ด้วยความไม่เชื่อ
"พี่ชายผู้ดำเนินรายการ หมายความว่าเรื่องนี้.. อาหยูเป็นคนวางแผนทั้งหมด.. งั้นเหรอ?"
"เป็นไปไม่ได้ ใครจะมีความคิดเลวร้ายขนาดนั้น? หรือว่าเธอไปทำสัญญากับผี?"
"ไม่มีเหตุผล พวกเธอสี่คนสนิทกันมาก ทำไมอาหยูถึงได้ใจร้ายขนาดนี้?"
เจียงเย่ไม่พูดอะไร แต่กลับจ้องมองไปที่อาหยูที่นอนแกล้งชักอยู่บนพื้น
"เสี่ยวรุ่ย เอากระจกทองเหลืองไปที่หมู่บ้านของอาหยู กระจกบานนี้ต้องเป็นของต้องห้ามในหมู่บ้านแน่ๆ เอาไปให้หัวหน้าหมู่บ้าน แล้วบอกเขาว่าอาหยูแอบเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ ขโมยกระจกบานนี้มา ฉันว่าถ้าคนในหมู่บ้านรู้เรื่องนี้ หมู่บ้านที่ยึดถือเรื่องเชื้อสายมากขนาดนั้น การบุกรุกของอาหยูถือว่าเป็นลางร้าย ส่วนการขโมยกระจกทองเหลือง ยิ่งเป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้!"
ตอนที่เจียงเย่พูดถึงตรงนี้ อาหยูที่นอนอยู่บนพื้นก็ตะโกนขึ้นมาทันที ใบหน้าของเธอดูน่ากลัว "หุบปาก!เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับแก! ทำไมต้องยุ่งเรื่องของคนอื่นด้วย! ทำไม!"
"เพราะเสี่ยวรุ่ยกลายเป็นผู้ชมของฉันแล้ว และเธอก็มาขอความช่วยเหลือจากฉัน ฉันก็ต้องปกป้องเธอ" เจียงเย่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ
อาหยูกัดฟันกรอด น้ำเสียงของเธอเหมือนดังมาจากขุมนรก "แกคิดว่าเธอเป็นคนดีเหรอ? พวกเธอเป็นคนดีกันหมดเลยเหรอ? ใช่ ถูกต้องแล้ว ฉันแอบเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ แล้วก็เชิญป้าของฉันออกมา เธอเป็นคนที่น่าสงสารเหมือนกับฉัน ตอนที่ป้ายังสาว ก็โดนคนอื่นล้อเลียนเพราะหน้าตาไม่สวย หลังจากนั้น เธอก็ค่อยๆ มีอำนาจในหมู่บ้านด้วยความสามารถของเธอเอง แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิง เลยไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในศาลบรรพบุรุษ ต่อให้ตายไปแล้วก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ฝังบนภูเขาสุสานบรรพบุรุษ!"
"ต่อมา ปู่หัวหน้าตระกูลก็สั่งว่าเธอเป็นตัวซวย เป็นดาวหายนะ วันหนึ่งจะนำหายนะมาสู่หมู่บ้าน คนในหมู่บ้านเลยจับเธอไปแขวนคอ ตอนที่ฝังเธอ ปากของเธอยังโดนยัดฟาง ป้าของฉันเลยยังคงวนเวียนอยู่ตรงนั้น ตอนที่ฉันเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ เธอเห็นว่าฉันโดนคนอื่นล้อเลียนเหมือนกับเธอ ก็เลยยื่นมือมาช่วยฉัน!"
"เสี่ยวรุ่ย ลองถามใจตัวเองดูสิ ตลอดหลายปีที่พวกเรานอนด้วยกัน เธอไม่เคยหัวเราะเยาะรูปร่างหน้าตาของฉันเลยสักครั้งเหรอ? ไม่ต้องปฏิเสธ ฉันรู้ พวกเธอแค่ทำดีกับฉันต่อหน้า!พวกเธอไม่เคยคิดที่จะเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆ แค่คบกับฉัน เพื่อที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าพวกเธอดีกว่าฉัน สวยกว่าฉัน!"
"ตราบใดที่พวกเธออยู่ ก็ไม่มีใครสนใจฉัน!"
ตอนที่อาหยูพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวอย่างมาก
แต่ไม่นานนัก เธอก็หันไปเยาะเย้ยชิงชิง "ส่วนเธอ เธอมันเลวที่สุด ฉันบอกชัดเจนแล้วว่าฉันชอบอู๋เฉิน ทำไม.. ทำไมเธอยังจะแย่งแฟนฉัน!ยัยสารเลว ยัยจิ้งจอก!"
"คิดว่ากลายเป็นผีแล้วจะทำอะไรฉันได้เหรอ? ฮ่าๆๆ ฝันไปเถอะ! ป้าของฉันไม่ปล่อยให้เธอทำร้ายฉันหรอก เธอได้แค่หลบอยู่ใต้เตียง เข้าใกล้ฉันไม่ได้เลยสักนิด.. ฮ่าๆๆ!"
คำพูดของอาหยูฟังดูรุนแรง เย่อหยิ่งและจองหอง
หลังจากหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เธอก็มองไปที่เจียงเย่ "ส่วนแก ไอ้ขี้เสือก การปราบผีไม่เกี่ยวกับฉัน ถึงแม้ฉันจะเป็นคนเอากระจกมา แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าในกระจกมีผี"
พูดจบ อาหยูก็เชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง
มองดูใบหน้าที่น่าเกลียดของเธอในห้องถ่ายทอดสด คนดูมากมายต่างก็เดือดดาล "บัดซบ! วิทยาลัยศิลปะหลูหยางใช่ไหม? ชื่อหลินหยูใช่ไหม? รอก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปฉีกหน้าเธอ!"
"ทนไม่ไหวแล้ว บนโลกนี้มีผู้หญิงหน้าด้านขนาดนี้ได้ยังไง? เห็นได้ชัดว่าตัวเองอิจฉาคนอื่น จิตใจบิดเบี้ยวเพราะขาดความมั่นใจในตัวเอง แต่กลับโยนความผิดให้คนอื่น!"
"ฉันโกรธมาก ผู้ดำเนินรายการ.. จัดการเธอเลย!"
เจียงเย่ส่ายหัว "ขอโทษด้วย เรื่องของคนเป็น ผมควบคุมไม่ได้ เสี่ยวรุ่ย เธอต้องขอบคุณคุณยายนะ ถ้าไม่มีคุณยาย ป้าของอาหยูคงจะฆ่าเสี่ยวหลิงกับเธอไปแล้ว"
พูดจบ เสี่ยวรุ่ยก็ตกตะลึง
สีหน้าของอาหยูแข็งค้าง "แกพูดว่าอะไร? เพ้อเจ้ออะไรของแก!"
“ฉันไมเห็นผีตัวไหนในหอหรือบนกระจกนั่นเลย”
หลังเจียงเย่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ชิงชิงก็ขยับตัว
ร่างของเธอพุ่งเข้าใส่อาหยูแทบจะทันที ร่างกายของอาหยูแข็งทื่อ จากนั้นก็วิ่งเข้าหากระจกทองเหลือง แล้ววิ่งออกไป
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เสี่ยวรุ่ยยังคงตกตะลึงอยู่
"เสี่ยวรุ่ย ตามเธอไป ทำอะไรไว้ก็ต้องชดใช้ ฉันยุ่งเรื่องของคนเป็นไม่ได้ แต่มีคนทำได้"
เจียงเย่พูดจบ เสี่ยวรุ่ยก็รีบวิ่งตามออกไปทันที