ตอนที่ 120 แค่คิดถึงพวกนั้น ข้าก็รู้สึกเจ็บก้น...
ในเขตลับของเผ่าสุนัขสวรรค์ ขณะนี้ทั้งเขตลับพังทลายลงอย่างรุนแรง ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีเลือด และพื้นดินเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ภูเขาและแม่น้ำถูกทำลาย ที่นี่ได้เกิดการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมขึ้น ปัจจุบันไม่มีสุนัขตัวใดรอดชีวิต เผ่าสุนัขสวรรค์ทั้งเผ่าถูกทำลาย!
บนท้องฟ้าสูง ฮั่วหยุนเฟยยืนอยู่ใต้ท้องฟ้าสีเลือด ร่างในชุดขาวของเขาแผ่กลิ่นอายสังหารออกมา "เดิมทีข้าคิดจะไว้ชีวิตพวกเจ้าหมาแมว แต่ใครจะรู้ว่าพวกเจ้าจะไร้ค่าเช่นนี้"
"พวกพ้องที่ไร้ประโยชน์ คงจะเป็นแบบนี้สินะ" ฮั่วหยุนเฟยพึมพำตามลำพัง ตามแผนของเขา หากทั้งสามเผ่าไม่ทำให้เกิดการสูญเสียอะไรมากมาย พวกเขาก็สามารถนำมาใช้เป็นมือได้อยู่แล้ว เพราะเผ่าพญาเหยี่ยวปีกเงินและเผ่าวัวหกเขาได้เตรียมเส้นทางไว้แล้ว แต่เมื่อเขากำลังจะมาถึงเผ่าสุนัขสวรรค์ เขาก็ได้รับข่าวที่ไม่คาดคิด
ปรากฏว่า ในเมืองโบราณหลียวี่ที่ปรมาจารย์เซี่ยเซวียนดูแลอยู่นั้น มีผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งนักบุญโผล่มาถึงสองคน! ในขณะที่เมืองโบราณอื่นๆ ที่มีผู้ปกป้องอาณาเขตจากสำนักเกาซาน จะมีก็เพียงผู้แข็งแกร่งระดับมหาเต๋าเท่านั้น แต่ว่าเมืองโบราณหลียวี่นั้นแตกต่างออกไป เพราะในเงามืดนั้น เผ่าสุนัขสวรรค์ได้ซ่อนผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งนักบุญไว้ถึงสองคน
ทั้งสองคนนี้ได้ซ่อนตัวอยู่ที่เมืองหลียวี่ก่อนที่สามเผ่าจะก่อกวน เมื่อเห็นว่าศิษย์ของสามเผ่าไม่สามารถต่อกรกับศิษย์สำนักเกาซานได้และพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ พวกเขาจึงทนไม่ไหวและออกมาโจมตี
เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งนักบุญลงมือ ก็ราวกับสายฟ้าฟาด แม้ศิษย์สำนักเกาซานจะมีวิธีป้องกันตัวมากมาย มีการวางจิตวิญญาณของผู้อาวุโสระดับสูงไว้ในร่างของทุกคน เพื่อให้คอยปกป้องในยามคับขัน แต่นั่นก็ยังไม่สามารถป้องกันการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งนักบุญได้ ศิษย์หลายคนเสียชีวิตในพริบตา
เหล่าผู้บำเพ็ญในเมืองโบราณหลียวี่ก็ยิ่งน่าสงสาร เพราะพวกเขาไม่มีวิธีป้องกันตัวมากนักและถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียวก็ก่อให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่
โชคดีที่เซี่ยเซวียนเจินเหรินผู้ดูแลเมืองนี้ตอบสนองได้ทันท่วงที ด้วยการใช้เคล็ดลับลับเฉพาะเพื่อเพิ่มพลังให้เขาอยู่ในระดับกึ่งนักบุญชั่วคราว และด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าผู้อาวุโสที่ใช้เคล็ดลับเพิ่มพลังเช่นกัน ในที่สุดพวกเขาก็สามารถจัดการกับผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งนักบุญทั้งสองได้?
แต่ผลลัพธ์ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าเศร้า การใช้เคล็ดลับเช่นนี้มีราคาที่ต้องจ่ายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยเซวียนเจิยเหรินหรือเหล่าผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ได้รับความเสียหายที่รากฐานอย่างรุนแรง นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในขั้นที่ใกล้จะตาย ตอนนี้พวกเขาได้ถูกนำตัวกลับไปยังสำนักอย่างเร่งด่วน ว่าจะสามารถรอดชีวิตได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตา
ศพของศิษย์สำนักเกาซานที่เสียชีวิตจากการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งนักบุญทั้งสองนี้ ได้ถูกห่อด้วยผ้าขาวและนำกลับไปยังสำนักโดยเพื่อนศิษย์
...
เผ่าสุนัขสวรรค์ถือว่ามีความหยิ่งทะนง เป็นชนเผ่าที่สร้างปัญหา ดังนั้นฮั่วหยุนเฟยจึงเดินทางมาเพื่อจะสั่งสอนพวกเขา หากพวกเขาฝึกฝนให้ดี ก็จะกลายเป็นพวกที่ใช้งานได้ดีมาก หมาเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี แต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตูเผ่า เขาก็ได้รับข่าวร้ายนี้
จากการสั่งสอนเปลี่ยนเป็นการล้างเผ่า โดยไม่มีทางหันหลังกลับ
ก่อนออกจากสำนัก เขาได้สัญญากับเจ้าสำนักจางหยุนเทียนไว้ว่า ใครก็ตามที่ทำร้ายศิษย์สำนักเกาซานและทำให้เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว จะต้องถูกล้างเผ่าพร้อมทั้งตระกูล! เผ่าสุนัขสวรรค์เหยียบเข้ากับกับดักแล้ว ก็ต้องพบกับจุดจบเช่นนี้
ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของฮั่วหยุนเฟยแม้ว่าเผ่าสุนัขสวรรค์จะนำแหล่งพลังงานของมหาจักรพรรดิออกมา เพื่อปลุกบรรพบุรุษที่หลับใหลมาหลายปี มันก็ไม่เป็นประโยชน์เลย แหล่งพลังงานเหล่านี้เนื่องจากถูกสร้างขึ้นโดยกึ่งจักรพรรดิจึงมีข้อจำกัดในการใช้เวลาและไม่สามารถปิดผนึกระดับกึ่งจักรพรรดิได้
สุดยอดพลังที่เผ่าสุนัขสวรรค์มีอยู่ก็คือมหานักบุญที่สละชีวิตไปแล้ว หลังจากฟื้นคืนชีพ เขาจะต้องตาย ไม่ว่าจะลงมือหรือไม่ก็ตาม ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น เขาก็เดินทางไปถึงจุดสิ้นสุดของชีวิตแล้ว
ดังนั้น มหานักบุญสุนัขสวรรค์ผู้นี้จึงโกรธมากและใช้พลังเต็มที่ในการควบคุมสุกยอดอาวุธเพื่อโจมตีฮั่วหยุนเฟย แต่ก็ไร้ผล แม้แต่กึ่งจักรพรรดิในระดับเดียวกันก็เป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆในสายตาของฮั่วหยุนเฟยไม่ต้องพูดถึงมหานักบุญเลย การถือสุดยอดอาวุธก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกกลัวแม้แต่น้อย หากต้องการจะคุกคามเขา ก็ต้องเป็นกึ่งจักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นจึงจะมีโอกาส
หลังจากสังหารมหานักบุญสุนัขสวรรค์ผู้นี้แล้ว ฮั่วหยุนเฟยก็เก็บสุดยอดอาวุธของพวกเขาไว้ในครอบครอง จากนั้นก็นำเสื้อรบของคุนเผิงและเตาหลอมจักรพรรดิออกมา
อาวุธหนึ่งคือสุดยอดอาวุธ อีกอันคืออาวุธของจักรพรรดิ ทั้งสองนี้ถูกใช้ในการกวาดล้างสุนัขสวรรค์อย่างง่ายดาย
ต้องบอกว่าทั้งสองชิ้นนี้ทะเลาะกันมาตลอดทาง ชุดรบคุนเผิงเรียกเตาหลอมจักรพรรดิว่า "พี่ใหญ่เตา" ก่อนจะเข้าไปตันเถียนแต่หลังจากออกมาแล้วกลับเรียกว่า "น้องเตา" ในขณะที่เตาหลอมจักรพรรดิก็ด่ากลับไปว่า "เจ้าไร้ประโยชน์ ช่วยอะไรไม่ได้เลย" ไม่รู้ว่าพวกมันเจออะไรกันมาในตันเถียนแต่แน่ๆ ว่ามีเรื่องระหองระแหงเกิดขึ้นระหว่างพวกมัน
หลังจากล้างเผ่าสุนัขสวรรค์เสร็จ ฮั่วหยุนเฟย
ก็พบคลังสมบัติที่ซ่อนอยู่ลึกมาก หลังจากกวาดเอาสมบัติทั้งหมดไปแล้ว เขาก็ใช้เตาหลอมจักรพรรดิเพื่อทำลายเขตลับแห่งนี้ทั้งหมด ลบล้างทุกหลักฐานที่มีอยู่ เหลือไว้เพียงอำนาจของจักรพรรดิที่เบาบางอยู่ในอากาศ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
...
สำนักเกาซาน ยอดเขาเซี่ยเซวียน
ขณะที่เจ้าสำนักจางหยุนเทียนมองไปยังเซี่ยเซวียนเจินเหรินที่นอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าซีดเซียว เขาก็มีสีหน้าเคร่งเครียด กำหมัดจนกลายเป็นสีม่วงเข้ม "พวกไร้ยางอาย!"
ในการต่อสู้ระหว่างสองฝ่าย การที่ผู้ที่มีพลังระดับสูงกว่าจู่โจมผู้ที่มีพลังต่ำกว่านั้นเกิดขึ้นได้ยาก และแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็มีผู้แข็งแกร่งคอยปกป้อง หากมีการโจมตีโดยไม่คำนึงถึงระดับพลัง มีสักกี่คนที่สามารถทนรับการโจมตีแบบนี้ได้?
ดังนั้นเรื่องแบบนี้จึงถือเป็นกฎที่ไม่ได้เขียนขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร
"เรายังไม่ระมัดระวังพอ หลังจากเหตุการณ์นี้จะต้องอัปเกรดจิตวิญญาณของผู้อาวุโสที่ฝังไว้ในตัวศิษย์ทุกคน"
"ข้าจะเข้าไปยังสุสานบรรพชนเพื่อเรียกอาวุโสขั้นนักบุญขึ้นมาอย่างน้อยสักคนเพื่อฝังในตัวศิษย์! หากพวกเจ้าบีบบังคับให้สำนักเกาซานต้องทำถึงเพียงนี้แล้วล่ะก็ ข้าจะไม่ไปขุดสุสานบรรพชนของพวกเจ้า ก็นับว่าข้าโตมาฟรีๆ!"
พูดจบเจ้าสำนักจางหยุนเทียนสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปด้วยความโกรธ เขาออกจากยอดเขาเซี่ยเซวียนและตรงไปยังดินแดนบรรพชนทันที
หลังจากที่เจ้าสำนักจางหยุนเทียนจากไปเซี่ยเซวียนเจินเหรินที่อ่อนแอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา มองไปที่เพดานแล้วถอนหายใจเบาๆ เธอรู้สึกผิดอย่างมากต่อศิษย์ที่เสียสละไป การที่ไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้เป็นความบกพร่องของเธอ
"เผ่าสุนัขสวรรค์ พวกเจ้าอยู่ไม่ถึงสามวันแน่..." เซี่ยเซวียนเจินเหรินพึมพำกับตัวเอง เธอรู้ดีว่าเมื่อครู่เจ้าสำนักจางหยุนเทียนที่จากไปอย่างโกรธจัดนั้น ได้ไปเชิญบรรพชนในสุสานมาแล้ว
และเมื่อบรรพชนที่อยู่ในสุสานทราบว่าศิษย์รุ่นหลังของสำนักถูกโจมตีและสังหารโดยผู้แข็งแกร่งระดับสูงของอีกฝ่าย พวกเขาจะต้องโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก หากไม่กวาดล้างเผ่าหมาสุนัขสวรรค์จนหมดสิ้น พวกเขาจะไม่ยอมหยุดแน่ การปกป้องลูกหลานไม่ใช่แค่คำพูดที่ลอยๆ
...
ไม่นานนัก ร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวออกมาจากส่วนลึกของดินแดนบรรพชน เมื่อเขาเดินผ่านสำนักเกาซาน เขาเหลือบมองดูอาคารของสำนักที่เขาไม่ได้พบเจอมานานแล้วเผยรอยยิ้มเล็กน้อย แต่ในพริบตา รอยยิ้มนั้นก็กลายเป็นความเย็นชา และร่างนั้นก็หายไป
เมื่อเขามาถึงเขตลับของเผ่าสุนัขสวรรค์ กลับพบว่าไม่มีอะไรเหลืออยู่ที่นั่นแล้ว อำนาจของจักรพรรดิที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในอากาศบอกเขาว่า ที่นี่ถูกทำลายลงแล้ว
"อาวุธของจักรพรรดิ..." ร่างนั้นพึมพำพร้อมกับใช้สองมือคำนวณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาเห็นภาพหมอกหนาปรากฏขึ้นเบื้องหน้า และในความลึกของหมอกนั้นเหมือนจะมีเงาคนหนึ่งกำลังเดินไปโดยไม่สนใจเขา
"เคล็ดลืมตน เคล็ดอมตะ และเคล็ดวิชาซ่อนเร้น... กลิ่นอายของสายเลือดตระกูลฮั่ว..." ร่างนั้นยิ้มออกมาและกล่าวว่า "ไม่เคยพบเห็นเด็กคนนี้มาก่อน แต่คงเป็นหลานชายที่หยิ่งผยองที่ซางเทียนเคยกล่าวถึง..."
"เฮ้อ ยอดเขาเต๋าหยวนเอ๋ย ยอดเขาเต๋าหยวน เมื่อไหร่พวกเจ้าจะถูกกดหัวสักทีนะ? แต่ละคนมันช่างน่ากลัวเหลือเกิน... แค่คิดถึงพวกนั้น ข้าก็เจ็บก้นแล้ว..."