Solo Leveling: Ragnarok ตอนที่ 19
ช่วงเวลาหนึ่ง อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยความฮือฮา
• ข่าวพิเศษ! ความจริงที่ซ่อนเร้นของกิลด์ไฮยีนา!
• มนุษย์หมาป่าที่ภูเขากวานอักซาน!
• ผู้รอดชีวิตที่เกือบจะกลายเป็นอาหารของสัตว์ประหลาด!
ผู้รอดชีวิตจากพื้นที่ฟิลด์ที่ภูเขากวานอักซาน ซึ่งซูโฮได้ช่วยเหลือไว้ ได้เปิดเผยทุกอย่างที่พวกเขาได้ประสบพบเจอต่อสื่อ และผู้คนต่างก็ช๊อกกับสิ่งที่ได้ยิน
• บ้าไปแล้ว;;; นั่นมันอะไรกัน;;;;
• จับมนุษย์ไปให้สัตว์ประหลาดกินเนี่ยนะ??
• นี่มันเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรทำหรือเปล่า?
• ฮันเตอร์เหล่านี้กลายเป็นทาสของสัตว์ประหลาดไปแล้ว;;
• แบบนี้มันเป็นผู้ทรยศต่อมนุษยชาติหรือเปล่า?
เมื่อผู้คนได้รับรู้ว่ามนุษย์กำลังล่ามนุษย์เพื่อมอบให้สัตว์ประหลาดเป็นอาหาร ความโกรธแค้นของพวกเขาก็ท่วมท้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
พร้อมกันนั้น ลูกศรแห่งการวิจารณ์ก็พุ่งตรงไปยังกิลด์อื่น ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับกิลด์ไฮยีนาไม่มากก็น้อย
• กิลด์ซาชินเป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังของไฮยีนาหรือเปล่า?
• ใช่ ๆ รู้กันดีในวงการนี้ว่าพวกเขาเกี่ยวข้องกัน
• ในเมื่อกิลด์ไฮยีนาสูบเลือดฮันเตอร์ระดับล่างด้วยการปล่อยกู้เงินดอกเบี้ยสูง แล้วเงินทุนจำนวนมหาศาลนั้นมาจากไหนกันล่ะ?
• พวกไฮยีนาแต่เดิมมันแค่พวกนักเลงแถวบ้านนี่เอง
• แน่นอนว่ามันต้องมีใครบางคนจากกิลด์ใหญ่อยู่เบื้องหลังการสนับสนุนเงินให้พวกมัน
• ควรจะตรวจสอบกิลด์ซาชินอย่างละเอียดในโอกาสนี้เลย
ปัง!
"เราต้องทนดูคำพูดไร้สาระแบบนี้ต่อไปหรือยังไงกัน?!"
อิมแทยู หัวหน้ากิลด์ซาชิน ทุบโต๊ะด้วยความโกรธ จนโต๊ะหินอ่อนหักเป็นสองท่อน แต่ไม่มีใครในห้องประชุมสนใจเลย
"ขออภัยครับ พวกเราพยายามเต็มที่ในการตอบโต้แล้ว แต่...กระแสสังคมมันแรงเกินไปจริง ๆ..."
"หัวหน้าฝ่ายวางแผน"
เสียงเย็นชาของอิมแทยูทำให้หัวหน้าฝ่ายวางแผนหยุดพูดทันที
"ฉันจ้างคุณมาเพื่อฟังข้อแก้ตัวแบบนี้หรือเปล่า? คุณมีหน้าที่มาแค่ตอบคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตเหรอ?"
"ขออภัยครับ..."
"เฮ้อ..."
อิมแทยูเอนหลังพิงเก้าอี้และถอนหายใจยาว
"ขอถามหน่อยเถอะ ทำไมภาพลักษณ์ของเราถึงได้แย่ขนาดนี้? เมื่อปีที่แล้วกิลด์เรายังไปได้สวยอยู่เลยไม่ใช่หรือ?"
ไม่มีใครในห้องประชุมกล้าตอบคำถามของอิมแทยู แต่ละคนมองหน้ากันด้วยความลำบากใจ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าทำไมสถานการณ์ถึงกลายเป็นแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก
‘ถ้าพูดไปหัวของฉันคงจะหลุดแน่ ๆ’
แบคยุนโฮ ฮันเตอร์ S-Class ผู้ที่เคยเป็นรองหัวหน้ากิลด์ซาชิน ได้แยกตัวออกไปตั้งกิลด์ใหม่ชื่อว่า ‘กิลด์แบคโฮ’ เมื่อปีที่แล้ว
และตั้งแต่นั้นมา พลังของกิลด์ซาชินก็ลดลงไปครึ่งหนึ่ง
แต่ปัญหาที่แท้จริงกลับไม่ใช่แค่การที่แบคยุนโฮจากไป
ทุกคนในห้องประชุมต่างรู้สาเหตุที่แท้จริง แต่ไม่มีใครกล้าพูดออกมา
‘พูดออกไปหัวฉันคงหลุดแน่’
หลังจากที่แบคยุนโฮจากไป อิมแทยูก็ได้ทำการแต่งตั้งฮันเตอร์ระดับ A-Class คนหนึ่งขึ้นมาเป็นรองหัวหน้ากิลด์ทันที
ฮันเตอร์คนนั้นชื่อว่า อีมินซอง ซึ่งเป็นคนรู้จักของอิมแทยูมาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่
และแน่นอนว่าคนในกิลด์ซาชินไม่พอใจเป็นอย่างมาก
อีมินซอง ไม่เคยเข้าร่วมการต่อสู้ในดันเจี้ยนจริง ๆ แม้แต่ครั้งเดียว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้ากิลด์ ไม่ใช่ความสามารถทางการต่อสู้ แต่เป็นเพราะเขามีทรัพย์สินมหาศาล
จริง ๆ แล้วอีมินซองเป็นเพียงผู้สนับสนุนทางการเงินที่ทรงพลังเท่านั้นเอง
และแผนการนี้ก็ประสบความสำเร็จบางส่วน
หลังจากที่อีมินซองได้รับการแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้า ฮันเตอร์ในกิลด์ซาชินก็เริ่มได้รับอาวุธและอุปกรณ์ที่มีราคาแพงและทรงพลังมากขึ้น
แต่สิ่งที่น่าขันก็คือ...
‘ตั้งแต่ตอนนั้น ภาพลักษณ์ของกิลด์เราก็แย่ลงเรื่อย ๆ’
หัวหน้าฝ่ายวางแผนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และต้องอดทนกับความไม่พอใจนั้นเอาไว้
พอดีกับที่ประตูห้องประชุมเปิดออก และอีมินซองก็เดินเข้ามา
“ขอโทษทีนะ ที่มาช้าไปหน่อย รถติดมากจริง ๆ”
ถึงจะมาสายไปชั่วโมงหนึ่ง แต่เขากลับหัวเราะและพูดด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ
ใบหน้าของเขายังคงหล่อเหลาและยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนกับเมื่อครั้งที่เขายังเป็นนักแสดงชื่อดัง
แต่สายตาที่เย็นชาของอิมแทยูจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ
“คุณอีมินซอง รองหัวหน้ากิลด์”
“โอ้ะ นี่อะไรเนี่ย? หัวหน้าทำโต๊ะพังเหรอ? แรงเยอะจริงๆ”
“คุณอีมินซอง”
“เฮ้ย คิม เลขา! เอาโต๊ะนี่ไปเปลี่ยนเป็นโต๊ะที่ดีกว่าเดิมหน่อยนะ เข้าใจไหม?”
“นี่! อีมินซอง!”
ในที่สุดอิมแทยูก็ทนไม่ไหวและตะโกนเสียงดังลั่น
อีมินซองที่ยิ้มอยู่ตลอดก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นมาทันที
“นี่ คุณเรียกผมว่าอะไรนะ?”
อีมินซองเอียงศีรษะเล็กน้อยและจ้องมองอิมแทยูด้วยสายตาเย็นชา
อิมแทยูเมินคำพูดนั้นและถามด้วยน้ำเสียงเข้มข้น
“คุณอีมินซอง ทำไมคุณถึงมาสาย?”
“ผมบอกแล้วไงว่า รถติด”
“ไม่ใช่ว่าคุณกำลังเคลียร์เรื่องยุ่งยากของกิลด์ไฮยีนาอยู่หรอกเหรอ?”
“…….”
คำพูดนั้นทำให้คิ้วของอีมินซองกระตุกขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงหัวเราะและพยายามพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเบาสบาย
"นี่มันเรื่องอะไรกันอีกล่ะ? ไฮยีน่าคืออะไรเหรอ? สัตว์ที่เจอในสวนสัตว์นั่นน่ะเหรอ?"
"อย่าเบี่ยงเบนประเด็น อีมินซอง"
บรรยากาศเงียบงันในทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของอีมินซองหายไปในพริบตา
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่นายกล้าพูดแบบนี้?"
แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับความโกรธของอิมแทยู ฮันเตอร์ระดับ S-Class แต่อีมินซองกลับแสดงความดูถูกอย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขา
"ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ไอ้เด็กที่เคยเป็นแค่คนขับรถของฉันมันกลายมาเป็นแบบนี้?"
“…….”
เสียงขบกรามดังขึ้นเมื่ออิมแทยูได้ยินคำพูดนั้น ความโกรธเริ่มพุ่งขึ้นมาในดวงตาของเขา แต่อีมินซองกลับไม่สนใจ เขากลับเดินเข้ามาใกล้และจัดคอเสื้อของอิมแทยูอย่างสบาย ๆ จากนั้นเขาก็มองขึ้นมองลงด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
"ฮึ...ใครจะไปรู้ล่ะ? นายอาจจะโชคดีที่ได้เป็น S-Class แต่นายคิดว่าจะสามารถทำตัวโอหังได้ในเวลาแค่สองปีงั้นเหรอ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าคนที่เคยเป็นเจ้านายของนาย?"
"อีมินซอง..."
"อ้อ ฉันลืมไป...นายยังมีสัญญาเป็นคนขับรถของฉันอีกสองปีไม่ใช่หรือ?"
"อีมินซอง...อย่าทดสอบความอดทนของฉัน"
“ทำไมล่ะ? นายจะฆ่าฉันหรือเปล่า? โอ้ ฉันกลัวจังเลยนะ...แหม สุนัขที่ฉันเลี้ยงมากำลังคิดจะกัดเจ้าของหรือยังไง? ฉันลงทุนให้กับกิลด์ที่กำลังตกต่ำของนายแท้ ๆ แต่กลับไม่รู้คุณค่าอะไรเลย”
ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ พวกเขาคงไม่มีใครเหลือรอดในห้องประชุมแล้ว
'ได้โปรดออกไปสู้กันข้างนอกเถอะ...'
พนักงานคนอื่นในห้องประชุมพยายามกลั้นหายใจไม่ให้หลุดความอึดอัดออกมา
แต่โชคดีที่อิมแทยูไม่ใช่คนที่ปล่อยให้ความโกรธทำให้เขาเสียสติไปจนหมด
"พอเถอะ"
"หมายความว่านายคิดจะทำอะไรสักอย่างใช่ไหม?"
"คุณอีมินซอง รองหัวหน้ากิลด์ เรารู้แล้วว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิลด์ไฮยีนาอย่างไรบ้าง ในไม่ช้าสมาคมก็จะเริ่มตรวจสอบเรื่องนี้"
"สมาคมจะตรวจสอบเรื่องนี้เหรอ?"
อีมินซองที่เคยแสดงท่าทางสบาย ๆ มาก่อนหน้านี้ สีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น
อิมแทยูถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
"ใช่ ดังนั้นบอกสิ่งที่คุณทำไว้ในตอนนี้ เราจะได้จัดการปัญหาในระดับกิลด์ได้"
"จัดการปัญหางั้นเหรอ..."
อีมินซองครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่คิดจะบอกอะไรให้ชัดเจน
'และมันไม่ควรที่จะบอกไปด้วย'
ในที่สุดอีมินซองก็หัวเราะเบา ๆ แล้วไหล่สั่นเล็กน้อย
"ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะ"
"นั่นคือทั้งหมดจริง ๆ เหรอ?"
"จริงสิ ถึงสมาคมจะเข้ามาตรวจสอบ ฉันก็สามารถจัดการได้เอง ไม่ต้องกังวล"
"หวังว่ามันจะเป็นความจริง"
"แล้วถ้าไม่เป็นความจริงล่ะ? กฎหมายมันไม่เคร่งครัดขนาดนั้นหรอก ถ้าฉันใช้ทนายให้ดี ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร"
"กฎหมายเหรอ..."
อิมแทยูพึมพำกับตัวเอง เพราะรู้ดีว่ากฎหมายยังไม่แข็งแกร่งพอ
มันเป็นเรื่องที่คาดเดาได้อยู่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงเพิ่งเกิดขึ้นมาแค่ 2 ปีเท่านั้น สมาคมยังคงพยายามผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับฮันเตอร์ แต่ก็ยังมีช่องโหว่มากมายอยู่
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกกิลด์ไฮยีนาถึงยังสามารถทำสิ่งที่พวกมันต้องการได้
"งั้นจบแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปล่ะ"
อีมินซองหันหลังและเดินออกจากห้องประชุมโดยไม่รอฟังคำตอบ
อิมแทยูทิ้งคำเตือนสุดท้ายก่อนที่ประตูจะปิดลง
"คุณอีมินซอง รองหัวหน้ากิลด์ อย่ามั่นใจเกินไปนัก สมาคมอาจจะไม่เคร่งครัด แต่ประธานสมาคมไม่ใช่คนที่จะยอมง่าย ๆ หรอกนะ"
ปัง
ประตูห้องประชุมถูกปิดลงอย่างแรง
อิมแทยูส่ายหัวและกลับไปนั่งที่เก้าอี้
ในที่สุดเหล่าพนักงานก็สามารถถอนหายใจอย่างโล่งอกได้
แต่อีมินซองที่เดินออกมาจากห้องประชุมด้วยท่าทางใจเย็น ตอนนี้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างโกรธเกรี้ยว
'เจ้านั่นกล้าดีอย่างไร!'
แม้ว่าเขาจะไม่แสดงออก แต่ในความเป็นจริง เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมากเมื่อเจอกับความโกรธของอิมแทยู แต่ความหยิ่งผยองของเขามันมากกว่าความกลัวนั้น
'ฉันยอมเข้ามาเป็นรองหัวหน้ากิลด์เพื่อช่วยนาย แต่นายกลับทำกับฉันแบบนี้? อิมแทยู นายกล้าดียังไง?'
แต่ตอนนี้เขายังไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงความโกรธนี้ออกมา
เพราะไม่ว่าอย่างไร อิมแทยูก็เป็นฮันเตอร์ S-Class ส่วนเขาเป็นเพียงแค่ฮันเตอร์ A-Class
ดังนั้น ความโกรธของเขาจึงถูกพุ่งไปยังต้นเหตุที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้
กิลด์ไฮยีนา? ไม่ใช่...
'ไอ้หมอนั่นที่จัดการกิลด์ไฮยีนา!'
อีมินซองโทรหาคนบางคนด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว
“ใช่ ฉันเอง แกสืบเรื่องมันเจอหรือยัง?”
• สำหรับเรื่องนั้น ท่านรอง ผมลองติดต่อผู้รอดชีวิตทุกคนแล้ว แต่...
เสียงจากปลายสายฟังดูไม่มั่นใจนัก
• ไม่มีใครในพวกผู้รอดชีวิตจำหน้าตาของหมอนั่นได้เลยครับ
“อะไรนะ? บอกว่าไม่รู้เหรอ? ทำไมถึงไม่มีใครรู้?”
• ฮันเตอร์คนนั้นสวมหน้ากากและฮู้ดปิดบังใบหน้าเอาไว้ตลอดเวลา สิ่งที่พอเป็นจุดสังเกตได้คือเขาใช้ดาบคู่ แต่สุดท้ายก็เป็นดาบที่เก็บมาใช้จากพวกมนุษย์หมาป่านั่นเองครับ
อีมินซองกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ
“...ตามหาต่อไป แกต้องหาตัวมันให้เจอ แล้วลากมันมาให้ฉัน”
• ครับ เข้าใจแล้วครับ...
อีมินซองทนไม่ไหวขว้างโทรศัพท์ลงพื้นด้วยความโกรธ
ในขณะเดียวกัน ซูโฮกำลังใช้เวลาที่เงียบสงบอยู่ในดันเจี้ยนเงา
แน่นอนว่าเงียบสงบสำหรับซูโฮเพียงคนเดียว
สำหรับลูกหมาป่าตระกูลเขี้ยวอย่างเกรย์นั้น มันไม่สงบเลยสักนิด
“กรรร...”
[ดีมาก เจ้าหนู ในที่สุดเจ้าก็ล่าก๊อบลินตัวน้อยได้ด้วยตัวเอง แม้ว่าจะเป็นก๊อบลินเด็กก็ตามที]
“โฮ้วว...!”
เกรย์ส่งเสียงคร่ำครวญอย่างทรหด เหยียบซากก๊อบลินตัวน้อยด้วยอุ้งเท้าเล็กๆ ของมัน ท่าทางดูน่าสงสาร...หรือไม่ก็ดูแข็งแกร่งมาก
[กินซะ การเป็นฮันเตอร์ที่แท้จริงต้องไม่เหลือเหยื่อไว้เลย]
“กรรร...”
[อ้า! อ้าปากกว้างๆ แล้วเคี้ยวให้เต็มที่!]
“โฮ้วว...!”
เกรย์ที่เหนื่อยล้าแต่ไม่กล้าขัดคำสั่งของครูฝึกอย่างเบร์ ค่อยๆ อ้าปากแล้วกัดกินก๊อบลินตามที่ถูกสั่ง
ไม่นานนัก เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นในสายตาของซูโฮ
[‘สัตว์เลี้ยง: เกรย์’ เลเวลเพิ่มขึ้น!]
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นต่อหน้าซูโฮ
“โอ้ เลเวลมันก็เพิ่มขึ้นด้วย”
• ฉันบอกแล้วไง กิน นอน และเล่นแล้วมันก็จะเติบโต
“จริงด้วย ฉันคิดว่ามีแค่ฉันที่เลเวลเพิ่มได้ แต่สัตว์เลี้ยงก็เพิ่มได้เหมือนกัน”
จากนั้นก็มีข้อความอีกหนึ่งข้อความปรากฏขึ้น
[‘สัตว์เลี้ยง: เกรย์’ มอบค่าประสบการณ์ 50% ให้กับเจ้านายของมัน]
“เอ๊ะ?”
[อ๊ะ?]
ซูโฮและเบร์ตกใจเมื่อเห็นข้อความนั้น พวกเขาหันไปมองเกรย์ที่นอนราบอยู่บนพื้นพร้อมกัน
“โฮ้วว...”
[นายน้อย ทำไมท่านถึงเอาประสบการ์ณไปจากเจ้าตัวน้อยนี้ล่ะ]
“ฉันไม่...”
ซูโฮรู้สึกผิดขึ้นมาในทันที