บทที่ 17: ระยะห่างจากตัวประกอบสู่ความเป็นอัจฉริยะ (ตอนที่ 17)
เฉินฮุ่ยหย่ารู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ไม่กี่วินาที ก่อนจะทำท่าทางเหมือนไม่ได้ตั้งใจเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก
เดิมทีนางก็เถียงลูกสาวคนนี้ไม่เคยชนะอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีคนมองดูอีก นางจึงต้องรักษาภาพลักษณ์ ทำให้นางยิ่งทำอะไรหวนถังไม่ได้เลย!
แต่เรื่องการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมมันถูกกำหนดไว้นานแล้ว!
เฉินอวิ๋นโหน่วต้องเข้าไปอยู่ในตระกูลหลิว และต้องทำให้สามีชอบนางให้ได้ ไม่เช่นนั้นเมื่อมีหวนถังที่ชอบช่วยคนนอกอยู่ในบ้าน ทรัพย์สินของครอบครัวนางก็อย่าหวังจะได้แม้แต่บาทเดียว!
นางเหลือบมองหวนถัง ก่อนจะหลบสายตาที่หมิงอวี่มองมาอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปมองเฉินอวิ๋นโหน่วแทน
เฉินอวิ๋นโหน่วที่กำลังเกลียดหวนถังอยู่เต็มหัวใจ ก็ไม่รู้เลยว่ามือของตัวเองถูกจับเอาไว้
เฉินฮุ่ยหย่าตบหลังมือของเฉินอวิ๋นโหน่วเบา ๆ แล้วพูดกับหวนถังด้วยน้ำเสียงประจบว่า “ถัง...หวนถัง อวิ๋นโหน่วกำลังจะเป็นพี่สาวของเธอ พวกเธอต้องอยู่ร่วมกันให้ดี คอยช่วยเหลือกันนะ...”
หวนถังกลอกตามองด้วยความเบื่อหน่าย เฉินฮุ่ยหย่ามีความสามารถพิเศษในเรื่องนี้ ไม่ว่าใครจะพูดอะไรนางก็ไม่ยอมฟัง และไม่สนใจใครเลย นางมักจะทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองอยู่เสมอ!
เมื่อนึกถึงความทรงจำที่เฉินอวิ๋นโหน่วเข้าไปอยู่ในตระกูลหลิว แล้วเจ้าของร่างเดิมต้องเจอกับการถูกใส่ร้ายป้ายสีและการปฏิบัติอย่างเลวร้าย หวนถังก็หัวเราะเยาะออกมา ทำเอาเฉินฮุ่ยหย่าสะดุ้งโหยง
นางจ้องเฉินฮุ่ยหย่า ไม่มีความอบอุ่นในแววตาเลย ทั้งยังเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและการหยอกล้อ “คุณเฉิน ถ้าคุณอยากให้ฉันยอมรับเธอก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แค่คุณตอบคำถามฉันข้อเดียวก็พอ”
เฉินฮุ่ยหย่าสดใสขึ้นมาทันที แล้วรีบพูดว่า “เธอยอมรับอวิ๋นโหน่วแล้วใช่ไหม? เธอจะไม่แย่งอะไรไปจากเธอเลย แค่เธอยอมรับเธอก็พอแล้ว”
หวนถังส่งเสียงเยาะอย่างเบาๆ พลางจ้องเฉินฮุ่ยหย่าและเฉินอวิ๋นโหน่วด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น
นางพูดว่า “ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าเฉินอวิ๋นโหน่วเป็นลูกนอกสมรสของคุณกับผู้ชายคนอื่นที่คุณไปยุ่งกับครอบครัวเขาก่อนหลอกลวงพ่อของฉันหรือเปล่า มิฉะนั้นจากความเกลียดชังที่คุณมีต่อฉันและน้องชายมาตลอดหลายปีนี้ ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคุณถึงได้ดีกับคนแปลกหน้าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดถึงเพียงนี้!”
คำพูดนั้นยังไม่ทันจบ เฉินฮุ่ยหย่าก็ชะงักนิ่งไปทั้งตัว ความกระอักกระอ่วนของนางแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวอย่างที่สุดในทันที
นางไม่ควรพาเฉินอวิ๋นโหน่วกลับมาในเวลานี้ และไม่ควรทะเลาะกับนังเด็กคนนี้!
เฉินอวิ๋นโหน่วยิ่งน้อยใจมากขึ้น ที่โดนด่าว่าเป็นแมวจรจัดก็ว่าแย่แล้ว นี่กลับกล้าพูดว่านางเป็นลูกนอกสมรสอีก!
ช่างน่ารังเกียจจริงๆ!
หมิงอวี่มีประกายบางอย่างในแววตา พริกขี้หนูตัวน้อยช่างฉลาดจริง ๆ ที่คิดแบบเดียวกับเขาได้!
อาตู๋ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นจนปากอ้าค้าง : “...”
ในใจคิดว่า ยังมีวิธีนี้อีกเหรอ?
ชีวิตส่วนตัวของแม่เลี้ยงใจร้ายคนนี้มันจะเสื่อมโทรมแค่ไหนกัน ถึงได้ถูกลูกสาวแท้ ๆ เกลียดชังถึงเพียงนี้?
แม้แต่ 477 ก็ตกตะลึง: 【นายท่าน, ทั้งเนื้อเรื่องและความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็ไม่มีเรื่องนี้ คุณเดาออกได้ยังไง?】
หวนถังแสดงสีหน้าลึกลับ: “เนื้อเรื่องก็แค่ข้อมูลบางอย่างที่เจ้าของร่างเดิมรู้เท่านั้น! เธอควรจะใช้สมองคิดหน่อยนะ เฉินฮุ่ยหย่าเป็นคนเห็นแก่ตัวเช่นนี้ สามีของเธอก็ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ที่สุด คู่สามีภรรยาที่แปลกประหลาดแบบนี้ แม้พวกเขาจะชอบบุตรบุญธรรมมากแค่ไหน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใจกว้างถึงขนาดยกทรัพย์สมบัติของตระกูลหลิวให้กับบุตรบุญธรรมที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด!”
477 คิดตามแล้วตกใจอย่างยิ่ง: 【นายท่าน, คุณหมายความว่าเฉินอวิ๋นโหน่วไม่ใช่แค่ลูกนอกสมรสของเฉินฮุ่ยหย่า แต่พ่อแท้ ๆ ของเธอคือพ่อเลี้ยงของเจ้าของร่างเดิม?】
หวนถังพยักหน้าอย่างมั่นใจ: “ฉันเดาไว้ว่าคงไม่ผิดแน่นอน เธอสามารถใช้แต้มคะแนนดูเนื้อเรื่องทั้งหมดของโลกนี้ได้ ลองไปดูสิแล้วจะไม่รู้หรือ?”
477 ฟังแล้วก็รู้ว่านายท่านมั่นใจในการคาดเดาของตนมาก!
โปรดติดตามตอนต่อไปจ้า :)