กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 372 การต่อสู้ที่สิ้นหวัง
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 372 การต่อสู้ที่สิ้นหวัง
“ฉิ้ง!”
เสียงกระบี่ดังกึกก้องราวกับคลื่นยักษ์สะท้านฟ้าสะเทือนดิน บาดลึกเข้าไปในห้วงอากาศ แสงกระบี่ไร้ขอบเขตกว้างใหญ่ไพศาล ทอดยาวไปทั่วทุกสารทิศ มองด้วยตาเปล่าสุดลูกหูลูกตา
ดุจดั่งพลังของดวงตะวัน แผ่ขยายปกคลุมทั่วทั้งสิบทิศ
“ตู้ม!”
จักรวาลราวกับผ้าม้วน
กระบี่เพียงหนึ่งเดียว สรรพสิ่งดับสูญ ไร้สิ่งใดหลงเหลือ
ภายในโลกอินทนิลเร้นลับอันกว้างใหญ่ ดวงดาวนับไม่ถ้วนสูญสลายหายไปจากสวรรค์และปฐพี สิ่งมีชีวิตจากโลกเซียนปฐพีที่ข้ามมิติมา ไม่อาจรู้ได้ว่ามีผู้ใดบ้าง ที่ต้องจบชีวิตลงภายใต้กระบี่นี้
ความตายมาเยือน พวกเขาแม้แต่เสียงร้องครวญครางยังไม่อาจเปล่งออกมา ก็กลายเป็นเถ้าธุลี
ดินแดนดารามากมายมืดมัวลง ทั่วทั้งจักรวาลเงียบสงัด
สวรรค์และปฐพีมืดมิด ยื่นมือออกไปไม่อาจมองเห็น
ราวกับว่ายืนอยู่ภายในดินแดนห้วงสมุทรดาราปั่นป่วน หันมองไปรอบ ๆ ไร้สิ่งใดหลงเหลือ ดวงดาว สิ่งมีชีวิต ทั้งหมดหายไป
“นี่...”
คนของโลกอินทนิลเร้นลับพูดไม่ออก คนของโลกเซียนปฐพีตกตะลึง
พวกเขาต่างก็หวาดกลัว มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬกลับมาแล้ว กระบี่แรกที่เขาลงมือ ปราบราบดินแดนดาราหลายแห่ง แสงกระบี่แบ่งแยกสวรรค์และปฐพี ดวงดาวนับไม่ถ้วนดับสูญ
กระบี่เพียงหนึ่งเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ขุมอำนาจมากมายในโลกเซียนปฐพีหวาดผวา
เพราะว่า... ในโลกเซียนปฐพี มหาจักรพรรดิมิใช่ผักริมทาง ขุมอำนาจมากมายไม่มีมหาจักรพรรดิปกป้อง เผชิญหน้ากับกระบี่นี้ พวกเขาไม่มีพลังต้านทานแม้แต่น้อย กล่าวได้ว่าทั้งสำนักอาจจะถูกทำลายก็ไม่เกินจริง
“ใกล้ตายแล้วยังคงต้องการต่อสู้อย่างสิ้นหวังหรือ”
อีกด้านหนึ่ง เสียงเย็นชาทะลวงผ่านห้วงมิติ ดังก้องไปทั่ว
ปรากฏร่างของผู้แข็งแกร่งสวมชุดเกราะสีดำ ปกคลุมด้วยหมอกควัน ปล่อยจิตสังหารอันรุนแรง
เขานั่งอยู่บนหลังพยัคฆ์เทพขนาดใหญ่ พยัคฆ์ตัวนี้ไม่มีขนปกคลุม แต่มีเกล็ดปกคลุมทั่วร่างกาย ปล่อยแสงสีเงินเย็นยะเยียบ ดูแข็งแกร่ง ไม่อาจทำลายได้
“อืม!”
ชายผู้นี้ยื่นมือออกไปเพียงข้างเดียว กำมือในห้วงอากาศ ง้าวยักษ์สีดำเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้ากลายเป็นสายฟ้าสีดำ ทะลวงผ่านเมฆาและดวงจันทร์ พุ่งตรงมา
“ตู้ม!”
ง้าวยักษ์ตกสู่พื้นดิน สีดำทะมึน ปล่อยกลิ่นอายที่สามารถทำลายสวรรค์ บดขยี้ดวงดาวนับล้านดวง น่ากลัวอย่างยิ่ง
เขายกง้าวยักษ์ขึ้น ราวกับเทพสงครามกลับชาติมาเกิด ปล่อยรังสีอำนาจไร้ขอบเขต สะท้านเก้าชั้นฟ้า สะกดเก้าขุมนรก สำหรับสิ่งมีชีวิตในโลกเซียนปฐพีที่ตายไป เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่ทำให้เขาเสียหน้าคือมีคนที่กล้าลงมือต่อหน้าเขา
ในตอนนั้น เขากลับไม่อาจต้านทานได้ วิธีเดียวที่จะชำระล้างความอัปยศนี้ได้ คือการใช้โลหิตของอีกฝ่าย
“เจ้าเป็นใคร”
มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬยืนอยู่บนรถศึก ดวงตาของเขาล้ำลึก
“โลกเซียนปฐพี ภูผาเมฆาล่อง ยมราช!”
ชายผู้นี้กล่าว
เสียงของเขาเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ ทำให้มรรคาสวรรค์ของโลกใบนี้คร่ำครวญ ภายใต้แรงกดดัน ไม่อาจขัดขืน สั่นสะเทือนไม่หยุดหย่อน
“เป็นมหาจักรพรรดิยมราช!”
เบื้องหน้า
กองกำลังเสริมของโลกเซียนปฐพีที่กำลังเดินทางมา หลังจากรอดชีวิตจากหายนะ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมาบ้าง
มหาจักรพรรดิยมราชในโลกเซียนปฐพี แม้ชื่อเสียงจะเทียบกับจักรพรรดินียมโลกไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ใช่คนธรรมดา
เขาคือมหาจักรพรรดิแห่งภูผาเมฆาล่อง มีชื่อเสียงโด่งดัง กล่าวกันว่าการทำลายตระกูลฟาง มหาจักรพรรดิผู้นี้เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญ
ในการต่อสู้กับตระกูลฟาง เขาเป็นผู้ลงมือสังหารมหาจักรพรรดิแห่งตระกูลฟาง และฝังศพคนของตระกูลฟางหลายแสนคน กล่าวได้ว่าโหดเหี้ยมไร้ปราณี
ได้รับมรดกของตระกูลฟางที่สั่งสมมาหลายหมื่นปี ภูผาเมฆาล่องแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และในฐานะผู้ริเริ่มสงคราม
มหาจักรพรรดิยมราชได้รับผลประโยชน์มากมาย แม้เขาจะไม่ได้ติดอยู่ในรายนามจักรพรรดิ แต่หลายคนต่างก็คาดเดาว่าบางทีเขาอาจจะเป็นลำดับที่สิบเอ็ด
ส่วนมหาจักรพรรดิขนนกทมิฬเป็นเพียงลำดับที่สิบ ความแข็งแกร่งของทั้งสองต่างกันเพียงเล็กน้อย แทบจะไม่ต่างกัน
“ดีมาก”
“มหาจักรพรรดิยมราชมาถึงแล้ว ดูเหมือนว่าโลกอินทนิลเร้นลับจะไม่มีโอกาสชนะอีกต่อไป”
กระบี่เพียงหนึ่งเดียวทำลายสิ่งมีชีวิตของโลกเซียนปฐพีนับไม่ถ้วน มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬของโลกอินทนิลเร้นลับ ต้องชดใช้
“ถูกต้อง สองสามวันมานี้โลกอินทนิลเร้นลับสูญเสียมหาจักรพรรดิไปหลายคน คงไม่ต่างอะไรกับการสูญเสียมหาจักรพรรดิขนนกทมิฬไปอีกคน”
“ยังไม่แน่ใจ ในรายนามจักรพรรดิของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬอยู่ในลำดับที่สิบ ส่วนมหาจักรพรรดิยมราชไม่ได้อยู่ในรายนาม ความแข็งแกร่งของทั้งสองต่างกัน อีกทั้งกระบี่สะท้านฟ้าของโลกอินทนิลเร้นลับปรากฏขึ้น ตกอยู่ในมือของมหาจักรพรรดิขนนกทมิฬ...”
“จะเป็นเช่นไรเล่า? จำนวนมหาจักรพรรดิในโลกเซียนปฐพี มิใช่สิ่งที่โลกอินทนิลเร้นลับจะเทียบได้”
คนของโลกเซียนปฐพีต่างก็พูดคุยกัน มองไปยังห้วงอากาศ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความแค้น
เมื่อครู่ มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬใช้กระบี่เพียงหนึ่งเดียวทำลายคนของพวกเขานับไม่ถ้วน ในนั้นมีอาจารย์และผู้อาวุโสของสำนักพวกเขา คนเหล่านั้นเพียงแค่เดินทางมาถึงก่อน
ผลลัพธ์...
เพียงแค่มาถึงก่อนไม่กี่วัน ตอนนี้กลับต้องจากกันตลอดกาล
ในขณะที่สิ่งมีชีวิตมากมายกำลังพูดคุยกัน
จากทิศทางของโลกเซียนปฐพี ปรากฏกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวสองสายพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า ดุจดั่งภูเขาไฟระเบิด พุ่งตรงขึ้นไปยังเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า บดขยี้เมฆา
ร่างอันน่าสะพรึงกลัวสองร่างก้าวเดินมาจากห้วงอากาศ
พวกเขายืนอยู่ข้างกายมหาจักรพรรดิยมราช ทำให้ห้วงอากาศโดยรอบแทบจะแตกสลาย กฎเกณฑ์ฟ้าดินกลายเป็นเถ้าธุลี ปล่อยกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัว แผ่ขยายปกคลุมทั่วทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตในโลกอินทนิลเร้นลับ หรือโลกเซียนปฐพี ต่างก็ถอยหนีอย่างรวดเร็ว
พวกเขาเข้าใจ สนามรบของมหาจักรพรรดิปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬเป็นขุมพลังที่แท้จริงของโลกอินทนิลเร้นลับ หากสามารถสังหารมหาจักรพรรดิขนนกทมิฬได้ที่นี่ สำหรับโลกอินทนิลเร้นลับแล้วจะเป็นหายนะครั้งใหญ่
หากมหาจักรพรรดิขนนกทมิฬต้องตาย ฝ่ายโลกอินทนิลเร้นลับจะเหลือเพียงมหาจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์เท่านั้น
ตราบใดที่สามารถจัดการศัตรูผู้นี้ได้ พวกเขาก็จะสามารถจัดการกับมหาจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์อย่างช้า ๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่ง ติดอยู่ในรายนามจักรพรรดิลำดับที่เก้าก็ตาม
ภายใต้การรุมล้อมของมหาจักรพรรดิหลายคน แม้แต่จักรพรรดินียมโลก หรือมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ก็ยังต้องพ่ายแพ้ แล้วมหาจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์จะรอดได้อย่างไร
“สหายเต๋าเดินทางมาถึงแล้วหรือ”
“ด้วยพลังของพวกเราสามคน คงสามารถลงมือได้แล้ว”
มหาจักรพรรดิยมราชกล่าว เขาประทับอยู่บนหลังพยัคฆ์เทพ ยกง้าวยักษ์สีดำขึ้น กดทับทั่วฟ้าดิน กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง ปล่อยแสงสว่างเจิดจ้า
มหาจักรพรรดิสองคนที่อยู่ข้างกาย ใบหน้าเลือนลาง ไม่อาจมองเห็นได้ชัดเจน เห็นเพียงรังสีอำนาจไร้เทียมทาน ยกมือขึ้นลงมือ ปล่อยกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่ กดข่มทั่วทั้งจักรวาล
ได้ยินดังนั้น ร่างทั้งสองพยักหน้าเบา ๆ
เบื้องหน้าพวกเขา มีร่างหลายร่างยืนหยัดอยู่ คนเหล่านั้นล้วนเป็นมหาจักรพรรดิ พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ เพียงแต่ยืนมองเหตุการณ์อย่างเงียบ ๆ แม้พวกเขาจะไม่ทำอะไร แต่ก็ราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ กดทับจิตใจของสิ่งมีชีวิตในโลกอินทนิลเร้นลับ ทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก
ขุมพลังของโลกเซียนปฐพีนั้นน่ากลัวยิ่งนัก
พวกเขามีมหาจักรพรรดิขนนกทมิฬหนึ่งคน โลกเซียนปฐพีกลับมีมหาจักรพรรดิหลายคน น่ากลัวยิ่งนัก ราวกับว่ามหาจักรพรรดิไม่มีค่าอันใด
ไม่มีใครรู้ว่าโลกเซียนปฐพีซ่อนมหาจักรพรรดิเอาไว้กี่คน