บทที่ 273 ธงเหลืองแท้
###
ทั้งสองฝ่ายนั่งลง จ้าวหงเย่เทชาให้ถังหยวน เซี่ยเฉิงรุ่น และซูฉู่ฉู่ทีละถ้วย
กลิ่นชาหอมละมุนยาวนาน สีของชามีสีเหลืองอมเขียวใส รสชาติที่เข้าปากสะอาดและหวานเบาๆ
ด้วยรสชาติแบบนี้ น่าจะเป็นชาไป๋ฮ่าวหยินเจินในกลุ่มชาขาว และต้องเป็นชาคุณภาพสูง
“คุณถัง นาฬิกามีหลายประเภท”
“ไม่ทราบว่าคุณอยากสะสมประเภทไหน หรือยี่ห้ออะไร?”
“บอกผมมาได้เลย ผมจะได้เลือกนาฬิกามาให้คุณดู”
หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย จ้าวหงเย่ก็ยกกาน้ำชาขึ้นมาเทให้ถังหยวนอีกถ้วย จากนั้นก็กลับเข้าเรื่องและถามถังหยวนด้วยรอยยิ้ม
“นาฬิกากลไก”
“ยี่ห้อไม่สำคัญ ดูที่ถูกใจก็แล้วกัน”
ถังหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ดีครับ”
“งั้นรอผมสักครู่”
“ผมจะไปเอานาฬิกามา แล้วเราค่อยมาคุยกัน”
จ้าวหงเย่พยักหน้าเบาๆ แล้วลุกขึ้นจากที่นั่งหลัก เดินไปทางหอสะสมส่วนตัวพร้อมกับพนักงานสองคน
เมื่อจ้าวหงเย่เดินออกไป ถังหยวนก็ขยับเข้าไปใกล้เซี่ยเฉิงรุ่นด้วยความอยากรู้และถามเบาๆ ว่า “เฉิงรุ่น เจ้าเอ้อร์จ้าวคนนี้มีที่มาอย่างไร?”
“เจ้าเอ้อร์จ้าวคนนี้ สืบเชื้อสายมาจากขุนนางแมนจูในสมัยราชวงศ์ชิง ธงเหลืองแท้”
“หลังการก่อตั้งประเทศ ครอบครัวของเขาใช้การขายทรัพย์สินเก่าเป็นทุนเริ่มต้นสะสมทุน”
“ในทศวรรษที่ 90 พ่อของจ้าวหงเย่เสียชีวิต เจ้าเอ้อร์จ้าวได้รับเงินจำนวนไม่น้อยจากการแบ่งทรัพย์สินในครอบครัว ตอนนั้นพอดีกับที่การปฏิรูปและเปิดประเทศเริ่มขึ้น เจ้าเอ้อร์จ้าวเอาเงินเกือบทั้งหมดไปซื้อที่ดิน ซึ่งทั้งหมดเป็นที่ดินในปักกิ่ง”
“ต่อมา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเริ่มพุ่งสูงขึ้น ที่ดินในมือของจ้าวหงเย่ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างที่ดินที่เราอยู่ตรงนี้ เดิมทีเป็นของจ้าวหงเย่ ต่อมาเมื่อสร้าง Yin Feng SOHO เสร็จแล้ว ผู้พัฒนาโครงการก็ยกชั้นที่ 55 ทั้งหมดให้กับจ้าวหงเย่”
“ไม่มีใครรู้ว่าจ้าวหงเย่มีทรัพย์สินเท่าไหร่ แต่จากการคาดการณ์คร่าวๆ น่าจะไม่ต่ำกว่าหลายหมื่นล้าน นอกจากนี้พี่ชายและน้องชายของเขาก็ทำธุรกิจในประเทศได้ดีเช่นกัน ครอบครัวจ้าวหยั่งรากลึกในปักกิ่งมาหลายปีแล้ว เครือข่ายความสัมพันธ์ซับซ้อนและแผ่ขยายไปทุกด้าน”
เซี่ยเฉิงรุ่นไม่ได้ปิดบังอะไรจากถังหยวน เพราะเบื้องหลังของจ้าวหงเย่นั้นเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว แม้เขาไม่พูด ถังหยวนก็สามารถถามจากคนอื่นได้
ถังหยวนได้ยินแล้วก็พยักหน้าเล็กน้อยด้วยความเข้าใจ
มีคำกล่าวว่า “อูฐที่ผอมก็ยังใหญ่กว่าม้า” ในที่สุดแล้ว ราชวงศ์ชิงก็มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกือบสามร้อยปี แม้เพียงเศษเสี้ยวของมรดกก็ยังพอให้ลูกหลานราชวงศ์ชิงกินอยู่ได้อย่างอิ่มหนำ
บางครั้ง ทุนเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญ
ในกระแสของยุคสมัย ทุนเริ่มต้นก็เหมือนกระสุน เมื่อยิงไปในทิศทางต่างๆ ย่อมมีบางนัดที่ถูกเป้า จึงได้ผลตอบแทนกลับมามากกว่าพันเท่า ทำให้ทุนยิ่งเพิ่มมากขึ้น ส่วนคนธรรมดามักมีโอกาสเพียงครั้งเดียว ยิงพลาดแล้วก็พลาดเลย โอกาสครั้งที่สองหายากยิ่ง
“ธงเหลืองแท้?”
“ธงเหลืองแท้ไม่ควรมีนามสกุลว่าอ้ายซินเจวี๋ยหลัว หรือไม่ก็ น่าหล่า ใช่ไหม?”
“แล้วทำไมถึงใช้นามสกุลจ้าว?”
ถังหยวนสงสัยเล็กน้อย จึงถามเซี่ยเฉิงรุ่นต่อ
“ครอบครัวของจ้าวหงเย่เดิมทีนามสกุลคืออ้ายซินเจวี๋ยหลัว หลังการก่อตั้งประเทศ พ่อของเขาคิดว่านามสกุลอ้ายซินเจวี๋ยหลัวเด่นเกินไป จึงให้ลูกชายทั้งสี่คนใช้นามสกุลของแม่ และเปลี่ยนเป็นนามสกุลจ้าว”
เซี่ยเฉิงรุ่นเห็นว่าจ้าวหงเย่เลือกนาฬิกาเสร็จแล้ว และกำลังเดินกลับมาทางพวกเขา จึงลดเสียงลงและอธิบายอย่างรวดเร็ว
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง…”
“พ่อของเจ้าเอ้อร์จ้าวคนนี้เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์จริงๆ”
ถังหยวนพูดด้วยใบหน้าที่ดูตื่นเต้นเล็กน้อย มีความรู้สึกชื่นชมในน้ำเสียงของเขา
ธงเหลืองแท้ ถือว่าเป็นชนชั้นขุนนางสูงสุดรองจากธงเหลืองคั่น
ในสมัยราชวงศ์ชิง คนธรรมดาถ้าเห็นคนที่มีนามสกุลอ้ายซินเจวี๋ยหลัว ต้องกราบลงกับพื้น
แล้วทำไมลูกหลานราชวงศ์ชิงหลายคนถึงถูกกลืนหายไปในกระแสประวัติศาสตร์?
ก็เพราะพวกเขามองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ความคิดและพฤติกรรมยังคงติดอยู่กับเกียรติยศและความรุ่งโรจน์ในอดีต การกระทำและแนวทางของพวกเขาจึงไม่สอดคล้องกับยุคสมัย สุดท้ายก็มีแต่ต้องพินาศ
เห็นได้ว่าพ่อของจ้าวหงเย่มีวิสัยทัศน์สูง แม้กระทั่งนามสกุลยังสละได้ เป็นคนที่กล้าหาญและมีความเด็ดขาดอย่างแท้จริง
ไม่นาน ในขณะที่ถังหยวนและเซี่ยเฉิงรุ่นกำลังพูดคุยกัน จ้าวหงเย่ก็กลับมานั่งที่เดิม โดยมีพนักงานห้าคนเดินตามหลัง ทุกคนสวมถุงมือสีขาวและถือกระเป๋าหนังมาด้วย ดูเป็นมืออาชีพมาก
“ท่านถัง หากพูดถึงการสะสมนาฬิกา”
“Patek Philippe เป็นสิ่งที่ข้ามผ่านไม่ได้”
“ผมเตรียมนาฬิกา Patek Philippe ระดับหลายล้านและระดับหลายสิบล้านไว้ให้คุณ ไม่ทราบว่าคุณอยากดูระดับไหน?”
เมื่อจ้าวหงเย่กลับมา เขาเติมน้ำชาให้ตัวเองและถังหยวน จากนั้นจึงถามถังหยวน
“ระดับหลายสิบล้านแล้วกัน”
ถังหยวนจิบชาร้อนและตอบเสียงเรียบ
จ้าวหงเย่ได้ยินก็จ้องมองถังหยวนลึกซึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นและโบกให้คนที่อยู่ด้านหลัง หญิงสาวคนหนึ่งรับสัญญาณได้ทันที เธอเดินถือกระเป๋าหนังมาที่โต๊ะ เปิดกระเป๋าแล้ววางไว้ตรงกลางโต๊ะ
เมื่อเปิดกระเป๋าหนัง ภายในมีนาฬิกาทั้งหมดสิบเรือน
ซูฉู่ฉู่ที่นั่งอยู่ข้างถังหยวน เมื่อคิดถึงการสนทนาระหว่างถังหยวนกับจ้าวหงเย่เมื่อครู่ แม้ในใจจะเตรียมพร้อมแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ถ้านาฬิกาทั้งหมดนี้เป็นนาฬิการะดับหลายสิบล้าน
นั่นหมายความว่า…
เพียงกระเป๋าใบเดียวนี้ก็มีมูลค่ามากกว่าร้อยล้านแล้ว?
เมื่อเทียบกับความตะลึงของซูฉู่ฉู่ ถังหยวนกลับมีท่าทีสงบนิ่งกว่า
ถ้าที่นี่ของจ้าวหงเย่ไม่มีความลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ก็คงไม่ทำให้ทายาทของกลุ่ม Zhengda อย่างเซี่ยเฉิงรุ่นสนใจได้
“คุณถัง นาฬิกาทั้งสิบเรือนนี้ เป็นนาฬิกา Patek Philippe ระดับหลายสิบล้านทั้งหมด ถ้าหากไม่มีเรือนไหนที่ถูกใจคุณ ที่นี่ก็ยังมีนาฬิกาหลายสิบล้านของยี่ห้ออื่นอีกมาก”
จ้าวหงเย่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ถังหยวนก็ยังได้ยินเสียงความภูมิใจในคำพูดของเขา เพราะนาฬิกาหลายเรือนที่นี่เป็นรุ่นลิมิเต็ด มีเงินก็ใช่ว่าจะหาซื้อได้
สำหรับคนธรรมดา การมีนาฬิกา Patek Philippe ระดับหลายสิบล้านเรือนเดียวก็เพียงพอที่จะภาคภูมิใจ แต่ที่นี่ของจ้าวหงเย่สามารถหยิบออกมาได้สิบเรือน และยังบอกว่าถ้าไม่พอใจก็ยังมีนาฬิกาหลายสิบล้านของยี่ห้ออื่นอีกมากมาย
แสดงให้เห็นว่าคอลเลคชันของเขามีมากมายขนาดไหน และเขาสมควรได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสะสมนาฬิกาตัวจริง
“ดี งั้นฉันจะดูเรือนพวกนี้ก่อน”
ถังหยวนยิ้มให้จ้าวหงเย่ จากนั้นก้มลงดูนาฬิกาเหล่านั้นอย่างละเอียด...
