ตอนที่ 163 บุตรนอกคอก (ฟรี)
ตอนที่ 163 บุตรนอกคอก
“ขอบคุณลุงลู่” รอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้าของหลานหยุน จากนั้นเขาก็พูดอย่างเร่งรีบ
เขาสับสนมาเกือบทั้งชีวิตตั้งแต่พ่อของเขาเสียชีวิตลง เขาสับสนมากเกี่ยวกับชีวิต และไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าไปที่ไหนดี
คิดไม่ถึงว่าเมื่อเขากำลังจะตาย เขาก็ได้พบกับลู่ซุน ซึ่งเป็นคนที่พ่อของเขาเลือกที่จะติดตามตลอดชีวิต
ในที่สุด เขาก็สามารถเดินตามรอยของพ่อ และติดตามอีกฝ่ายเพื่อพิชิตโลกได้!
“เจ้าอยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นไปก่อน เมื่อถึงเวลา เจ้าสามารถไปหาข้าที่สำนักเต๋าได้” ลู่ซุนมองไปที่ หลานหยุนแล้วพูด
“นี่…ถึงเวลาแล้วเหรอ?” ดวงตาของหลานหยุนสับสนเล็กน้อย
“ภายในอีกไม่กี่ปี ประตูสวรรค์จะเปิดออกอีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้น มันจะเป็นโอกาสสำคัญของเจ้า” ลู่ซุนยิ้มให้อีกฝ่าย และตอบ
“ประตูสวรรค์จะเปิดออกอีกครั้งแล้วเหรอ?” ดวงตาของหลานหยุนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาติดคอขวดอยู่ในขอบเขตนี้มานาน มันนานมากจนเขารู้สึกสิ้นหวัง
“มหาค่ายกลที่ข้าวางเอาไว้ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว อีกไม่นานมันจะพังทลายลง” ลู่ซุนพยักหน้าเบา ๆ
การที่มหาค่ายกลผนึกสวรรค์สามารถดำรงอยู่ได้นานถึงหนึ่งแสนปีก็ทำให้เขาประหลาดใจมากแล้ว จะพังทลายไปตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
“ลุงลู่ มีตระกูลหนึ่งที่ติดตามท่านในตอนนั้นตั้งรกรากอยู่ในมณฑลเฉียนเจียง ท่านอยากไปหาพวกเขาไหม?” จู่ๆ หลานหยุนก็จำอะไรบางอย่างได้ และถามออกมา
“เจ้ากำลังพูดถึงตระกูลผู้พิทักษ์เหล่านั้นเหรอ?” ลู่ซุนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถาม
"ใช่! นั่นคือตระกูลเย่ พวกเขาสร้างเส้นทางมิติไว้ที่นี่เมื่อหลายปีก่อนเพื่อให้เชื่อมต่อกับโลกภายนอก" หลานหยุนพยักหน้าแล้วตอบเสียงดัง
ในตอนนั้นมีคนมากมายที่ติดตามลู่ซุน แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะล้มลงแล้ว แต่บางคนก็ได้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นยอดฝีมือชื่อก้อง หรือผู้ก่อตั้งกองกำลังใหญ่ต่างๆ
“พาข้าไปดูหน่อย” ลู่ซุนกล่าว
ตระกูลเย่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลผู้พิทักษ์ พวกเขาปกป้องตาค่ายกลในดินแดนตงหวง ตระกูลนี้ดำรงอยู่มานานกว่า 100,000 ปี
“ตกลง” หลานหยุนพยักหน้าอย่างหนักแน่น จากนั้นจึงหันหลังกลับ และเดินออกจากวังคริสตัล
หลังจากนั้นไม่นาน หลานหยุนก็เดินเข้ามาพร้อมกับชายวัยกลางคนๆ หนึ่ง
ชายวัยกลางคนมีใบหน้าที่หล่อเหลา เดินเชิดหน้าสูง และผมสีฟ้าอ่อนยาวของเขาดูสง่างามมาก
“ลุงลู่ นี่คือบุตรของข้า เขาชื่อหลานเฟิง” หลานหยุนกล่าวด้วยความเคารพต่อลู่ซุน
“ท่านคือ ยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบที่พ่อของข้าเคยพูดถึงเหรอ?” หลานเฟิงไม่ได้ทักทายลู่ซุน แต่ขมวดคิ้ว และพูด
ชายคนนี้ดูธรรมดามาก ไม่มีแรงกดดันใดๆ แผ่ออกมาจากตัวเขา หรือพ่อของเขาจะถูกหลอก?
ท้ายที่สุดพ่อของเขาก็แก่แล้ว จึงค่อนข้างสมองช้า อีกฝ่ายหมกมุ่นอยู่กับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อแสนปีก่อนมาโดยตลอด และมีแนวโน้มมากที่จะถูกคนเอารัดเอาเปรียบ
มนุษย์ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่สามารถอยู่ได้นานถึงหนึ่งแสนปี!
ในยุคนี้ ไม่มีอมตะในโลกปาหวง แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายานขั้นสูงสุดก็มีอายุขัยเพียงไม่กี่หมื่นปีเท่านั้น!
แม้ว่าพ่อของเขาจะดูอ่อนเยาว์ลงมากในตอนนี้ และดูเหมือนจะอายุน้อยลงหลายปี แต่หลานเฟิง ก็ยังคิดว่าลู่ซุนเป็นนักต้มตุ๋น
หลายปีที่ผ่านมา ข้าได้ใช้ทรัพยากรนับไม่ถ้วนเพื่อพ่อของเขา แต่ก็ทำได้เพียงยืดอายุขัยนิดหน่อยเท่านั้น
การยืดอายุขัยพ่อของเขาทำได้ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ แม้ว่าจะเป็นอมตะต้าหลัวลงมายังโลก แต่ก็คงอาจไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
“อวดดีจริงๆ! รีบขอโทษลุงของเจ้าเดี๋ยวนี้!” หลานหยุนจ้องมองไปที่ลูกชายของตน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
เด็กคนนี้เริ่มอวดดีมากขึ้นเรื่อยๆ! กล้าดียังไงมาแสดงความเคลือบแคลงใจในตัวลุงลู่!
ดูเหมือนว่าความเย่อหยิ่งของเจ้าเด็กคนนี้จะพัฒนาขึ้น หลังจากเขานอนเป็นผักมาหลายปี และไม่ได้อบรมสั่งสอน และลงโทษอย่างเหมาะสม
“ลุง? ทำไมข้าไม่เคยรู้เลยว่าข้ามีญาติห่างๆ คนอื่นอยู่ด้วย” หลานเฟิงพูดอย่างไม่สุภาพ
พ่อของเขาแก่แล้ว เป็นเรื่องปกติที่จะสับสน และถูกหลอก แต่เขา หลานเฟิงฉลาดมาก
ต้องการที่จะหลอกลวงเขางั้นรึ? กลับไปฝึกมาใหม่อีกสักพันปี!
“เจ้าเด็กสารเลว! คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!” หลานหยุนโกรธจนแทบบ้า เขาตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับใบหน้าที่บิดเบี้ยว
เมื่อหลานหยุนได้ยินสิ่งนี้ หลังของเขากลับยืดตรงมากขึ้น
“ดี เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็ง ไม่ฟังข้าแล้วใช่ไหม ข้าจะทุบตีเจ้าให้ตาย!” หลานหยุนคำรามด้วยความโกรธ และตบไหล่หลานเฟิง พยายามบังคับอีกฝ่ายให้คุกเขาลง
พลังวิญญาณที่พลุ่งพล่านปะทุออกมาจากร่างกายของหลานเฟิง และแนบไปกับไหล่ของเขา ต่อต้านการกดฝ่ามือของหลานหยุนอย่างเข้มแข็ง
หลานหยุนคิดไม่ถึงเลยว่าลูกชายของตนจะต่อต้าน เขาจึงถูกพลังวิญญาณผลักออกไป และถอยกลับไปหลายก้าว
หลานเฟิงเพิ่งกลับมารู้สึกตัว และเขาก็รู้สึกเสียใจในทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และโทษตัวเอง
ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของพ่อ อีกฝ่ายจะต้านทานพลังวิญญาณของเขาได้อย่างไร?
“พ่อ ท่านเป็นอะไรไหม?” หลานเฟิงถามด้วยความกังวลในขณะที่เขาต้องการจะไปช่วยพยุงพ่อของตน
“ไปให้พ้น เจ้าคนทรยศ!” ใบหน้าของหลานหยุนดำมืด และเขาก็ตะโกนด้วยความโกรธ
หลังจากนั้น หลานหยุนก็เดินกลับกลับมา เขายกมือขึ้นสูง และตบลงบนไหล่ของหลานเฟิงอีกครั้ง
ปัง!
การตบนี้ทรงพลัง และหนักหน่วงมากจนทำลายพลังวิญญาณบนไหล่ของหลานเฟิงได้อย่างง่ายดาย
ดวงตาของหลานเฟิงฉายแววประหลาดใจ เขาไม่โต้ตอบ และคุกเขาลงกับพื้น
เมื่อเขาคุกเข่าลงพร้อมกับเสียงดังป๋อม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ และความสับสน
ทำไมพ่อของเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้? นี่คือ พ่อแก่ๆ ที่มักจะล้มป่วย และต้องการความช่วยเหลือแม้กระทั่งการลุกขึ้นยืนงั้นรึ!
ความแข็งแกร่งที่ดุร้ายนี้แข็งแกร่งกว่าของตัวเขาเองเสียอีก!
“คุกเข่าลง และคำนับลุงของเจ้าเพื่อขอโทษซะ!” หลานหยุนพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง
หลานเฟิงพยายามดิ้นรนเพื่อลุกขึ้น แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหน ร่างกายของเขาก็ไม่ตอบสนองเลย เขาจึงต้องคุกเข่าอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ ไม่สามารถขยับไปไหนได้
“เฮอะ เจ้าลูกบ้า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าทุกสิ่งที่เจ้ารู้ใครเป็นคนสอน ทุกสิ่งที่เจ้ารู้ ข้ารู้ลึกยิ่งกว่า เจ้าคิดว่าจะต่อต้านข้าได้งั้นรึ?” หลานหยุนตะคอกอย่างเย็นชา แล้วพูดอะไรบางอย่างออกมา
เขามีชีวิตอยู่มานานกว่า 100,000 ปี และมีรากฐานที่ลึกล้ำอย่างยิ่ง การปราบปรามบุตรอกตัญญูคนนี้เป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าการกิน และดื่ม
“พ่อ ท่าน…” หลานเฟิงดูสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นพ่อของเขาเป็นเช่นนี้
“ลุงลู่ได้ยืดอายุขัยของข้าอีกนับหมื่นปี และตอนนี้ข้าก็ได้เกิดใหม่แล้ว” ใบหน้าของหลานหยุนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูพึงพอใจเป็นอันมาก
หลานเฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และคำนับต่อลู่ซุนหลายต่อหลายครั้ง
ก่อนหน้านี้เขาสงสัยว่าลู่ซุนอาจเป็นนักต้มตุ๋น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดไป
“หลานเฟิงคารวะท่านลุง! ข้าหวังว่าท่านจะไม่ใส่ใจกับความหุนหันพลันแล่นของข้าก่อนหน้านี้ ข้ายังเด็กจึงโง่เขลาไปบ้างเป็นบางครั้ง โปรดอภัยให้ข้าด้วย” หลานเฟิงพูดกับลู่ซุนด้วยความเคารพ สีหน้าของเขาจริงใจอย่างยิ่ง