ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 90 พลังอำนาจแห่งวังอสูร
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 90 พลังอำนาจแห่งวังอสูร
อะไรนะ!?
แรงกดดันและเสียงที่ดังก้องกะทันหัน ทำให้คุนเสวียนอวี้และชายชราเผ่าจักรพรรดิคุนเผิงระดับมหาปราชญ์มีสีหน้าเปลี่ยนไป
วังอสูร?
นี่คือขุมอำนาจใดกัน? เหตุใดจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน?
ยิ่งไปกว่านั้น ยังตั้งอยู่ในเทือกเขาทะลวงเมฆา หรือว่าจะเป็นไพ่ตายที่จักรพรรดิอสูรทิ้งไว้?
เหยาหรูอวี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน
สาเหตุที่นางหนีมาที่นี่ ก็เพราะความสิ้นหวัง ไม่อยากยอมแพ้เท่านั้น
ในใจของนางคิดว่าตนเองคงต้องตายอย่างแน่นอน
ทว่าไม่คิดเลยว่าสถานการณ์กลับพลิกผัน
ภายในเทือกเขาทะลวงเมฆาแห่งนี้ กลับมีเผ่าอสูรอาศัยอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสร้างวังอสูรขึ้นมา
“หรือว่าจะเป็นไพ่ตายที่บรรพบุรุษจักรพรรดิอสูรทิ้งไว้จริง ๆ?”
เหยาหรูอวี้ทำได้เพียงคาดเดา
บัซซซ—!
ในเวลานั้น ความว่างเปล่าก็สั่นสะเทือน เห็นเพียงทหารอสูรหนึ่งตนสวมเกราะศึก เดินออกมา
ในมือถือหอกสงคราม พลังอำนาจเทพแผ่ซ่าน ปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า
“เบื้องหน้าวังอสูร มิใช่ที่เจ้าจะมาบังอาจ พวกเจ้าจงรีบถอยไป มิเช่นนั้น… จะถูกสังหารอย่างไร้ความปราณี!”
จี๋อวิ๋นควบคุมทหารอสูรตนนั้นกล่าวอย่างเย็นชา
ในเวลานี้ คุนเสวียนอวี้จึงได้สติกลับมา เขามองดูทหารอสูรระดับปราชญ์ผู้นั้นยิ้มเยาะ
“เพียงแค่เจ้าที่เป็นถึงระดับปราชญ์ ก็กล้าพูดจาโอหังเช่นนี้? วังอสูรเช่นนั้นรึ เผ่าอสูรถูกทำลายล้างไปนานแล้ว”
“บังอาจ! กล้าดูหมิ่นวังอสูร ประหาร!”
เสียงดังก้องกังวาน คุนเสวียนอวี้อยากจะหัวเราะ เพียงแค่ระดับปราชญ์ ใครกันที่ให้ความกล้าเจ้า
ทว่าในชั่วพริบตาถัดมา เขาก็หัวเราะไม่ออก
เพราะภายในความว่างเปล่า ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นทีละชั้น ใต้ระลอกคลื่นแต่ละชั้น มีร่างเงาเดินออกมา
หนึ่งคน สิบคน ร้อยคน พันคน สองพันคน สามพันคน!
ร่างเงาทั้งหมดสามพันร่าง แต่ละร่างต่างแผ่รัศมีปราชญ์ แต่ละคนล้วนเป็นถึงระดับปราชญ์!
ปราชญ์สามพันคนยืนหยัดอยู่บนท้องฟ้า รัศมีปราชญ์แผ่ซ่านไปทั่วทั้งฟ้าดิน ทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง!
“นี่ นี่…………”
คุนเสวียนอวี้เห็นภาพนี้ก็ตกใจจนพูดไม่ออก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ภายใต้รัศมีอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ รัศมีราชันปราชญ์ของเขาราวกับเป็นเพียงฟองสบู่ ไม่อาจต้านทานได้
ปราชญ์สามพันคน อย่าว่าแต่เขาที่เป็นเพียงราชันปราชญ์ แม้แต่มหาปราชญ์ก็ยังต้านทานไม่ไหว!
“ดูหมิ่นวังอสูร ตาย!”
ทหารอสูรและแม่ทัพอสูรสามพันนายคำรามลั่น จากนั้นจึงลงมือพร้อมกัน
การโจมตีครั้งนี้ช่างน่ากลัว ความว่างเปล่านับหมื่นลี้ต่างกลายเป็นผุยผง
คุนเสวียนอวี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ทำลายล้างฟ้าดิน ทำให้ดวงวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน ไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย
“บุตรเทพ!”
ในเวลานั้น ชายชราเผ่าจักรพรรดิคุนเผิงระดับมหาปราชญ์รีบเดินทางมา
เมื่อเห็นดังนั้น เขาจึงเรียกโล่ขนาดใหญ่ออกมา เป็นยุทธภัณฑ์มหาปราชญ์ของเขา กางกั้นไว้เบื้องหน้าคุนเสวียนอวี้
ทว่าเมื่อโล่ปะทะกับลำแสงที่หลอมรวมพลังของทุกคนเข้าด้วยกัน ก็สามารถต้านทานได้เพียงไม่กี่ลมหายใจ
เคร้ง!
ในชั่วพริบตา โล่ก็เต็มไปด้วยรอยร้าว จากนั้นก็แตกสลาย กลายเป็นเศษชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน
ยุทธภัณฑ์มหาปราชญ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกัน กลับถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย!
อย่างไรก็ตาม อาศัยช่วงเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจนี้ มหาปราชญ์เผ่าจักรพรรดิคุนเผิงจึงพาคุนเสวียนอวี้หลบหนีไปยังที่ไกล ไม่อยากหยุดแม้แต่น้อย
“วังอสูร ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเผ่าอสูรระดับปราชญ์อีกสามพันคน ที่นี่มันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว”
บนท้องฟ้า มหาปราชญ์เผ่าจักรพรรดิคุนเผิงกล่าวกับคุนเสวียนอวี้ “บุตรเทพ รีบใช้จี้หยกส่งข่าวไปยังผู้นำเผ่า บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่”
“และให้ผู้นำเผ่าส่งยอดฝีมือมาช่วยเหลือ”
“ข้าทราบแล้ว”
คุนเสวียนอวี้ไม่ลังเล หยิบจี้หยกออกมา ส่งจิตตระหนักรู้เข้าไป จากนั้นจึงโยนออกไป
ทันใดนั้น จี้หยกก็แปรเปลี่ยนเป็นลำแสง พุ่งทะลวงผ่านความว่างเปล่า
“เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่หนึ่งชั่วยามยอดฝีมือของเผ่าก็จะมาถึง”
“ดีมาก”
มหาปราชญ์เผ่าจักรพรรดิคุนเผิงถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะต้านทานการโจมตีร่วมกันของปราชญ์สามพันคนไม่ได้ แต่การถ่วงเวลาหนึ่งชั่วยามยังคงทำได้
ทว่าในเวลานั้นเอง จู่ ๆ เขาก็รู้สึกถึงอันตรายถึงชีวิต ทำให้หัวใจของเขาราวกับถูกบีบรัด
ชั่วพริบตาถัดมา เสียงอันเย็นชาดังก้องไปทั่วทั้งฟ้าดิน
“ดูหมิ่นวังอสูร ใครกันที่ให้ความกล้าพวกเจ้าหนีไป?”
ตู้ม!
สิ้นคำกล่าว ฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดินปรากฏขึ้นจากเทือกเขาทะลวงเมฆา ทำลายหมอกควัน แผ่ขยายไปจนถึงสุดขอบฟ้า
พลังเทพอันไร้ขอบเขตแผ่กระจายลงมา กดขี่ทั่วทั้งฟ้าดิน ราวกับทะลวงผ่านอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
“กึ่ง… กึ่งเทพ!”
ภายใต้พลังเทพ คุนเสวียนอวี้และมหาปราชญ์เผ่าจักรพรรดิคุนเผิงรู้สึกว่าตนเองราวกับมดปลวก ไม่อาจขยับเขยื้อนได้
ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
กึ่งเทพ ที่นี่กลับมีกึ่งเทพประจำการ!
มิใช่ว่าเทือกเขาทะลวงเมฆาแห่งนี้เงียบสงัด ไร้ผู้คนอาศัยอยู่หรือ!
ในเวลานี้ คุนเสวียนอวี้รู้สึกเสียใจอย่างที่สุด เหตุใดจึงไม่ฟังคำพูดของผู้นำเผ่า ต้องเดินทางมาไล่ล่าเหยาหรูอวี้!
ทว่าบนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเรียกว่าย้อนเวลากลับไปแก้ไข…
แม้ว่าเขาจะไม่ยอมแพ้ จะดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่อาจต้านทานฝ่ามือขนาดใหญ่นั้นได้
“ตู้ม!”
ในที่สุด ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็ปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดิน ทุกสิ่งทุกอย่างใต้ฟ้าดินต่างถูกครอบคลุม ฝ่ามือนี้กดคุนเสวียนอวี้และมหาปราชญ์เผ่าจักรพรรดิคุนเผิงลงไปยังเทือกเขาที่อยู่ไกลออกไป
ฝ่ามืออันไร้ขอบเขตทำลายเทือกเขาจำนวนมากให้ราบเป็นหน้ากลอง!
บนพื้นดิน เหลือเพียงรอยเลือดรูปร่างคล้ายมนุษย์สองรอย
บุตรเทพและมหาปราชญ์ของเผ่าจักรพรรดิคุนเผิง ตายอย่างอนาถ!
เหยาหรูอวี้เห็นภาพนี้ก็ตกใจจนสูดลมหายใจลึก
นี่คือพลังอำนาจของกึ่งเทพหรือ
ไม่จำเป็นต้องใช้พลังอิทธิฤทธิ์ใด ๆ เพียงแค่โจมตีธรรมดา ก็สามารถทำลายฟ้าดินได้!
สังหารมหาปราชญ์ราวกับบดขยี้มดปลวก!
“นำเด็กสาวผู้นั้นเข้ามา”
ในเวลานั้น เสียงที่ดังก้องไปทั่วทั้งฟ้าดินก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ขอรับราชันอสูร”
ทหารอสูรและแม่ทัพอสูรสามพันนายคำนับอย่างนอบน้อม
ชั่วพริบตาถัดมา ทหารอสูรหนึ่งตนพุ่งทะลวงผ่านความว่างเปล่า มาหยุดอยู่เบื้องหน้าเหยาหรูอวี้
“ตามข้ามา ราชันอสูรต้องการพบเจ้า”
ราชันอสูรหรือ?
เหยาหรูอวี้รู้สึกตกใจ นี่คือตำแหน่งใดกัน?
จากความทรงจำของนาง เผ่าอสูรไม่เคยมีตำแหน่งเช่นนี้ ส่วนใหญ่ก็คืออสูรผู้ยิ่งใหญ่ ยอดฝีมืออสูร
ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อเหล่านี้ยังเรียกกันอย่างไม่เป็นทางการ
ตำแหน่งที่แท้จริง มีเพียง… จักรพรรดิอสูรเท่านั้น
ตอนนี้วังอสูรปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีราชันอสูร ทำให้เหยาหรูอวี้รู้สึกสับสน
นางรู้สึกว่าบางที… นี่อาจจะไม่ใช่ไพ่ตายที่บรรพบุรุษจักรพรรดิอสูรทิ้งไว้
ความคิดมากมายผุดขึ้นมาในใจของนาง
ไม่นานนัก เหยาหรูอวี้ก็เดินทางมาถึงส่วนลึกของเทือกเขาทะลวงเมฆา
นางมองดูเบื้องหน้า ตกตะลึงในทันที
ที่แห่งนี้นางเคยมา เดิมเป็นเพียงดินแดนที่แห้งแล้ง ไร้ซึ่งชีวิต
ทว่าในเวลานี้กลับมีพืชพรรณเขียวขจี ปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่ง
ต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ ดอกไม้หลากสีสัน ส่งกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่ว ทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่น ยินดี เป็นภาพที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังที่อยู่ไกลออกไป สง่างาม หรูหรา ล้อมรอบด้วยหมอกควัน ดูเลือนรางและศักดิ์สิทธิ์ ราวกับเป็นวิมานสวรรค์ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนก้อนเมฆ!