กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 365 นี่คือการเวียนว่ายตายเกิด!
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 365 นี่คือการเวียนว่ายตายเกิด!
"เจ้ามองโลกอินทนิลเร้นลับอย่างตื้นเขินเกินไป เจ้าคิดว่าเพียงแค่ยมโลกก็สามารถสะกดโลกอินทนิลเร้นลับได้หรือ" มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬกล่าวตอบ
สำหรับคำพูดของจักรพรรดินียมโลก เขาไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว
แม้ว่าเขาจะถูกสะกด แต่ไม่ได้หมายความว่าโลกอินทนิลเร้นลับอ่อนแอ ไร้ซึ่งพลัง นอกจากเขาแล้ว โลกอินทนิลเร้นลับสั่งสมรากฐานมานานนับไม่ถ้วน มิใช่เรื่องที่จะล้อเล่น
เขารู้สึกได้ว่าอีกไม่นาน โลกอินทนิลเร้นลับจะปรากฏเซียนหนึ่งตน
เมื่อถึงเวลานั้น สถานการณ์ทั้งหมดจะพลิกผัน
"ความมั่นใจของเจ้ามาจากพวกเขาหรือ"
เสียงของจักรพรรดินียมโลกเย็นชา
ทันทีที่สิ้นเสียง
ภายในโถงใหญ่ แสงเซียนระเบิด ปรากฏกลิ่นอายของมหาจักรพรรดิ แผ่กระจายออกไป สะเทือนเลื่อนลั่นกาลเวลา แปรเปลี่ยนเป็นม่านแสง ปกคลุมจากเบื้องบน
บนนั้นปรากฏตัวอักษรมากมาย
รายนามจักรพรรดิปรากฏอยู่
"มหาจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์ มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬ ลำดับที่ 9 ลำดับที่ 10 ของรายนามจักรพรรดิ คนเช่นนี้ เจ้าคิดว่าพวกเขาสามารถปกป้องโลกอินทนิลเร้นลับได้หรือ" จักรพรรดินียมโลกกล่าวด้วยท่าทางโอหัง
"รายนามจักรพรรดิ?"
มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬมองตัวอักษร ดวงตาหดเล็กลง จากนั้นก็หัวเราะ เสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อย ๆ สะเทือนเลื่อนลั่นห้วงมิติ เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เสียงหัวเราะจึงค่อย ๆ จางหายไป
"ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้จักหอคอยกลไกสวรรค์แล้ว!"
"ในเมื่อรู้จักหอคอยกลไกสวรรค์แล้ว คงจะรู้จักพลังของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ไม่ปิดบังเจ้า การที่โลกเซียนปฐพีกับโลกอินทนิลเร้นลับรวมกัน เป็นเพราะ..."
"เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ลงมือ!"
"พวกเจ้าโลกเซียนปฐพีบุกโจมตีโลกอินทนิลเร้นลับ หากทำให้เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ไม่พอใจ พวกเจ้าคงต้องพบเจอกับหายนะ!"
"โอ้? เช่นนั้นหรือ"
จากส่วนลึกของโถงใหญ่ เสียงเย็นชา ดังขึ้น กล่าวอย่างแผ่วเบา "เท่าที่ข้ารู้ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ลงมือน้อยครั้งนัก ทุกครั้งล้วนมีเหตุผล"
"ข้าคิดว่าหอคอยกลไกสวรรค์คงไม่ยุ่งเกี่ยวกับสงครามระหว่างสองโลก"
"เพราะว่า"
"หากเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ต้องการยุ่งเกี่ยว ขุมอำนาจแรกที่ถูกทำลาย คงจะเป็นโลกอินทนิลเร้นลับ ข้าจำไม่ผิด บุคคลที่บุกโจมตีโลกสวรรค์ก่อกำเนิดก่อน คงจะเป็นเจ้า มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬกระมัง"
มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬหน้าเสีย
เรื่องนี้มิใช่ความลับ ใครก็ตามที่สืบหาก็ต้องรู้
ก่อนที่โลกอินทนิลเร้นลับกับโลกสวรรค์ก่อกำเนิดจะรวมกัน ทั้งสองโลกก็เคยต่อสู้กัน เมื่อรวมกันแล้ว การต่อสู้ก็ยังคงดำเนินต่อไป
ชายแดนของทั้งสองโลกเกิดสงครามมากมายนับไม่ถ้วน
เพราะพลังของทั้งสองโลกแทบไม่แตกต่างกัน จึงไม่อาจเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ หากโลกอินทนิลเร้นลับมีพลังที่เหนือกว่า โลกสวรรค์ก่อกำเนิดในตอนนี้อาจจะถูกทำลายไปแล้วก็เป็นได้
"เช่นนั้นการกระทำของข้าล้วนอยู่ในความยินยอมของเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ แล้วจะมีภัยอันใด"
เสียงของจักรพรรดินียมโลกสงบนิ่ง กล่าวอย่างช้า ๆ ทุกคำพูด ทำให้มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬหน้าซีดเผือด
เขาเข้าใจ จักรพรรดินียมโลกกล่าวถูกต้อง
โอกาสที่เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมาก กลับเป็นไปได้มากกว่าที่เขาจะมองดูโลกอินทนิลเร้นลับถูกทำลาย
"เจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ต้องการรวมหมื่นโลกาเข้าด้วยกัน โลกอินทนิลเร้นลับและโลกเซียนปฐพีเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในอนาคต ย่อมต้องมีโลกที่น่ากลัวยิ่งกว่านี้ปรากฏขึ้นมา"
มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬกล่าวอย่างเศร้าสร้อย ดวงตาดูว่างเปล่า เขาราวกับมองเห็นอนาคตของโลกเซียนปฐพีและโลกอินทนิลเร้นลับ กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า
"เมื่อโลกที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปรากฏขึ้น โลกเซียนปฐพีของพวกเจ้า ก็จะพบจุดจบเช่นเดียวกัน"
"เมื่อถึงตอนนั้น ยมโลกของเจ้าก็คงไม่อาจรอดชีวิต"
"เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล"
จักรพรรดินียมโลกมีสีหน้าเย็นชา เสียงของนางไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก ในสายตาของนาง มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬเป็นเพียงมดตัวหนึ่ง สามารถบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย
"ที่มาของยมโลกมิใช่สิ่งที่เจ้าสามารถคาดเดาได้"
"แม้เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์จะไม่รวมหมื่นโลกาเข้าด้วยกัน วันใดวันหนึ่ง ข้าก็จะนำพากองทัพ บุกโจมตีหมื่นโลกา เพียงแค่ยมโลกเท่านั้นที่สามารถยุติสงคราม!"
"เพื่อให้หมื่นโลกากลับมาสงบสุข!"
"เหอะ"
มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬเย้ยหยัน สีหน้าดูถูก กล่าวว่า "โลกสงบสุขหรือ เพียงแค่ยมโลกของเจ้าปรากฏตัวขึ้นในโลกอินทนิลเร้นลับไม่กี่วัน"
"โลกอินทนิลเร้นลับก็มีผู้คนตายนับล้านล้าน นี่หรือโลกสงบสุข"
"เจ้าคิดผิดแล้ว"
เสียงของจักรพรรดินียมโลกยังคงเย็นชา นางกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า "ทุกชีวิตล้วนต้องพบกับความทุกข์ การมีชีวิตอยู่มิได้งดงามอย่างที่คิด การตายเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การเวียนว่ายตายเกิดต่างหากคือความเป็นนิรันดร์!"
"และ..."
"หลังจากยมโลกปรากฏตัวขึ้นในโลกอินทนิลเร้นลับ ใครบอกว่าข้าสังหารผู้คน"
กล่าวจบ เงาร่างสีดำในส่วนลึกของโถงใหญ่ ยกมือขึ้น จิ้มไปที่ห้วงมิติ
ทันใดนั้นห้วงมิติก็แตกสลาย
โลกที่มืดมนปรากฏขึ้น เผยให้เห็นเพียงมุมหนึ่ง โลกใบนั้น มืดมิด ราวกับไม่มีดวงอาทิตย์ แสงสว่างน้อยนิด พื้นดินแห้งแล้ง
ทุกที่ล้วนรกร้าง ปล่อยกลิ่นอายอันน่าเศร้า
มองเห็นเพียงบนพื้นดิน มีเมืองขนาดใหญ่มากมายตั้งตระหง่าน ราวกับสัตว์ร้ายโบราณขนาดใหญ่ นอนอยู่บนพื้นดิน
จากเมืองเหล่านั้นมีกลุ่มคนมากมาย เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
หากมองอย่างละเอียดจะพบว่า พวกเขาคือผู้คนนับไม่ถ้วน เดินบนท้องฟ้า มุ่งหน้าไปยังเมืองขนาดใหญ่
เพียงแวบเดียวก็มีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วน
รวมกับผู้คนที่อยู่ในเมือง เหล่านี้น่าจะมีจำนวนมากมาย ไม่อาจคาดเดาได้
"อย่างที่เจ้าเห็น หากคนเหล่านี้ตายเพราะการต่อสู้ของพวกเรา พวกเขาก็จะกลายเป็นผุยผง ไม่มีโอกาสอื่นใด แต่หลังจากยมโลกปรากฏ พวกเขาก็มีทางเลือกอื่น"
"นั่นคือการเวียนว่ายตายเกิด!"
"การเวียนว่ายตายเกิด?"
มหาจักรพรรดิห้วงนิลกาฬมองโลกที่มืดมน ใบหน้าซีดเผือด เขาสามารถคาดการณ์ได้ว่า ยมโลกคงมิได้มีเป้าหมายเพียงเท่านี้
หากสำเร็จ หมื่นโลกา คงต้องตกอยู่ในกำมือของยมโลก
เรื่องนี้น่ากลัวยิ่งนัก
เขาไม่รู้ว่าขุมอำนาจอื่น ๆ รู้เรื่องที่ยมโลกกำลังเก็บรวบรวมดวงวิญญาณหรือไม่ หากรู้ คงไม่มีขุมอำนาจใดสงบนิ่ง
เพราะว่า...สำนักใดก็ตามย่อมต้องมีอาจารย์ หรือบรรพบุรุษละสังขารไป
หากพวกเขารู้ว่าหลังจากอาจารย์ บรรพบุรุษละสังขารแล้ว ดวงวิญญาณถูกยมโลกจับมาที่นี่ ถูกจัดการให้เวียนว่ายตายเกิด
ขุมอำนาจเหล่านั้น คงจะร่วมมือกันบุกโจมตียมโลก!
"ยมโลกมิได้เป็นของโลกใบนี้ ที่มาของยมโลกลึกลับซับซ้อน แม้แต่เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ก็ไม่อาจทำนายได้!"
จักรพรรดินียมโลกกล่าวอย่างมั่นใจ
ในสายตาของนาง เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์แข็งแกร่งยิ่งนัก แข็งแกร่งจนยมโลกในตอนนี้ ไม่สามารถต่อกรได้
เพราะเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์สามารถรวมโลกเซียนปฐพีเข้าด้วยกันได้ แต่ในขณะเดียวกัน ที่มาของยมโลกก็มิธรรมดา ในอดีตเคยมีจักรพรรดิเซียนปกครอง
บุคคลเช่นนั้นสามารถมองข้ามสายธารแห่งกาลเวลาได้ ฟ้าดินสลาย แต่เขายังคงอยู่!
การรวมโลกเข้าด้วยกันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย
บางทีเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์อาจจะไม่น่ากลัวเท่าจักรพรรดิเซียน
เพราะฉะนั้น แม้จะเป็นเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ ก็ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับยมโลกในช่วงเวลาที่รุ่งเรืองได้