ตอนที่แล้วแสงสว่างแห่งจิตใจ (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปแสงสว่างแห่งจิตใจ (6)

แสงสว่างแห่งจิตใจ (5)


[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]

[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]

[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]

<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 41>

5. แสงสว่างแห่งจิตใจ (5)

*******

อารอนเพ่งสมาธิ

เขาอยู่ใจกลางลานฝึก ใกล้ๆ นั้น มีหุ่นฟางตั้งอยู่มากกว่าสิบตัว

"...."

วู้ววว!

เงาที่อารอนเหยียบยืนอยู่สั่นไหว หอกสีเงินที่ถืออยู่กลายเป็นภาพเบลอพร้อมทิ้งร่องรอยไว้

[สลาย]

[เงาดำนับหมื่น]

ปัก ปัก ปัก ปัก!

เงาดำนับสิบเงาพุ่งออกมาจากเงาของอารอน ทะลุผ่านหุ่นฟางพร้อมกัน

เกิดเป็นรูขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้ชัดเจนกลางหุ่นฟาง

"ฮู้ว"

อารอนถอนหายใจ

การฝึกฝนทักษะเมื่อครู่ทำให้พลังวิญญาณของเขาถูกดูดออกไปอีกจำนวนหนึ่ง

แม้ว่าจะพยายามประหยัดที่สุดแล้วก็ตาม

พลังวิญญาณที่สะสมมานานหลายร้อยปี หรืออาจจะหลายพันปี ถูกปลดปล่อยออกมาในการต่อสู้เพียงครั้งเดียว

กรรม ก็เหมือนแสงของซูเปอร์โนวาที่ดาวฤกษ์ที่มีอายุหลายพันล้านปีเผาไหม้เมื่อดับสูญ แม้จะสว่างไสวไปทั่วทั้งกาแล็กซี แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเหลือ

'แม้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ควบคุมได้ยากมาก'

พลังที่ปลุกขึ้นได้ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่เท่านั้น

แม้แต่การฝึกฝน กรรม ก็ยังต้องใช้ กรรม

'เข้าใจแล้ว'

หลังจากที่เด็กชายคนนั้นปลุก กรรม ขึ้นมาเป็นครั้งแรก

ก็มีผู้ท้าชิงมากมายมาที่นี่เพื่อเลียนแบบเขา ตอนนี้พวกเขาหายไปไหนกันหมดแล้ว?

บางคนอาจกลายเป็นวิญญาณร้ายก่อนจะปลุก กรรม ได้

หรือบางคนอาจปลุก กรรม ได้ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมมันได้จนกลายเป็นปีศาจไป

มีเพียงเด็กชายเท่านั้นที่สามารถเอาชนะและทนต่อแรงสะท้อนของ กรรม ได้จนถึงที่สุด

เด็กชายคนนั้นสรุปเหตุผลที่เขาทำได้ว่า 'เพราะเขาไม่มีหัวใจ'

'เขาจะไม่ยอมแพ้'

อารอนมองไปด้านข้าง เขาเห็นเงาสีแดงยืนอยู่

เขารู้ว่ามันเป็นเพียงภาพลวงตาที่เขาเห็นอยู่คนเดียว

'ต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้'

ต้องครอบครอง กรรม ได้อย่างสมบูรณ์โดยยังคงมีหัวใจของมนุษย์อยู่

เมื่อถึงตอนนั้น เด็กชายที่เป็นอาจารย์ของเขาก็จะสามารถเกษียณได้อย่างปลอดภัย

อารอนตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่

.

.

.

ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป

เด็กชายบอกว่าแม้แต่อารมณ์ที่เป็นอมตะก็จะจางหายไปตามกาลเวลา

หัวใจของมนุษย์นั้นมีขีดจำกัด

อารอนอยากจะปฏิเสธ

แม้บางสิ่งจะเปลี่ยนแปลง แต่บางสิ่งก็ไม่เปลี่ยนแปลง

เขาอยากจะพิสูจน์ให้อาจารย์เห็น

ต้นกำเนิดของ กรรม ที่อารอนแบกรับไว้นั้นคือความฝันอันบริสุทธิ์ที่จะแข็งแกร่งขึ้น

และตอนนี้เขาได้เพิ่มความฝันอีกอย่างที่เกิดจากหัวใจของเขาเข้าไป

'เขาไม่อยากละทิ้งความเป็นมนุษย์'

แม้ว่าต้นกำเนิดของความฝันจะมาจากความปรารถนาอันบริสุทธิ์

แต่อารอนที่เป็นผู้ควบคุมมันก็มีความปรารถนาที่จะปกป้องสิ่งสำคัญของเขาในฐานะมนุษย์

เขาต้องการปกป้องพวกเขา เขาอยากจะมอบความสุขที่ไม่ว่าจะเจอกับความยากลำบากใดก็ไม่สามารถทำลายได้

เขาอยากจะมีพลังที่สามารถจัดการกับอะไรต่างๆได้

นี่ไม่ใช่พลังที่ได้มาจากการละทิ้งนีน่า พี่ชาย และเพื่อนร่วมงานของเขา

แต่มันคือพลังที่เขาได้รับมาเพื่อพวกเขา

ดังนั้น เขาจึงปฏิเสธ

อารอนปฏิเสธ 'ความบริสุทธิ์'

.

.

.

.

เวลาผ่านไปหลายปี

เด็กชายพูดกับอารอนที่อยู่ในลานฝึก

"พอแค่นั้นแหละ"

อารอนหยุดการเคลื่อนไหวของเขา

"อาจารย์หมายความว่าอย่างไรครับ?"

"การสะสม กรรม น่ะ หยุดแค่นั้นแหละ ดูเหมือนจะเพียงพอแล้ว"

"แต่อาจารย์ครับ…ผมยังอ่อนแออยู่เลยครับ การจะสืบทอดอาจารย์..."

"อยากตายรึไง?"

อารอนเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำขู่ของเด็กชาย นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

"ถ้านายสะสม กรรม มากกว่านี้ เงาจะกลืนกินนาย"

อารอนมองไปด้านข้าง เงาสีแดงดูเหมือนจะใหญ่ขึ้น

"นี่คือขีดจำกัดของนาย….โลภมากไปกว่านี้จะเป็นอันตราย"

"แต่ว่า..."

เขายังแข็งแกร่งไม่พอ

ด้วยพลังแค่นี้เขาไม่สามารถปกป้องทุกคนได้

"นายอยากแข็งแกร่งขึ้นอีกแค่ไหนกัน? แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว นายออกไปข้างนอกตอนนี้ก็แทบจะไม่มีใครกล้าข่มขู่นายได้แล้วนะ หรือว่านายอยากแข็งแกร่งในระดับเดียวกับรีเจียน?"

"..."

"นี่ เอาจริงเหรอเนี่ย?"

"ถ้าผมแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น อาจารย์ก็จะวางใจและเกษียณได้ไม่ใช่เหรอครับ?"

เด็กชายอ้าปากค้างด้วยความงุนงง

"นายอยากให้ฉันเกษียณ?"

"ผมอยากให้อาจารย์ได้พักผ่อนครับ"

"เพราะงั้นนายก็เลยอยากแข็งแกร่งถึงขนาดที่จะทำให้ฉันเกษียณได้งั้นสินะ ?"

"ใช่ครับ"

"แกกำลังทำบ้าอะไรเนี่ย?"

เด็กชายสบถออกมาเบาๆ

"ใครบอก?"

"ครับ?"

"ใครกันที่ใส่ความคิดบ้าๆ นี่เข้าหัวนายน่ะ?"

"เอ่อ..."

"ไม่ต้องบอกก็รู้ ยูเน็ตสินะ อยู่ๆ ก็ทำอาหาร ทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยทำ แถมยังทำตัวน่าขนลุกอีกต่างหาก เฮ้อ"

"อาจารย์บอกว่ามันอันตรายหนิครับ"

"ฉันเนี่ยนะบอกว่าอันตราย?"

"ถ้าไม่รีบออกไปจากที่นี่ ก็ไม่สามารถรับประกันอนาคตได้ ผมได้ยินมาแบบนั้น หรือว่าอาจารย์พูดผิดครับ?"

เด็กชายพูดขึ้น

"เพราะงั้นนายก็เลยทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนักจนไม่สามารถรับประกันอนาคตของตัวเองได้ เพราะไม่รู้อนาคตของฉันสินะ?"

"นั่นก็..."

"ทำไมถึงมีคนซื่อบื้อแบบนี้อยู่ในโลกนะ นายโดนหลอกเข้าเต็มเปาเลย"

เด็กชายสบถอีกครั้ง

"เจ้าโง่ คิดว่าฉันจะไม่รู้เรื่องแค่นี้เลยงั้นเหรอ? ถ้าฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตาย ฉันจะออกไปจากที่นี่เอง เพราะงั้นฉันถึงยังมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ เข้าใจไหม?"

"ถ้าอย่างนั้น"

อารอนโต้กลับ

"แล้วทำไมอาจารย์ถึงยังอยู่ที่นี่ครับ? ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอยู่ ผมยังขาดพลังและต้องฝึกฝน แต่อาจารย์มีพลังมากพอแล้วไม่ใช่เหรอครับ? อาจารย์ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกกับเพื่อนๆ ก็ได้..."

"เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับคนอยู่น่ะสิ"

"..."

"เพราะงั้น ฉันถึงอยู่ที่นี่ไง"

"มันไม่สมเหตุสมผลเลยครับ"

"คนก็ควรอยู่ในที่ของคน สัตว์ประหลาดก็ควรอยู่ในที่ของสัตว์ประหลาด แยกกันอยู่แบบนั้นถึงจะถูกต้องตามครรลองของโลก"

"...อย่ามาล้อเล่นนะครับ"

อารอนกัดฟัน

"ทุกคนกังวลเรื่องอาจารย์นะครับ แต่อาจารย์กลับขังตัวเองอยู่ในที่อันตรายแบบนี้โดยไม่มีเหตุผล มันไม่น่าเชื่อถือเลยครับ"

"..."

"ถ้าเหตุผลที่อาจารย์ไม่ยอมจากไปเป็นเพราะเรื่องผู้สืบทอด ผมจะเป็นผู้สืบทอดให้อาจารย์เองครับ"

"นายเนี่ยนะ?"

"ครับ"

"นายจะทำยังไงล่ะ?"

"ผมจะแข็งแกร่งขึ้นครับ แข็งแกร่งกว่าตอนนี้ เพื่อที่อาจารย์จะได้จากที่นี่ไปอย่างสบายใจ"

อารอนกล่าว

"และถ้าเหตุผลที่อาจารย์ไม่ยอมจากไปเป็นเพราะไม่มีหัวใจ อาจารย์เลยตัดสินใจที่จะอยู่คนเดียวที่นี่ ถ้าอาจารย์ละทิ้งความเป็นมนุษย์และเลือกที่จะอยู่ที่นี่เพราะพวกเขา ผม... ผมจะทำลายความคิดที่ไร้ประโยชน์ของอาจารย์เองครับ"

เด็กชายเงียบไป

"ผมได้ยินจากเพื่อนร่วมทีมของอาจารย์ครับ ว่าอาจารย์เคยไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่แล้ววันหนึ่ง อาจารย์  ก็เก็บตัวอยู่ที่นี่และไม่เคยออกไปไหนอีกเลย"

เมื่อก่อนอาจารย์ไม่เคยไม่ได้เป็นแบบนี้ นั่นหมายความว่าเด็กชายเคยทำหน้าที่อย่างแข็งขันในฐานะสมาชิกของปาร์ตี้ที่ 1

แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

เด็กชายขลุกอยู่แต่ในลัวนานตลอดทั้งวัน ไม่เคยโผล่หน้าไปที่เนลม์ไฮมฟ์ มีเพียงฮีโร่ในอดีตบางคนและเพื่อนในปาร์ตี้ที่ 1 เท่านั้นที่รู้ถึงการมีตัวตนของเขา

เด็กชายจะปรากฏตัวก็ต่อเมื่อต้องต่อสู้ในการต่อสู้ที่สำคัญๆเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น เขาก็จะใช้เวลาอยู่เพียงลำพังในพื้นที่กว้างใหญ่นี้ เป็นเวลานานเกือบจะชั่วนิรันดร์ โดยไม่มีใครอยู่ด้วยและไม่มีใครมาเยี่ยม

"มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอครับ?"

กรรมคือสิ่งที่เกิดขึ้นมาในความสันโดษ

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาทั้งหมดไปกับความโดดเดี่ยว

เมื่อรู้สึกว่าสะสมพลังได้เพียงพอแล้ว ก็สามารถออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้

มันควรจะเป็นเช่นนั้น

เพื่อที่จะเติมเต็มหัวใจและความสัมพันธ์ที่แตกสลาย

เพื่อที่จะไม่สูญเสียตัวเองไป

ฉันรู้แม้ว่าเด็กคนนั้นจะไม่บอกฉันก็ตาม

แม้ว่าเด็กชายจะไม่ได้บอก แต่อารอนก็รู้ดีว่าแม้การสะสมกรรมจะไม่มีขีดจำกัด

แต่จิตใจของมนุษย์มีขีดจำกัด

เมื่อเกินขีดจำกัดหัวใจของคุณจะเริ่มแตกสลาย

นั่นคือเหตุผลที่เด็กชายหยุดอารอนในวันนี้

ถ้าอย่างนั้น

เมื่อสะสมกรรมจนถึงขีดจำกัดแล้ว ก็สามารถออกไปจากที่นี่ได้ไม่ใช่เหรอ?

กรรม ของเด็กชายมันเต็มไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ออกไป เขาเลือกที่จะอยู่ที่นี่ต่อไป ปล่อยให้จิตใจของเขาบิดเบี้ยวไป

"ผมไม่รู้ว่าทำไมอาจารย์ถึงเป็นแบบนี้?"

ครั้งหนึ่ง อารอนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยึดติดกับพลัง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังคงไขว่คว้าที่จะแข็งแกร่งขึ้น ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้

เขาปล่อยให้ตัวเองถูกครอบงำด้วยแรงกระตุ้นที่ไม่รู้สาเหตุ และเด็กชายคนนี้เองที่ช่วยแก้ไขแรงกระตุ้นนั้น

"แต่ผมรู้บางอย่างครับ"

อารอนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กชาย

“อาจารย์กำลังป่วยทางใจ และโรคทางใจ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ต้องรีบรักษาครับ”

อารอนพูดต่อ

"ถ้าอาจารย์ไม่สนใจและปล่อยมันไป หัวใจของอาจารย์ก็จะตายไปครับ"

"นายเคยบอกว่าฉันไม่มีหัวใจไม่ใช่เหรอ?"

"ถ้าไม่มีหัวใจ แล้วจะป่วยได้ยังไงครับ?"

"เจ้านี้ชักจะเถียงเก่งแล้วนะ!!"

ดวงตาของเด็กชายเริ่มโปร่งใส

มันคงจะเป็นการมองย้อนกลับไปในอดีตที่ไหนสักแห่ง

"แล้วหมอจะสั่งยาอะไรให้ข้าล่ะ?"

"ยาตัวเดียวกับที่รักษาผมไงครับ"

"..."

……

ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร , ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิก กระซิก ;-;

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด