แสงสว่างแห่งจิตใจ (2)
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 39>
5. แสงสว่างแห่งจิตใจ (2)
*******
"ขอโทษนนะที่ทำให้ลำบากใจอีกแล้ว"
"พูดอะไรครับ"
"ฉันไม่โทษนายหรอก ฉันรู้ว่านายเป็นคนดี เพราะเราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว ตั้งแต่แรกเริ่มก็เป็นความผิดของพวกเราที่มอบภาระที่หนักเกินไปให้นาย"
อารอนไม่พูดอะไร
"ไม่ครับผม..."
"ไม่ใช่ความผิดของนาย"
อารอนเบิกตากว้าง
ชายคนหนึ่งก้าวออกมาจากด้านหลังชั้นหนังสือขนาดใหญ่ข้างโต๊ะ
แววตาของอารอนเต็มไปด้วยความตกใจ
ชายคนนั้นเดินมาที่โต๊ะและนั่งลงโดยไม่พูดอะไร
เคร้ง
ดาบที่คาดอยู่ข้างเอวของเขาชนกับขาเก้าอี้ส่งเสียงดัง
"ขอโทษที่ขัดจังหวะ พอดีฟังแล้วรู้สึกอึดอัด"
ชายคนนั้นพูดกับยูเน็ต
ยูเน็ตยิ้ม
"บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้นะ"
"เรื่องดีอะไรกัน?"
เงาหนึ่งขยับจากมุมห้องสมุด
อารอนหันไปมองตามเสียงแหลมเล็กเหมือนเด็ก
"แย่แล้ว บอกว่าอย่าให้ใครเห็นไง..."
เด็กคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นราวกับกระต่ายที่กระโดดออกมา
เด็กคนนั้นดีดตัวจากชั้นหนังสือ ตีลังกากลางอากาศ แล้วลงยืนบนโต๊ะขนาดใหญ่
จากนั้นก็นั่งไขว่ห้างที่มุมโต๊ะ
"น่าสนใจมาก เรื่องราวของคนโง่ที่ไม่มีพรสวรรค์แต่ใช้ความพยายามจนสำเร็จ เหมือนเรื่องในการ์ตูนเลย"
"ไม่ใช่การ์ตูนนะ…แต่มันคือเรื่องจริง"
"งั้นก็ยิ่งเท่เข้าไปใหญ่เลยล่ะ!"
เด็กคนนั้นยิ้มให้กับอารอน
"โอ๋ ๆ น้องใหม่ของเรากังวลเยอะจังเลยนะ พวกเราจะใจแคบขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"ใช่"
คราวนี้เป็นเสียงของผู้หญิง
แต่ในน้ำเสียงนั้นมีความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นแฝงอยู่
อารอนมองไปข้างหลัง
"ความผิดอยู่ที่พวกเรา ที่ปล่อยให้เขาต้องเผชิญกับเรื่องนี้เพียงลำพัง"
เซริส อาเจนไฮม์
หัวหน้าปาร์ตี้ที่ 1 และเป็นคนสนิทของโลกิ
ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ก็เช่นกัน
พวกเขาถูกเรียกว่าอัศวินทั้ง 5 รวมถึงอารอนด้วย และเป็นแกนนำสำคัญในวัลฮาลา
"..."
นักดาบคนนั้นสบตากับอารอน
ไหล่ข้างหนึ่งของเขาคลุมด้วยผ้าคลุมยาว
อารอนหัวเราะอย่างสิ้นหวังเมื่อเขาพบว่ามันไร้สาระ
"พวกคุณอยู่ที่นี่กันตั้งแต่แรกเลยเหรอครับ?"
"ต้องขอโทษด้วย พวกเราอยากฟังเรื่องนี้มาก"
เซริสนั่งลงฝั่งตรงข้ามของอารอน
รีเจียนพูดขึ้น
"ถ้าจะขอโทษ ก็อย่าทำตั้งแต่แรก"
"..."
เซริสขมวดคิ้ว
ซีริสขมวดคิ้ว
นิฮาคุหัวเราะคิกคักเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เริ่มคุกรุ่น
"นี่ เริ่มอีกแล้ว..."
แฮ่ม
เซริสกระแอม
แล้วเรียกชื่อยูเน็ต
"ยูเน็ต…ต่อเลย"
"ค่ะ ตามที่ท่านเซริสต้องการเลยค่ะ"
ยูเน็ตพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ
สายตาของอารอนและยูเน็ตประสานกัน
"และนี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการ เพราะเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของเรา"
เพื่อนร่วมทีม
ใช่แล้ว
ก่อนที่เด็กชายจะเป็นอาจารย์ของอารอน เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของพวกเขามาก่อน
ยูเน็ตพูดต่อ
"เราอยากรู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น"
พวกเขามองมาที่อารอน
ความรู้สึกของพวกเขาเป็นหนึ่งเดียว
พวกเขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น และเป็นอย่างไรบ้าง
ในตอนนั้น
เมื่อมูเด็นและอารอนกำลังฝึกฝนอย่างหนักในลัวนาน….โลกภายนอกกำลังวุ่นวาย
ทุกคนต้องเผชิญกับอุปสรรคและเหตุการณ์ยากลำบากมากมาย
ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ การดำรงอยู่ของพวกเขาในมิติที่ห่างไกลอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
"ไม่ใช่แบบที่คิดนะ"
ยูเน็ตปฏิเสธความคิดของอารอน
ราวกับว่าเธออ่านใจเขาออก
"มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย"
"แบบนั้นเหรอครับ"
พวกเขากำลังตำหนิเขาหรือเปล่า
อารอนเองก็ไม่รู้
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน
พวกเขามีสิทธิ์ที่จะรู้
พวกเขาก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอาจารย์ของเขาและโลกนี้อย่างเปิดเผยให้อารอนฟังเช่นกัน
แต่อารอนไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องราวในอดีตโดยอ้างว่าความทรงจำเลือนลาง
'นี่เป็นจุดประสงค์ตั้งแต่แรกเลยหรือ'
อารอนยิ้มอย่างขมขื่น
"มีบางอย่างที่อยากให้นายเข้าใจ"
อารอนเงยหน้าขึ้นเมื่อยูเน็ตพูด
"การเปิดเผยที่อยู่ของเขา ก็เพื่อตัวนายเองเช่นกัน"
"เพื่อผมเหรอครับ?"
"ถ้านายยังคงหลงทางอยู่แบบนี้ เขาคงจะเสียใจมาก"
ยูเน็ตกล่าว
"พวกเราไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่... ใช่แล้ว ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มันจะไม่ดีแน่นอน อารอนนายกำลังหลีกเลี่ยงที่จะเข้าใกล้พวกเราใช่ไหม?"
"..."
"แต่พวกเราไม่สามารถปฏิบัติต่อท่านในฐานะสมาชิกของปาร์ตี้ที่ 1 ได้อย่างเหมาะสม"
"ผม..."
"พูดตรง ๆ นะนายมาจากข้างนอก และเขาก็แต่งตั้งนายเป็นผู้สืบทอดโดยที่ไม่ได้อธิบายอะไรให้พวกเราฟังเลย จากนั้นเขาก็หายตัวไปอย่างเงียบ ๆ"
ร่างกายของอารอนแข็งทื่อ
มันคือความจริง
จากมุมมองของปาร์ตี้ที่ 1 มันเหมือนกับว่าเพื่อนร่วมทีมที่เคยสนิทกันดี อยู่ ๆ ก็จากไปโดยทิ้งคนแปลกหน้าไว้เป็นตัวแทนของตัวเอง
"..."
อารอนเกิดที่ทาวน์เนีย
คนที่อารอนผูกพันด้วยคือฮาน เจนน่า ออลก้า และเหล่าฮีโร่ฝั่งทาวน์เนีย เขาไม่เคยคุยกับเหล่าฮีโร่จากเนลม์ไฮมฟ์เลย
แต่เพราะความตั้งใจของเด็กชายคนนั้น สังกัดของอารอนก็เปลี่ยนไปเป็นเนลม์ไฮมฟ์
โดยที่เขาไม่มีเวลาสานความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาเลย
เหมือนกับก้อนหินที่กลิ้งเข้ามาแทนที่ก้อนหินเดิม
'แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังไม่สนิทกัน'
นี่คือสิ่งที่ยูเน็ตพูดเมื่อตอนที่เธอชวนอารอนมาที่นี่
มีบางอย่างขวางกั้นระหว่างพวกเขาและอารอน
พวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะกีดกันอารอน
เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
"ดังนั้น พวกเรา หรือว่า 'พวกเรา' รวมถึงนายด้วย…จำเป็นต้องรู้ความจริง"
ความจริงงั้นหรือ
อารอนพูดไม่ออก
"คุณพูดเก่งจริง ๆ"
"โอ้ ขอบคุณสำหรับคำชม"
"แล้ว…ผมต้องทำอะไรบ้างครับ"
"ไม่ต่างจากเดิม วางมือลงบนหนังสือ และนึกถึงความทรงจำของนาย แล้วภาพความทรงจำจะปรากฏขึ้นบนหน้าหนังสือให้ทุกคนได้เห็น"
กึก
อารอนขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้อีกหน่อย
จากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ
'ความทรงจำต่อไป'
หลังจากที่เขาแยกกับรีเจียนและยูเน็ต
เกิดอะไรขึ้นที่นั่น
คนทั้งสองออกจากลัวนานไปพร้อมกันได้อย่างไร?
'ความจริง'
บางทีเด็กชายอาจจะกำลังพักผ่อนอย่างสบายใจอยู่ที่สถานพักผ่อนที่ไหนสักแห่งก็ได้
บ่นพึมพำว่าลูกศิษย์ของเขาจะมาเมื่อไหร่
'น่ากลัว'
เขารู้สึกเย็นยะเยือกที่หลัง
หัวใจของเขาเต้นแรง
แต่อารอนระงับความกลัวนั้นและลบมันออกไป
เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังรอเขาอยู่
ในหนังสือเล่มนั้น
อาจารย์ของเขากำลังรอเขาอยู่
เขาต้องรู้ความจริงเพื่อที่จะเลือกทางในอนาคตข้างหน้าได้
สิ่งที่อารอนขาดคือความกล้าที่จะก้าวต่อไป
เขาตัดสินใจที่จะลองดู
อารอนวางมือลงบนหน้าหนังสือที่เปิดออกทันที
ความรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งลึกล้ำในใจถูกดูดเข้าไป
ครั้งนี้มันลึกกว่าเดิม
ความทรงจำที่ถูกล็อคไว้แน่นหนาด้วยแม่กุญแจหลายชั้นไม่อนุญาตให้เข้าถึงได้ง่าย ๆ
แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้
เหงื่อเย็นๆเริ่มผุดขึ้นบนหน้าผากของอารอน
เขาพยายามอย่างมากที่จะระงับความต้องการที่จะดึงมือกลับ และถอนหายใจออกมาแรงๆ
อารอนปล่อยอากาศทั้งหมดในปอดออกมา
ความทรงจำที่ซ่อนอยู่ถูกดึงออกมาพร้อมกับลมหายใจ
แสงเริ่มส่องประกายบนหน้าหนังสืออีกครั้ง
แสงแห่งความจริง
ความทรงจำที่ฝังอยู่ในห้วงลืมก็ผุดขึ้นมาพร้อมกับฟองอากาศ
นี่คือความทรงจำสุดท้าย
ช่วงเวลาสุดท้ายที่อาจารย์และลูกศิษย์ได้ใช้ร่วมกัน
'เพื่อฟื้นคืนจิตใจของอาจารย์'
ในตอนนั้น อารอนได้ตัดสินใจ
เขาจะช่วยอาจารย์ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตของเขาก็ตาม
เขาคิดเช่นนั้น
และแล้ว
ความทรงจำสุดท้ายก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับแสงสว่าง