(ฟรี) บทที่ 390 (ฟรี)
(ฟรี) บทที่ 390 (ฟรี)
มังกรดำร้องโวยวายออกมาดังลั่น มันเป็นวิญญาณมังกร และเป็นโครงข่ายมนตราจากอารยธรรมแคว้นฉิน แม้จะไม่ใช่มังกรแท้ๆ แต่ในอนาคตก็มีโอกาสสามารถเป็นอย่างวลีทอง "ปลาคาร์ฟกระโดดข้ามประตูมังกร มัจฉาทะยานเป็นมังกร" ได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับชาวฉินโบราณ จะไม่มีทางหลอกลวงชาวฉินอย่างแน่นอน
แต่ในเวลานี้ มันกลับหวาดกลัว ก้มหัวมังกรอันสูงส่งลง ตะโกนบอกให้ทุกคนรีบหาวิธี!
กลิ่นอายของกาลเวลา ร่องรอยของห้วงมิติ
มีบางอย่างกำลังลงมือ ... พยายามลบอดีตและอนาคตของพวกเขา!
หากปราศจากอดีตและอนาคต แล้วปัจจุบันของพวกเขาจะรอดได้อย่างไร?
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
เยี่ยนเสี่ยวเอ้อร์เอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ "เป็นไปไม่ได้ วันแรกของการ ‘เข้าสู่ประตูมังกร’ เพิ่งผ่านไปไม่ถึง 12 ชั่วยาม แต่ในเวลาสั้นๆนี้ พวกเรากลับได้เจออันตรายร้ายแรงที่สามารถลบอดีตและอนาคตได้?"
"จะโชคร้ายอะไรขนาดนี้เนี่ย เจ้ามังกร เจ้าไม่ได้ล้อพวกเราแน่นะ!"
มังกรดำไม่ได้ตอบโต้ ยังคงบินวนอยู่บนอากาศ สีหน้าเคร่งขรึม ราวกับกำลังสัมผัสอะไรบางอย่าง
จางเทียนหวี่ตอนนี้ทำใจได้แล้ว เขามองเยี่ยนเสี่ยวเอ้อร์อย่างตำหนิ ก่อนจะถอนหายใจ "คงไม่ใช่เรื่องโกหก ดูท่าพวกเราจะเจอปัญหาใหญ่แล้ว"
"บางที อาจจะไม่ใช่แค่พวกเรา คนอื่นๆ ก็อาจจะเจออันตรายแบบนี้เหมือนกัน อาจมีผู้ยิ่งใหญ่บางคนลงมือ เล็งเป้าหมายไปที่ผู้เข้าสอบกว่า 1,700 ล้านคน..."
อู๋เทียนอดไม่ได้ที่จะมองเขาแวบหนึ่ง
จางเทียนหวี่คนนี้ ... นับว่ามีไหวพริบอยู่บ้าง
ตัวอู๋เทียนเองก็คิดเรื่องนี้เช่นกัน สำหรับผลลัพธ์อันน่าทึ่งของ ‘พลังแห่งกาลเวลา’ จะมีใครเข้าใจได้ดีไปกว่าคนที่โกงสวรรค์อย่างเขา?
การลบอดีตและอนาคต ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้!
ว่ากันว่า กาลเวลาและมิติของแต่ละโลกจะมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง โลกที่อ่อนแอ กาลเวลาและมิติก็จะไม่มั่นคง ผู้แข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยก็สามารถย้อนเวลากลับไป และเดินทางข้ามมิติได้
ส่วนโลกยิ่งแข็งแกร่งเท่าไหร่ กาลเวลาและมิติก็จะยิ่งมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น
ผู้ที่สามารถควบคุมกาลเวลาและมิติของโลกเล็กๆ เมื่อมาถึงโลกใหญ่ที่มีกาลเวลาและมิติมั่นคง แค่พาตัวเองย้อนอดีตกลับไปในระยะเวลาอันใกล้ ก็อาจทำไม่ได้ด้วยซ้ำ ฉะนั้นยิ่งเป็นการควบคุมกาลเวลายิ่งไม่ต้องกล่าวถึง
อย่างไรก็ตาม
พลังนั้นไร้ขีดจำกัด แม้แต่จักรวาลหลักของอารยธรรมแห่งกฎ ก็ยังมีเทพเจ้าอมตะของเช่นวิหารเทพเจ้า คอยปกป้องกาลเวลา ป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย!
ตอนแรกที่อู๋เทียน "โหลดเซฟ" อย่างสบายใจ เพราะเขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ใครจะไปรู้ว่าอารยธรรมนี้จะน่ากลัวขนาดนี้!
ช่วงแรกที่ไม่รู้เรื่องราว เขาโหลดเซฟไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจ
แต่หลังจากที่รู้ข้อมูลนี้แล้ว และพบว่าแม้แต่ทางวิหารเทพก็ยังไม่ทราบถึงการแทรกแซงของเขา
เขาก็พบว่าทักษะนี้ของเขาโคตรโกงอย่างแท้จริง และใช้งานมันโดยไม่ต้องกังวลใดๆอีก
ดูเหมือนว่าทักษะโกงของเขาจะมีพลังไร้ขอบเขตในโลกหล้า สามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ!
"ถ้าเจ้าพูดแบบนี้ มันก็..." เยี่ยนเสี่ยวเอ้อร์หรี่ตาลง มองไปที่ศพของตัวเอง "แม้ว่าศพนี้จะเหมือนกับข้าทุกประการ แต่กลับรู้สึกว่าดูอ่อนเยาว์กว่าเล็กน้อย คงเป็นข้าเมื่อครึ่งปีก่อน!"
"ประมาณนั้น" ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
อู๋เทียนพอได้ยินก็หันกลับตรวจสอบ "ศพ" อยู่ครู่หนึ่ง และพบว่าศพของเขา ดูเหมือนจะเป็นเขาในอนาคต?
แต่มันจะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง?
หรือว่าตัวเขาในอนาคตแทนที่จะแกร่งขึ้น กลับอ่อนแอลง?
ข้อเท็จจริงนี้ไม่มีใครรู้
....
ณ เบื้องบน [ป่ากู่เซิน]
สายตาของเทพเจ้าหลายองค์จับจ้องลงมา ปกป้องสนามสอบ "การสอบเข้ามหาวิทยาลัย" แห่งนี้
และการคาดเดาของอู๋เทียนกับจางเทียนหวี่ก็ไม่ผิดพลาด ไม่ใช่แค่พวกเขาที่พบกับวิกฤต
ผู้เข้าสอบทั่วทั้งโลก ต่างก็พบกับอันตรายเดียวกัน
มี "บางอย่าง" กำลังข้ามกาลเวลา มาสังหารอดีตและอนาคตของพวกเขา!
ในจักรวาลหลักของอารยธรรมแห่งกฎ
ณ ดินแดนแห่งสามสายน้ำ
"ฮึ่ม~"
"ฮึ่มๆๆ~"
"ฮึ่ม~"
องค์หญิงหลิงหยางนั่งอยู่บนเก้าอี้แกว่ง ฮัมเพลงเบาๆ ในขณะที่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ช่วงนี้เธอกลายเป็น "เด็กดี" ขึ้นมาก
ทำให้ท่านหญิงเฉินและคนอื่นๆ โล่งใจ
แต่ในเวลานั้นเอง
บังเกิดแรงสั่นสะเทือนลึกลับสายหนึ่งก็แผ่เข้ามา
องค์หญิงหลิงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย หยิบ "หยกวิญญาณแฝด" ออกมาจากอกเสื้อ
ในตอนนี้ บนหยกวิญญาณแฝด อักขระโบราณหลายตัวกำลังเปล่งประกาย
องค์หญิงหลิงหยางขมวดคิ้วมุ่น เธอคว้ามือหนึ่ง หยิบสมบัติวิเศษที่ซ่อนอยู่ภายในจักรวาลเล็กๆ ของเธอออกมา
มันคือแผ่นหินแผ่นหนึ่ง
ที่แผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายลึกลับเก่าแก่
และมีพลังเทพสิงสถิตอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นสมบัติของเทพเจ้า และอย่างน้อยๆ ก็มีอายุหลายหมื่นปีแล้ว
"ดีร้ายประการใด จงทำนาย! อู๋เทียน!" องค์หญิงหลิงหยางเคาะแผ่นหินเบาๆ
แผ่นหินสั่นสะเทือน บนนั้นปรากฏตัวอักษรขึ้นมาเป็นแถว
"...เข้าแทรกแซง...ลบกาลเวลาจากอดีตและอนาคต..."
"เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร!" องค์หญิงหลิงหยางตื่นตระหนก เธอหันกลับไปถามว่า "ป้าเฉิน! อยู่หรือไม่!"
แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องลงมา
ท่านหญิงเฉินเหยียบรุ้งแสงศักดิ์สิทธิ์มาถึง โค้งคำนับอย่างนอบน้อม "เพคะองค์หญิง?"
"..."
องค์หญิงหลิงหยางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามว่า "ผู้ใดเป็นผู้คุมสอบในครั้งนี้?"
"ท่านอาจารย์หลินเพคะ!" ท่านหญิงเฉินตอบ
"ไปแจ้งท่านอาจารย์หลิน บอกเขาว่า ..." องค์หญิงหลิงหยางพูดเรียบๆ
"องค์หญิงเพคะ เรื่องนี้..." ท่านหญิงเฉินรู้สึกว่าการทำแบบนี้มันไม่เหมาะสม
"รีบไปสิ!" องค์หญิงหลิงหยางสั่ง
แล้วเธอก็พูดพล่ามออกมาเป็นชุด
ท่านหญิงเฉินเถียงไม่ทัน ได้แต่ยิ้มแห้งๆ "องค์หญิงของข้า เรื่องที่ท่านสังเกตได้ ท่านคิดว่าท่านอาจารย์หลินจะไม่รู้หรือเพคะ?"
"ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้เป็นการจัดสอบร่วมกันของหลายอารยธรรม ผู้แข็งแกร่งจากอารยธรรมอื่นๆ ก็ไม่ใช่ไม้ประดับที่อ่อนแอ!"
"ในเมื่อเป็นแบบนั้น ... แล้วทำไมอู๋ .. ไม่สิ ทำไมผู้เข้าสอบถึงตกอยู่ในอันตรายได้ล่ะ?" องค์หญิงหลิงหยางเกือบหลุดปาก
ท่านหญิงเฉินส่ายหัวเบาๆ "บางทีพวกเขาอาจจะมีแผนการอะไรบางอย่างก็ได้"
"ไม่รู้ล่ะ ข้าไม่สน! ถ้าท่านไม่ช่วย ข้าจะจัดการเอง!" องค์หญิงหลิงหยางเริ่มเอาแต่ใจ ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เธอตะโกนขึ้นไปบนฟ้า "ตาแก่เปา! ตาแก่จาง! ตาแก่หาน!"
"อยู่กันครบหรือไม่! ท่านอัครเสนาบดีทั้งสาม!"
เมื่อได้ยินดังนั้น
ท่านหญิงเฉินก็ตกใจแทบสิ้นสติ
นั่นคือท่านอัครเสนาบดีทั้งสามเชียวนะ!
เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ จะไปรบกวนพวกท่านได้อย่างไร?
แต่องค์หญิงหลิงหยางมีสถานะสูงส่ง ท่านหญิงเฉินทำได้เพียงยืนรออย่างจนใจ
ครู่หนึ่ง
องค์หญิงหลิงหยางก็หายตัวไป
------
ภายในห้วงมิติที่ซ้อนทับกันชั่วคราว
ชายวัยกลางคนร่างท้วมจากอีกจักรวาลหนึ่ง กำลังมองดูองค์หญิงหลิงหยางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
"ท่านเปา" องค์หญิงหลิงหยางยิ้มแห้งๆ
"เจ้าลิงน้อย มีเรื่องอะไรก็ว่ามา!" อัครเสนาบดีเปาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"คือว่า ข้า..." องค์หญิงหลิงหยางเล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา
อัครเสนาบดีเปาส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจ "เจ้าช่างบ้าบิ่นนัก!"