ผู้ปรารถนาอำนาจเพื่อความแข็งแกร่งของตนเอง (18)
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
<เรื่องราวของอารอน ตอนที่ 38>
4. ผู้ปรารถนาอำนาจเพื่อความแข็งแกร่งของตนเอง (18)
**********
เป็นเวลานานมาก
อารอนคงต้องอยู่กับเด็กชายเพียงลำพังและผ่านช่วงเวลาพลบค่ำไปด้วยกันอีกนับไม่ถ้วน
'ตอนนี้ฉันมีเป้าหมายสองอย่าง'
แม้ว่าเขาจะปลุก 'กรรม' ได้และได้รับเส้นทางแล้ว แต่อารอนก็ยังไม่จบเส้นทางของเขา
มันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก
'ทำให้ 'กรรม' เป็นของเขาจริงๆ'
เขาเพิ่งจะก้าวแรกเท่านั้น
เด็กชายบอกว่า 'กรรม' เป็นพลังที่เหมือนม้าป่าที่ไร้บังเหียน ในท้ายที่สุด มันจะนำผู้ใช้ไปสู่หายนะ
หลุมศพไร้ชื่อเหล่านั้นคงเกิดขึ้นด้วยวิธีนั้น
เขาต้องควบคุมพลังนี้และทำให้มันเป็นของเขา
'ที่สำคัญต้องพาอาจารย์ออกไปจากที่นี่'
หมอบอกว่าอาจารย์ใกล้จะหมดอายุขัยแล้ว
บางที การที่อาจารย์พาเขามาอาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ก็ได้
อาจารย์ต้องการทิ้งผู้สืบทอดไว้ก่อนตาย
ถ้าอย่างนั้น เขาต้องได้รับการยอมรับจากอาจารย์อย่างแท้จริงเพื่อให้อาจารย์วางใจ แล้วจึงพาอาจารย์ออกไปจากที่นี่
'ทั้งสองอย่าง'
เขาไม่รู้ว่ามีเวลาเหลืออยู่เท่าไหร่
แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่ลืม
เหมือนกับที่เขาไม่เคยลืมความฝันอันบริสุทธิ์ที่จะแข็งแกร่งขึ้น แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความเป็นและความตายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ค่อยๆไปทีละก้าว
แม้จะช้า แต่ก็ค่อย ๆ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและจริงใจ
นั่นคือวิถีชีวิตของอารอน
'นี่คือบททดสอบสุดท้าย'
เพื่อพิสูจน์ว่าเขามีคุณสมบัติที่จะควบคุม 'กรรม' หรือไม่
เพื่อพิสูจน์ว่าเขาสามารถสืบทอดตำแหน่งต่อจากอาจารย์ได้หรือไม่
มันคือการทดสอบขั้นสุดท้ายเพื่อพิสูจน์คุณสมบัติของเขา
อารอนหันหลังให้ลานว่าง
จากนั้น เขาก็มุ่งหน้าไปยังกระท่อม
.
.
.
.
เวลาผ่านไป
เวลาผ่านไปแล้ว
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ
ความฝันแห่งนิรันดร์ยังคงดำเนินต่อไป
ความฝันอันบริสุทธิ์เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการเวียนว่ายตายเกิด
ความแข็งแกร่งนี้เพื่ออะไรกันแน่
กาลเวลานั้นเป็นวัฏจักร
มันทำลายทุกสิ่งและก่อกำเนิด….สิ่งใหม่ถือกำเนิดขึ้น
แสงสว่างของดวงดาวก็ยังดับลงได้ด้วยพลังนั้น แสงสว่างในใจจะต้านทานมันได้หรือไม่
.
.
.
.
ซู่...
ซู่...
<อาจารย์ครับ…>
<ผม...>
.
.
.
.
วู่ม
ลานโล่งที่คุ้นเคย
ประตูมิติที่เชื่อมไปยังเนลม์ไฮมฟ์เปิดออก
"เฮ้อ ในที่สุดก็มาจนได้"
เด็กชายถอนหายใจยาว
"นายไม่ได้ออกไปจากที่นี่นานแค่ไหนแล้วนะ อ้อ ตอนอีเว้นท์ครั้งที่แล้วสินะ จำได้ไหม เจ้าหนู?"
ตุบ ตุบ
เด็กชายตบหลังชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ
"..."
ดวงตาของชายหนุ่มไม่มีแสงสว่างใด ๆ
มันว่างเปล่าและโปร่งใสเหมือนลูกแก้ว
แต่ทันใดนั้น
แสงแห่งเหตุผลก็กลับมาสู่ดวงตาคู่นั้น
ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ใส่ใจ
"ครับ จำได้ครับ ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมออกไปหลังจากเข้าร่วมการแข่งขัน รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องนานมาแล้วเลยครับ"
"ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นั่นแหละ"
"..."
แสงในดวงตาของชายหนุ่มหายไป
เด็กชายยิ้มแล้วดึงหูของชายหนุ่ม
สติของเขากลับมาอีกครั้ง
"โอ๊ย โอ๊ย! ทำไมทำแบบนี้ครับ!"
“ผู้ใหญ่กำลังพูด แต่นายไม่ฟังเลยด้วยซ้ำ …ใช่ไหมเจ้าเด็กน้อย?”
"ไม่นะครับ! ผมแค่มีเรื่องต้องคิดนิดหน่อย!”
"โอ้เหรอ แล้วเรื่องอะไรล่ะ สำคัญมากเลยหรือไง"
"เรื่องสำคัญ... เรื่องสำคัญมาก... เรื่องสำคัญมากๆ..."
แสงในดวงตาหายไป
ชายหนุ่มพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนเครื่องจักร
เด็กชายดึงหูเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มก็ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
"เจ็บนะครับ!"
"ต้องตั้งใจฟังสิฟะ ตั้งสติหน่อย"
"ก็เบา ๆ หน่อยสิครับ..."
"นี่ รู้ไหมว่าข้างนอกวุ่นวายไปหมดแล้ว?"
ชายหนุ่มหันไปมองเด็กชาย
"สถานการณ์ข้างนอกดูไม่ค่อยดีเลยนะ ฉันได้ยินมาว่านายท่านตกอยู่ในอันตราย ระบบเกมพัง อะไรก็เละเทะไปหมด"
"พังเหรอครับ?"
"ใช่ เทพธิดาบอกว่าถ้าปีนขึ้นไปถึงยอดหอคอยได้ โลกจะกลับมาเป็นปกติ แต่มันเป็นเรื่องโกหก! พี่ชายนายโดนหลอกเต็ม ๆ จนเสียสติไปแล้ว ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เขากำลังจะตายแหล่ไม่ตายแหล่"
"พี่ชายเหรอครับ จริงเหรอครับ!"
"ใช่ พี่ชายที่แสนสำคัญของนาย ฮาน อิสรัต เป้าหมายที่ทำให้นายอยากแข็งแกร่งขึ้นมาไง"
เป้าหมาย
แสงสว่างกลับมาสู่ดวงตาของชายหนุ่มที่กำลังจะสูญเสียสติ
"...!"
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
เขาสับสน
ความทรงจำปะปนกันจนแยกไม่ออก
'พี่ชาย'
สถานการณ์ภายนอกไม่ดี
ชีวิตของพี่ชายอาจตกอยู่ในอันตราย
อาจารย์พูดว่า
'ต้องช่วยเขา'
ถ้าไม่เช่นนั้น ช่วงเวลาที่อารอนอดทนมาทั้งหมดจะไร้ความหมาย
เขาไม่สามารถจบเรื่องนี้ได้โดยไม่แม้แต่จะได้ชักดาบออกมา
'เขา...เขานี่แหละ'
ขอแค่ได้ช่วยอะไรก็ได้
เขาต้องทำอะไรสักอย่าง
'แต่'
เขารู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างไป
มันเป็นเรื่องสำคัญมาก
แต่น่าเสียดายที่เขาจำไม่ได้
มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า
เขาฝันร้ายที่รุนแรงมาก แต่พอตื่นขึ้นมาก็จำเนื้อหาในฝันไม่ได้
หรือที่จริงแล้ว ที่นี่ก็เป็นความฝันเหมือนกัน
มันไม่เหมือนจริงเลย
"อาจารย์ครับ"
"ว่าไง?"
"ผม... เหมือนฝันไปเลยครับ"
อารอนพูดด้วยน้ำเสียงที่ว่างเปล่า
"ในความฝัน... ผม..."
"พอแล้ว"
"ครับ?"
"ลืมความฝันนั้นซะ"
"แต่ว่า"
"มันก็แค่ความฝัน"
เด็กชายพูด
"นายอยู่ที่นี่ และฉันก็อยู่ที่นี่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น"
"งั้น... เหรอครับ"
ใช่
อาจารย์อยู่ที่นี่
และตัวเขาเองก็อยู่ที่นี่
ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น
เพราะมีปัญหาที่สำคัญกว่าขวางอยู่ตรงหน้า
อารอนชูหอกสีเงินที่ได้รับจากรีเจียนขึ้น
วู่ม!
เงาที่ชัดเจนรวมตัวกันที่ปลายหอก
'ได้ผล'
เขาทำให้ ‘กรรม' เป็นของเขาอย่างแท้จริงแล้ว
เขาสามารถใช้เงาได้อย่างมีประสิทธิภาพและแข็งแกร่งกว่าตอนที่เขาควบคุม 'กรรม' ได้ครั้งแรกและต่อสู้อย่างงุ่มง่ามกับชายคนนั้น
อาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้
พี่ชายที่เขาเคารพอาจตกอยู่ในอันตราย และตอนนี้อาจจะไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แล้ว
ความรู้สึกกังวลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอารอน
"ไม่เป็นไร"
เด็กชายมองไปที่อารอน
ด้วยสีหน้าตลกขบขันเหมือนเช่นเคย
"ทำอะไรสักอย่างสิ"
"ครับ"
ทำอะไรสักอย่าง
เพราะเขามีพลังที่อาจารย์สอนให้
อารอนก้าวอย่างหนักแน่นไปที่พอร์ทัลมิติ
"ว่าแต่อาจารย์ครับ"
ทันใดนั้น อารอนก็หยุดเดิน
อาจารย์หันกลับมามอง
"ความฝันของอาจารย์คืออะไรเหรอครับ?"
อาจารย์กระพริบตาเหมือนไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร
"คือ ผมไม่เคยถามมาก่อนน่ะครับเลยอยากรู้"
"ความฝันของฉันเหรอ"
เด็กชายคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบ
"ฉันเคยเจ็บใจที่ตัวเองไม่มีพรสวรรค์น่ะ"
"..."
"ความฝันของฉันคือการแก้แค้นโลกนี้ ฉันเกลียดโลกที่ทุกอย่างถูกตัดสินด้วยพรสวรรค์ ฉันอยากจะพิสูจน์ให้เห็น"
แก้แค้นโลก
อยากพิสูจน์ว่าแม้แต่คนที่ไม่มีพรสวรรค์อย่างเขาก็ทำได้
อารอนพยักหน้า
'ต้นกำเนิด 'กรรม' ของอาจารย์คือการแก้แค้นโลกสินะ'
เดี๋ยวก่อน
ไม่ใช่
แปลกจัง
'แก้แค้นเหรอ?'
เด็กชายเล่าเรื่องอดีตของเขา
"ทุกคืน ฉันสาปแช่งพระเจ้าว่าทำไมถึงประทานพรสวรรค์แบบนี้ให้ฉันบ้าง
"..."
"เพราะงั้น ฉันเลยต้องสู้กับโลก เพื่อที่จะได้รู้ว่า ใครจะเป็นผู้ชนะ ฉันก็ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ..."
"...โกหก"
"อะไรนะ?"
"ความฝันที่อาจารย์เล่ามาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกครับ"
อารอนพูด
"เพราะผมรู้ ผมรู้ครับว่าทำไมอาจารย์ถึงอยู่ที่นี่ ความฝันนั้น..."
"นายยังไม่ตื่นจากฝันอีกเหรอ?"
เด็กชายวางมือบนหน้าผากของอารอน
เพียงแค่นั้น
ดวงตาของชายหนุ่มก็พร่ามัว
"ไม่เป็นไร"
"..."
"มาเริ่มต้นใหม่กันเถอะ"
ซู่...
.
.
.
ความทรงจำปะปนกัน
ทั้งหมดที่พูดไปเมื่อครู่เป็นเรื่องโกหก
เป็นภาพลวงตาและการหลอกลวง
.
.
.
.
วู่ม
ลานโล่งที่คุ้นเคย
ประตูมิติที่เชื่อมไปยังเนลม์ไฮมฟ์เปิดออก
"เฮ้อ ในที่สุดก็มาจนได้"
เด็กชายถอนหายใจยาว
"นายไม่ได้ออกไปจากที่นี่นานแค่ไหนแล้วนะ อ้อ ตอนอีเว้นท์ครั้งที่แล้วสินะ จำได้ไหม เจ้าหนู?"
ตุบ ตุบ
เด็กหนุ่มตบหลังชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ
"จำได้ครับ"
อาโรนตอบทันที
เขาไม่มีทางลืม
'เหมือนเคยฝันไป'
ฝันที่ยาวนาน
แต่อารอนตัดสินใจที่จะไม่นึกถึงเนื้อหาในฝันนั้น
ความฝันก็คือความฝัน ความจริงก็คือความจริง
อีกด้านหนึ่งของประตูมิติ
ความจริงอันโหดร้ายกำลังรอเขาอยู่
"พร้อมแล้วใช่ไหม?"
"ครับ"
สถานการณ์ภายนอกไม่ปกติ
เขาได้ยินเรื่องนี้จากอาจารย์ของเขา
พี่ชายของเขาตกอยู่ในอันตราย
โลกที่แตกสลายไม่อาจฟื้นคืนได้
เขาอาจจะไม่ได้เจอนีน่าอีก
แต่อย่ายอมแพ้
เขาทำงานหนักมาเป็นเวลานานเพื่อให้ได้ความแข็งแกร่งนี้
อารอนตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง
มันอาจจะสายเกินไปแล้ว แต่มันก็ไม่สามารถจบแบบนี้ได้
'อาจารย์'
อารอนหันกลับมา
เด็กชายอยู่ข้างๆ เขา และเขาก็อยู่ที่นี่
นั่นคือความจริง…เพียงเท่านั้น
“ทำอะไรสักอย่างสิ”
"ครับ"
ทำอะไรสักอย่าง
เพราะเขามีพลังที่อาจารย์สอนให้
อารอนก้าวอย่างมั่นใจไปที่ประตูมิติ
และแล้ว
ระยะเวลาการฝึกของ อารอน เดลการ์ด ในลัวนานก็สิ้นสุดลงแล้ว