บทที่ 90 : ดึงดาบอีกครั้ง!
บทที่ 90 : ดึงดาบอีกครั้ง!
และเหนือแก่นแท้สีเลือด, มันยังมีเงาของจิ้งจอกสี่หางลอยอยู่!
"นี่คือแก่นแท้ของจิ้งจอกสี่หางจริงๆ"
"แบบนี้ ก็ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย" ยู่หยานพูดด้วยรอยยิ้ม
"ใช่!" หลินเสวียนพยักหน้า
การเดินทางครั้งนี้, ทำให้เขาได้ผลประโยชน์มามากมายจริงๆ
ไม่เพียงแต่ทำภารกิจสำเร็จ แต่ยังได้หญ้าเจ็ดกลีบมา, นอกจากนี้ดาบคลั่งสังหารวิญญาณยังเลื่อนระดับเป็นระดับลึกลับขั้นสูง!
แบบนี้, สมุนไพรที่ใช้ปรุงโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดห้าธาตุก็จะขาดแค่ผลไม้เพลิงเท่านั้น
"ศิษย์พี่ยู่หยาน!"
"ภารกิจครั้งนี้, เสร็จเร็วกว่าที่ข้าคิด"
"ดังนั้น พวกเราไปเที่ยวแถวนี้สักหน่อยแล้วค่อยกลับไปเมืองหลางหยาดีไหม?" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
ก่อนหน้านี้ หลินเสวียนเคยกลับไปที่เมืองหลางหยาครั้งหนึ่งเเล้ว…เเต่ตอนนั้นมอบโอสถให้กับตระกูลหลิน
ส่วนตอนนี้ที่เขาจะกลับไปอีกครั้ง…นั่นเพราะดาบคลั่งสังหารวิญญาณได้เลื่อนระดับเป็นระดับลึกลับแล้ว
หลินเสวียนจึงคิดถึงดาบตัดวิญญาณของสำนักธารา!
เจตนาดาบภายในดาบตัดวิญญาณแข็งแกร่งมาก, หลินเสวียนอยากลองดูว่าเขาสามารถใช้เจตนาดาบของดาบตัดวิญญาณ, ทำให้วิชาดาบคลั่งวิญญาณเลื่อนระดับต่อไปได้หรือไม่!
ถ้าหากดาบคลั่งสังหารวิญญาณสามารถเลื่อนระดับเป็นระดับปฐพีได้…หลินเสวียนจะถือว่าโชคดีมาก
“ข้าเป็นผู้ตรวจสอบของศิษย์น้อง, ส่วนจะจัดการอย่างไรก็เเล้วเเต่ศิษย์น้องเลย” ศิษย์พี่ยู่หยานพูดด้วยรอยยิ้ม
"ดี!" หลินเสวียนพยักหน้า
…..
ในสองวันถัดมา
หลินเสวียนก็ได้ขับกระสวยแห่งความว่างเปล่า พายู่หยานเที่ยวเล่นในทิวเขานับแสน
ทรัพยากรในทิวเขานับแสน, อุดมสมบูรณ์มากจริงๆ!
ผลจู๋กั่ว, ผลหวงหยวน, ผลไม้พวกนี้หายากมาก…แต่หลินเสวียนกลับเจอมันไม่น้อยในทิวเขานับแสน
เเละด้วยประสาทสัมผัสของหนูสายฟ้า หลินเสวียนยังสามารถขุดศิลาวิญญาณมาได้อีกมากมาย
นอกจากนี้, หลินเสวียนยังใช้เวลาว่างบางส่วน ปรุงโอสถก่อกำเนิดที่มีลวดลายโอสถสามเส้นให้กับยู่หยานหนึ่งชุด พร้อมๆกับการปรุงโอสถชักนำลมปราณให้กับตระกูลหลิน
แน่นอนว่าในบรรดาเคล็ดวิชาทั้งหมด, เคล็ดวิชาที่รู้สึกดีใจมากที่สุดก็คือวิชาเหยียบคลื่นลม
เมื่อหลินเสวียนชื่นชมทิวทัศน์ของทิวเขานับแสน, มันก็เลื่อนระดับเป็นระดับลึกลับขั้นสูงอย่างเงียบๆ
ขอแค่มีโอกาสใหญ่ๆอีกสักครั้ง, มันก็คงจะสามารถเลื่อนระดับต่อไปได้!
……
สามวันต่อมา
หลินเสวียนและยู่หยานก็มาถึงคฤหาสน์ของตระกูลหลิน
"น้องสาม!"
เมื่อหลินเสวียนกลับมา, หลินเทียนและหลินหลานก็รีบออกมาต้อนรับทันที
ไม่กี่วันมานี้ ออร่าของหลินเทียนและหลินหลานเปลี่ยนไปอย่างมาก!
เห็นได้ชัดว่า ด้วยโอสถชักนำลมปราณและโอสถหลอมลมปราณ ทำให้หลินเทียนและหลินหลานสามารถบ่มเพาะพลังปราณได้สำเร็จแล้ว
“ความเร็วในการฝึกฝนของพวกท่านถือว่าไม่เลวเลย!” หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
"น้องสาม, ต้องขอบคุณโอสถที่เจ้าส่งกลับมา…ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่สามารถทะลวงระดับได้เร็วขนาดนี้" หลินเทียนพูดอย่างตื่นเต้น
"ไม่ต้องห่วง, ต่อไปนี้โอสถและสมบัติจะมาหาพวกท่านมากกว่านี้อีก!" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
"จริงสิ น้องสาม…พูดถึงโอสถ พวกเรามีเรื่องจะบอกเจ้า!" หลินเทียนพูดด้วยสีหน้าประหลาดเล็กน้อย
"เรื่องอะไร?"
"เสวี่ยเอ๋อร์, เจ้ายังไม่ออกมาอีก!"
หลินเทียนตะโกน, จากนั้นหลินเสวี่ยที่อยู่ไม่ไกลก็วิ่งเข้ามา
เมื่อเห็นหลินเสวียน, หลินเสวี่ยก็ร้องเรียก "พี่สาม"...หลังจากนั้นเธอก็หลบอยู่ข้างหลังหลินเทียน
"บ่มเพาะพลังปราณได้แล้ว?"
หลินเสวียนและยู่หยานมองหลินเสวี่ยด้วยความประหลาดใจ!
หลินเสวี่ยอายุแปดขวบ, ตอนนี้บนตัวของเธอมีออร่าของผู้ฝึกยุทธ์…แถม ระดับพลังของเธอยังสูงกว่าหลินเทียนและหลินหลาน
แต่มันเป็นไปได้ยังไง?
หลินเสวี่ยไม่ได้เรียนรู้เคล็ดวิชาใดๆเลยนะ!
"ก็เพราะท่านพ่อตามใจนางมากเกินไปไง!"
"นางบอกว่าอยากดูโอสถ ท่านพ่อก็ให้โอสถนางหนึ่งเม็ด, ผลก็คือนางแอบกินตอนที่พวกเราไม่ทันระวัง"
"หลังจากนั้นนางก็สลบไป!"
"ตอนนั้นพวกเราตกใจมาก"
"พวกเราถึงขั้นขอร้องลุงไห่ให้ไปเชิญท่านหวูหย่ง เจ้าสำนักสำนักธารามา…สุดท้ายท่านหวูหย่งก็ช่วยนางสลายพลังโอสถได้สำเร็จ"
"เเละผลลัพธ์หลังจากนั้นก็คือเสวี่ยเอ๋อร์บ่มเพาะพลังปราณสำเร็จ"
"พอท่านพ่อกับท่านแม่เห็นว่านางไม่เป็นอะไร, สองวันมานี้พวกเขาเลยไปไหว้พระที่วัดเพื่อขอพร" หลินเทียนอธิบาย
"เสวี่ยเอ๋อร์!" หลินเสวียนดุด้วยสีหน้าเย็นชาทันที
ไม่แปลกใจเลยที่วันนี้เขากลับมา เเต่หลินเสวี่ยไม่ได้มารอเขาอยู่ที่หน้าประตู
นี่คงเป็นเพราะรู้ว่าตัวเองทำผิด จึงไม่กล้าเจอเขา!
ถึงโอสถชักนำลมปราณจะเป็นแค่โอสถพื้นฐาน, แต่หลินเสวี่ยมีอายุแค่เจ็ดแปดขวบ
โอสถนี้ แม้เป็นผู้ใหญ่เเต่ถ้าหากไม่มีพื้นฐานการฝึกฝนเเล้วกินมันเข้าไป…ก็อาจจะตัวระเบิดตายได้
หลินเสวี่ยสัมผัสได้ถึงความโกรธของหลินเสวียน, นางจึงมองเขาด้วยความหวาดกลัว
"พี่สาม ข้าผิดไปแล้ว!"
"ต่อไปข้าไม่กล้าแล้ว!"
"พราสามอย่าโกรธข้าเลยนะ!"
หลินเสวี่ยเห็นว่าหลินเสวียนยังคงโกรธอยู่, จึงพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"เห้อ…เวลาทำผิด, เจ้าก็ได้เเต่ทำตัวน่ารักเพื่อกลบเกลื่อน!"
หลินเสวียนโดนหลินเสวี่ยออดอ้อนความโกรธของเขาก็หายไป, จากนั้น เขาก็จิ้มจมูกของหลินเสวี่ย
"กอดหน่อย!" หลินเสวี่ยฉวยโอกาสกอดหลินเสวียน
หลินเสวียนได้เเต่จนใจ จึงกอดหลินเสวี่ยและตรวจสอบร่างกายของหลินเสวี่ยด้วยพลังของขอบเขตก่อกำเนิดเเก่นเเท้
หลังจาก แน่ใจว่าหลินเสวี่ยไม่เป็นไร…เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
"ศิษย์พี่ยู่หยาน, ท่านว่าแบบนี้มันปกติหรือไม่?"
หลินเสวียนยังคงเป็นห่วง เขาจึงหันมาถามยู่หยาน
"เรื่องแบบนี้มันไม่ค่อยเกิดขึ้น, แต่มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" ยู่หยานครุ่นคิดและตอบ
"หลินเสวียน, เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงมากเกินไป"
"จริงๆแล้วพวกเราก็รู้ดีว่าการบ่มเพาะพลังปราณก็คือการดึงดูดพลังวิญญาณจากสวรรค์และโลกเข้ามาชำระล้างร่างกาย, ขยายเส้นลมปราณ, จนกระทั่งร่างกายสามารถรองรับพลังวิญญาณได้"
"บางคนมีร่างกายบริสุทธิ์โดยธรรมชาติ, เส้นลมปราณโล่งโปร่ง…พวกเขาจึงสามารถรองรับพลังวิญญาณได้โดยธรรมชาติ"
"คนแบบนี้สามารถบ่มเพาะพลังปราณได้อย่างง่ายดาย…เเละนี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าพรสวรรค์!"
"โดยปกติแล้ว, ร่างกายยิ่งบริสุทธิ์เท่าไหร่…พรสวรรค์ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น" ศิษย์พี่ยู่หยานอธิบายอย่างละเอียด
"ถ้าเป็นแบบนั้น, เสวี่ยเอ๋อร์ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกฝนงั้นหรือ?" หลินเทียนพูดด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
"อืม!"
"เสวี่ยเอ๋อร์สามารถบ่มเพาะพลังปราณได้ด้วยการใช้โอสถชักนำลมปราณหนึ่งเม็ดโดยที่ไม่มีพื้นฐานการฝึกฝน, มันแสดงให้เห็นว่านางมีพรสวรรค์สูงมาก"
"เเละนางเป็นน้องสาวของเจ้า, มันก็ไม่แปลกหรอก" ยู่หยานพูดด้วยรอยยิ้ม
"เย้!"
"งั้นข้าก็สามารถเข้าร่วมสำนักเทียนเซียวกับพี่สามได้แล้วใช่ไหม?" หลินเสวี่ยพูดด้วยความตื่นเต้น
"ยังไม่ได้!"
หลินเสวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก…แต่เขาก็ยังคงส่ายหัว
"ทำไมล่ะ?"
"พี่ยู่หยานบอกว่าข้ามีพรสวรรค์นี่นา" หลินเสวี่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
"อย่างแรก, ตอนนี้เลยช่วงเวลาที่สำนักเทียนเซียวรับศิษย์ไปแล้ว"
"อย่างที่สอง, เจ้ายังเด็ก…ถ้าเข้าร่วมสำนักเทียนเซียวตอนนี้ มันยังเร็วเกินไป" หลินเสวียนครุ่นคิดและอธิบาย
พรสวรรค์ของหลินเสวี่ยทำให้หลินเสวียนรู้สึกประหลาดใจ…แต่หลินเสวียนมีแผนของเขาเอง, ตอนนี้เขายังไม่คิดจะให้หลินเสวี่ยเข้าร่วมสำนักเทียนเซียว
"ก็ได้!"
"เสวี่ยเอ๋อร์จะเชื่อฟังพี่สาม!" หลินเสวี่ยพยักหน้าอย่างว่าง่าย
"เเล้วก็จำเอาไว้…ต่อไปนี้อย่ากินโอสถมั่วซั่ว!"
"มันอันตรายถึงชีวิต!"
"ถ้ามีโอกาส, พี่สามจะหาเคล็ดวิชาที่เหมาะสมให้เจ้า"
หลินเสวียนลูบหัวหลินเสวี่ยแล้วให้สัญญา
"เข้าใจแล้ว!" หลินเสวี่ยแลบลิ้น
"พี่ใหญ่, พี่รอง…นี่คือโอสถหลอมลมปราณ พวกท่านรับไปเถอะ"
"โอสถพวกนี้คงเพียงพอให้พวกท่านฝึกฝนได้อีกสักพัก"
"หลังจากนี้ทุกๆหนึ่งเดือน, ข้าจะให้คนนำโอสถมาให้พวกท่าน"
หลินเสวียนยิ้ม แล้วหยิบโอสถหลอมลมปราณที่เขาเพิ่งจะปรุงเสร็จออกมา
"น้องสาม, เจ้าจะไปแล้วเหรอ?" หลินเทียนรับโอสถและพูดอย่างไม่เต็มใจ
"ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่อยู่, ข้าจึงจะไปที่สำนักธาราก่อนแล้วค่อยกลับสำนัก" หลินเสวียนตอบด้วยรอยยิ้ม
ภารกิจสอบเข้าสายในไม่ได้รีบร้อนอะไร, หลินเสวียนจึงอยากกลับไปที่สำนักเทียนเซียวก่อน
"ตกลง!" หลินเทียนพยักหน้า
เขาก็รู้ว่าหลินเสวียนกำลังจะสอบเข้าสายในจึงมีเรื่องมากมายต้องทำ, ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รั้งหลินเสวียนเอาไว้
หลังจากพี่น้องทั้งสี่คนคุยกันสักพัก, หลินเสวียนกับยู่หยานก็ขึ้นกระสวยแห่งความว่างเปล่าและมุ่งหน้าไปยังสำนักธารา!
……
"น้องหลิน, เจ้ามาแล้ว!"
หลินเสวียนเพิ่งจะมาถึงสำนักธารา, หวูหย่ง เจ้าสำนักสำนักธาราก็ออกมาต้อนรับเเล้ว
เเละเมื่อหวูหย่งเห็นยู่หยานที่ยืนอยู่ข้างๆหลินเสวียน…เขาก็รีบทักทายอย่างรวดเร็ว
"น้องหลิน ไม่ทราบว่าท่านผู้นี้คือเซียนท่านใดจากสำนักเทียนเซียว?"
"ท่านนี้คือศิษย์พี่ยู่หยาน, ศิษย์สายในสำนักเทียนเซียว…เเละยังเป็นศิษย์สืบทอดของหัวหน้าผู้ดูเเลกฎของหอหลอมสร้างอาวุธสายใน!" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม
"ที่แท้ก็คือคุณหนูยู่หยาน การมาเยือนของท่านถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำนักธาราของพวกเรา!" หวูหย่งพูดด้วยรอยยิ้ม
ในใจของเขาคิดว่า, น้องหลินนี่ช่างรุ่งโรจน์จริงๆ
แม้แต่ ศิษย์ของหัวหน้าผู้ดูเเลกฎก็ยังสนิทด้วย
"ท่านเจ้าสำนักหวู, ไม่ต้องเกรงใจ" ยู่หยานพยักหน้า
"น้องหลิน พรสวรรค์ของเจ้าช่างน่าสะพรึงกลัวมากจริงๆ"
"ครั้งที่แล้วเจ้ายังอยู่ที่ระดับหลอมรวมลมปราณขั้นที่เจ็ด…เเต่ผ่านไปไม่กี่วันเจ้ากลับทะลวงสู่ขอบเขตก่อกำเนิดเเก่นเเท้ได้แล้ว"
"อีกไม่นาน เจ้าคงจะแซงหน้าข้าไปไกลเเน่ๆ!" หวูหย่งกล่าวอย่างตกตะลึงอีกครั้ง
"ท่านเจ้าสำนักหวูกล่าวเกินไปแล้ว"
หลินเสวียนตอบรับ, จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง
"ท่านเจ้าสำนักหวู, เรื่องของเสวี่ยเอ๋อร์ก่อนหน้านี้…ข้าขอขอบคุณท่านมาก!"
"ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้น!"
"เจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่, เมื่อเสวี่ยเอ๋อร์มีเรื่องเดือดร้อนจะให้ข้าอยู่เฉยๆได้อย่างไร?" หวูหย่งโบกมือ
"อย่างไรก็ตามน้องหลิน, พูดตามตรงนะ พรสวรรค์ของเสวี่ยเอ๋อร์มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ"
"ตอนที่ข้าใช้พลังขอบเขตสร้างรากฐานช่วยนางสลายพลังโอสถ, ข้าพบว่านางเหมาะสมกับการฝึกฝนเคล็ดวิชาธาตุหยิน"
"ถ้าหากเจ้าหาเคล็ดวิชาธาตุหยินให้กับนางได้, ในอนาคตความสำเร็จของนางอย่างน้อยก็ต้องแซงหน้าข้า" หวูหย่งพูดอย่างจริงจัง
"เคล็ดวิชาธาตุหยินงั้นหรือ?" หลินเสวียนพึมพำ
"น่าเสียดายที่สำนักใหญ่ต่างก็หวงแหนเคล็ดวิชา…เจ้าคงจะหาเคล็ดวิชาธาตุหยินได้ยาก" หวูหย่งส่ายหัว
"เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลังเเล้วกัน, ท่านเจ้าสำนักหวู พูดตามตรง ครั้งนี้ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องจะรบกวนท่าน" หลินเสวียนพูดเข้าประเด็น
"เจ้าหมายถึงดาบตัดวิญญาณใช่หรือไม่?" หวูหย่งพูดด้วยรอยยิ้ม
………………