ตอนที่แล้วบทที่ 89 : ความน่ากลัวของวิชากายายักษ์​ทองคํา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 91 : วิชา​ดาบ​คลั่ง​สังหาร​วิญญาณ​ได้รับการเลื่อนขั้นสู่ระดับปฐพี​!

บทที่ 90 : ดึงดาบอีกครั้ง!


บทที่ 90 :  ดึงดาบอีกครั้ง!

และเหนือแก่นแท้สีเลือด, มันยังมีเงาของจิ้งจอกสี่หางลอยอยู่!

"นี่คือแก่นแท้ของจิ้งจอกสี่หางจริงๆ"

"แบบนี้ ก็ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย" ยู่หยานพูด​ด้วย​รอยยิ้ม

"ใช่!" หลินเสวียนพยักหน้า

การเดินทางครั้งนี้, ทำให้เขาได้ผลประโยชน์มามากมายจริงๆ

ไม่เพียงแต่ทำภารกิจสำเร็จ แต่ยังได้หญ้าเจ็ดกลีบมา, นอกจากนี้ดาบคลั่งสังหารวิญญาณยังเลื่อนระดับเป็นระดับลึกลับขั้นสูง!

แบบนี้, สมุนไพรที่ใช้ปรุงโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดห้าธาตุก็จะขาดแค่ผลไม้เพลิงเท่านั้น

"ศิษย์พี่ยู่หยาน!"

"ภารกิจครั้งนี้, เสร็จเร็วกว่าที่ข้าคิด"

"ดังนั้น พวกเราไปเที่ยวแถวนี้สักหน่อยแล้วค่อยกลับไปเมืองหลางหยาดีไหม?" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

ก่อนหน้า​นี้​ หลินเสวียนเคยกลับไปที่เมืองหลางหยาครั้งหนึ่งเเล้ว…เเต่ตอนนั้นมอบโอสถให้กับตระกูล​หลิน

ส่วนตอนนี้ที่เขาจะกลับไปอีกครั้ง…นั่นเพราะ​ดาบคลั่งสังหารวิญญาณได้เลื่อนระดับเป็นระดับลึกลับแล้ว

หลินเสวียนจึงคิดถึงดาบตัดวิญญาณของสำนักธารา!

เจตนา​ดาบภายในดาบตัดวิญญาณ​แข็งแกร่งมาก, หลินเสวียนอยากลองดูว่าเขาสามารถใช้เจตนา​ดาบของดาบตัดวิญญาณ, ทำให้วิชาดาบคลั่งวิญญาณเลื่อนระดับต่อไปได้หรือไม่!

ถ้าหากดาบคลั่งสังหารวิญญาณสามารถเลื่อนระดับเป็นระดับปฐพีได้…หลินเสวียนจะถือว่าโชคดีมาก

“ข้าเป็นผู้ตรวจสอบของศิษย์น้อง, ส่วนจะจัดการอย่างไรก็เเล้วเเต่ศิษย์น้องเลย” ศิษย์พี่ยู่หยานพูดด้วยรอยยิ้ม

"ดี!" หลินเสวียนพยักหน้า

…..

ในสองวันถัดมา

หลินเสวียนก็ได้ขับกระสวยแห่งความว่างเปล่า พายู่หยานเที่ยวเล่นในทิวเขานับแสน

ทรัพยากรในทิวเขานับแสน, อุดมสมบูรณ์​มากจริงๆ!

ผลจู๋กั่ว, ผลหวงหยวน, ผลไม้พวกนี้หายากมาก…แต่หลินเสวียนกลับเจอมันไม่น้อยในทิวเขานับแสน

เเละด้วยประสาทสัมผัสของหนูสายฟ้า หลินเสวียนยังสามารถขุดศิลาวิญญาณมาได้อีกมากมาย

นอกจากนี้, หลินเสวียนยังใช้เวลาว่างบางส่วน​ ปรุงโอสถ​ก่อกำเนิดที่มีลวดลายโอสถสามเส้นให้กับยู่หยานหนึ่งชุด พร้อม​ๆกับการปรุงโอสถชักนำลมปราณให้กับตระกูล​หลิน

แน่นอนว่าในบรรดาเคล็ดวิชาทั้งหมด, เคล็ดวิชาที่รู้สึกดีใจมากที่สุดก็คือวิชาเหยียบคลื่นลม

เมื่อหลินเสวียนชื่นชมทิวทัศน์ของทิวเขานับแสน, มันก็เลื่อนระดับเป็นระดับลึกลับขั้นสูงอย่างเงียบๆ

ขอแค่มีโอกาส​ใหญ่​ๆอีก​สักครั้ง​, มันก็คงจะสามารถเลื่อนระดับต่อไปได้!

……

สามวันต่อมา

หลินเสวียนและยู่หยานก็มาถึงคฤหาสน์​ของตระกูล​หลิน

"น้องสาม!"

เมื่อหลินเสวียนกลับมา, หลินเทียนและหลินหลานก็รีบออกมาต้อนรับทันที​

ไม่กี่วันมานี้ ออร่าของหลินเทียนและหลินหลานเปลี่ยนไปอย่างมาก!

เห็นได้ชัดว่า ด้วยโอสถชักนำลมปราณและโอสถหลอมลมปราณ ทำให้​หลินเทียนและหลินหลานสามารถบ่มเพาะพลังปราณได้สำเร็จแล้ว

“ความเร็วในการฝึกฝนของพวกท่านถือว่าไม่เลวเลย!” หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

"น้องสาม, ต้องขอบคุณ​​โอสถ​ที่เจ้าส่งกลับมา…ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่สามารถทะลวงระดับได้เร็วขนาดนี้" หลินเทียนพูดอย่างตื่นเต้น

"ไม่ต้องห่วง, ต่อไปนี้โอสถ​และสมบัติจะมาหาพวกท่านมากกว่า​นี้​อีก​!" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

"จริงสิ​ น้องสาม…พูดถึง​โอสถ​ พวกเรามีเรื่องจะบอกเจ้า!" หลินเทียนพูดด้วยสีหน้าประหลาดเล็กน้อย​

"เรื่องอะไร?"

"เสวี่ยเอ๋อร์, เจ้ายังไม่ออกมาอีก!"

หลินเทียนตะโกน, จากนั้นหลินเสวี่ยที่อยู่ไม่ไกลก็วิ่งเข้ามา

เมื่อเห็นหลินเสวียน, หลินเสวี่ยก็ร้องเรียก "พี่สาม"...หลังจากนั้นเธอก็หลบอยู่ข้างหลังหลินเทียน

"บ่มเพาะพลังปราณได้แล้ว?"

หลินเสวียนและยู่หยานมองหลินเสวี่ยด้วยความประหลาดใจ!

หลินเสวี่ยอายุแปดขวบ, ตอนนี้บนตัวของเธอมีออร่าของผู้ฝึกยุทธ์…แถม ระดับพลังของเธอยังสูงกว่าหลินเทียนและหลินหลาน

แต่มันเป็นไปได้ยังไง?

หลินเสวี่ยไม่ได้เรียนรู้เคล็ดวิชาใดๆเลยนะ!

"ก็เพราะท่านพ่อตามใจนางมากเกินไปไง!"

"นางบอกว่าอยากดูโอสถ ท่านพ่อก็ให้โอสถนางหนึ่งเม็ด, ผลก็คือนางแอบกินตอนที่พวกเราไม่ทันระวัง"

"หลังจาก​นั้นนางก็สลบไป!"

"ตอนนั้นพวกเราตกใจมาก"

"พวกเราถึงขั้นขอร้องลุงไห่ให้ไปเชิญท่านหวูหย่ง เจ้าสำนัก​สำนักธารามา…สุดท้าย​ท่านหวูหย่งก็ช่วยนางสลายพลังโอสถได้สำเร็​จ"

"เเละผลลัพธ์​หลังจาก​นั้นก็คือเสวี่ยเอ๋อร์บ่มเพาะพลังปราณสำเร็จ"

"พอท่านพ่อกับท่านแม่เห็นว่านางไม่เป็นอะไร, สองวันมานี้พวกเขาเลยไปไหว้พระที่วัดเพื่อขอพร" หลินเทียนอธิบาย

"เสวี่ยเอ๋อร์!" หลินเสวียนดุด้วยสีหน้าเย็นชาทันที​

ไม่แปลกใจเลยที่วันนี้เขากลับมา เเต่หลินเสวี่ยไม่ได้มารอเขาอยู่ที่หน้าประตู

นี่คงเป็นเพราะรู้ว่าตัวเองทำผิด จึงไม่กล้าเจอเขา!

ถึงโอสถชักนำลมปราณจะเป็นแค่โอสถพื้นฐาน, แต่หลินเสวี่ยมีอายุแค่เจ็ดแปดขวบ

โอสถ​นี้ แม้เป็นผู้ใหญ่เเต่ถ้าหากไม่มีพื้นฐานการฝึกฝนเเล้วกินมันเข้าไป…ก็อาจจะตัวระเบิดตายได้

หลินเสวี่ยสัมผัสได้ถึงความโกรธของหลินเสวียน, นางจึงมองเขาด้วยความหวาดกลัว

"พี่สาม ข้าผิดไปแล้ว!"

"ต่อไปข้าไม่กล้าแล้ว!"

"พราสามอย่าโกรธข้าเลยนะ!"

หลินเสวี่ยเห็นว่าหลินเสวียนยังคงโกรธอยู่, จึงพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

"เห้อ…เวลาทำผิด, เจ้าก็ได้เเต่ทำตัวน่ารักเพื่อกลบเกลื่อน​!"

หลินเสวียนโดนหลินเสวี่ยออดอ้อนความโกรธของเขาก็หายไป, จากนั้น เขาก็จิ้มจมูกของหลินเสวี่ย

"กอดหน่อย!" หลินเสวี่ยฉวยโอกาสกอดหลินเสวียน

หลินเสวียนได้เเต่จนใจ จึงกอดหลินเสวี่ยและตรวจสอบร่างกายของหลินเสวี่ยด้วยพลังของขอบเขตก่อกำเนิดเเก่น​เเท้​

หลังจาก แน่ใจว่าหลินเสวี่ยไม่เป็นไร…เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

"ศิษย์พี่ยู่หยาน, ท่านว่าแบบนี้มันปกติหรือไม่?"

หลินเสวียนยังคงเป็นห่วง เขาจึงหันมาถามยู่หยาน

"เรื่องแบบนี้มันไม่ค่อยเกิดขึ้น, แต่มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร" ยู่หยานครุ่นคิดและตอบ

"หลินเสวียน, เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงมากเกินไป"

"จริงๆแล้วพวกเราก็รู้ดีว่าการบ่มเพาะพลังปราณก็คือการดึงดูดพลังวิญญาณจากสวรรค์และโลกเข้ามาชำระล้าง​ร่างกาย, ขยายเส้นลมปราณ​, จนกระทั่งร่างกายสามารถรองรับพลังวิญญาณได้"

"บางคนมีร่างกายบริสุทธิ์​โดยธรรมชาติ, เส้นลมปราณ​โล่งโปร่ง…พวกเขา​จึงสามารถ​รองรับ​พลังวิญญาณ​ได้โดยธรรมชาติ"

"คนแบบนี้สามารถ​บ่มเพาะพลังปราณ​ได้อย่างง่ายดาย…เเละนี่แหละคือสิ่งที่​เรียกว่าพรสวรรค์!"

"โดยปกติแล้ว, ร่างกายยิ่งบริสุทธิ์​เท่าไหร่…พรสวรรค์​ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น" ศิษย์พี่ยู่หยานอธิบายอย่างละเอียด

"ถ้าเป็นแบบนั้น, เสวี่ยเอ๋อร์ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะด้านการฝึกฝนงั้นหรือ?" หลินเทียนพูดด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

"อืม!"

"เสวี่ยเอ๋อร์สามารถบ่มเพาะพลังปราณได้ด้วยการใช้โอสถชักนำลมปราณหนึ่งเม็ดโดยที่ไม่มีพื้นฐานการฝึกฝน, มันแสดงให้เห็นว่านางมีพรสวรรค์​สูงมาก"

"เเละนางเป็นน้องสาวของเจ้า, มันก็ไม่แปลกหรอก" ยู่หยานพูดด้วยรอยยิ้ม

"เย้!"

"งั้นข้าก็สามารถ​เข้าร่วมสำนักเทียนเซียวกับพี่สามได้แล้วใช่ไหม?" หลินเสวี่ยพูดด้วยความตื่นเต้น

"ยังไม่ได้!"

หลินเสวียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก…แต่เขาก็ยังคงส่ายหัว

"ทำไมล่ะ?"

"พี่ยู่หยานบอกว่าข้ามีพรสวรรค์นี่นา​" หลินเสวี่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

"อย่างแรก, ตอนนี้เลยช่วงเวลาที่สำนักเทียนเซียวรับศิษย์ไปแล้ว"

"อย่างที่สอง, เจ้ายังเด็ก…ถ้าเข้าร่วมสำนักเทียนเซียวตอนนี้ มันยังเร็วเกินไป" หลินเสวียนครุ่นคิดและอธิบาย​

พรสวรรค์​ของหลินเสวี่ยทำให้หลินเสวียนรู้สึกประหลาดใจ…แต่หลินเสวียนมีแผนของเขาเอง, ตอนนี้เขายังไม่คิดจะให้หลินเสวี่ยเข้าร่วมสำนักเทียนเซียว

"ก็ได้!"

"เสวี่ยเอ๋อร์จะเชื่อฟังพี่สาม!" หลินเสวี่ยพยักหน้าอย่างว่าง่าย

"เเล้วก็จำเอาไว้…ต่อไปนี้อย่ากินโอสถ​มั่วซั่ว!"

"มันอันตรายถึงชีวิต!"

"ถ้ามีโอกาส, พี่สามจะหาเคล็ดวิชาที่เหมาะสมให้เจ้า"

หลินเสวียนลูบหัวหลินเสวี่ยแล้วให้สัญญา​

"เข้าใจแล้ว!" หลินเสวี่ยแลบลิ้น

"พี่ใหญ่, พี่รอง…นี่คือโอสถหลอมลมปราณ พวกท่านรับไปเถอะ"

"โอสถ​พวกนี้คงเพียงพอให้​พวกท่านฝึกฝนได้อีกสักพัก"

"หลังจากนี้ทุกๆหนึ่งเดือน, ข้าจะให้คนนำโอสถมาให้พวกท่าน"

หลินเสวียนยิ้ม แล้วหยิบโอสถหลอมลมปราณที่เขาเพิ่งจะปรุงเสร็จออกมา

"น้องสาม, เจ้าจะไปแล้วเหรอ?" หลินเทียนรับโอสถ​และพูดอย่างไม่เต็มใจ

"ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่อยู่, ข้าจึงจะไปที่สำนักธาราก่อนแล้วค่อยกลับสำนัก" หลินเสวียนตอบด้วยรอยยิ้ม

ภารกิจสอบเข้าสายในไม่ได้รีบร้อนอะไร, หลินเสวียนจึงอยากกลับไปที่สำนักเทียนเซียวก่อน

"ตกลง!" หลินเทียนพยักหน้า

เขาก็รู้ว่าหลินเสวียนกำลังจะสอบเข้าสายในจึงมีเรื่องมากมายต้องทำ, ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รั้งหลินเสวียนเอาไว้

หลังจากพี่น้องทั้งสี่คนคุยกันสักพัก, หลินเสวียนกับยู่หยานก็ขึ้นกระสวยแห่งความว่างเปล่าและมุ่งหน้าไปยังสำนักธารา!

……

"น้องหลิน, เจ้ามาแล้ว!"

หลินเสวียนเพิ่งจะมาถึงสำนักธารา, หวูหย่ง เจ้าสำนัก​สำนักธาราก็ออกมาต้อนรับเเล้ว

เเละเมื่อหวูหย่งเห็นยู่หยานที่ยืนอยู่ข้างๆหลินเสวียน…เขาก็รีบทักทาย​อย่างรวดเร็ว​

"น้องหลิน ไม่ทราบว่าท่านผู้นี้คือเซียนท่านใดจากสำนักเทียนเซียว?"

"ท่านนี้คือศิษย์พี่ยู่หยาน, ศิษย์สายในสำนักเทียนเซียว…เเละยังเป็นศิษย์สืบทอด​ของหัวหน้า​ผู้​ดูเเล​กฎ​ของ​หอหลอม​สร้างอาวุธ​สายใน!" หลินเสวียนพูดด้วยรอยยิ้ม

"ที่แท้ก็คือคุณหนูยู่หยาน การมาเยือนของท่านถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำนักธาราของพวกเรา!" หวูหย่งพูดด้วยรอยยิ้ม

ในใจของเขาคิดว่า, น้องหลินนี่ช่างรุ่งโรจน์​จริงๆ

แม้แต่ ศิษย์ของหัวหน้าผู้​ดูเเล​กฎ​ก็ยังสนิทด้วย

"ท่านเจ้าสำนัก​หวู, ไม่ต้องเกรงใจ" ยู่หยานพยักหน้า

"น้องหลิน พรสวรรค์​ของเจ้าช่างน่า​สะพรึงกลัว​มากจริงๆ"

"ครั้งที่แล้วเจ้ายังอยู่ที่ระดับหลอมรวมลมปราณ​ขั้นที่เจ็ด…เเต่ผ่านไปไม่กี่วันเจ้ากลับทะลวงสู่ขอบเขตก่อกำเนิดเเก่น​เเท้​ได้แล้ว"

"อีกไม่นาน เจ้าคงจะแซงหน้าข้าไปไกลเเน่ๆ!" หวูหย่งกล่าวอย่างตกตะลึงอีกครั้ง

"ท่านเจ้าสำนัก​หวูกล่าวเกินไปแล้ว"

หลินเสวียนตอบรับ, จากนั้นก็พูดอย่างจริงจัง

"ท่านเจ้าสำนัก​หวู, เรื่องของเสวี่ยเอ๋อร์ก่อนหน้านี้…ข้าขอขอบคุณ​ท่านมาก!"

"ไม่ต้องสุภาพ​ขนาดนั้น!"

"เจ้าเรียกข้าว่าท่านพี่, เมื่อเสวี่ยเอ๋อร์มีเรื่องเดือดร้อน​จะให้ข้าอยู่เฉยๆได้อย่างไร?" หวูหย่งโบกมือ

"อย่างไรก็ตามน้องหลิน, พูดตามตรงนะ พรสวรรค์​ของเสวี่ยเอ๋อร์มันยอดเยี่ยมมาก​จริงๆ"

"ตอนที่ข้าใช้พลังขอบเขตสร้างรากฐานช่วยนางสลายพลังโอสถ, ข้าพบว่านางเหมาะสม​กับการฝึกฝนเคล็ดวิชา​ธาตุ​หยิน​"

"ถ้าหากเจ้าหาเคล็ดวิชา​ธาตุ​หยิน​ให้กับนางได้, ในอนาคต​ความสำเร็จ​ของนางอย่างน้อยก็ต้องแซงหน้าข้า" หวูหย่งพูดอย่างจริงจัง

"เคล็ดวิชา​ธาตุ​หยิน​งั้นหรือ?" หลินเสวียนพึมพำ

"น่าเสียดายที่สำนักใหญ่ต่างก็หวงแหนเคล็ดวิชา…เจ้าคงจะหาเคล็ดวิชา​ธาตุ​หยิน​ได้ยาก" หวูหย่งส่ายหัว

"เรื่องนี้ค่อยว่ากันทีหลังเเล้วกัน, ท่านเจ้าสำนัก​หวู พูดตามตรง ครั้งนี้ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องจะรบกวนท่าน" หลินเสวียนพูดเข้าประเด็น​

"เจ้าหมายถึงดาบตัดวิญญาณใช่หรือไม่?" หวูหย่งพูดด้วยรอยยิ้ม

………………

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด