บทที่ 452 – เพื่อการอภิเษกสมรส ท่านจะสละดินแดนเลยหรือ?
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
บทที่ 452 – เพื่อการอภิเษกสมรส ท่านจะสละดินแดนเลยหรือ?
หลินเป่ยฟานยิ้มแย้มออกมา กล่าว “ฝ่าบาท ยกทัพได้ แต่ยังมิใช่เวลา!”
ทุกสายตาจับจ้องเขม็งทันที
“ท่านแม่ทัพใหญ่ หมายความเช่นไร?” แม่ทัพผู้หนึ่งเอ่ยถามด้วยความฉงน
“บัดนี้ อาณาจักรหยานอันยิ่งใหญ่ระส่ำระสาย ชิงบัลลังก์มังกร ราษฎรเดือดร้อน ลุกฮือต่อต้าน แถมยังมีหมาป่าวนเวียนภายนอก กำลังของอาณาจักรหยานอ่อนแอลงมาก นี่คือโอกาสทองของเรา! เหตุใดท่านจึงว่ายังไม่ถึงเวลา? ขอท่านแม่ทัพใหญ่โปรดชี้แนะ!”
หลินเป่ยฟานยิ้ม “ดังที่ท่านว่า อาณาจักรหยานอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แต่จะพิชิตก็มิใช่ง่ายดายเหมือนที่เราตีอาณาจักรเซี่ย เราต้องรวมอีกหกอาณาจักร รวบรวมทัพกว่าสองล้านนาย จึงจะกัดกินเนื้อจากอาณาจักรเซี่ยได้ อย่างไรก็ตาม หลังองค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรเซี่ยกลับมา พระองค์ก็สำแดงพลังที่ซ่อนอยู่ ทวงคืนดินแดนที่เสียไปทั้งหมดภายในหนึ่งเดือน ยกเว้นตะวันออกไกล! เหตุผลเดียวกันนี้ใช้ได้กับอาณาจักรหยานในฐานะหนึ่งในสามราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ อาณาจักรหยานคงไม่ง่ายที่จะจัดการ!”
ทุกคนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ในตอนแรก พวกเขาคิดว่าราชวงศ์เซี่ยกำลังจะล่มสลาย แต่หลังการกลับมาขององค์รัชทายาทที่ 30 พระองค์ก็จัดการเด็ดขาด กำจัดผู้ทรยศ ฟื้นฟูดินแดนที่เสียไป ยึดอำนาจสูงสุด
ราชวงศ์เซี่ยเป็นเช่นนี้ อาณาจักรหยานก็คงไม่ง่าย องค์จักรพรรดินีพยักพระพักตร์เห็นด้วย “ท่านอัครมหาเสนาบดี ท่านพูดอย่างมีเหตุผลนัก!”
ไม่มีราชวงศ์ใดที่เรียบง่าย กระทั่งพระองค์เองก็ทรงมีขุมกำลังที่ทรงพลังแอบแฝงอยู่เช่นกัน
แม้ราชวงศ์จะสิ้นสุดลง พระองค์ก็สามารถฟื้นอำนาจด้วยกำลังนี้ได้
"ถ้าเช่นนั้น เหตุใดเราจึงไม่รอจนกว่าพวกเขาจะอ่อนแอลงกว่านี้ก่อนที่จะเปิดฉากโจมตีเล่า?" หลินเป่ยฟานยิ้มและกล่าวว่า "จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหยานเพิ่งสวรรคต และยังไม่มีรัชทายาทที่ได้รับการแต่งตั้ง การแย่งชิงอำนาจภายในเพิ่งเริ่มต้นขึ้นในราชสำนัก! ดังนั้น ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กันเอง ยิ่งพวกเขาต่อสู้กันเองรุนแรงเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งอ่อนแอลงเท่านั้น!”
"ตลอดปีที่ผ่านมา จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหยานได้ใช้จ่ายทรัพย์สมบัติในท้องพระคลังเพื่อรวบรวมทรัพยากรหายากในการแสวงหาความเป็นอมตะ โดยไม่สนใจความเป็นอยู่ของราษฎร ซึ่งนำไปสู่ความไม่พอใจและการลุกฮือของคนทั่วไปอย่างกว้างขวาง! บัดนี้จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหยานสิ้นพระชนม์แล้ว สถานการณ์ในอาณาจักรยิ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก!”
"ยิ่งไปกว่านั้น อาณาจักรข้างเคียงกำลังเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดและเริ่มลงมือกันอย่างลับ ๆ ไปแล้ว... อาณาจักรหยานเต็มไปด้วยปัญหาภายในและภัยคุกคามจากภายนอก อันตรายอยู่รอบด้าน!“หลินเป่ยฟานยิ้มและกล่าวว่า”ดังนั้น เราควรให้เวลากับอาณาจักรหยานมากขึ้น ยิ่งเราชักช้า กำลังของอาณาจักรก็จะยิ่งถดถอย และจะเป็นประโยชน์ต่อเรามากขึ้น!”
เหล่าขุนนางต่างพากันสรรเสริญ "คำกล่าวของท่านแม่ทัพใหญ่มีเหตุผลยิ่ง!”
องค์จักรพรรดินีตรัสถาม "ท่านอัครมหาเสนาบดี ในความคิดของท่าน เมื่อใดจึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการโจมตี?"
"จะเป็นการดีที่สุดที่จะรอจนถึงปลายปีนี้ ฤดูใบไม้ผลิหน้า!” หลินเป่ยฟานตอบ
เสนาบดีผู้หนึ่งขมวดคิ้ว "นานถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? นั่นก็ผ่านไปกว่าสามเดือนแล้วนะ!”
หลินเป่ยฟานตอบว่า "ใช่ เราต้องรอจนถึงสิ้นปีนี้ เพราะฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้อาจจะหนาวเหน็บกว่าที่เคยเป็นมา"
ฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้จะหนาวเหน็บกว่าที่เคยเป็นมาหรือ?
ทุกคนพลันนึกถึงภัยพิบัติจากน้ำแข็งครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่ถึงปีที่แล้ว ภาพเหตุการณ์อันน่าหวาดผวายังคงฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของพวกเขา
องค์พระนางทรงกระวนกระวายพระทัย "ท่านอัครมหาเสนาบดี ภัยพิบัติจากน้ำแข็งจะบังเกิดอีกหรือไม่?"
หลินเป่ยฟานส่ายศีรษะ "มิถึงเพียงนั้น เพียงฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้ อากาศจะหนาวเหน็บยิ่งกว่าปีก่อน ๆ หากเตรียมการป้องกันให้พร้อมมูล ก็จะช่วยชีวิตผู้คนและปศุสัตว์ได้มากโข"
เหล่าขุนนางต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก "หากมิใช่ภัยพิบัติจากธารน้ำแข็งก็แล้วไป"
หลินเป่ยฟานกล่าวต่อ "ยามเดือนสิบสองหนาวเหน็บ น้ำแข็งปกคลุมไปทั่วไม่ควรทำศึก มิเช่นนั้นจะเสียกำลังคนไปโดยเปล่าประโยชน์ สิ่งสำคัญคือเตรียมการภายในให้ดี เพื่อรับมือกับความหนาวเย็น และลดการสูญเสียของราษฎรและปศุสัตว์ รักษาแสนยานุภาพไว้"
"ยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้อาณาจักรหยานอันยิ่งใหญ่เกิดจลาจลภายใน ย่อมไม่อาจแบ่งกำลังมาจัดการกับภัยหนาวได้ ตั้งแต่ต้นปีมานี้ อาณาจักรหยานอันยิ่งใหญ่วุ่นวายไปทั่ว ไร่นาสาโทก็ขาดแคลน ราษฎรเดือดร้อน แล้วยังมีอากาศหนาวเหน็บอีก ย่อมเร่งให้กำลังของพวกเขาอ่อนแอลง"
"ถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า พวกเราก็ผ่านพ้นฤดูหนาวที่โหดร้ายนี้ไปแล้ว รวมทั้งดินแดนของนครไป๋เซียงและดินแดนตะวันออกไกลเข้าด้วยกัน ก็สามารถขยายดินแดนได้อีก ถึงยามนั้นค่อยฉวยโอกาสระดมพลบุกใต้!”
องค์พระนางตรัส "ดี! ตามที่ท่านว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาทำศึก รอให้เราผ่านพ้นฤดูหนาวอันโหดร้ายนี้ไปก่อน แล้วจึงค่อยระดมพลบุกใต้ กวาดต้อนดินแดนกว้างใหญ่มา"
"พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!” เหล่าขุนนางต่างโห่ร้องพร้อมเพรียงกัน
ด้วยเหตุฉะนี้ ราชสำนักจึงมีพระบัญชาให้งดการศึก จนกว่าจะพ้นเหมันต์อันหนาวเหน็บ ทว่าอาณาจักรรอบด้านต่างจับจ้องอู๋อันยิ่งใหญ่ รอคอยการยกทัพเข้าตีหยานอันยิ่งใหญ่
แต่ผิดคาด อู๋อันยิ่งใหญ่กลับไร้ซึ่งท่าที ไร้การเคลื่อนทัพ ไร้การตระเตรียมเสบียง ราวกับมิได้ใส่ใจ ทุกผู้คนต่างฉงน อู๋อันยิ่งใหญ่จะปล่อยโอกาสทองเช่นนี้หลุดมือไปได้อย่างไร
อาณาจักรน้อยใหญ่รอบหยานอันยิ่งใหญ่ร้อนใจ ทูลขอให้อู๋อันยิ่งใหญ่นำทัพพันธมิตร ดังเช่นศึกปราบเซี่ยอันยิ่งใหญ่ครั้งก่อน วางแผนให้อู๋อันยิ่งใหญ่นำทัพล้านนายตีนคร แบ่งอาณาจักรหยานอันยิ่งใหญ่
หลินเป่ยฟานรับรองด้วยตนเอง แต่ปฏิเสธอย่างนุ่มนวล "ท่านทั้งหลาย ข้าต้องขออภัย อู๋อันยิ่งใหญ่ไร้แผนการสงคราม โปรดกลับไปเถิด"
ทุกผู้คนต่างตกตะลึง มีผู้เอ่ยถาม "ท่านอัครมหาเสนาบดีหลิน เหตุใดจึงพลาดโอกาสทองเช่นนี้"
หลินเป่ยฟานยิ้มแย้มออกมา "ท่านทั้งหลายคงทราบ ปีหน้าข้าจะเข้าพิธีวิวาห์กับองค์จักรพรรดินี เป็นเรื่องน่ายินดี มิควรสร้างเวรกรรม ขอให้ทุกท่านกลับไปก่อน ปีหน้าเมื่อมีเวลา อย่าลืมมาร่วมงานมงคลสมรสของเรา ฮ่า ๆ !”
ทุกผู้คนยิ่งประหลาดใจ เป็นเพราะเหตุนี้หรือ เพื่อพิธีวิวาห์อันยิ่งใหญ่ ถึงกับยอมสละแม้แต่ดินแดนที่ง่ายต่อการเข้ายึดครอง
"ท่านอัครมหาเสนาบดีหลิน โปรดฟังด้วยเถิด บัดนี้อาณาจักรหยานอลหม่านด้วยศึกสายโลหิต นี่คือโอกาสทอง หากพลาดไป ภายภาคหน้ายากจะช่วงชิงแผ่นดินของพวกมันได้อีก"
"ท่านอัครมหาเสนาบดี เรื่องอภิเษกสมรสกับการทำศึกหาได้ขัดแย้งกันไม่ ยิ่งไปกว่านั้น ท่านกับองค์จักรพรรดินีควรคำนึงถึงประโยชน์ของแผ่นดินเหนือเรื่องส่วนตน"
หลินเป่ยฟานส่ายหน้าอีกครา "ขอบพระคุณทุกท่านในความหวังดี แต่ข้ามิอยากให้เกิดการเข่นฆ่า ขอทุกท่านโปรดกลับไปเถิด"
เหล่าขุนนางทั้งหลายไม่อาจทัดทานหลินเป่ยฟานได้ จึงจำต้องล่าถอยไป
อาณาจักรอู๋อันยิ่งใหญ่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ทรัพยากรบริบูรณ์ จึงมิได้ให้ความสำคัญกับแผ่นดินหยานมากนัก แต่อาณาจักรเล็กอาณาจักรน้อยที่ไร้ซึ่งทรัพยากร ย่อมไม่อาจเมินเฉยต่อ "เหยื่อ" เช่นอาณาจักรหยานได้ พวกมันจึงยกทัพไปในทันที ก่อความวุ่นวายตามแนวชายแดนอาณาจักรหยาน
ตามคาด อาณาจักรอู๋รักษาสัจจะ มิได้เคลื่อนทัพ แต่ทุ่มเทสรรพกำลังไปที่การเตรียมรับมือกับฤดูหนาวอันโหดร้าย มีประกาศแจ้งไปทั่วหล้าว่าปีนี้อากาศจะหนาวเหน็บกว่าที่เคย แนะนำให้สะสมเสบียง
มีการระดมวัสดุกันหนาวนานาชนิด แจกจ่ายไปยังหัวนครต่าง ๆ รวมทั้งเปิดที่พักพิงบางแห่ง จัดระบบทำความร้อนส่วนกลาง ช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ไม่อาจทนฤดูหนาวอันโหดร้ายได้
การกระทำเช่นนี้ ย่อมไม่อาจรอดพ้นสายตาของผู้มีปัญญาแหลมคมไปได้