ตอนที่ 89 เจ้าคนบ้าเฮ้อ! เจ้าช่างมาช้าเหลือเกิน

**เขตดาวโบราณ** เป็นสถานที่ที่เล่าลือกันว่า "ร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณยุคแรก" ถือกำเนิดขึ้นที่นี่ นับตั้งแต่นั้น เขตดาวนี้ก็ได้รับการขนานนามใหม่ว่า **เขตดาวโบราณ** ซึ่งกลายเป็นตำนานของทั่วทั้งจักรวาล จุดเริ่มต้นของตำนานบนฟากฟ้า!

มีคำกล่าวว่า “ร่างศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์ สามารถต่อกรกับจักรพรรดิได้!” และคำกล่าวนี้ก็มาจากเขตดาวโบราณเช่นกัน

มีตำนานเล่าว่า หลังจากที่ร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณยุคแรกบรรลุขั้นสมบูรณ์ เขาสามารถต่อกรกับจักรพรรดิผู้ไร้เทียมทานแห่งจักรวาลและฟากฟ้าในยุคนั้นได้โดยไม่พ่ายแพ้ ทั้งสองฝ่ายจบลงด้วยผลเสมอและนั่งดื่มสุรากันอย่างสนุกสนาน สั่นสะเทือนไปทั่วจักรวาล

จักรพรรดิแห่งมนุษยนั้นรู้สึกพอใจมาก ตั้งแต่เขากลายเป็นจักรพรรดิ เขาไม่เคยเจอผู้ที่เหมาะสมเป็นคู่ต่อสู้อีกเลย การมีร่างศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์อยู่เคียงข้าง ทำให้ชีวิตในช่วงบั้นปลายของเขาไม่เงียบเหงาอีกต่อไป และเขายังมีผู้ที่จะแบ่งปันแรงกดดันในการต่อสู้กับเขาอีกด้วย!

เพราะการปรากฏตัวของร่างศักดิ์สิทธิ์ที่สมบูรณ์ เขตดาวโบราณจึงเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงสุด กลายเป็นศูนย์กลางอีกแห่งหนึ่งของจักรวาล

ทว่าต่อมา หลังจากที่ร่างศักดิ์สิทธิ์โบราณยุคแรกดับสังขาร เขตดาวโบราณก็เกิดสงครามทำลายล้างขึ้น มีผู้แข็งแกร่งลึกลับบุกรุกเขตดาวโบราณอันทรงพลัง ทำลายล้างสำนักที่ร่างศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์ทิ้งไว้และสังหารอย่างอำมหิต!

ในสงครามนั้น สำนักมากมายถูกทำลาย และบางสำนักก็เลือกที่จะอพยพไปยังเขตดาวอื่นเพื่อความอยู่รอด เมื่อเวลาผ่านไป เขตดาวโบราณก็เริ่มเสื่อมถอย จนกลายเป็นเขตดาวชายขอบที่ไม่มีใครสนใจอีกต่อไป ไม่อาจฟื้นฟูความรุ่งเรืองในอดีตได้

ในช่วงที่ผ่านมา เขตดาวโบราณที่เสื่อมโทรมกลับปรากฏเหตุการณ์ประหลาดขึ้น ในเขตดาวโบราณมีดาวชีวิตนับร้อยดวงที่เต็มไปด้วยมนุษย์และนักบำเพ็ญเพียร

ทว่าช่วงนี้กลับมีดาวชีวิตหลายดวงถูกทำลายลง สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนดาวเหล่านั้นต้องพบกับจุดจบที่น่าสยดสยอง เมื่อมีดาวชีวิตถูกทำลายมากขึ้นเรื่อยๆ กองกำลังที่แข็งแกร่งบางแห่งในเขตดาวโบราณก็เริ่มให้ความสนใจและสืบสวนเรื่องนี้อย่างลับๆ

หลังจากสูญเสียนักบำเพ็ญเพียรผู้แข็งแกร่งไปหลายคน พวกเขาก็พบว่า ดูเหมือนว่าก่อนที่ดาวเหล่านั้นจะถูกทำลาย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนดาวเหล่านั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว! ราวกับว่าพลังชีวิต พลังจิตวิญญาณ และเลือดเนื้อของพวกเขาถูกดูดออกจนหมด กลายเป็นศพแห้งทั้งหมด!

ก่อนที่ดาวชีวิตแต่ละดวงจะถูกทำลาย ดูเหมือนว่าจะถูกบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวชะล้างเอาชีวิตไป!

ในที่สุด กองกำลังที่แข็งแกร่งบางสำนักเริ่มหวาดกลัว เกรงว่าพวกเขาจะถูกตามล่าและกลายเป็นหนึ่งในศพแห้งเหล่านั้น

ทว่า ในเขตดาวโบราณกลับมีสิบสำนักที่แข็งแกร่งที่สุดไม่แสดงท่าทีตื่นตระหนกแต่อย่างใด ในฐานะผู้ครอบครองเขตดาวนี้ พวกเขามีรากฐานที่น่าสะพรึงกลัว มีนักบำเพ็ญเพียรผู้แข็งแกร่งมากมาย ไม่อาจหวั่นเกรงต่อข่าวลือที่ไม่มีหลักฐานเหล่านี้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ในยุคสิ้นสุดแห่งกฎเต๋านั้น นอกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถกดดันพวกเขาได้แล้ว ยังมีผู้ใดกล้าเหยียบย่ำพวกเขาอีกเล่า?

แต่ละสำนักมีบรรพชนระดับมหาเต๋ษหลายคนประจำการอยู่ บางสำนักยังมีรากฐานระดับกึ่งนักบุญคอยปกป้องอยู่!

ด้วยความมั่นใจนี้ ทำให้หนึ่งในสิบสายธรรมที่แข็งแกร่งที่สุดอย่าง **สำนักมังกรสวรรค์** ออกมาเปิดเผยตัวเอง รวบรวมความเชื่อมั่นจากผู้คน และเริ่มสืบสวนเรื่องนี้ พวกเขาบอกกับสาธารณชนว่าจะให้คำตอบแก่ทุกคน หากมีใครทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ จะต้องถูกกำจัดโดยไม่ละเว้น!

วันต่อมา สำนักมังกรสวรรค์ถูกทำลายล้าง

ทั้งสำนักเสียชีวิตทั้งหมด กลายเป็นศพแห้ง แม้แต่ระดับกึ่งนักบุญที่ปิดด่านฝึกตนอยู่ก็ยังถูกสังหาร เหมือนกับว่าเขาไม่รู้เลยว่าตนเองกำลังจะตาย!

เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไป ทุกกองกำลังในเขตดาวโบราณถึงกับเงียบงัน เหลือเพียงเก้าสำนักที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งเริ่มวางแผนที่จะอพยพออกจากเขตดาวนี้!

**ดาวมังกรสวรรค์** ที่ซึ่งเป็นซากปรักหักพังของสำนักมังกรสวรรค์ ใต้สายน้ำตกที่ห้อยลงมาจากแม่น้ำสวรรค์ ชายหนุ่มในชุดดำคนหนึ่งนั่งอยู่ที่นั่น โดยมีหญิงสาวในชุดขาวยืนอยู่เบื้องหลัง

หญิงสาวในชุดขาวกล่าวว่า “ทำไมต้องทำเช่นนี้?”

“เจ้าฝึกฝนมาถึงขั้นนี้ เพียงเพื่อที่จะกดขี่ข่มเหงผู้คนเท่านั้นหรือ?”

ชายหนุ่มในชุดดำยิ้มมุมปากพลางตอบ “กดขี่ข่มเหงแล้วอย่างไร?”

“ในปีนั้น พวกเขาก็กดขี่ข้าเช่นกัน”

“นี่ก็เพียงแค่การชดใช้โทษแทนบรรพบุรุษของพวกเขาเท่านั้น”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวในชุดขาวก็เงียบไป ชายผู้นี้อาจเคยถูกเขตดาวโบราณกดขี่ข่มเหงก่อนที่จะเขาเจริญก้าวหน้ามาถึงขั้นนี้ คนใกล้ชิดของเขาอาจถูกสังหารไปมากมาย จนทำให้เขามีพฤติกรรมเช่นนี้ในตอนนี้

มีแค้นต้องชำระ มีความเกลียดชังต้องตอบสนอง อาจจะเป็นเพราะในอดีตเขาไม่มีพลัง แต่ตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งแล้ว เขตดาวโบราณเสื่อมถอยไป และผลลัพธ์ก็กลับตาลปัตรกัน

นี่เป็นคำยืนยันถึงประโยคที่ว่า “หากล้าหลัง ก็ต้องถูกกำจัด!”

ชายหนุ่มในชุดดำดีดนิ้วลูกบอลเลือดลูกหนึ่งพุ่งออกมาจากความว่างเปล่า ลอยอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน

ลูกบอลเลือดนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังเลือดที่เข้มข้นจนราวกับว่ามีดวงวิญญาณที่แค้นเคืองกำลังคำรามอยู่ ลูกบอลนี้หลอมรวมพลังเลือดของผู้คนมากมายจนกลายเป็นลูกบอลขนาดเท่าลูกฟุตบอล

นี่คือเลือดของทุกคนในสำนักมังกรสวรรค์รวมถึงพลังจิตวิญญาณของพวกเขาด้วย ชายหนุ่มในชุดดำได้กักขังพลังจิตวิญญาณของพวกเขาไว้ในนั้น

นี่คือยาวิเศษลูกหนึ่ง หากรับประทานเข้าไปจะทำให้ระดับการฝึกตนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล!

ชายหนุ่มในชุดดำใช้พลังดึงลูกบอลเลือดให้พุ่งเข้าร่างหญิงสาวในชุดขาว

ทันทีที่ร่างกายได้รับพลังงานหญิงสาวในชุดขาวเผยสีหน้าที่เจ็บปวดขึ้นทันที ใบหน้าที่ประณีตงดงามบิดเบี้ยว แสดงถึงความทรมานที่เธอกำลังเผชิญ วิญญาณที่ยังคงเหลืออยู่ในโลหิตนั้นส่งเสียงร้องคำรามรอบตัวเธอ พลังงานเลือดอันมหาศาลเดือดพล่าน ปั่นป่วนพื้นที่รอบๆ จนเกิดเป็นปรากฏการณ์โลหิตคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า

“พลังนี้ควรเพียงพอที่จะทำให้เจ้าทะลุถึงระดับนักบุญแล้ว!” ชายหนุ่มในชุดดำกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ทว่าความเจ็บปวดบนใบหน้าของหญิงสาวในชุดขาวกลับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อต้องแบกรับพลังเลือดและพลังจิตวิญญาณที่สะสมมาจากผู้คนนับไม่ถ้วน แม้เธอจะรู้สึกว่าร่างกายของตนกำลังจะระเบิดออก แต่เธอก็ไม่ส่งเสียงร้อง เธอกลับกัดฟันทนความเจ็บปวดเอาไว้ พลางเอ่ยถามด้วยเสียงที่สะท้านไปด้วยความเจ็บปวด

“เหตุใดท่านถึงเร่งให้ข้าทะลวงผ่านระดับเช่นนี้? ท่านต้องการอะไรกันแน่?”

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ชายหนุ่มในชุดดำได้ทำลายดวงดาวที่เต็มไปด้วยชีวิตจำนวนมาก ดูดซับพลังชีวิต พลังเลือด และพลังจิตวิญญาณของทุกสิ่งมีชีวิตบนดาวเหล่านั้นมาให้เธอบำเพ็ญ ส่งผลให้ระดับพลังของเธอพุ่งจากขั้น มหาเต๋าจนถึงกึ่งนักบุญขั้นที่สามในเวลาอันสั้น!

การทะลวงระดับกึ่งนักบุญเหล่านั้น เกิดขึ้นจากการที่ชายหนุ่มในชุดดำถ่ายทอดพลังและความรู้ให้กับเธอโดยตรง ทำให้เธอสามารถทะลวงผ่านได้อย่างง่ายดาย

และตอนนี้ พลังงานโลหิตทั้งหมดของสำนักมังกรสวรรค์ จะทำให้เธอทะลวงผ่านไปถึง ระดับนักบุญ! ร่างกายของเธอเริ่มแผ่ออกด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ขณะเมฆดำหนาทึบปกคลุมเหนือศีรษะของเธอ แผ่ขยายออกไปกว่าหมื่นลี้ เกิดเป็นเสียงฟ้าร้องและสายฟ้าแปลบปลาบอย่างต่อเนื่อง

เคราะห์นักบุญเริ่มก่อตัวขึ้น เธอกำลังจะต้องฝ่าด่านเคราะห์นี้!

หญิงสาวในชุดขาวถอนหายใจ เธอรู้สึกเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงที่ถูกเลี้ยงให้เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่จุดจบของเธอจะเป็นอย่างไรนั้นยังคงไม่ชัดเจน...

“เสี่ยวเฟย… คางฉง…” หยดน้ำตาที่ใสราวคริสตัลไหลลงอาบแก้มของเธอ เธอส่ายศีรษะเล็กน้อย ร่างกายลอยขึ้นสูงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เตรียมพร้อมที่จะเผชิญด่านเคราะห์ ไม่ว่าอย่างไร เธอจะต้องฝ่าด่านนี้ไปให้ได้ และจะไม่มีวันยอมตายภายใต้เคราะห์ศักดิ์สิทธิ์นี้แน่นอน

ชายหนุ่มในชุดดำเงยหน้าขึ้นมองไปยังหญิงสาวในชุดขาวที่กำลังฝ่าด่านเคราะห์อยู่ในอากาศ มุมปากของเขายกขึ้นเผยรอยยิ้มบางๆ “ยังไม่พอ… อย่างน้อยต้องไปถึง ระดับราชานักบุญ …ไม่สิ ระดับมหานักบุญจะดีที่สุด!”

“แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานมาก แต่ข้ามีเวลาเหลือเฟือ!”

“ในจักรวาลนี้ ไม่มีใครเทียบข้าได้!”

“ไม่ว่าจะเป็นดินแดนใดก็ตาม สามารถถูกกลั่นเป็นเลือดอาหารได้ทั้งสิ้น ทว่า...ดินแดนดึกดำบรรพ์ที่ตกต่ำไปถึงขั้นนี้ นับว่าเป็นสิ่งที่ข้าไม่ได้คาดคิดเลย”

“ดูเหมือนว่าจะมีเพียงนักบุญระดับหนึ่งเท่านั้น” เขามองไปยังดินแดนดึกดำบรรพ์ มองดูดาวที่สว่างที่สุดในดินแดนนั้น ซึ่งมีเพียงนักบุญระดับหนึ่งอาศัยอยู่เท่านั้น

“ของดีต้องเก็บไว้ลิ้มลองในภายหลัง รอไปเถอะ ความอัปยศที่ดินแดนดึกดำบรรพ์เคยกระทำต่อข้า จะได้รับการตอบแทนอย่างสาสม!”

“ที่ข้าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพังในตอนนี้ ก็เป็นเพราะพวกเจ้า!”

“หืม?” ทันใดนั้น เส้นใยสีเงินหนึ่งเส้นปรากฏขึ้นกลางอวกาศ ลอยลงมาสัมผัสร่างของเขา

ชายหนุ่มในชุดดำตกใจ “สามารถระบุตำแหน่งข้าได้? ผู้ใดมีพลังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?” เขาชำเลืองมองขึ้นไปยังหญิงสาวในชุดขาวที่กำลังฝ่าด่านเคราะห์อยู่ในท้องฟ้า แล้วส่งเสียงฮึดฮัด พลางใช้วิชาเพ่งสมาธิทันที เส้นใยสีเงินนั้นแผ่รัศมีออกมา และเกิดเป็นฉากแสงขึ้นตรงหน้าเขา

แต่ก่อนที่ชายหนุ่มในชุดดำจะทันได้ตอบสนอง มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์และอำนาจแห่งจักรพรรดิก็ปรากฏขึ้นจากฉากแสงนั้น และในชั่วพริบตา มือใหญ่ได้ฟาดลงบนใบหน้าของชายหนุ่มในชุดดำทันที

**เพี๊ยะ!** ชายหนุ่มในชุดดำเซไปเล็กน้อย เกือบจะล้มลง เขามองพื้นดินอย่างงงงัน เหมือนกับจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

มือใหญ่หายไปในทันทีหลังจากฟาดลงมา เหลือเพียงแค่อำนาจฝ่ามือที่ถูกทิ้งไว้ และไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะระยะทางที่ห่างไกลหรือเพราะเหตุผลอื่นใด

“ยอดเยี่ยม!”

“ไม่คิดว่าจะมีผลกระทบเช่นนี้ อีกทั้งยังไม่คาดคิดเลยว่าในจักรวาลปัจจุบัน จะยังมีผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้เหลืออยู่!”

ชายหนุ่มในชุดดำที่เคยเยือกเย็นกลับกลายเป็นตื่นเต้นจนเสียสติ ใบหน้าแสดงความบ้าคลั่ง ราวกับกลายเป็นอีกคน!

“ถ้าเจ้ากล้ามา ก็ลองดู ข้าจะรอเจ้าอยู่ในดินแดนดึกดำบรรพ์!”

เขามองเห็นความหวัง หากสามารถสังหารคู่ต่อสู้คนนี้ และกลั่นพลังของอีกฝ่ายให้กลายเป็นเลือดอาหารให้กับหญิงสาวในชุดขาว นั่นอาจทำให้เธอทะลวงผ่านไปถึงระดับราชานักบุญหรือแม้กระทั่ง ระดับมหานักบุญ ในทันที!

“ฮ่าฮ่า เจ้าอย่าคิดเชียวว่าพลังที่เจ้าเห็นนั้น เป็นพลังที่แท้จริงของข้า” ชายหนุ่มในชุดดำยิ้มมุมปากแสยะ และมองไปยังจักรวาลอันกว้างใหญ่ ราวกับจะสามารถมองทะลุผ่านหมู่ดาวและได้สบตากับใครบางคนในที่ห่างไกล

พลังที่แสดงออกในตอนนี้ เป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น ในอดีต ผู้ที่ช่วยชีวิตเขาได้มอบมรดกแห่งวิชาไว้ แม้ว่าเขาจะดูถูกวิชาของอีกฝ่าย แต่ก็ยังคงฝึกฝนมันไว้บ้างเล็กน้อย เพื่อใช้เอาตัวรอดในช่วงเวลาที่พลังยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ และในหลายครั้งมันก็ช่วยชีวิตเขาไว้ได้

ทว่าตอนนี้ เมื่อเขามีพลังที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้แล้ว เขาก็แทบไม่ได้ใช้วิชานั้นอีก เพียงแค่ซ่อนพลังที่แท้จริงของตนไว้เล็กน้อยเท่านั้น

เขาไม่สังเกตเห็นว่า หลังจากที่ฝ่ามือนั้นฟาดลงมาแล้วและหายไป เส้นแสงเล็กๆ หนึ่งเส้นพุ่งตรงขึ้นไปยังท้องฟ้า และเข้าสู่ร่างกาย

ของหญิงสาวในชุดขาว

ใบหน้าของหญิงสาวในชุดขาวปรากฏรอยยิ้ม เธอเหลือบมองขึ้นไปยังหมู่ดาว และความหวังได้เติมเต็มหัวใจของเธอทันที

“เจ้าคนบ้า เจ้ามาช้าไปจริงๆ!”

อารมณ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้ท่าทีการพูดของเธอดู...เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับว่านี่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ