กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 359 ส่งฝังสวรรค์
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 359 ส่งฝังสวรรค์
“เอาเถิด กลับไปที่ตำหนักหยกสุญตา”
หวงอวิ๋น ครุ่นคิดอยู่นานก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา
หลังจากมองโลกสวรรค์ก่อกำเนิดเป็นครั้งสุดท้าย สะบัดแขนเสื้อ พาหยางเจี่ยนสองคนจากไปอย่างรวดเร็ว
โลกสวรรค์ก่อกำเนิด เมืองต้าฮวง ภายในหอคอยกลไกสวรรค์
หลี่อวิ๋นยืนอยู่เบื้องหน้าประตู สวมชุดคลุมสีเขียว สองมือไพล่หลัง มองไปยังขอบฟ้าเบื้องหน้า เห็นการเปลี่ยนแปลงของฟ้าดิน เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกเซียนปฐพีและโลกอินทนิลเร้นลับล้วนไม่อาจรอดพ้นการตรวจสอบของเขา
“การต่อสู้ที่ไร้ผู้ต้านทาน”
หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างแผ่วเบา
สถานการณ์เช่นนี้ มิใช่สิ่งที่เขาต้องการ
โลกเซียนปฐพีไม่มีภัยคุกคาม เพียงแค่ใช้เวลา ก็สามารถครอบครองโลกได้ หอคอยกลไกสวรรค์ของเขา ก็จะไร้ประโยชน์
เพราะว่าเขาเชื่อมต่อโลกทั้งสอง มิใช่เพื่อมอบโอกาสให้โลกเซียนปฐพี
การที่โลกอินทนิลเร้นลับจะสามารถต้านทานโลกเซียนปฐพีได้ คงเป็นไปได้ยาก ตอนนี้ น้ำเต้าพิสุทธิ์และขนนกทมิฬยังคงบำเพ็ญเพียรอยู่ ต้องใช้เวลาสักพัก
กว่าที่พวกเขาจะออกมา บางทีโลกอินทนิลเร้นลับก็ไม่หลงเหลือแล้ว
ช่วงเวลานี้เขาต้องหาวิธีทำให้โลกเซียนปฐพีช้าลง
“ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาแล้ว”
หลี่อวิ๋นยืนนิ่ง เอ่ยสองคำ
“ฝังสวรรค์”
“ขอคารวะนายท่าน!”
เงาร่างที่กำยำ ปรากฏขึ้น สวมชุดคลุมสีม่วง สวมมงกุฎหยก รูปร่างสง่างาม ดวงตาของเขาไม่มีตาขาว มีเพียงสีดำสนิท ราวกับสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง
ทันทีที่ปรากฏตัวขึ้น เขาก็ประสานมือคำนับ ท่าทางเคารพอย่างยิ่ง
“ไม่จำเป็นต้องเรียกข้าว่านายท่าน เรียกเช่นเดียวกับคนอื่นก็พอแล้ว”
หลี่อวิ๋นโบกมือ
ในตอนนี้เขารู้สึกทึ่งในระบบอีกครั้ง มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ผู้นี้ กลับถูกบิดเบือนนิสัย ตอนนี้มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ แตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง
การเปลี่ยนแปลงของเขารุนแรงกว่าหลิงเซียวเสียอีก
แม้แต่ความทรงจำก็ยังคงถูกเปลี่ยนแปลง กลายเป็นเพียงคนธรรมดา
“ผู้น้อยฝังสวรรค์ ขอคารวะผู้อาวุโสเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์”
มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์กล่าว
“อืม”
หลี่อวิ๋นพยักหน้า มองมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์แวบหนึ่ง ยืนยันว่าบาดแผลของอีกฝ่ายหายดีแล้ว เขาก็พยักหน้าอีกครั้ง กล่าวว่า “ดูเหมือนว่า ช่วงเวลานี้เจ้าได้รับผลประโยชน์จากหอคอยกลไกสวรรค์ไม่น้อย”
“ทั้งหมดนี้ล้วนต้องขอบคุณผู้อาวุโสเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ที่เมตตาช่วยเหลือ”
มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์กล่าวด้วยความเคารพ
หอคอยกลไกสวรรค์แตกต่างจากโลกเงาโลหิต ที่นี่อยู่ภายนอกโลกทั้งหมื่น ไม่อยู่ภายใต้มรรคาสวรรค์ ตราบใดที่ตบะของเขาแข็งแกร่ง ย่อมสามารถทะลวงผ่านระดับใด ๆ ก็ได้
เขาเคยคิดจะทะลวงระดับเซียนแท้หลายครั้ง
แต่สุดท้ายเขาก็ระงับความคิดเอาไว้
เพราะว่าเขารู้ดีว่าการบรรลุระดับจักรพรรดิยังมีทัณฑ์มหาจักรพรรดิ การบรรลุระดับเซียนแท้ย่อมต้องมีทัณฑ์เซียน หากเขาถูกทัณฑ์เซียนโจมตี ในตอนนั้น หอคอยกลไกสวรรค์ เมืองต้าฮวง จะอยู่รอดหรือไม่
เขาไม่กังวลว่าทัณฑ์เซียนจะทำร้ายผู้อาวุโส
แต่เขากังวลว่าหากทัณฑ์เซียนทำร้ายดอกไม้ ต้นไม้ ผู้อาวุโสจะไม่พอใจเล่า
“ทั้งหมดนี้เป็นวาสนาของเจ้า”
หลี่อวิ๋นมองไปยังที่ไกล กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ในตอนนี้ เจ้ายังคงมีความคิดที่จะสังเวยโลกใบหนึ่งเพื่อสร้างรากฐานบรรลุระดับเซียนหรือไม่”
“ไม่มีขอรับ”
มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ตอบอย่างรวดเร็ว
เขารู้ดีว่าผู้อาวุโสเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ สามารถมองทะลุความคิดของเขา ในตอนนี้เขาไม่กล้าคิดสิ่งใด เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะลงมือสังหาร
“ดี” หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกล่าวอีกครั้ง “เจ้าสามารถจากไปได้แล้ว”
“ขอรับ”
มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์พยักหน้าเบา ๆ เขากำลังจะเดินออกไป แต่กลับหยุดก้าวเท้า ในใจรู้สึกไม่เชื่อหูตนเอง เมื่อครู่เขาได้ยินอะไร
สามารถจากไปได้แล้วหรือ?
เป็นเรื่องจริงหรือ?
แม้ความทรงจำของเขาจะถูกเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง แต่เขายังคงจำได้ว่า เหตุใดเขาถึงถูกจับตัวมาที่หอคอยกลไกสวรรค์ เขาไม่กล้าเชื่อว่าผู้อาวุโสเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้จะปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายเช่นนี้
ในความทรงจำของเขา หลังจากเขามาที่หอคอยกลไกสวรรค์ ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ไม่เคยได้รับความลำบาก ไม่เคยถูกทำร้าย ไม่เคยถูกทำโทษ
การที่อีกฝ่ายปล่อยเขาไปเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับความฝัน หลือเชื่อยิ่งนัก
“ผู้อาวุโสคิดจะปล่อยผู้น้อยไปจริง ๆ หรือ”
มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ถามอย่างแผ่วเบา
“ทำไมหรือ”
หลี่อวิ๋นหันกลับมา กล่าวอย่างขบขัน “เจ้าไม่อยากจากไปแล้วหรือ เช่นนั้นก็ดี ข้ากำลังต้องการคนเฝ้าประตู เช่นนั้นเจ้าอยู่ที่นี่ เริ่มจากวันนี้ เจ้าจงเฝ้าประตูที่หอคอยกลไกสวรรค์”
บุคคลที่อยู่ในลำดับที่หนึ่งของรายนามจักรพรรดิมาเฝ้าประตูหอคอยกลไกสวรรค์
คนที่อยู่ในรายนามจักรพรรดิ คนที่ยังไม่ได้อยู่ในรายนามจักรพรรดิ เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวนี้ คงสำรอกเลือดออกมา
การกระทำนี้ แม้จะไม่สร้างความเสียหาย แต่กลับทำให้ผู้คนรู้สึกอับอาย
“ผู้อาวุโสเข้าใจผิดแล้ว ข้าน้อยจะจากไปในทันที”
มหาจักรพรรดิฝังสวรรค์รีบคารวะ มองหลี่อวิ๋นอย่างลับ ๆ เมื่อเห็นผู้อาวุโสไม่มีท่าทีจะหยุดยั้ง เขาก็รีบออกจากหอคอยกลไกสวรรค์ในทันที
หลังจากที่เขาออกจากหอคอยกลไกสวรรค์ ร่างกายของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นแสงวาบหนึ่ง หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เวลาผ่านไปไม่นาน ทั่วทั้งโลกสวรรค์ก่อกำเนิดก็ไม่อาจสัมผัสถึงกลิ่นอายของเขา
ดูเหมือนว่าเขาจะมุ่งหน้าไปยังโลกอินทนิลเร้นลับ
สำหรับจุดหมายปลายทาง ก่อนที่เขาจะหยุดพัก ไม่มีใครรู้
“อีกไม่นาน คงจะมีเซียนแท้ปรากฏขึ้นอีกหนึ่งคน”
หลี่อวิ๋นมองส่งมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ เอ่ยอย่างแผ่วเบา
เซียนแท้หนึ่งคนปรากฏขึ้นย่อมต้องสร้างความปั่นป่วน เพราะเซียนแท้สูงสุดผู้นี้ต้องการดินแดน ต้องการลูกน้อง ไม่ว่ามหาจักรพรรดิฝังสวรรค์จะบรรลุระดับเซียนแท้ที่ใด
ในอนาคตคงต้องเผชิญหน้ากับโลกเซียนปฐพี
เพราะว่ามหาจักรพรรดิฝังสวรรค์ มิใช่บุคคลธรรมดา
แม้ความทรงจำจะเปลี่ยนไป แต่นิสัยยังคงอยู่ เมื่อครู่หลี่อวิ๋นเอ่ยถาม ก็เพื่อตรวจสอบความคิดที่แท้จริงของอีกฝ่าย ผลลัพธ์ที่ได้ ก็ไม่ต่างจากที่เขาคิด
ระบบนั้นเชื่อถือได้
หลังจากส่งมหาจักรพรรดิฝังสวรรค์จากไปแล้ว
หลี่อวิ๋นก็เดินกลับเข้าไปในหอคอยกลไกสวรรค์
ส่วนภายนอก ผู้คนมากมายยังคงยืนอยู่เบื้องล่างรายนามต่าง ๆ มองไปบนท้องฟ้า หลายคนมาที่นี่ทุกวัน เพื่อตรวจสอบว่ารายนามเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
การเปลี่ยนแปลงของรายนามนับว่าเป็นข่าวใหญ่
ยิ่งเป็นรายนามจักรพรรดิแล้ว การเปลี่ยนแปลง ยิ่งทำให้โลกหลายใบสั่นสะเทือน
คนที่อยู่ในรายนามจักรพรรดิ มิใช่บุคคลธรรมดา การหายไปของชื่อของพวกเขา หมายความว่าพวกเขาตายไปแล้ว
หรือมิเช่นนั้นก็คือบรรลุระดับเซียน
ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใด ผู้คนมากมาย ต่างก็ให้ความสนใจ
ในฝูงชน บุรุษผู้หนึ่ง สวมชุดคลุมสีขาวสง่างาม ไร้ซึ่งฝุ่นละออง ใบหน้าคมคาย มือข้างหนึ่งถือร่มสีฟ้าอ่อน ดูเหมือนเป็นเพียงคนธรรมดา
เพราะในโลกแห่งการบำเพ็ญมีคนรูปงามมากมาย
เพียงสิ่งเดียวที่แปลกประหลาดคือ ท้องฟ้าที่สดใส ปลอดโปร่ง เหตุใดเขาถึงต้องกางร่ม
ผู้คนมากมายมองดู แต่เมื่อหันกลับไป
กลับจำเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้ แม้แต่รูปร่างของบุรุษชุดขาว พวกเขาก็จำไม่ได้
ช่างแปลกประหลาด
บุคคลระดับศักดิ์สิทธิ์ท่านหนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติ แต่เขาไม่อาจบอกได้ว่าผิดปกติตรงไหน
ตอนนั้นเองเขาหันกลับไปมองบุรุษชุดขาวอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาเห็นเพียงเงาร่าง
บุรุษชุดขาวผู้นั้น กำลังเดินไปยังหอคอยกลไกสวรรค์ บนด้ามร่มของเขา ปรากฏตัวอักษรสองตัว
เคราะห์ธุลี!
“เคราะห์ธุลี?”
บุคคลระดับศักดิ์สิทธิ์ท่านนั้นตกตะลึง รู้สึกตัว รีบเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ไม่นานนักเขาก็พบคำว่า เคราะห์ธุลี ปรากฏอยู่บนรายนามอาวุธจักรพรรดิ
[ลำดับที่สิบเอ็ด: ร่มเคราะห์ธุลี โลกที่สังกัด: โลกเซียนปฐพี ผู้หลอมสร้าง: มหาจักรพรรดิไท่อี่ ผู้ครอบครอง: มหาจักรพรรดิไท่อี่]