ตอนที่ 69 ผู้ชายคนนั้นแซ่หลิว?(ตอนฟรี)
"เฉินหยาง นี่นาย... นายเป็นถึงเทพยุทธ์ในตำนานจริงๆ เหรอ?”
เจิ้งเยว่ถามอย่างตกตะลึง
เธอช็อกมาก เพราะเจินสงป้าเป็นถึงปรมาจารย์ขั้นที่ 2 เก่งกว่าเธอมาก แต่กลับโดนเฉินหยางตบจนกระเด็น!
“เทพยุทธ์?”
เฉินหยางพูด: “ถ้าเทพยุทธ์คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก งั้นฉันก็คือเทพยุทธ์ ฉันคือเทพยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด”
เฉินหยางหันหลังกลับจะเดินออกไป
เพราะเขาเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากฉินซานซุ่น บอกว่ารถเสี่ยวหมี่ของเขาซ่อมเสร็จแล้ว และจอดรอที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัย
เจิ้งเยว่รีบเดินตามไป
นี่มันเทพยุทธ์ชัดๆ!
จู่ๆ เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมลุงถึงให้เธอมาตามเขา
ฉินซานซุ่นยืนรออยู่ที่ลานจอดรถ พอเห็นเฉินหยาง เขาก็รีบเดินเข้าไปต้อนรับทันที
“เสี่ยวฉิน รถของฉันละ?”
เฉินหยางมองไปรอบๆ
“คุณเฉิน รถของท่านยังซ่อมอยู่ครับ” ฉินซานซุ่นไม่ถือสาที่เฉินหยางเรียกเขาแบบนั้นเลย
ให้เงินเขาตั้ง 2,000 ล้าน อย่าว่าแต่เสี่ยวฉินเลย
ถึงจะเรียก ‘หมาฉิน’ เขาก็ยอม
“แล้วทำไมถึงเรียกฉันมาที่นี่?” เฉินหยางพูดอย่างเอือมระอา
ฉินซานซุ่นรีบชี้ไปที่รถปอร์เช่ 'เทย์แคน เทอร์โบ จีที' สีน้ำเงินเข้ม คันข้างๆ
พอเห็นรถคันนั้น ดวงตาของเฉินหยางก็เป็นประกาย
ฉินซานซุ่นรีบพูด:“คุณเฉิน ผมรู้สึกว่ารถเสี่ยวหมี่มันไม่เหมาะกับท่าน เลยตัดสินใจซื้อปอร์เช่ให้ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเหมือนกัน”
“หวังว่าคุณเฉินคงจะไม่ว่าอะไรนะครับ”
เฉินหยางพยักหน้า “เสี่ยวฉิน นายนี่รอบคอบจริงๆ ฉันชอบมาก!”
เฉินหยางเดินไปที่รถทันที
“อาจารย์เฉิน พาฉันไปด้วย!”
เจิ้งเยว่รีบวิ่งตามขึ้นรถไป
เฉินหยางเหยียบคันเร่ง แล้วก็ขับรถออกจากลานจอดรถทันที
เขาวิ่งไปทั่วเมืองด้วยความเร็วสูง รู้สึกมีความสุขมาก
เจิ้งเยว่แอบเสียใจเล็กน้อย ไอ้บ้านี่ ขับรถบ้าบิ่นชะมัด!
ถ้ารถชนขึ้นมา ต่อให้เธอเป็นถึงยอดยุทธ์ขั้นที่ 3 ก็ตายอยู่ดี!
โชคดีที่เฉินหยางขับรถเก่งมาก เจิ้งเยว่รู้สึกว่าเขาเก่งกว่านักแข่งรถมืออาชีพซะอีก!
ตลอดทาง ไม่มีเฉียดชนแม้แต่ครั้งเดียว
เฉินหยางขับรถไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวว่ามาถึงที่พักของหยางซือจวินกับแม่ของเธอแล้ว
เฉินหยางนึกขึ้นได้: “ส่งหยางเหนียนจวินไปอยู่กับแม่ของเธอ ไม่รู้ว่าช่วงนี้จะเป็นยังไงบ้าง?”
“ไปดูหน่อยดีกว่า”
เฉินหยางจอดรถ เจิ้งเยว่รีบลงจากรถ เดินตามเขาไป
เฉินหยางมาถึงหน้าบ้านของหยางซือจวิน แล้วเคาะประตู
ไม่นาน กวนจินเฟิง แม่ของหยางซือจวินกับหยางเหนียนจวินก็เดินมาเปิดประตู
ดวงตาของกวนจินเฟิงแดงก่ำ บ่งบอกว่าช่วงนี้เธอคงจะร้องไห้หนักมาก
เฉินหยางถาม: “ลูกสาวสองคนของคุณละ?”
กวนจินเฟิงลังเล “ไป... ไปเรียนแล้วค่ะ”
“อ้อ งั้นเหรอ”
เฉินหยางพยักหน้า แล้วถาม: “ไม่เชิญฉันเข้าไปนั่งข้างในหน่อยเหรอ?”
“อ้อ!เชิญค่ะ คุณเฉิน เชิญ...เชิญนั่งข้างในก่อนค่ะ!”
กวนจินเฟิงรีบเชิญเฉินหยางกับเจิ้งเยว่เข้าไปในบ้าน แล้วก็รีบรินน้ำชาให้
ระหว่างนั้น เธอเอาแต่เช็ดน้ำตา
เฉินหยางพูด: “กวนจินเฟิง ลูกสาวของเธอหนีออกจากบ้านไปเหรอ?”
กวนจินเฟิงรีบโบกมือ “ไม่... ไม่ใช่ค่ะ”
เฉินหยางพูด: “แล้วทำไมเอาแต่ร้องไห้? น้ำตาตกใส่แก้วหมดแล้ว ฉันจะดื่มได้ยังไง?”
พอได้ยินแบบนั้น กวนจินเฟิงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
เธอร้องไห้โฮ แล้วคุกเข่าลงต่อหน้าเฉินหยาง:“คุณเฉิน ฉันขอร้อง ช่วยซือจวินกับเหนียนจวินด้วย!”
เฉินหยางขมวดคิ้ว “พวกเธอเป็นอะไร? ไม่ใช่ว่าไปเรียนแล้วเหรอ?”
กวนจินเฟิงร้องไห้: “ฉันโกหกคุณ ฉันส่งพวกเธอกลับไปตระกูลหยางแล้ว”
“ตระกูลหยาง? บ้านของหยางหย่งซิง?”
เฉินหยางขมวดคิ้ว “คนของหยางหย่งซิงตายไปแล้ว ยังส่งพวกเธอกลับไปอีก นี่เธอจะฆ่าพวกเธอหรือไง?”
“เธอเป็นแม่แท้ๆ ของพวกเธอรึเปล่าเนี่ย?”
กวนจินเฟิงรู้สึกเหมือนโดนเหยียบหาง ร้องไห้โฮ:“ฉัน... ฉันไม่ใช่แม่แท้ๆ ของพวกเธอ แต่... แต่ฉันก็เลี้ยงพวกเธอมากับมือ!”
เจิ้งเยว่ที่กำลังดื่มน้ำอยู่ข้างๆ ถึงกับพ่นน้ำออกมา
เฉินหยางเองก็ตกใจ “เธอไม่ใช่แม่แท้ๆ ของพวกเธอ? ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น?”
กวนจินเฟิงเช็ดน้ำตา แล้วเล่าความจริงออกมา
“จริงๆ แล้ว ฉันไม่ใช่แม่แท้ๆ ของซือจวินกับเหนียนจวิน หยางหย่งซิงก็ไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของพวกเธอ”
“จริงๆ แล้ว ฉันกับหยางหย่งซิงเป็นแค่คนรับใช้ของตระกูลหยาง”
“ตระกูลหยางเป็นถึงหนึ่งในแปดตระกูลจอมยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของมณฑลเสฉวน คนในตระกูลเยอะมาก!”
“ได้ยินมาว่าในตระกูลมีเทพยุทธ์ด้วย แถมยังมีมากกว่า 1 คน!”
“ตระกูลหยาง!ฉันรู้จักตระกูลนี้!”
เจิ้งเยว่รีบพูด
เฉินหยางมองเจิ้งเยว่ เจิ้งเยว่รีบอธิบาย:“ตระกูลหยางที่มณฑลเสฉวนโด่งดังมาก เพราะตระกูลนี้มีเทพยุทธ์ที่แข็งแกร่งมากชื่อ ‘หยางเซียนฉาน’!”
“ใช่ค่ะ! หยางเซียนฉาน! หยางเซียนฉานเป็นนายท่านของพวกเราค่ะ!”
กวนจินเฟิงรีบพูด
“อ้อ? แล้วทำไมซือจวินกับเหนียนจวินถึงมาอยู่กับเธอได้ล่ะ?” เฉินหยางถาม
กวนจินเฟิงพูด: “เพราะคุณหนูหยางอ้ายเหลียนตกหลุมรักกับครูหนุ่มจนตั้งท้อง”
“แต่คุณหนูเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่ มีคู่หมั้นอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้”
“เธอจึงแอบฝากลูกแฝดไว้กับฉันและยางหย่งซิง แล้วให้พวกเราออกจากตระกูลหยาง แอบเลี้ยงดูพวกเธออย่างลับๆ”
“ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณหนูหยางจะโอนเงินก้อนโตมาให้พวกเราเป็นระยะ”
“แล้วเธอก็จะแอบมาเยี่ยมลูกๆ”
“หยางหย่งซิง สามีของฉันก็เลยทำธุรกิจจนรุ่งเรือง”
“แต่เขามันโลภ อยากจะได้วิทยายุทธของตระกูลหยาง”
“แต่สามีฉัน ไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้เลย”
“คุณหนูหยางก็สอนวิทยายุทธให้ แต่เขาก็เรียนไม่รู้เรื่อง”
“คุณหนูหยางเห็นว่าเขาช่วยเลี้ยงลูกก็เลยหาวิธีเพิ่มพลังให้”
“แต่หลังจากนั้นไม่นาน คุณหนูหยางก็หายตัวไป ส่วนสามีของฉัน พอไม่ได้เงินจากคุณหนูหยางแล้ว ก็เริ่มเผยธาตุแท้ออกมา”
“ฉันเลยทะเลาะกับเขา ตอนนี้เลี้ยงลูกคนเดียวค่ะ”
เฉินหยางถึงบางอ้อ
“ฉันก็คิดว่าเธอรักสามีมากถึงได้ตั้งชื่อลูกว่าซือจวินกับเหนียนจวิน กลายเป็นว่าทั้งสองไม่ใช่ลูกเธอ!”
เจิ้งเยว่ถามขึ้นมาทันที: “แล้วพ่อของเด็กละ?”
เฉินหยางเองก็พูด:“คุณหนูของเธอรักผู้ชายคนนั้นมาก ถึงได้ตั้งชื่อลูกว่า ‘ซือจวิน’ กับ ‘เหนียนจวิน’ ทำไมเขาไม่เลี้ยงดูพวกเธอละ?”
กวนจินเฟิงเช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า:“อย่าไปพูดถึงไอ้คนแซ่หลิวเลย หลังจากที่คุณหนูท้อง เขาก็หายตัวไปเลย”
เจิ้งเยว่เบ้ปาก “ได้แล้วก็ไม่เห็นค่า ผู้ชายหลายคนก็แบบนี้แหละ พอได้เสียกันแล้วก็ชิ่งหนี”
“ใช่ค่ะ! พอนึกถึงเรื่องนี้ ฉันก็อยากจะฆ่ามัน แก้แค้นให้คุณหนู!” กวนจินเฟิงพูดอย่างเศร้าโศก
แต่จู่ๆ เฉินหยางก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาหรี่ตาลงแล้วถาม:“เมื่อกี้เธอว่าไงนะ? ผู้ชายคนนั้นแซ่หลิว?”