ตอนที่ 46 เตียวฉาน(ตอนฟรี)
“ที่แท้ พวกเจ้าก็เป็นนางกำนัลนี่เอง” ไป๋หลี่หมิงพูด และเดินมาหาหญิงชรา ตรวจดูบาดแผลที่ขา
“เส้นเลือดใหญ่ไม่ได้รับบาดเจ็บ น่าจะรอด” เขาพูดเบาๆ
“เรียนใต้เท้า ข้าเคยเป็นนางกำนัลของไทเฮา หลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ ข้าก็มาปรนนิบัติองค์หญิงแทน”พอเห็นไป๋หลี่หมิงเข้ามาใกล้ หญิงสาวก็ยังคงระแวดระวัง ส่วนหญิงชรารู้ว่าไป๋หลี่หมิงไม่ได้คิดร้าย จึงพูดอย่างอ่อนแรง
“นี่คือลูกสาวของข้า ฉานเอ๋อร์ นางเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกทิ้งในวัง ข้าเลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่นางก็ไม่ต่างจากลูกของข้า”
“ตั้งแต่องค์หญิงถูกตั๋งโต๊ะฆ่า ข้ากับลูกก็อาศัยอยู่ในวังนี้”
“ไม่คิดว่าโจรชั่วตั๋งโต๊ะจะยิ่งอหังการ เมื่อวาน มันพาทหารบุกเข้ามาในวัง”
“เพราะข้าไม่ยอม ข้าเลยถูกมันไล่ล่า โชคดี ลูกสาวข้ามีวิชาติดตัว ถึงได้พาข้ามาหลบภัยที่นี่”
“ท่าน ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากท่าทาง ท่านต้องเป็นคนดีแน่!” หญิงชราคว้าไป๋หลี่หมิงและอ้อนวอน
“ถ้าหากท่านช่วยลูกสาวข้า ข้าจะเป็นวัวเป็นม้าเพื่อตอบแทนท่าน!” หญิงสาวกอดแม่ไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย
พอเห็นแบบนี้ ไป๋หลี่หมิงก็ขมวดคิ้ว
เดิมที เขาแค่ต้องการราชลัญจกร แต่ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องวุ่นวายแบบนี้
เขาไม่คิดว่าศพหญิงในบ่อน้ำจะน่าสงสารขนาดนี้
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าในอนาคต หญิงสาวจะเป็นยังไง แต่นางต้องพบจุดจบที่เลวร้ายแน่
“ต้าหรง เจ้านำยาทำแผลกับผงห้ามเลือดมาด้วยไหม?” เขาหันไปถามซูเหมา
“เอามาหน่อยสิ!”
เขารู้ว่าขุนพลพวกนี้ เวลาออกรบ ต้องพกยาติดตัวไว้
ถึงแม้ว่าตอนนี้ เขาจะไม่ได้อยู่ที่สนามรบ แต่ซูเหมาต้องพกยาติดตัวแน่!
“ข้าพกมา!” ซูเหมาตอบ
จากนั้น เขาก็นำไหดินเผาขนาดเล็กออกมาจากเกราะ
“ถึงแม้ข้าจะไม่ใช่หมอ แต่ดูจากบาดแผล มันไม่ลึก เจ้าไม่น่าจะตายหรอก” ไป๋หลี่หมิงพูด
“ข้าจะห้ามเลือดให้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นๆ ค่อยคุยกัน”
พูดจบ เขาก็กระชากกระโปรงของหญิงชราออก เผยให้เห็นบาดแผล
“ทำอะไร!” หญิงสาวโกรธ
แต่พอพูดจบ นางก็โดนหญิงชราห้ามไว้ นางมองไป๋หลี่หมิง
“ในเมื่อท่านยอมช่วยข้า งั้นท่านคงตกลงกับเรื่องที่ข้าขอแล้วใช่ไหม?”
“ชีวิตข้าไม่สำคัญ แต่ข้าห่วงลูกสาวของข้า”
พูดจบ นางก็จะลุกขึ้นคำนับ
ไป๋หลี่หมิงรู้สึกประทับใจกับการกระทำของหญิงชรา เขารีบห้ามและพูด“ข้าตกลง อย่าขยับ ข้าจะห้ามเลือดให้เจ้า”
พอหญิงสาวเห็นว่าไป๋หลี่หมิงไม่ได้คิดร้ายกับแม่ นางก็รีบบอกแม่ “แม่ อย่าขยับนะ!”
พอได้ยินคำตกลง หญิงชราก็ยิ้ม ปล่อยให้ไป๋หลี่หมิงทำแผลให้
ไป๋หลี่หมิงไม่กล้ารีรอ รีบโรยยาลงบนแผล
จากนั้น เขาก็ตัดชายกระโปรงของนาง แปะลงบนแผล แล้วพันผ้าพันแผล
การกระทำของเขาทำให้หญิงชราหน้าซีดเพราะความเจ็บปวด
หญิงสาวมองไป๋หลี่หมิง สายตาจากที่เคยระแวดระวังก็เปลี่ยนเป็นขอบคุณ
ในที่สุด ไป๋หลี่หมิงก็พันผ้าพันแผลเสร็จ
“ต้าหรง ไปเรียกคนมา พาพวกนางกลับค่าย แล้วให้หมอตรวจดูอีกที” ไป๋หลี่หมิงเช็ดเหงื่อ
“ครับ!”
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าไป๋หลี่หมิงหมายความว่ายังไง แต่ซูเหมาเชื่อฟังคำสั่งและจากไป
พอเห็นซูเหมาหายไป หญิงชราก็โล่งใจและพยักหน้าให้ไป๋หลี่หมิง
“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตข้า!”
“ข้าขอฝากสิ่งนี้กับลูกสาวข้าไว้กับท่าน!” ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็ตัดสินใจ หยิบถุงผ้าที่คอขึ้นมา
“เก็บไว้ก่อนเถอะ ถ้าข้าต้องการ ข้าจะมาเอา” แต่ก่อนนางจะพูดจบ ไป๋หลี่หมิงก็ลุก
เขาจะไปตักน้ำล้างมือ แต่หญิงชรา พอเห็นสีหน้าเขาก็คิดว่าเขาไม่ชอบของ จึงรีบพูด
“สิ่งนี้เป็นสมบัติ ท่านไม่อยากดูเหรอ?”
นางเชื่อว่าพอไป๋หลี่หมิงเห็นราชลัญจกร ก็จะปกป้องพวกนาง
แต่ไป๋หลี่หมิงกลับหันหลังมาและยิ้ม
“ถ้าข้าไม่ดู คนอื่นก็ดูไม่ได้ เก็บไว้ให้ดี ถ้าหากเรื่องนี้รั่วไหลออกไป ข้าจะช่วยเจ้าไว้ทำไม?”
พูดจบ เขาก็เดินไปที่บ่อน้ำ
ที่เขาช่วยหญิงชราเพราะเขาสงสาร และอีกอย่างก็เพื่อปกป้องราชลัญจกร
มองดูหญิงชราและหญิงสาว หญิงชราน่าจะรู้ แต่หญิงสาวไม่รู้
ถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็ดูมันไม่ได้
ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ ราชลัญจกรก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
แต่พอได้ยินคำพูดนี้ หญิงชราก็ตกใจ
ส่วนหญิงสาวเห็นว่าแม่ถูกปฏิเสธ ก็อดบ่นไม่ได้
“ชายหนุ่มคนนี้ดูใจดี แต่กลับไม่รู้จักบุญคุณคน!”
“ฉานเอ๋อร์ หุบปาก!” หญิงชราดึงลูกสาว
“ไม่ว่าแม่จะทำอะไร ต่อไป เจ้าต้องปรนนิบัตินายท่านอย่างสุดใจ!”
นางมองไป๋หลี่หมิง ดวงตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง
ถึงแม้ว่านางจะไม่รู้ว่าไป๋หลี่หมิงรู้เรื่องราชลัญจกรไหม แต่นางรู้ว่านายท่านคนนี้ ไม่ธรรมดา!
มีแต่คนแบบนี้เท่านั้น ถึงจะปกป้องลูกสาวนางได้!
.....
ไม่นาน ซูเหมาก็นำทหารหลายสิบนายกลับมา และอุ้มหญิงชราขึ้น
“พาพวกนางกลับกระโจมข้า นอกจากหมอ ห้ามไม่ให้ใครแตะต้องหญิงชรา!” ไป๋หลี่หมิงรีบดึงซูเหมาไปข้างๆ
“เรื่องวันนี้ ห้ามบอกใคร เข้าใจไหม?”
ตอนนี้ ราชลัญจกรอยู่ในมือ เขาไม่อยากผิดพลาด
แต่พอซูเหมาได้ยิน ก็มองไป๋หลี่หมิงอย่างประหลาดใจ
พาไปกระโจมท่านกุนซือ?
แต่เขามองหญิงสาวในชุดวัง และพูดด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“ครับ ท่านกุนซือ วางใจเถอะ ข้าจะจัดการให้!”
ตอนนี้ ไป๋หลี่หมิงกำลังคิดถึงราชลัญจกร เขาเลยไม่เห็นสายตาแบบนั้น
“เจ้าเข้าใจก็ดี ทิ้งคนที่รู้ทางไว้สองคน พาคนอื่นกลับค่าย อย่าให้พวกนางถูกอ๋องคนอื่นเห็น!”
เขารู้ว่าตอนนี้ในเมืองวุ่นวาย พอเห็นนางกำนัล ทหารบางคนก็อาจจะก่อเรื่อง เขาจึงเตือนซูเหมาอีกครั้ง
หญิงคนนี้เกี่ยวข้องกับราชลัญจกร ต้องไม่ให้หลุดมือ!
“วางใจเถอะ ท่านกุนซือ ใครกล้าแตะต้องผู้หญิงที่ท่านกุนซือต้องการ พวกเราก็จะสู้ตาย!” ซูเหมาพูด
“ในเมื่อเจ้าเข้าใจ ข้าไปก่อนนะ!”
“รอเดี๋ยวก่อน คุณชาย!” พอไป๋หลี่หมิงก้าวออกจากวัง ก็มีเสียงหญิงสาวดังมาจากด้านหลัง
“มีอะไร?” เขาหันหลังกลับ
พอหันกลับมา เขาก็เห็นหญิงสาวกำลังโค้งคำนับ
“เมื่อครู่ ข้าเสียมารยาท ไม่เข้าใจความหวังดีของท่าน ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย!”
“เตียวฉานจะตอบแทนบุญคุณของท่านในชาตินี้!”
พูดจบ สีหน้าของนางก็แสดงความแน่วแน่
“ข้ารู้แล้ว ไม่เป็นไร” ไป๋หลี่หมิงยิ้ม
“ไปดูแลแม่ของเจ้าเถอะ!”
พูดจบ เขาก็หันหลังกลับ
ไม่ต้องตอบแทนบุญคุณหรอก แค่เก็บเรื่องราชลัญจกรเป็นความลับก็พอ
ส่วนแม่ลูกคู่นี้ อย่างมากเขาก็รับเลี้ยงไว้
ด้วยทรัพย์สินของเขา เขาสามารถเลี้ยงคนสองคนได้สบายๆ
หลังจากจัดการเรื่องราชลัญจกร เขาก็รู้สึกอารมณ์ดี
แต่ทันใดนั้น เขาก็หยุดกึก และหันกลับมา
เมื่อกี้ หญิงสาวเรียกตัวเองว่าอะไรนะ?
เตียวฉาน?
ปล.เตียวฉาน หรือก็คือเตียวเสียน แม่นางที่ลิโป้หลงหัวปักหัวปำจนถึงขั้นคิดฆ่าตั๋งโต๊ะนั่นเอง