ตอนที่ 299 เศรษฐีหมื่นล้านอย่างฉัน ช่างจนเสียจริง
ในจิตใต้สำนึกของพวกเขา กล่องเล็กๆ ที่ เย่เฉิน นำมานี้ซึ่งบรรจุแม่พันธุ์ต้าหงเผาจากภูเขาอู่อี๋ซาน ก็มากมายจนน่าเหลือเชื่อแล้ว
ชาแบบนี้ถูกคำนวณราคาตามกรัม เมื่อเทียบกับทองคำแล้ว ราคาของมันทำให้ทองคำกลายเป็นของราคาถูกไปเลย
แต่ตอนนี้ เย่เฉิน บอกว่าที่บ้านของเขายังมีอยู่บ้างอีก
ฟังให้ดี เขาบอกว่ายังมี ‘อยู่บ้าง’ อีก
นี่มันการอวดรวยแบบแนบเนียนสินะ
ไม่ใช่แค่ เฉียน ยวิ่นเจิ้ง เท่านั้นที่รู้สึกเช่นนี้ แม้แต่พ่อของ ซู หนิงซวง ก็ยังมอง เย่เฉิน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกคล้ายๆ กัน
ลูกเขยคนนี้ของเขานั้นดีทุกอย่าง ยกเว้นแต่…
เขาเคยเจอเศรษฐีที่ชอบอวดรวยมามากมาย แต่เมื่อเทียบกับ เย่เฉิน พวกเขาก็ดูเป็นคนธรรมดาไปหมด
เนื่องจากจะมีสักกี่อย่างในโลกที่สามารถเทียบกับแม่พันธุ์ต้าหงเผาจากภูเขาอู่อี๋ซานได้?
พ่อของ ซู หนิงซวง ก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเงียบๆ ในใจ เขาอยากจะโต้แย้งคำพูดของ เย่เฉิน แต่คิดไปคิดมา คำพูดของ เย่เฉิน ก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย
เขาแค่มีต้าหงเผาที่บ้าน ‘อยู่บ้าง’ เท่านั้นเอง
เขาผิดตรงไหนกัน?
ถ้าจะโทษ ก็คงต้องโทษที่ เย่เฉิน รวยเกินไป
ในขณะที่ตัวเองที่เป็นเศรษฐีหมื่นล้าน กลับช่างจนเสียจริง
แน่นอนว่าในความรู้สึก ‘ตัดพ้อ’ นั้น พ่อของ ซู หนิงซวง ก็ยังรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย
ไม่น่าผิดหวังเลยจริงๆ ที่เป็นอดีต ‘น้องชายที่ดี’ ของเขา เอ่อ... ตอนนี้เป็น ‘ลูกเขยที่ดี’ แล้ว มีของดีแบบนี้ก็ยังไม่ลืมนำมาให้เขา
การได้แม่พันธุ์ต้าหงเผาจากภูเขาอู่อี๋ซานมากล่องหนึ่ง ทำให้พ่อของ ซู หนิงซวง รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
เพื่อนเก่าๆ เหล่านั้นคงจะอิจฉาเขาจนตายเมื่อเห็นสิ่งนี้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นลุงก็จะรับไว้แล้วกัน”
พ่อของ ซู หนิงซวง จึงไม่ปฏิเสธอีกต่อไป และรับกล่องต้าหงเผาที่ เย่เฉิน นำมาให้ไว้
เมื่อเห็นภาพนี้ เฉียน ยวิ่นเจิ้ง ที่อยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยสายตาอิจฉา
ลูกเขยของ เหล่าซู ช่างใจดีกับเขาเสียจริง
ทำไมลูกเขยของเขาถึงไม่ได้เรื่องอย่างนี้?
ลูกเขยที่เขาเคยภาคภูมิใจ กลายเป็นเพียงแค่คนธรรมดาไปแล้วเมื่อเทียบกับ เย่เฉิน
หากมีโอกาส เขาคงต้องพูดคุยกับลูกเขยของเขาให้ดี
บอกให้เขาลองเรียนรู้จาก เย่เฉิน เสียบ้าง
ในห้องทำงานหรูหราแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้
“..อ้าชิ่ว!”
ลูกเขยของ เฉียน ยวิ่นเจิ้ง ที่กำลังทำงานอยู่ก็จามออกมาอย่างอดไม่ได้
“ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นขึ้นแล้ว เป็นหวัดหรือเปล่านะ?”
ลูกเขยของ เฉียน ยวิ่นเจิ้ง พึมพำเบาๆ โดยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
เขาไม่เคยคาดหวังว่าพ่อตาของเขาจะ ‘คิดถึง’ เขาอยู่แล้ว
“อึกอึก…”
ครั้งแรก และอาจเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เขาได้ลิ้มรสชาแม่พันธุ์ต้าหงเผาจากภูเขาอู่อี๋ซาน เฉียน ยวิ่นเจิ้ง จึงไม่กล้าทำมันหกแม้แต่สักหยดเดียว
เขาถือถ้วยชาเล็กๆ ด้วยสองมือ และค่อยๆ จิบทีละน้อย
หลังจากนั่งในห้องนั่งเล่นสักพัก เย่เฉิน ก็ลุกขึ้นไปหา ซู หนิงซวง
ในห้องนั่งเล่น จึงเหลือเพียงพ่อของ ซู หนิงซวง และเฉียน ยวิ่นเจิ้ง เท่านั้น
“เหล่าซู คุณโชคดีมากจริงๆ”
เฉียน ยวิ่นเจิ้ง พูดด้วยความอิจฉาอย่างยิ่ง
“ก็ธรรมดาๆ แหละ”
แม้ปากจะบอกว่าแค่ธรรมดาๆ แต่ใบหน้าของพ่อของ ซู หนิงซวง กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส
“ลูกเขยของคุณยอดเยี่ยมมากจริงๆ”
เฉียน ยวิ่นเจิ้ง พูดจากใจ
ถ้าเขามีลูกเขยแบบนี้ก็คงจะดีไม่น้อย แต่ก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้น
“จริงๆ แล้ว ลูกเขยของฉันก็แค่เก่งนิดหน่อย มีความรับผิดชอบนิดหน่อย ใจดีกับพวกเรานิดหน่อย มีความมุ่งมั่นนิดหน่อย…”
พ่อของ ซู หนิงซวง เริ่มพูดถึงข้อดีของ เย่เฉิน ทีละข้อ
ตอนแรก เฉียน ยวิ่นเจิ้ง ยังฟังด้วยความสนใจ
แต่ยิ่งเขาฟังมากเท่าไหร่ เฉียน ยวิ่นเจิ้ง ก็ยิ่งรู้สึกปวดหัวมากขึ้นเท่านั้น
นี่มัน ‘นิดหน่อย’ หรือเปล่า? มันชัดเจนว่า ‘มหาศาล’ ต่างหากเล่า!
แน่นอนว่าในขณะที่พ่อของ ซู หนิงซวง พูดอยู่นั้น เฉียน ยวิ่นเจิ้ง ก็ไม่ลืมที่จะเทชาดื่มให้ตัวเองอีกถ้วย
หลังจากสนทนากันสักพัก และดื่มชาเต็มท้องแล้ว เฉียน ยวิ่นเจิ้ง ก็จากไปด้วยความเสียดาย
ส่วนพ่อของ ซู หนิงซวง ก็หยิบกล่องชาต้าหงเผาขึ้นมา และเก็บมันไว้อย่างระมัดระวัง
หลังจากทานข้าวเย็นที่บ้านของ ซู หนิงซวง และใช้เวลาสักพัก เย่เฉิน ก็ขอตัวกลับ
เขายังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องทำ
นั่นคือการศึกษาเกมที่เขาเล่นอย่างรอบคอบ
วันนี้เป็นวันแรกที่มีการเพิ่มรางวัลสำหรับภารกิจท้าทายเป็นสองเท่า และยังได้รับรางวัลเพิ่มเติมอีกด้วย
เย่เฉิน ต้องการศึกษาดูว่ามีวิธีที่จะสามารถเพิ่มโอกาสนี้หรือไม่
เมื่อกลับถึงบ้าน เย่เฉิน ก็ใช้เวลาศึกษาเกมอยู่นาน
นี่คือหนึ่งในประโยชน์ของการอัปเกรดระดับของผู้เล่นถึง LV4
ทุกครั้งที่ทำภารกิจท้าทาย หากเขาทำได้ดี รางวัลจากเกมจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
โดยมีโอกาสประมาณ 10% ที่จะเกิดขึ้น
หากเขาอัปเกรดเป็น LV5 โอกาสนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
และเมื่อเขาอัปเกรดเป็น LV6 หรือ LV7 โอกาสที่จะได้รับสองรางวัล หรือมากกว่านั้นในการทำภารกิจท้าทายแต่ละครั้งก็จะสูงมากขึ้น
แน่นอนว่า คะแนนสะสม และคะแนนค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากภารกิจท้าทายแต่ละครั้งก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
ทุกครั้งที่ทำภารกิจท้าทายจะได้รับคะแนนสะสม และคะแนนค่าประสบการณ์เป็นรางวัล แต่เนื่องจากจำนวนไม่มาก เย่เฉิน จึงขี้เกียจนับ
เขาจะตรวจสอบคะแนนสะสมรวม และคะแนนค่าประสบการณ์รวมทุกๆ ระยะหนึ่งเท่านั้น
จนถึงตอนนี้ คะแนนค่าประสบการณ์ของ เย่เฉิน สำหรับการอัปเกรดเป็น LV5 ก็สะสมมาแล้วกว่าครึ่ง
เย่เฉิน เองกำลังรอคอยภารกิจท้าทายครั้งต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เฉิน หยิบกระเป๋าของเขาแล้วมุ่งหน้าไปยังมหาลัย
ช่วงพักระหว่างคาบเรียน เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของ เย่เฉิน กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่
“โห! แบล็คการ์ดมันเจ๋งขนาดนี้เลยเหรอ?”
เขาเผลอเลื่อนเจอข่าวหนึ่งที่พูดถึงความสุดยอดของบัตรแบล็คการ์ด
“แบล็คการ์ด มันก็ต้องเจ๋งอยู่แล้วสิ!”
“นายไม่เห็นในทีวีหรือไง พวกมหาเศรษฐีทั้งหลาย พอซื้ออะไรก็ใช้แบล็คการ์ดกันทั้งนั้น”
ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘แบล็คการ์ด’ เพื่อนร่วมชั้นทั้งชาย และหญิงหลายคนก็เข้ามารวมตัวกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเพื่อนร่วมชั้นหญิงที่เคยเห็นในละครทีวีว่าพวกประธานบริษัทผู้มั่งคั่งต่างก็ใช้แบล็คการ์ดกัน
“ครั้งล่าสุด ฉันเคยดูเรื่อง ‘ท่านประธานที่เอาแต่ใจตามตื๊อฉัน(霸道总裁黏上我)’ ในเรื่องนั้น ประธานกู้ ก็ใช้แบล็คการ์ด มันเหมือนมีวงเงินไม่จำกัดด้วยซ้ำ”
เพื่อนร่วมชั้นหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความอิจฉา
“วงเงินไม่จำกัด? เป็นไปได้ยังไง?”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ?”
“ของในละครเธอเชื่อจริงๆ นะเหรอ? เธอเคยเห็นแบล็คการ์ดจริงๆ ไหม?”
“เอ่อ ไม่เคย แล้วนายล่ะ?”
“ฉันก็...ไม่เคยเห็นเหมือนกัน”
เพื่อนร่วมชั้นรอบๆ ต่างส่ายศีรษะ แสดงว่าไม่เคยเห็นมาก่อน
ในตอนนั้นเอง เพื่อนร่วมชั้นชายคนแรกก็สังเกตเห็นว่า เย่เฉิน ที่นั่งดูโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างๆ จึงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาทันที
“เหล่าเย่ นายคงจะมีแบล็คการ์ดใช่ไหม?”
เขาถามด้วยความคาดหวังอย่างเต็มเปี่ยม
เหล่าเย่ เองเป็นมหาเศรษฐีตัวจริง ขนาดมีรถซุปเปอร์คาร์สุดหรูมูลค่าหลายสิบล้าน ดังนั้น.. ถ้าเขามีแบล็คการ์ดก็คงไม่แปลก จริงมั้ย?
“มีสิ”
เย่เฉิน ตอบ
“นายช่วยเอามาให้พวกเราดูหน่อยได้ไหม?”
“ใช่แล้ว ขอร้องล่ะ”
“ฉันเองก็อยากเห็นเหมือนกัน พี่ใหญ่ เย่”
ทันทีที่ได้ยิน เพื่อนร่วมชั้นทั้งชาย และหญิงเหล่านี้ก็เข้ามารวมตัวกันรอบๆ เย่เฉิน พร้อมกับทำสีหน้าอ้อนวอน
“อยากดูประเภทไหนล่ะ?”
เย่เฉิน ถาม
“แบล็คการ์ดยังมีประเภทอีกเหรอ? ฉันไม่รู้เลยนะ”
เพื่อนร่วมชั้นชายคนแรก ส่ายศีรษะ
พวกเขาต่างล้วนเป็นนักเรียนยากจน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าแบล็คการ์ดมีประเภทอะไรบ้าง
“โอเค”
เย่เฉิน ยักไหล่ แล้วหยิบบัตรแบล็คการ์ดใบแรกออกมาวางบนโต๊ะ
เมื่อเห็นแบล็คการ์ด พวกเพื่อนร่วมชั้นก็ถึงกับเบิกตากว้างขึ้น
ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่า เย่เฉิน ยังคงค้นหาอะไรบางอย่าง
เหล่าเย่ กำลังทำอะไรอยู่?
หรือว่าเขากำลังหาแบล็คการ์ดใบที่สอง?
เดี๋ยว เหล่าเย่ มีแบล็คการ์ดใบที่สองจริงๆ หรือ?