กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 355 บุคคลจากตำหนักหยกสุญตาหรือ
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 355 บุคคลจากตำหนักหยกสุญตาหรือ
“พวกเจ้ากำลังรอการสนับสนุนจากโลกเซียนปฐพีหรือ”
สัตว์โบราณขนาดใหญ่กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
เสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า
เบื้องหลังเขา ปรากฏอาวุธจักรพรรดิ พุ่งทะยานลงมา ทำให้ทั่วทั้งจักรวาลสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับกำลังจะแตกสลาย
“ตู้ม!”
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
กึ่งจักรพรรดิวัยกลางคนยื่นมือออกไปต้านทาน แม้จะสามารถต้านทานการโจมตีครั้งนี้ได้ แต่ก็ยังคงถูกกระแทกจนลอยถอยหลังไปหลายล้านลี้ ร่างกายของเขาอยู่กลางอากาศ กระอักเลือดออกมา ย้อมเสื้อผ้าเบื้องหน้าเป็นสีแดงฉาน
“ไม่ต้องเพ้อฝัน โลกอินทนิลเร้นลับแม้จะด้อยกว่าโลกเซียนปฐพี แต่ก็มิใช่สถานที่ที่พวกเจ้าสามารถทำลายได้ง่าย ๆ ส่วนบุคคลระดับเซียนแท้ของตำหนักหยกสุญตา พวกเขาคงไม่กล้าลงมือโดยพลการ”
สัตว์โบราณขนาดใหญ่มองอย่างเย็นชา กล่าวอย่างมั่นใจ
การหลอมรวมของสองโลก สำหรับสิ่งมีชีวิตในโลกอินทนิลเร้นลับนั้น ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ พวกเขาเคยพบเจอมาแล้ว
ส่วนโลกเซียนปฐพีนั้น เป็นครั้งแรก!
ยิ่งบุคคลแข็งแกร่งมากเท่าใด ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวต่อการดำรงอยู่ที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่า
หากไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด พวกเขาคงไม่กล้าก้าวเข้ามาในโลกอินทนิลเร้นลับ
ตราบใดที่เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ยังคงอยู่ การต่อสู้ครั้งนี้ จะถูกจำกัดอยู่ที่ระดับมหาจักรพรรดิ สงครามคงไม่ลุกลามไปถึงที่อื่น
เพราะว่าโลกอินทนิลเร้นลับก็มีไพ่ตายเช่นกัน!
มหาจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์ มหาจักรพรรดิขนนกทมิฬ ยังไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ ผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นเช่นไร ยากจะคาดเดา
“พวกเจ้ากำลังหาที่ตาย รู้หรือไม่ว่าการล่วงเกินตำหนักหยกสุญตามีจุดจบเช่นไร”
กึ่งจักรพรรดิวัยกลางคนกระอักเลือด เบื้องหลังเขา ปรากฏอาวุธจักรพรรดิ ส่องสว่างไปทั่ว รังสีอำนาจที่น่ากลัวยิ่งนัก แผ่กระจายออกไป กดทับทั่วห้วงมิติ
เพราะว่ามีอาวุธจักรพรรดิเล่มนี้ พวกเขาจึงสามารถหลบหนีการไล่ล่าของโลกอินทนิลเร้นลับได้
แต่ถึงกระนั้นบุคคลจากตำหนักหยกสุญตาที่ลงมาพร้อมกัน เกือบทั้งหมด ต่างก็สิ้นใจ
เหลือเพียงเขาและหยางเจี่ยน
“ขุมอำนาจในโลกเซียนปฐพียังไม่สามารถควบคุมโลกอินทนิลเร้นลับได้ มอบมรดกระดับเซียนแท้มาเสีย สละตบะของเจ้า ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า!”
กึ่งจักรพรรดิอีกคนหนึ่งก้าวออกมา ขวางเส้นทางของหยางเจี่ยนเอาไว้
สีหน้าของเขาเย็นชา ดวงตาคมกล้า ราวกับกระบี่สองเล่ม ปล่อยแสงเย็นยะเยียบ
“ข้าสามารถบอกพวกเจ้าได้ ข้าเพิ่งจะส่งข่าวไปยังตำหนักหยกสุญตาแล้ว คาดว่าไม่นานก็จะมีระดับมหาจักรพรรดิเดินทางมาถึง พวกเจ้ายังมีเวลา รีบหนีไปเสีย!”
กึ่งจักรพรรดิวัยกลางคนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ชื่อเสียงของตำหนักหยกสุญตาในโลกอินทนิลเร้นลับนั้นไม่อาจทำให้คนอื่นหวาดกลัวได้ เขาจึงต้องเอ่ยถึงระดับมหาจักรพรรดิ
ได้แต่หวังว่าระดับมหาจักรพรรดิแห่งตำหนักหยกสุญตา จะมาถึงโดยเร็ว
มิเช่นนั้น ด้วยพลังของเขาที่บาดเจ็บสาหัส การต้านทานระดับกึ่งจักรพรรดิสองคน มิใช่เรื่องง่าย
“จริงหรือ”
สัตว์โบราณขนาดใหญ่ก้าวเท้าไปข้างหน้า กลิ่นอายอันยิ่งใหญ่แผ่ออกไป เสียงดังกึกก้อง ดวงดาวนับหมื่นเบื้องบนศีรษะ ปรากฏรอยร้าว ก่อนจะแตกสลาย
ภาพเช่นนี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก เกิดขึ้นเพราะแรงกดดันจากกลิ่นอายของเขา
“โลกอินทนิลเร้นลับมิใช่สถานที่ที่พวกเจ้าจะเข้าออกได้ตามใจชอบ”
“หากสังหารข้า สำหรับพวกเจ้าแล้ว มีแต่ผลเสีย ไม่มีผลดี สู้ผูกมิตรกันจะดีกว่า ตำหนักหยกสุญตาของพวกเราจะไม่เป็นศัตรูกับพวกเจ้า”
หยางเจี่ยนกล่าวอย่างช้า ๆ น้ำเสียงสงบนิ่ง ราวกับสายน้ำ แม้จะเผชิญหน้ากับกึ่งจักรพรรดิสองคน เขาก็ยังคงสงบนิ่ง ไม่อาจมองเห็นความหวาดกลัว
เพราะว่าในตำหนักหยกสุญตา ระดับกึ่งจักรพรรดิมิได้นับว่าแข็งแกร่ง
เขาเคยพบเจอมากมาย
“จริงหรือ”
“เป็นศัตรูแล้วจะเป็นเช่นไร หลังจากสังหารเจ้า ได้รับมรดกระดับเซียนแท้ พวกเราก็สามารถบรรลุระดับมหาจักรพรรดิได้ เพียงแค่เข้าไปในเมืองต้าฮวงก็จะไม่มีใครสามารถทำร้ายพวกเราได้”
“ตำหนักหยกสุญตาของเจ้าจะทำอะไรพวกเราได้”
“รอจนพวกเราบรรลุระดับเซียน ใครจะอยู่ใครจะตาย ก็ยังไม่แน่นอน”
สัตว์โบราณขนาดใหญ่มองอย่างเย็นชา กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
ฉึก!
เขาลองมืออีกครั้ง ฝ่ามือของเขาราวกับดวงดาวหมุนเวียน จักรวาลแตกสลาย กลายเป็นการเปิดโลก
ภายในฝ่ามือราวกับมีจักรวาลใบหนึ่ง ซ่อนดวงดาวนับไม่ถ้วน ภูเขามากมาย หยางเจี่ยนกับกึ่งจักรพรรดิอีกคนหนึ่ง ถูกกดทับลงไป
ตู้ม
ในเวลาเดียวกัน
เบื้องหลังหยางเจี่ยน กึ่งจักรพรรดิอีกคนหนึ่งก็ลงมือเช่นกัน เขายกมือขึ้น ปล่อยแสงสว่างพุ่งทะลวงออกไป ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ฉีกขาดท้องฟ้าเป็นรอยแยกขนาดใหญ่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด รอยแยกนั้นก็ยังคงไม่อาจสมาน
“บุตรศักดิ์สิทธิ์ กึ่งจักรพรรดิสองคนนี้มิใช่คนธรรมดา เจ้ามีสมบัติป้องกันตัว หากมีโอกาส จงรีบจากไปเสีย เพียงแค่เจ้าเข้าไปในเมืองต้าฮวง รัศมีหนึ่งแสนลี้ ก็จะปลอดภัย!”
กึ่งจักรพรรดิวัยกลางคนส่งเสียงผ่านจิตสำนึก น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้าสร้อย ราวกับกำลังจะตาย
เขารู้ดีว่าวันนี้พวกเขาทั้งสองคนคงต้องตาย กึ่งจักรพรรดิสองคนนำอาวุธจักรพรรดิมาด้วย ต้องการสังหารพวกเขาให้สิ้นซาก
หากไม่ได้มรดกระดับเซียนแท้ พวกเขาคงไม่ยอมปล่อยมือ
เพียงแค่คนหนึ่งคนเสียสละชีวิต ยื้อเวลาเอาไว้ อีกคนหนึ่งจึงจะมีโอกาสรอดชีวิต
“ไม่”
หยางเจี่ยนเอ่ยขึ้น แต่เขายังพูดไม่จบกึ่งจักรพรรดิวัยกลางคนก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้า ร่างกายปล่อยแสงสว่างเจิดจ้า สายฟ้ามากมายรวมถึงเปลวเพลิงที่แผดเผาฟ้าดิน ปกคลุมลงมา
พื้นที่โดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้าและเปลวเพลิง!
เขายืนอยู่บนท้องฟ้า รังสีอำนาจพุ่งทะยานถึงขีดสุด กฎเกณฑ์แห่งมหามรรคปรากฏขึ้นมากมาย แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตกสายฟ้า พุ่งทะยานไปยังทุกสารทิศ ทำลายจักรวาลในฝ่ามือของสัตว์โบราณขนาดใหญ่จนแตกสลาย
จากนั้นเขาก็ต้านทานแสงเทวะของกึ่งจักรพรรดิอีกคนหนึ่ง ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ราวกับเป็นการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตาย ดินแดนดารานับไม่ถ้วน ต่างก็ถูกทำลายเพราะแรงกระแทกของทั้งสอง
“เจ้าเพียงแค่พยายามฝืนต้านทาน จะสามารถต้านทานได้นานเท่าใด”
สัตว์โบราณขนาดใหญ่คำราม
ผมสีขาวสะบัดพลิ้วไสว เส้นผมแต่ละเส้นเปล่งประกายเจิดจ้า ดวงตาของเขาล้ำลึก ราวกับดวงอาทิตย์ เขาร่ายมุทรา ต่อยออกไปกลางอากาศ
นี่คือกึ่งจักรพรรดิที่กำลังใช้พลังทั้งหมด!
ภาพเช่นนี้ ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
น่ากลัวยิ่งกว่าการเปิดโลก
มุทราตกลงมา ราวกับภูผาบรรพกาลจากแดนมาร ท้องฟ้าและพื้นดินแตกสลาย ดวงดาวนับไม่ถ้วนพังทลาย ทุกอย่างราวกับวันโลกาวินาศ เวลาหยุดลง
การโจมตีครั้งนี้ แม้กึ่งจักรพรรดิวัยกลางคนจะสามารถต้านทานได้ แต่คาดว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจลงมือได้อีก
ในขณะที่มุทราลังจะกดทับลงมา
เวลาพลันหยุดลง ฝ่ามือขนาดใหญ่มากปรากฏขึ้นจากสุดขอบฟ้า ไร้ขอบเขต ราวกับฝ่ามือของสวรรค์ ยกมุทราขึ้น จากนั้นนิ้วทั้งห้ากำแน่น
ตู้ม!
มุทรานั้นแตกสลายกลายเป็นผุยผง
“ใคร”
สัตว์โบราณขนาดใหญ่สีหน้าเปลี่ยนไป เขากระโดดขึ้นฟ้า กล่าวอย่างเย็นชา
“ตำหนักหยกสุญตา หวงอวิ๋น!”
น้ำเสียงแผ่วเบาดังขึ้น ทั่วทั้งโลกสั่นสะเทือน
ที่ไกลโพ้นปรากฏกวางขาวบริสุทธิ์ ไร้ซึ่งมลทิน ร่างกายเปล่งประกายดุจผ้าไหม ดวงวิญญาณส่องสว่าง มันแบกชายผู้หนึ่งที่สวมมงกุฎหยก เดินบนท้องฟ้า
ชายผู้นั้นมีใบหน้าเลือนราง กลิ่นอายราวกับภูเขายักษ์ รอบกายเขาราวกับมีสายธารแห่งกาลเวลาไหลเวียน มิติบิดเบี้ยว ราวกับกำลังแบกโลกใบนี้ไว้พร้อมที่จะเปิดโลกอีกครั้ง!
“บุคคลจากตำหนักหยกสุญตาหรือ”
กึ่งจักรพรรดิจากโลกอินทนิลเร้นลับทั้งสอง ดวงตาหดเล็กลง ในใจพลันเย็นเฉียบ
เป็นไปไม่ได้!
จักรพรรดินียมโลกแห่งโลกเซียนปฐพีไม่ได้กำลังต่อสู้กับมหาจักรพรรดิมรกตร่วงโรยหรอกหรือ
บุคคลจากตำหนักหยกสุญตาผู้นี้จะสามารถเดินทางผ่านสนามรบในโลกอินทนิลเร้นลับ มาถึงจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกอินทนิลเร้นลับกับโลกสวรรค์ก่อกำเนิดได้อย่างไร
นี่เท่ากับว่าเขาเดินทางผ่านโลกอินทนิลเร้นลับมาแล้ว!
เขาไม่น่าจะทำได้โดยไม่ถูกระดับมหาจักรพรรดิแห่งโลกอินทนิลเร้นลับพบเห็น!