ตอนที่ 45: ภูตผีชั่วร้ายไช่หลาน
ตอนที่ 45: ภูตผีชั่วร้ายไช่หลาน
“ขอบคุณศิษย์พี่ถาน ไช่หลานกำลังร่อนเร่อยู่รอบหมู่บ้านเริ่นเจียโดยไม่ทำร้ายชาวบ้านหรือพยายามเคลื่อนกายหยาบออกไป ข้าเกรงว่ายังมีคนหรือสิ่งของในหมู่บ้านเริ่นเจียที่ทำให้ยังไม่เต็มใจที่จากไป” หวังฝูพยักหน้า “บังเอิญว่าข้าวาดยันต์ชักนำภูตผีเสร็จเมื่อคืนพอดี ข้าสามารถลองคืนนี้เพื่อดูว่าสามารถล่อมันได้หรือไม่”
“รีบทำภารกิจให้เสร็จโดยไวแล้วกลับสำนักเร็วที่สุดกันเถอะ”
“รบกวนศิษย์น้องหวังแล้ว” ถานซานหยวนยืนขึ้นแล้วโค้งคำนับ
หวังฝูกับต่งซินออกจากห้องไป
หลังจากพวกเขาออกไปแล้ว ร่างหนึ่งจึงปรากฏออกมาจากห้อง ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซุนเลี่ยง
“เหอะเหอะ… สองคนนี้อยากทำร้ายข้า พวกเขาถึงขั้นอยากรายงานให้โถงพิทักษ์กฎทราบ บรรพชนซุนเฉียนแห่งตระกูลซุนของข้าเป็นหัวหน้าเพียงหนึ่งเดียวของโถงพิทักษ์กฎ” ซุนเลี่ยงมองประตูด้วยความเหยียดหยัน จากนั้นจึงเอ่ยคำกับถานซานหยวน “ถานซานหยวนเล่าคิดเห็นเช่นไร เจ้าอยากจะเลือกทางไหน?”
เมื่อเห็นถานซานหยวนเงียบ ซุนเลี่ยงจึงเอ่ยคำต่อ “เจ้าต้องคิดให้ถ้วนถี่ ต่อให้สุดท้ายเรื่องนี้ถูกรายงานกับโถงพิทักษ์กฎหรือแม้แต่กับเจ้าสำนักจริง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับข้า อย่างมากสุดข้าเพียงถูกบรรพชนจับขังสักพักเท่านั้น”
“มันก็แค่การกักขังเท่านั้น สักวันก็ต้องได้ออกมา…”
“แต่เนื่องจากข้าเป็นคนไม่อยู่นิ่งและไม่อยากอยู่ที่เดิมตลอดเวลา ไม่งั้นต่อให้ถูกขังไปก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว”
“เจ้าอยากให้ทำอะไร?” ถานซานหยวนหลับตาพลางสูดหายใจเข้า จากนั้นค่อยลืมตาขึ้นพร้อมกับสิ่งที่ตัดสินใจจะทำหลังจากนั้น
“แน่นอนว่าบอกให้พวกเขาเงียบปากเสีย” ซุนเลี่ยงยิ้มกว้าง
ถานซานหยวนหรี่ตา “การฆ่าศิษย์ด้วยกันเป็นอาชญากรรมร้ายแรง”
ตอนนี้ถึงเวลาต่อรองแล้ว เจ้าอยากให้ข้าช่วยไม่ใช่หรือ? ก็ได้ ลองบอกราคาที่ทำให้ข้าถูกใจมาสิ
“ฮ่าฮ่า... ถานซานหยวนหนอถานซานหยวน ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเป็นคนโหดเหี้ยมขนาดนั้น เจ้าพูดเรื่องฆ่าศิษย์ด้วยกันได้อย่างหน้าตาเฉย แต่ข้าชอบนะ” ซุนเลี่ยงหัวเราะ “ไม่ต้องห่วง ไม่ว่าอาชญากรรมจะร้ายแรงแค่ไหน ขอเพียงไม่ถูกค้นพบก็พอแล้ว รางวัลที่ข้าจะให้เจ้าสุดที่จะจินตนาการได้”
“เริ่มจากอาวุธวิเศษขั้นสูงสุดหนึ่งชิ้นสำหรับเจ้าก่อนแล้วกัน หลังจากเสร็จสิ้นแล้ว ข้าจะมอบให้อีกชิ้นคู่กับ… ยาเม็ดสร้างรากฐาน”
“ยาเม็ดสร้างรากฐาน” ลูกตาของถานซานหยวนหดลง จากนั้นพยักหน้าแล้วเอ่ยคำเสียงต่ำ “ก็ได้ หวังฝูจะใช้ยันต์ชักนำภูตผีเพื่อล่อไช่หลานออกมาในคืนนี้ จากนั้นค่อยใช้ภูตผีชั่วร้ายเพื่อสังหารทั้งสอง”
“ตายด้วยน้ำมือของภูตผีชั่วร้าย… เข้าท่าดี”
ซุนเลี่ยงปรบมือ
…
…
คืนนั้น
ที่หลุมศพรวม พวกหวังฝูทั้งสามต่างมารวมตัวที่นี่อีกครั้ง
“ขอบคุณศิษย์น้องหวัง” ถานซานหยวนมองหวังฝู
หวังฝูแย้มยิ้มพลางสะบัดฝ่ามือ แล้วยันต์ใบหนึ่งจึงปรากฏขึ้นที่มือขณะพลังวิญญาณกลุ่มหนึ่งถูกถ่ายทอดเข้าไป หวังฝูนำยันต์แตะกับริมฝีปากพร้อมกับที่ปากขยับเล็กน้อยเพื่อท่องคำพูดบางส่วนที่ไม่มีใครได้ยิน จากนั้นยันต์จึงลอยออกไปแปะกับร่างของไช่หลานก่อนจะกลายเป็นกลุ่มควันสีดำแล้วหายไป
เกิดความเงียบสงัดรอบข้าง ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
“เรียบร้อยแล้วหรือ?” ต่งซินเกิดความสงสัย
“ไม่แน่ใจ ยันต์ชักนำภูตผีเพียงใช้ดึงดูดภูตผีเท่านั้น ส่วนจะสามารถดึงดูดไช่หลานผู้กลายเป็นภูตผีชั่วร้ายได้หรือไม่นั้นอยู่ที่โชค รอดูก่อน อย่างมากต้องใช้เวลาสิบห้านาทีถึงจะเห็นผล” หวังฝูไม่อธิบายเพิ่มเติม
ถานซานหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะทำได้เพียงรอเท่านั้น
หลังจากผ่านไปสิบห้านาทีก็ยังไม่มีภูตผีปรากฏในหลุมศพรวม
“ศิษย์พี่ แบบนี้คือล้มเหลวหรือ?” ต่งซินป้องปากขณะหยอกล้อ
“แค่กแค่ก…” หวังฝูไอแห้งและกำลังจะอธิบาย แต่แล้วเสียงคำรามดังสนั่นมาจากทางตะวันออกของหมู่บ้านเริ่นเจีย ตามมาด้วยปราณภูตผีทรงพลังที่ระเบิดออกมาจากทิศทางนั้น
ดวงตาของเขาทอประกายด้วยความยินดีเมื่อทราบว่ามันได้ผล
แม้ยันต์ชักนำภูตผีจะไม่มีพลังในการสังหารภูตผี แต่มันสามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยากบอกให้ลอยเข้าหูของภูตผีได้ หวังฝูนำยันต์ชักนำภูตผีแตะปากแล้วบอกว่า: โคมพุทธคุณสิ้นแสงแล้ว เริ่นหล่างสามารถตายได้
“ดูท่าว่าภูตผีชั่วร้ายตนนี้จะฉลาดไม่เบา” ถานซานหยวนพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “ไป!”
ทั้งสามควบคุมอาวุธวิเศษแล้วบินไปทางตะวันออกของหมู่บ้านด้วยความเร็วสูงสุด
เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ก็เห็นกลิ่นอายภูตผีแผ่กระจายไปรอบข้างขณะปกคลุมพื้นที่ภายในรัศมีหนึ่งน้อยเมตร บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเริ่นต้าเวยหายไป เหลือไว้เพียงหลุมลึกขนาดใหญ่เท่านั้น หลุมลึกคือสถานที่ซ่อนตัวของเริ่นหล่าง แต่มันทรุดโทรมและพังทลายไปมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้า
เริ่นต้าเวยกับภรรยานอนอยู่ในหลุมลึก ไม่ทราบได้ว่าเป็นหรือตาย ส่วนเริ่นหล่างถูกบีบคอโดยมือของภูตผีชั่วร้ายที่ถูกห้อมล้อมด้วยอากาศสีดำขณะชีวิตกำลังจางหายอย่างรวดเร็ว
“เจ้าภูตผีโอหัง ยังไม่หยุดมืออีก”
ก่อนถานซานหยวนจะเข้าถึงตัว อาวุธวิเศษก็เข้าประชิดก่อนแล้ว มันพุ่งลงมาจากท้องนภาแล้วแทงเข้าใส่ภูตผีชั่วร้าย ทว่าภูตผีคล้ายกับมองไม่เห็น แล้วปราณภูตผีจำนวนมากจึงถูกกระตุ้นก่อนจะสังหารเริ่นหล่างในมือทันที เหลือไว้เพียงซากศพแห้งก่อนถูกโยนลงไปในหลุมลึก
หลังจากทำทั้งหมดนี้ อาวุธวิเศษของถานซานหยวนก็เข้ามาอยู่ภายในระยะแล้ว แต่ภูตผีเพียงยื่นมือขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายภูตผีออกไปอีกข้างเพื่อคว้ามันไว้อย่างนุ่มนวล แล้วอาวุธวิเศษจึงไม่อาจเคลื่อนไปข้างหน้าได้อีก ไม่ว่าถานซานหยวนจะกระตุ้นแค่ไหน มันก็ทำได้เพียงสั่นไหวเท่านั้น
“ใครขวางข้าต้องตาย”
เสียงผู้หญิงดังมาจากกลิ่นอายภูตผีเข้มข้น จากนั้นใบหน้าภูตผีขนาดใหญ่จึงพุ่งเข้าใส่ถานซานหยวน
แสงดาบพุ่งลงมาจากท้องนภา แล้วถานซานหยวนจึงถืออาวุธวิเศษดาบยาวเอาไว้ก่อนจะผ่าใบหน้าภูตผีด้วยดาบออกเพื่อเผยให้เห็นร่างบางอย่าง
จากนั้นหวังฝูมองดาบยาวในมือของอีกฝ่ายที่กำลังส่องแสงเลือนรางออกมา แล้วดวงตาของเขาจึงทอประกายด้วยความอิจฉา
“อาวุธวิเศษขั้นสูงสุด”
แต่ทันทีที่เหลือบมอง เสียงของถานซานหยวนจึงดังขึ้น “ศิษย์น้องหวัง ศิษย์น้องหญิงต่ง ภูตผีชั่วร้ายตนนี้แข็งแกร่งกว่าเมื่อหลายวันก่อนด้วยเหตุผลบางอย่าง ตอนนี้มันอาจจะเทียบเท่าผู้ฝึกตนขอบเขตกลั่นลมปราณระดับสิบสาม มาร่วมมือกันฆ่ามัน”
หวังฝูหันสายตาไปมองภูตผีสาวด้วยความประหลาดใจเช่นกัน แม้จะไม่เคยต่อสู้กับภูตผีชั่วร้ายที่เป็นร่างแปลงของไช่หลาน แต่ก็เคยมองเห็นในระยะใกล้ ในตอนนั้นพละกำลังของอีกฝ่ายเทียบเท่าผู้ฝึกตนขอบเขตกลั่นลมปราณระดับสิบเป็นอย่างมาก แล้วเหตุใดนางถึงแข็งแกร่งขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วันกัน?
หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายของยันต์ชักนำภูตผี หวังฝูคงตั้งข้อสังเกตแล้วว่าภูตผีชั่วร้ายตรงหน้าใช่ไช่หลานหรือไม่
“มัวรออะไรอยู่? มันฆ่ามนุษย์ต่อหน้าพวกเรา ไม่มีเหตุผลต้องไว้ชีวิตแล้ว” ถานซานหยวนอัญเชิญอาวุธวิเศษขั้นสูงสุดซึ่งเป็นดาบยาวออกมาก่อนจะโจมตีไช่หลาน
“ศิษย์พี่ ลุยกันเถอะ ข้าคิดว่าความเมตตาในใจดวงตาของไช่หลานหายไปแล้ว มีเพียงการทำลายเท่านั้นที่จะทำให้พวกเราปกป้องความปลอดภัยของหมู่บ้านเริ่นเจียได้” ต่งซินเป็นคนเด็ดขาดเช่นกัน เมื่อเห็นว่าทุกอย่างดูไม่สู้ดีก็ทำการลงมือทันที
อาวุธวิเศษที่นางนำออกมาคืออาวุธวิเศษรูปทรงปิ่นปักผม มันเหมือนกับอาวุธวิเศษดาบยาวของถานซานหยวนตรงที่เป็นอาวุธวิเศษขั้นสูงสุด
“อาวุธวิเศษขั้นสูงสุดไร้ค่าขนาดนั้นเชียวหรือ? ทุกคนต่างมีหนึ่งชิ้นหมดหรือไง?” หวังฝูพึมพำด้วยความอิจฉา
กรวยมังกรปฐพีถูกนำออกมาเพื่อโจมตีภูตผีชั่วร้ายไช่หลานร่วมกับอาวุธวิเศษขั้นสูงสุดสองชิ้น
“กรี้ด…”
เสียงคำรามแหลมดังออกจากปากของไช่หลาน แล้วร่างที่ดูจับต้องไม่ได้ถึงกับเป็นกลุ่มก้อนเล็กน้อย ภูตเพียงหนึ่งตนปะทะยอดผู้ฝึกตนทั้งสาม ต่อให้เป็นอาวุธวิเศษขั้นสูงสุดสองชิ้นเข้ามาโจมตีก็ไม่สามารถเอาชนะได้ชั่วขณะอันเป็นผลมาจากกลิ่นอายภูตผีทรงพลัง
“พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย”
เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง เส้นผมสีดำที่อยู่ด้านหลังภูตผีชั่วร้ายไช่หลานจึงยาวขึ้นถึงสิบจั้งอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายภูตผีมหาศาลยิ่งน่าสะพรึงและเข้มข้นมากขึ้น ดวงตาของนางถูกปกคลุมด้วยความมืดประหนึ่งหุบเหวขณะจับจ้องพวกหวังฝูทั้งสามด้วยจิตสังหาร
หอกสามเล่มซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายภูตผีปรากฏขึ้นตรงหน้าทั้งสามในพริบตา