ตอนที่แล้วตกที่นั่งลำบาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน

วิกฤต


ซ่งชิงเสี่ยวคิดอยู่ตลอดว่าทำไมคุณหมอหมายเลขสี่ ถึงไม่ยอมฆ่าหญิงสาวพนักงานออฟฟิศหมายเลขสอง

จนกระทั่งชายร่างใหญ่หมายเลขเจ็ดตาย ปริศนานี้ถึงถูกคลี่คลาย

วินาทีที่เกมเริ่มต้นขึ้น เดิมทีซ่งชิงเสี่ยวเคยคิดว่าคุณหมอกับชายร่างใหญ่เป็นคนที่จัดการได้ยากที่สุด แต่เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ สถานการณ์ก็เริ่มเฉลยปมของมันเอง ถึงแม้ว่าในด้านสติปัญญาแน่นอนว่าคุณหมอไม่เป็นรองใครก็จริง แต่เกมนี้ไม่ได้ทดสอบแค่สติปัญญาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพละกำลังและเรี่ยวแรงด้วยเหมือนกัน

หากคุณหมอพลั้งมือฆ่าหญิงสาวพนักงานออฟฟิศหมายเลขสองไป แต่เมื่อต้องเผชิญกับหมายเลข 7 ซึ่ง ๆ หน้าโอกาสที่จะชนะอีกฝ่ายได้ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน

หรือต่อให้ถึงแม้ว่าจะดวงดีสามารถฆ่าหมายเลข 7 ได้สำเร็จ แต่ก็ต้องทำให้เขาได้รับบาดเจ็บจากการแลกชีวิตไปไม่น้อยเช่นกัน ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ โอกาสที่จะมีชีวิตรอดหลังจากได้รับบาดเจ็บนั้นน้อยแค่ไหนทุกคนก็รู้ หยูกยาก็ไม่มีสักอย่าง หากภายหลังพลาดไปเจอผู้รอดชีวิตจากทีมๆ อื่นเข้า ไม่กลายเป็นว่าสุดท้ายตัวเองก็ต้องตายอยู่ดีเหรอ

ดังนั้น หากทั้งสองคนร่วมมือกัน ถึงจะแค่เป็นเวลาชั่วคราวก็คงจะดีกว่าหัวเดียวกระเทียมลีบ โอกาสในการอยู่รอดก็จะเพิ่มขึ้นมาก

สิ่งที่หมอบอกมาก่อนหน้านี้ ไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครอยากเชื่อ

การที่เขาพูดว่า จำเป็นต้องฆ่าหมายเลขเจ็ดเพราะเป็นการป้องกันตัว ล้วนแต่เป็นเรื่องไร้สาระ คำพูดของเขานั้นขัดแย้งกับการกระทำตัวเองอย่างสุดโต่ง ไม่อยากฆ่าใครแต่กลับเป็นฝ่ายมาหาซ่งชิงเสี่ยวเองถึงโรงงานร้างเนี่ยนะ?

แต่หญิงสาวพนักงานออฟฟิศหมายเลขสองอาจจะยังไม่ตระหนักถึงอันตรายนี้ ดังนั้น ถึงแม้เธอจะไม่ใช่หญิงสาวแบบหมายเลขหนึ่งที่ยังไร้เดียงสาและเหมือนผ้าขาวบริสุทธิ์ และไม่เหมือนหญิงสาวชุดเดรสสีแดงหมายเลขแปดที่ถึงจะรูปสวยแต่ไร้สมอง แต่ก็ยังตัดสินใจร่วมมือกับคุณหมอ ซึ่งเหตุผลเดียวก็น่าจะเป็นเพราะว่าหากเธอต่อสู้กันเองกับคุณหมอ แล้วสุดท้ายคนที่เหลือรอดชีวิตจากทีมอื่นๆ อย่างซ่งชิงเสี่ยว ก็อาจจะชุบมือเปิบกลายเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดไปแทนนั่นเอง

เฮ้อ! การจะจัดการกับผู้หญิงเล่ห์เหลี่ยมประเภทนี้ ถ้าเหตุผลไม่หนักแน่นพอ ก็คงไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจได้ เว้นแต่เหตุผลที่หยิบยกมาจะน่าเชื่อถือมากกว่านี้อีก

ซ่งชิงเสี่ยวกลืนน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำเล่า บังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ และข่มกลั้นความเจ็บปวดจากบาดแผลตามร่างกายต่างๆ

ตัวเธอเองเพิ่งจะถูกโยนออกจากถังเมื่อครู่จนได้รับบาดเจ็บ ทำให้ความสามารถในการขยับเขยื้อนร่างกายเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น บวกกับความหิวโหยและความเหนื่อยล้าอีก การแช่อยู่ในน้ำเน่าเสียในถังเป็นเวลานาน รวมถึงความกลัวที่ทำให้เหงื่อออกไม่หยุดจนอ่อนเพลียมากขึ้น ตอนนี้เรียกได้ว่า การที่เธอยังสามารถยืนได้ก็เป็นเพราะอาศัยความอดทนล้วนๆ

หากจะบอกว่าการบาดเจ็บนี้ไม่ถือเป็นการเสียเปรียบมากนัก เนื่องจากอีกฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับชายร่างใหญ่หมายเลขเจ็ดเช่นกัน แต่ต้องบอกก่อนว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเหล่านั้นไม่ได้ดูส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายพวกเขาเลย แต่สิ่งที่น่าจับตาเป็นพิเศษมากกว่านั้นกลับคือ ถึงแม้ร่างกายพวกเขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากบาดแผลเท่าไหร่นัก แต่ซ่งชิงเสี่ยวคิดว่าอย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนก็น่าจะอดอยากอาหารและเหนื่อยล้ามากพอดู สถานการณ์น่าจะคล้ายกับเธอไม่มากก็น้อย แต่ถึงอย่างไรคนหนึ่งก็เป็นผู้ชายอยู่ดี ขณะที่หญิงสาวอีกคนเมื่อเทียบกับรูปร่างที่ผอมบางของเธอแล้ว แน่นอนว่าเธอก็ยังเสียเปรียบกว่ามาก

"หมายเลขสอง คุณลองหันไปมองรอบๆ ตอนนี้ดูดีๆ ในพื้นที่ทั้งหมดตอนนี้เหลือแค่เราสามคนแล้วนะคะ”

ซ่งชิงเสี่ยวไตร่ตรองก่อนจะพูด เธอหวาดกลัวว่าถ้าพูดผิดพลาดไปแม้แต่คำเดียว อาจกลายเป็นเธอที่ต้องพบจุดจบเสียเอง

ในขณะที่พูด คุณหมอกับหญิงสาวพนักงานออฟฟิศก็เดินเข้ามาทางเธอเรื่อยๆ  ระยะห่างระหว่างทั้งสามคนใกล้เข้ามามากขึ้นทีละนิด การที่เธอจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีในตอนนี้ ไม่ใช่การตัดสินใจที่ชาญฉลาดเลย

ซ่งชิงเสี่ยวใจร้อนเหมือนไฟเผา เธอพยายามเอื้อมมือไปคว้ามีดที่ซ่อนไว้อยู่หลายครั้ง แต่เธอก็รีบข่มมันเอาไว้

เพราะหากเธอชักมีดออกมา แม้ว่าจะทำให้คุณหมอกับหญิงสาวพนักงานออฟฟิศตกใจกลัวก็จริง แต่ในทางกลับกันสถานการณ์ที่เธอมีอาวุธแบบนี้ ย่อมต้องกลายเป็นบุคคลอันตรายในสายตาของคนทั้งสองอย่างแน่นอน และสุดท้ายก็จะกลายเป็นบังคับให้ทั้งสองคนนี้สามัคคีกันมากขึ้น

และมีดก็สามารถใช้ได้กับเฉพาะในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวเท่านั้น แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนสองคน ด้วยความสามารถของเธอในตอนนี้ อย่างไรก็ไม่มีทางสามารถฆ่าคนทั้งสองนี้พร้อมๆ กันได้

"พวกเราสองคนเป็นผู้หญิง ใช่! ฉันยอมรับว่าถ้าคุณคิดจะฆ่าฉันยังไงก็ทำได้ง่ายๆ แน่นอน"

ในยามคับขัน สีหน้าของซ่งชิงเสี่ยวยิ่งดูเรียบเฉยมากขึ้น

"แต่หลังจากที่ฉันตายแล้ว คุณจะทำยังไงต่อล่ะหมายเลข 2"

วิกฤตของซ่งชิงเสี่ยวในตอนนี้ ก็คือปัญหาที่หญิงสาวตรงหน้าจะต้องหาทางรับมือในภายหลัง

ยิ่งหากซ่งชิงเสี่ยวตายไป ในสนามนี้ก็จะเหลือเพียงแค่คุณหมอกับเธอสองคนเท่านั้น สถานการณ์ย่อมต้องไม่ค่อยสู้ดี

"คุณเคยคิดไหมว่า แต่ถ้าคุณร่วมมือกับฉันแล้วฆ่าหมอ หลังจากที่เหลือแค่เราสองคนแล้ว คุณค่อยคิดหาทางออกอีกทีก็ได้นี่" เธอพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นความตายของตัวเองอย่างใจเย็น วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันให้หญิงสาวพนักงานออฟฟิศฟังอย่างไม่ลำเอียง

"หมายเลข 2 คุณดูด้วยตาเปล่าๆ ก็น่าจะรู้ ว่าฉันอันตรายน้อยกว่าหมายเลข 4 ตั้งเยอะ อีกอย่างคุณก็ยังตัวใหญ่กว่าฉัน เอาตรงๆ เลยนะ ถ้าคิดจะฆ่าฉันก็ยังง่ายกว่าฆ่าหมายเลข 4 อีกไม่ใช่เหรอ"

คำพูดของเธอทำให้คุณหมออดขำไม่ได้ สีหน้าของหมายเลข 4 แสดงออกถึงรอยยิ้มที่แฝงด้วยความเยาะเย้ย ยังไม่ทันได้พูดอะไร คุณหมอก็เหลือบไปเห็นว่าหญิงสาวพนักงานออฟฟิศที่เดิมกำลังก้าวเข้าไปหาซ่งชิงเสี่ยว ตอนนี้ได้หยุดเดินแล้ว

อากัปกิริยานี้พิสูจน์ให้เห็นว่าคำพูดของซ่งชิงเสี่ยวไปจี้โดนจุดที่หญิงสาวหมายเลข 2 กังวลใจแล้ว ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหว

รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณหมอค่อยๆ หายไป สีหน้าค่อยๆ แข็งทื่อ

"ฆ่าเธอได้ง่ายๆ งั้นเหรอ..." ขณะนี้คุณหมอก็หยุดเดินเช่นกัน เขาหันศีรษะไปมองใบหน้าของหญิงสาวพนักงานออฟฟิศ

"นี่คุณคงไม่ได้ไปเชื่อคำพูดของเธอเข้าจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย"

คุณหมอสังเกตเห็นว่าในขณะที่เขากำลังพูด หญิงสาวพนักงานออฟฟิศก็ค่อยๆ ถอยห่างออกไปอย่างเงียบเชียบ ทำให้ระยะห่างระหว่างเขากับเธอเพิ่มขึ้น เดิมทีระหว่างคนทั้งสาม เขาอยู่ใกล้กับหญิงสาวหมายเลข 2 มากที่สุด และทั้งสองก็กำลังเข้าใกล้ซ่งชิงเสี่ยวด้วยกัน

แต่คำพูดของซ่งชิงเสี่ยวได้ทำลายความสมดุลที่เขาพยายามถ่วงเอาไว้ตลอดเวลาอย่างง่ายดาย ทำให้หญิงสาวพนักงานออฟฟิศเกิดความระแวดระวังต่อตัวเขา

"เธออยู่ทีมเดียวกับหมายเลข 1 แล้วก็หมายเลข 6 แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็ตายไปหมดแล้วนะ เหลือแค่เธอคนเดียวที่ยังรอดชีวิต ที่สำคัญ คุณอย่าลืมว่าเธอเป็นคนแรกที่ลงมือฆ่าคนที่นี่นะ อันตรายขนาดนี้ ผมถามหน่อย คุณคิดว่าจะจัดการเธอได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ"

หญิงสาวพนักงานออฟฟิศยังคงก้าวเท้าถอยหลังไปทีละก้าวเล็กๆ มุมที่ทั้งสามคนยืนอยู่ตอนนี้จึงเหมือนสามเหลี่ยมด้านเท่า โดยเว้นระยะห่างระหว่างกันไว้พอสมควร สถานการณ์ที่คับขันในตอนแรกกลายเป็นหยุดชะงักทันควัน

แม้คุณหมอจะยังพูดอยู่ แต่ในใจก็รู้สึกว่าทำพลาดไป

ไม่น่าให้โอกาสยัยนี่พูดมากเลย...

ซ่งชิงเสี่ยวสามารถฆ่าหมายเลข 1 และหมายเลข 6 เพื่อเอาชีวิตรอดมาได้ ก็แสดงว่าเธอไม่ใช่คนโง่ธรรมดาแน่นอน  เขาไม่ควรให้โอกาสเธอพูดมากเกินไปจริงๆ ตอนนี้จึงควรหาทางกลับไปทำตามแผนเดิมให้ได้โดยเร็วก่อน นั่นคือร่วมมือกับหมายเลข 2 เพื่อฆ่าซ่งชิงเสี่ยว แล้วถึงกำจัดเธอทิ้งในภายหลัง จากนั้นเขาถึงจะสามารถออกไปจากไอ้สถานที่ผีสิงแห่งนี้ได้อย่างราบรื่น

สีหน้าของหมายเลข 2 มีแววลังเลอยู่บ้าง นี่ไม่ใช่การพนันธรรมดาๆ ที่แพ้ก็แค่เสียเงินเสียข้าวของ แต่กลับแลกด้วยชีวิต ดังนั้นซ่งชิงเสี่ยวที่เริ่มเห็นสถานการณ์เป็นใจมากขึ้น จึงรีบโหมกระพือไฟให้ลุกแรงขึ้นว่า

"หมายเลข 6 ก็คิดจะฆ่าเราทั้งคู่เหมือนกัน ฉันกับหมายเลข 1 ถึงจำเป็นต้องช่วยกัน" คำพูดของเธอเผยให้เห็นว่าการตายของหมายเลข 6 ก็เนื่องมาจากฝีมือของเธอและหมายเลข 1 ที่ร่วมมือกัน แต่เพียงแค่เธอโชคดีที่รอดชีวิตมาได้เท่านั้น

คำพูดเช่นนี้ทำให้หมายเลข 2 มีความหวังเพิ่มขึ้น ทำให้หญิงสาวพนักงานออฟฟิศเกิดความรู้สึกว่าหากเธอร่วมมือกับซ่งชิงเสี่ยวเพื่อฆ่าคุณหมอ ในระหว่างการต่อสู้ ก็อาจเป็นไปได้ที่เธอจะโชคดีเหมือนซ่งชิงเสี่ยวเช่นกัน อาจเป็นไปได้ที่คุณหมอกับซ่งชิงเสี่ยวจะฆ่ากันเอง แล้วกลายเป็นว่าเธอคือผู้เหลือรอดชีวิตคนเดียวในบททดสอบของพระเจ้าครั้งนี้!

ในที่สุด หมายเลข 2 ก็ตัดสินใจเด็ดขาด เธอปัดความลังเลทิ้งไป หันกลับมา แล้วมองคุณหมอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป แฝงไปด้วยความอำมหิตและระมัดระวัง

"โอ๊ย...ยัยบ้าเอ๊ย"

คุณหมอถอนหายใจด้วยความรู้สึกเสียดาย "คุณตัดสินใจไปแล้วสินะ"

"ก็มันไม่มีทางอื่น เพราะฉันเองก็อยากมีชีวิตอยู่ต่อเหมือนกัน" สายตาของหมายเลข 2 เย็นชา "ที่สำคัญ คุณเองก็อยากฆ่าฉันอยู่ตลอด ไม่งั้นทำไม? ทั้งที่เราก็ร่วมมือกันมานานขนาดนี้ แต่คุณไม่เคยคิดแม้แต่จะถามชื่อฉันสักคำด้วยซ้ำ”

เหตุผลที่คุณหมอไม่ถามชื่อเธอ เพราะว่าเขาคิดไว้แล้วว่าหลังจากฆ่าเธอเสร็จสรรพ อย่างไรเสีย ไพ่ที่เป็นของเธอในหัวก็จะพลิกกลับมาอยู่ดี ในไม่ช้าก็เร็วสุดท้ายก็จะรู้ชื่อเหมือนกัน!

เมื่อมาถึงจุดนี้ ทุกคนก็ฉีกหน้ากันไปหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป ตอนจบแบบนี้ไม่ค่อยดีสำหรับคุณหมอ แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

ผู้หญิงสองคนเดินเข้ามาหาเขา คุณหมอค่อยๆ เป็นฝ่ายถอยหลัง จนแผ่นหลังของเขาชนกับถังที่ใส่ศพของชายวัยกลางคนหมายเลข 6 กระทั่งเมื่อถอยไม่ได้แล้ว ผู้หญิงทั้งสองก็เข้ามาใกล้เรื่อยๆ คุณหมอจึงหันหน้าหนีแล้วมองไปที่ซ่งชิงเสี่ยว

เขาไม่ปกปิดความตั้งใจฆ่าที่อยู่ในใจอีกต่อไป ในเสี้ยววินาทีนั้น ซ่งชิงเสี่ยวรู้สึกราวกับถูกงูพิษจ้องมอง เธอรู้ทันทีว่าคุณหมอมองออกว่าเธออ่อนแอ จึงเลือกเป็นเป้าหมายอันดับแรกในการสังหาร เตรียมจัดการกับเธอให้เสร็จก่อน แล้วค่อยจัดการกับหญิงสาวพนักงานออฟฟิศ เพื่อลดแรงกดดันในการต่อสู้กับคนสองคนในเวลาเดียวกัน

ในสายตาของหมอ เธอคือเป้าหมายที่อ่อนแอที่สุด!

ตอนนี้เองที่ซ่งชิงเสี่ยวตกอยู่ในวิกฤตที่แท้จริง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด