ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 65 วังสวรรค์มอบรางวัล ยมโลกมอบสายเลือด
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 65 วังสวรรค์มอบรางวัล ยมโลกมอบสายเลือด
ติ๊ง!
[ได้รับหุ่นเชิดที่แตกสลาย]
[ได้รับหุ่นเชิดที่แตกสลาย]
[ได้รับชิ้นส่วนหุ่นเชิด]
……
……
เปิดฉากด้วยการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัว
จี๋อวิ๋นสุ่มหุ่นเชิดสิบครั้งติดต่อกัน ผลลัพธ์คือความว่างเปล่า นอกจากขยะแล้วก็ยังคงเป็นขยะ
ทำให้ใบหน้าของเขาถึงกับกระตุก
เอาเถิด ได้รับหยางเจี่ยนมาแล้ว ถือว่าได้กำไรอย่างมหาศาล ถือว่าเป็นการปูทางสำหรับอนาคต
เขาปลอบใจตนเองเช่นนี้ จากนั้นเขาก็มองไปยังส่วนสิ่งของ
ติ๊ง!
[ได้รับขนสุนัขฟ้าคำรน]
เปิดฉากด้วยการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวอีกครั้ง!
เวรเอ๊ย! ยังมีอีกหรือ!?
มุมปากของจี๋อวิ๋นกระตุก ระบบต้องการให้เขาสุ่มขนสุนัขฟ้าคำรนจนหมดหรืออย่างไร
ลองนึกภาพสุนัขไร้ขน ก็ดูเหมือนจะน่าขันไม่น้อย?
[ได้รับดินหนึ่งกำมือจากสวนท้อพันปี]
[ได้รับเสื้อชั้นในตู้โต้วของซูต้าจี่]
[ได้รับหมั่นโถวหนึ่งลูกจากหมู่บ้านเกาเหล่าจวง]
[ได้รับทรายหนึ่งเม็ดจากแม่น้ำทรายไหล]
……
……
เวรเอ๊ย! การสุ่มสิ่งของมักจะได้ของแปลกประหลาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อชั้นในตู้โต้วของซูต้าจี่ เวรเอ๊ย! ข้าเป็นคนหื่นกามเช่นนั้นหรือ!
อืม ขออีกสักหน่อย
ติ๊ง!
[ได้รับแก่นแท้ทะเลโลหิต]
อืม?
เสียงแจ้งเตือนสุดท้ายดังขึ้น ทำให้ดวงตาของจี๋อวิ๋นเป็นประกาย
เขามองไป เห็นเพียงลูกบอลแสงสีเลือดพุ่งเข้าใส่เขา
ชั่วขณะถัดมา ข้อมูลก็ปรากฏขึ้น
[แก่นแท้ทะเลโลหิต]: มาจากทะเลโลหิตในยมโลก เคยให้กำเนิดบรรพบุรุษแม่น้ำปรโลก
แม้จะเป็นเพียงคำอธิบายสั้น ๆ แต่ก็ทำให้จี๋อวิ๋นตกใจ
แก่นแท้ทะเลโลหิต แก่นแท้ทะเลโลหิตที่เคยให้กำเนิดบรรพบุรุษแม่น้ำปรโลก
นี่คือของวิเศษ!
แต่ไม่นานเขาก็ลูบคาง แก่นแท้ทะเลโลหิตนี้ แม้จะวิเศษ แต่ก็ยังคงด้อยกว่ากายาเทพมารปฐมกาลของเขา
“ใช่แล้ว มอบให้กับเซียวลั่วหลีก็แล้วกัน”
จี๋อวิ๋นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
ช่วงเวลานี้ แม้ว่าเซียวลั่วหลีจะไม่ได้นำโอกาสวาสนามาให้เขาเช่นเดียวกับกู้ชิงเฟิง
แต่นางก็ทำงานให้กับยมโลกอย่างขยันขันแข็ง จัดการคำขอมอบหมายต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ไม่มีความดีความชอบ ก็ยังคงมีความเหน็ดเหนื่อย
จี๋อวิ๋นไม่ใช่นายทุนที่ชอบกดขี่ข่มเหง รางวัลที่ควรได้รับก็ต้องได้รับ
เช่นนี้เซียวลั่วหลีจะได้ทำงานอย่างตั้งใจมากขึ้น
คิดได้ดังนั้น จี๋อวิ๋นจึงควบคุมหุ่นเชิดราชันฉินกวง
รางวัลที่สุ่มได้ ไม่จำเป็นต้องมอบให้ด้วยตนเอง หุ่นเชิดก็ทำได้
เพียงแค่เขาต้องควบคุมหุ่นเชิดอย่างสมบูรณ์เท่านั้น
…..
ณ ยมโลก
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดราชันฉินกวง ส่งกระแสจิตไปหาเซียวลั่วหลี ให้นางมาที่โถงอเวจี
โถงอเวจีนี้สร้างขึ้นจากโถงสังหารของเครือข่ายลับในอดีต
เมื่อสุ่มไม่ได้สิ่งก่อสร้างยมโลก จึงต้องใช้สิ่งนี้แทนไปก่อน
ไม่นานนัก ร่างของเซียวลั่วหลีก็ปรากฏขึ้น นางโค้งคำนับ “ขอคารวะใต้เท้าราชันฉินกวง ไม่ทราบว่าท่านเรียกข้ามาด้วยเหตุอันใด”
“เซียวลั่วหลี ช่วงเวลานี้เจ้าทำงานได้ดี ข้าได้กราบทูลมหาจักรพรรดิเฟิงตูแล้ว ท่านตัดสินใจมอบรางวัลให้กับเจ้า”
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดราชันฉินกวงกล่าว
อะไรนะ!?
เมื่อเซียวลั่วหลีได้ยินเช่นนั้น นางก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง รีบคุกเข่าลงข้างหนึ่ง “ขอบพระคุณมหาจักรพรรดิเฟิงตู ขอบพระคุณใต้เท้าราชันฉินกวง”
“อืม นี่คือแก่นแท้ทะเลโลหิต เป็นแก่นแท้บางส่วนที่ได้มาจากทะเลโลหิตในยมโลก เคยให้กำเนิดยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ บรรพบุรุษแม่น้ำปรโลก”
พูดจบ ปลายนิ้วของหุ่นเชิดราชันฉินกวงก็มีแสงสีเลือดพุ่งออกมา
“บรรพบุรุษแม่น้ำปรโลก ในยุคนับร้อยล้านยุค เคยตรัสรู้มรรคด้วยทะเลโลหิต น่ากลัวยิ่งนัก ตอนนั้นมีคำกล่าวที่น่าตกตะลึง”
“ทะเลโลหิตไม่เหือดแห้ง แม่น้ำปรโลกไม่มีวันดับสูญ!”
ทะเลโลหิตไม่เหือดแห้ง แม่น้ำปรโลกไม่มีวันดับสูญ!
เมื่อเซียวลั่วหลีได้ยินเช่นนั้น ร่างกายของนางก็สั่นสะท้าน
นี่คือพลังอำนาจอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้!
บรรพบุรุษแม่น้ำปรโลกผู้นั้นย่อมต้องเป็นยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ แข็งแกร่งกว่าเทพแท้ที่เลื่องลือในยุคปัจจุบัน
เซียวลั่วหลีรู้ดีว่ายุคอมตะในยุคร้อยล้านยุคก่อน แม้แต่เทพแท้ก็ไม่นับเป็นอันใด
ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น ล้วนเป็นอมตะ!
“สงบสติอารมณ์”
ในเวลานั้น เสียงของราชันฉินกวงก็ดังขึ้น
ทันใดนั้นเซียวลั่วหลีก็กลั้นหายใจ สงบสติอารมณ์
ชั่วขณะถัดมา ในสายตาของนาง ปรากฏแสงสีเลือดขึ้น จากนั้นก็พุ่งเข้าไปที่หว่างคิ้วของนาง
ตู้ม—!
เบื้องหน้าเซียวลั่วหลี ปรากฏภาพทะเลโลหิตที่กว้างใหญ่ไพศาล
ทะเลโลหิตอันไร้ขอบเขต มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
ทันใดนั้น ทะเลโลหิตก็ปั่นป่วน คลื่นยักษ์นับไม่ถ้วนโหมกระหน่ำ
ดอกบัวโลหิตค่อย ๆ ลอยขึ้น บนดอกบัวมีบุรุษรูปงามผู้หนึ่งสวมชุดคลุมสีเลือด กอดกระบี่ขาวดำไว้ในอ้อมแขน
ชุดคลุมสีเลือดพัดโบกสะบัด ราวกับโลหิตกำลังไหลเวียน
ฉ่า—!
บุรุษรูปงามผู้นี้คำรามลั่น ทะเลโลหิตอันยิ่งใหญ่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า ทะลวงผ่านเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า!
ทะเลโลหิตมากมายทำลายล้างโลก!
ภาพเหตุการณ์หยุดลง เซียวลั่วหลีจึงรู้สึกตัว นางหายใจหอบ ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“นั่นคือบรรพบุรุษแม่น้ำปรโลกหรือ กลิ่นอายช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”
ภายใต้กลิ่นอายนั้น นางราวกับมดน้อยที่กำลังมองภูเขาเทพ
นี่คือยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคอมตะหรือ น่าเกรงขามและน่าชื่นชมยิ่งนัก
ในเวลานั้น เซียวลั่วหลีก็พบว่าตนเองกลับมายังที่พักโดยไม่รู้ตัว
อืม?
นางต้องการล้างหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่กลับมองเห็นตนเองในน้ำ
เส้นผมสีดำของนาง กลายเป็นสีแดงเลือด ดวงตาก็เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าของนางยังเปลี่ยนไป
เดิมทีนางมีรูปโฉมธรรมดา แต่ในตอนนี้ นางกลับมีใบหน้าที่งดงามราวกับปีศาจ
“แก่นแท้ทะเลโลหิต ทให้ข้าเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงเช่นนั้นหรือ”
เซียวลั่วหลีไม่สนใจ ตราบใดที่นางสามารถแก้แค้นได้ แม้จะมิใช่มนุษย์นางก็ยอม
ในเวลาเดียวกัน นางก็พบว่าภายในสมองของนางปรากฏข้อมูลมากมาย
เป็นวิชาบำเพ็ญ
“มรรคแห่งทะเลโลหิต มรรคแห่งสัตตะสังหาร………”
เซียวลั่วหลีพึมพำกับตัวเอง แสงสีเลือดในดวงตาก็ยิ่งเจิดจรัสมากขึ้น
………………
“บุตรแห่งสวรรค์บำเพ็ญวิชาลับนวโคจรนิลกาฬ ส่วนบุตรแห่งโชคชะตาบำเพ็ญมรดกทะเลโลหิต”
ภายในโถงใหญ่ มุมปากของจี๋อวิ๋นเผยรอยยิ้ม หากในอนาคตคนทั้งสองพบเจอกัน ต่อสู้กัน ภาพเหตุการณ์คงจะน่าสนใจยิ่งนัก
ท้ายที่สุดแล้ว ตามที่เขากำหนดไว้ วังสวรรค์และยมโลกย่อมต้องเป็นศัตรูกัน
“เมื่อถึงเวลานั้น คงต้องจัดการให้วังสวรรค์และยมโลกทำสงครามกันสักหน่อย ให้สิ่งมีชีวิตในโลกนี้ได้ประจักษ์”
จี๋อวิ๋นลูบคาง กล่าวในใจ
เช่นนี้แล้ว จะทำให้ผู้คนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าวังสวรรค์และยมโลกเป็นขุมอำนาจโบราณที่สืบทอดมาจากยุคอมตะ
แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นการแสดง
ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งวังสวรรค์และยมโลกล้วนถูกควบคุมโดยจี๋อวิ๋นเพียงคนเดียว
แต่สามารถจินตนาการได้ว่า เมื่อถึงเวลานั้น ทั้งกู้ชิงเฟิงและเซียวลั่วหลีย่อมต้องจริงจังอย่างแน่นอน
ทุกคนต่างก็แสดง แต่มีเพียงพวกเขาทั้งสองที่เข้าถึงบทบาทเป็นพิเศษ
จากนั้นจี๋อวิ๋นก็มองดูแต้มการบำเพ็ญของเขาในตอนนี้
มีถึงสามหมื่นแปดพันแต้มแล้ว
“ยังไม่พอ ต้องรีบรวบรวมให้ครบหนึ่งแสนแต้ม ยกระดับพลังรบของหุ่นเชิดราชันฉินกวงให้เทียบเท่าระดับกึ่งเทพ………”
แม้ว่ายมโลกจะมียอดฝีมือมากมาย แต่ไม่มีกึ่งเทพที่แท้จริงแม้แต่คนเดียว