บทที่ 86 : ออกเดินทาง!
บทที่ 86 : ออกเดินทาง!
"ผู้อาวุโสเย่ รู้จักเขาเหรอ?" หลินเสวียนรู้สึกสนใจขึ้นมทันที
"ในสายใน คนที่ไม่รู้จักเขาคงมีไม่กี่คน!" ตู้จงหรี่ตาแล้วพูด
"เขาดังขนาดนั้นเลยเหรอ?" หลินเสวียนพูดอย่างประหลาดใจ
"เขาคือคนโชคร้ายที่ได้รับภารกิจสอบเข้าสายในที่แย่ที่สุด"
"ผลก็คือ สามปีถึงจะทำได้สำเร็จ"
"โอ้ ตอนนี้มีคนที่สองแล้ว" ท่านผู้อาวุโสหลิวพูดติดตลก
"เป็นเขางั้นหรือ" บนใบหน้าของหลินเสวียนก็ปรากฏรอยยิ้มแปลกๆ
"เขาชื่อเวินหาน, เขาไม่เพียงแต่โชคร้ายเท่านั้น เเต่นิสัยยังไม่ค่อยดีอีกด้วย"
"และเพราะนิสัยไม่ค่อยดี ทำให้ศิษย์สายในคนอื่นๆตัดขาดความสัมพันธ์กับเขา"
"ในสายใน ถ้าหากถูกตัดขาดความสัมพันธ์…มันจะทำให้ใช้ชีวิตยากลำบากมาก"
"เเละนั่นเป็นเพราะภารกิจในสายในส่วนใหญ่ต้องทำเป็นทีม พอถูกตัดขาดความสัมพันธ์ ภารกิจหลายอย่างก็จะทำไม่ได้!"
"แต่เวินหานนี่แปลกประหลาดมาก, เขายืนยันที่จะทำภารกิจแบบหลายคนด้วยตัวคนเดียวเเละไม่ยอมก้มหัวขอร้องใคร"
"มีหลายครั้ง เขาเกือบตายนอกสำนัก"
"ครั้งหนึ่ง เขาบาดเจ็บสาหัสเเละสลบอยู่ที่เชิงเขาของพวกเรา…โชคดีที่ตันเฉินไปเห็นเเละช่วยชีวิตเขาไว้"
"หลังจากนั้น เขาก็เคารพตันเฉินมาก…ถือว่าเป็นคนแยกแยะความแค้นกับบุญคุณได้ดี"
"ต้องบอกว่า พรสวรรค์ของเขาไม่เลวเลย ตลอดทางก็ฝ่าฟันมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ…นอกจากนี้ชื่อเสียงข้างนอกของเขาก็ค่อนข้างดัง"
"ตอนนี้ระดับพลังของเขาอยู่ที่
ขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่ห้า คาดว่าครั้งนี้คงจะมาเพื่อทะลวงระดับ!" ท่านผู้อาวุโสหลิวพูดด้วยรอยยิ้ม
"เป็นแบบนี้นี่เอง"
พอได้ยินเเบบนี้, หลินเสวียนก็รู้สึกสนใจเวินหานเล็กน้อย
"สองพันศิลาวิญญาณ…มีใครให้มากกว่านี้ไหม?"
องครักษ์สิบสามมองเวินหานอย่างแปลกๆแล้วถามคนรอบๆ
ศิษย์สายในหลายคนต่างมองหน้ากัน , เเล้วมองเวินหานด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
แต่เวินหานกลับทำเหมือนไม่เห็น
"ในเมื่อไม่มีใครเสนอต่อ…โอสถขวดนี้ก็เป็นของเวินหานแล้ว" องครักษ์สิบสามประกาศเสียงดัง
พอเวินหานได้ยินดังนั้น เขาก็เดินออกมาจากมุมห้อง, ตรวจสอบโอสถคร่าวๆจากนั้นก็หยิบศิลาวิญญาณออกมาหนึ่งพันห้าร้อยก้อน!
"ข้ามีศิลาวิญญาณแค่นี้…ข้าขอใช้สมุนไพรแทนส่วนที่เหลือได้ไหม?" เวินหานพูดเบาๆ
"สมุนไพรอะไร?"
"หญ้าเฟิ่งหมู่!" เวินหานพูดจบก็หยิบสมุนไพรออกมาอีกต้น
หญ้าเฟิ่งหมู่ทั้งต้นเป็นสีแดงเหมือนไฟ, มันดูเหมือนนกฟีนิกซ์ที่กำลังจะกางปีกบิน
"หญ้าเฟิ่งหมู่ ถึงจะเป็นสมุนไพรระดับลึกลับขั้นต่ำ…แต่มันก็ไม่สามารถแทนศิลาวิญญาณห้าร้อยก้อนได้หรอกนะ?" องครักษ์สิบสามขมวดคิ้ว
"ราคาของหญ้าเฟิ่งหมู่ จะอยู่ที่สองร้อยถึงสามร้อยศิลาวิญญาณ"
"ดูจากลักษณะแล้ว ต้นนี้น่าจะสามร้อยศิลาวิญญาณระดับต่ำ!" ตู้จงอธิบาย
"เช่นนั้นก็ยังขาดอีกสองร้อย!" องครักษ์สิบสามเริ่มรำคาญ
"ศิลาวิญญาณสองร้อยก้อนที่ขาดไป ข้าขอเขียนเป็นใบรับรองหนี้ ข้าจะรวบรวมให้ภายในสามวัน!"
เวินหานเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็มองมาทางหลินเสวียนแล้วพูด
"ใบรับรองหนี้?" หลินเสวียนถึงกับพูดไม่ออก
นิสัยของเวินหานนี่แปลกจริงๆ!
"เวินหาน, เจ้าทำธุรกิจแบบนี้ไม่ได้!" องครักษ์สิบสามพูดอย่างไม่พอใจ
"ใจเย็นๆองครักษ์สิบสาม!"
หลินเสวียนลุกขึ้น เดินไปหาองครักษ์สิบสามแล้วขัดจังหวะเบาๆ
"หรือเจ้ามีข้อเรียกร้องอะไร ก็พูดมาได้เลย!"
เวินหานรู้ว่าโอสถเป็นของหลินเสวียน, น้ำเสียงของเขาจึงอ่อนลง
"เอาล่ะ!"
"ศิลาวิญญาณสองร้อยก้อนที่เหลือ ค่อยว่ากันทีหลัง!" หลินเสวียนยิ้มพรางโบกมือ
หญ้าเฟิ่งหมู่ เป็นหนึ่งในสมุนไพรหลักสำหรับปรุงโอสถหยั่งรู้ขอบเขตก่อกำเนิดห้าธาตุ
เเถมตอนนี้หอทรัพยากรสายนอกยังไม่มีสมุนไพรชนิดนี้
ดังนั้น สำหรับหลินเสวียนแล้ว, การได้หญ้าเฟิ่งหมู่มาหนึ่งต้น…ถือว่าคุ้มค่ามาก
หลินเสวียนพูดจบก็รับโอสถก่อกำเนิดมาจากองครักษ์สิบสาม แล้วส่งให้เวินหาน
"ขอบคุณ!"
"ศิลาวิญญาณสองร้อยก้อนที่เหลือ ภายในสามวันข้าจะคืนให้เจ้า!"
เมื่อเวินหานรับโอสถมา เขาก็หันหลังเเล้วเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
ศิษย์สายในคนอื่นๆเห็นแบบนั้น ถึงจะไม่พอใจ…แต่ก็ทำได้แค่ยอมรับ
จากนั้น, งานประมูลจึงจบลงอย่างสมบูรณ์
หลินเสวียนบอกลาท่านผู้อาวุโสหลิวและคนอื่นๆ, แล้วก็ออกจากถ้ำของท่านผู้อาวุโสหลิวเพื่อกลับไปยังที่พักของตัวเอง
……
"โอสถขาดแคลน แต่ศิลาวิญญาณมีเหลือเฟือ!"
หลินเสวียนกลับมาถึงที่พักก็หยิบศิลาวิญญาณกว่าร้อยก้อนออกมาวางไว้ในค่ายกลดูดซับพลังวิญญาณ แล้วโยนศิลาวิญญาณหนึ่งก้อนให้หนูสายฟ้า
"จี๊ดๆๆๆ!"
[แบบนี้สิ!]
[นายท่านเอาศิลาวิญญาณมาแล้ว มันยอดเยี่ยมมาก!]
[ใช่…การฝึกฝนแบบนี้ ถึงจะเรียกว่าปกติ!]
วิชาปราณน้ำแข็งเพลิงและวิชาระฆังทองคำเพลิงอมตะต่างพูดอย่างพึงพอใจ
"ไม่ต้องห่วง!"
"ศิลาวิญญาณจะมากขึ้นเรื่อยๆ, เเละโอสถที่พวกเจ้าได้รับก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ!"
หลินเสวียนยิ้ม แล้วนอนพักผ่อน
……
[วิชาปราณน้ำแข็งเพลิงฝึกฝนอย่างหนักตลอดทั้งคืน, ด้วยการสนับสนุนของศิลาวิญญาณมากกว่าร้อยก้อน การทะลวงสู่ขอบเขตก่อกำเนิดเเก่นเเท้ขั้นที่สองอยู่แค่เอื้อม!]
[วิชาระฆังทองคำเพลิงอมตะฝึกฝนอย่างหนักตลอดทั้งคืน, พลังของกายายักษ์ทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย!]
……..
เช้าวันรุ่งขึ้น
เมื่อหลินเสวียนลืมตาเเละสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งขึ้น, เขาก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ
"ทุกอย่างพร้อมแล้ว ถึงเวลาไปทำ
ภารกิจสอบเข้าสายในแล้ว"
หลินเสวียนล้างหน้าล้างตาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ลงไปข้างล่าง
"ศิษย์น้องหลิน!"
ตอนนี้ยู่หยานก็มารอก่อนเเล้ว
"ศิษย์พี่ยู่หยาน!" หลินเสวียนยิ้มรับ
"หลินเสวียน, พวกเราจะไปที่ไหนก่อน?"
"ป่าทางใต้หรือทะเลเหนือ?" ยู่หยานถามเข้าประเด็น
"เช่นนั้นก็ป่าทางใต้ก่อนเเล้วกันครับ!"
"ข้าได้ยินมาว่าป่าทางใต้มีภูเขาใหญ่นับแสนแห่ง, ทิวทัศน์สวยงามเเละยิ่งใหญ่มาก" หลินเสวียนตอบด้วยรอยยิ้ม
อีกอย่าง, การไปป่าทางใต้จะต้องผ่านเมืองหลางหยา พอดีกับการกลับไปเยี่ยมบ้านด้วย
"ตกลง!" ยู่หยานพยักหน้า
"จริงสิ ศิษย์พี่ยู่หยาน…ข้าจะไปที่หอภารกิจเพื่อรับภารกิจเพิ่มอีกหน่อย, สิบสองภารกิจสำหรับสอบเข้าสายในมันน่าปวดหัวจริงๆ"
เขายังทำภารกิจไม่ครบสิบสองภารกิจ คะแนนสะสมก็ยังไม่ถึงหนึ่งแสน…เขาจึงต้องทำภารกิจเพิ่ม
จากนั้น ทั้งสองคนก็ไปที่หอภารกิจด้วยกัน
หลินเสวียนเลือกภารกิจที่สามารถทำได้ระหว่างทางจนครบทั้งสิบสองภารกิจ
จากนั้น เขาก็หยิบกระสวยแห่งความว่างเปล่าออกมา!
"กระสวยแห่งความว่างเปล่า?"
"เเม้เเต่ข้าเองก็ยังไม่เคยขึ้นเลย!"
ยู่หยานมองกระสวยแห่งความว่างเปล่าพรางพูดอย่างประหลาดใจ
"อาวุธวิญญาณระดับลึกลับขั้นสูง ไม่ช้าก็เร็ว, ข้าต้องหลอมสร้างเองให้ได้!" หลินเสวียนพึมพำในใจ
เขาเปิดใช้กระสวยแห่งความว่างเปล่าตามวิธีที่องครักษ์สิบสามสอน
ทั้งสองคนขึ้นไปบนกระสวยแห่งความว่างเปล่า, จากนั้นหลินเสวียนก็วางศิลาวิญญาณ แล้วก็ขับกระสวยเเห่งความว่างเปล่ามุ่งหน้าไปยังป่าทางใต้!
"ศิษย์น้อง นี่ให้เจ้า"
พอกระสวยแห่งความว่างเปล่าขึ้นบิน ยู่หยานก็วางของสองอย่างไว้ในมือหลินเสวียน
หลินเสวียนมองดู…ในมือของเขาเป็นหยกใสหนึ่งก้อนกับทรายสีเหลืองส้มที่ปล่อยออร่าร้อนแรงออกมาหนึ่งก้อน
หยกตงหลิง!
ทรายลาวา!
นี่เป็นสองในสี่วัสดุที่หลินเสวียนต้องใช้สำหรับภารกิจสอบเข้าสายใน
ไม่แปลกใจที่นางให้เลือกระหว่างป่าทางใต้กับทะเลเหนือ(อีกสองที่ไม่ต้องไปเเล้ว)
……
[นายท่าน!]
[ศิษย์พี่ยู่หยานไม่เลวเลย เธอช่วยท่านโกงด้วย]
[ข้าก็คิดว่าศิษย์พี่ยู่หยานไม่เลว ตอนที่ข้าเลื่อนระดับ บทเรียนของศิษย์พี่ยู่หยานก็ช่วยได้มาก]
[พระน้อยไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ พระน้อยเเค่รู้ว่าศิษย์พี่คนนี้เป็นคนดี!]
วิชาปราณน้ำแข็งเพลิง วิชาระฆังทองคำเพลิงอมตะ เเละคัมภีร์โลหิตบัวแดงก็ต่างพูดขึ้นมา
สุดท้าย, แม้แต่ดาบคลั่งสังหารวิญญาณที่หยิ่งผยองก็ยังเห็นด้วย
……
ทันใดนั้น, หลินเสวียนก็มองยู่หยานแล้วพูดว่า
"ขอบคุณศิษย์พี่ยู่หยานที่ช่วยเหลือข้า, แบบนี้ข้าก็สบายขึ้นเยอะเลย"
"ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร, ในสายในคนทำแบบนี้กันเยอะเเยะ"
"ไม่มีใครมาสนใจจับผิดหรอก" ยู่หยานโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ
……
[วิชาเหยียบคลื่นลมได้ชมภูเขาและแม่น้ำ, มันรู้สึกยินดีมาก กำลังทำความเข้าใจความลึกลับของธรรมชาติ!]
ในขณะที่หลินเสวียนและยู่หยานกำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการฝึกฝน, วิชาเหยียบคลื่นลมก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ
นอกจากนี้ในระหว่างทาง หลินเสวียนและยู่หยานก็หยุดการเดินทางหลายครั้ง เพื่อทำภารกิจของหอภารกิจ
เเถมหลินเสวียนยังเเวะไปที่เมืองหลางหยาเพื่อมอบโอสถบางส่วนให้กับครอบครัว
การเดินทางไปเรื่อยๆเเบบนี้, พอพวกหลินเสวียนมาถึงป่าทางใต้ เวลามันก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว
ในช่วงครึ่งเดือนมานี้, ระดับพลังของหลินเสวียนเพิ่มขึ้นอีกขั้นจนมาถึงขอบเขตก่อกำเนิดเเก่นเเท้ขั้นที่สองได้ในที่สุด!
……
"นึกไม่ถึงว่า, ชายแดนของป่าทางใต้จะมีเมืองใหญ่ขนาดนี้?"
หลินเสวียนมองเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลออกไป, เเล้วพูดอย่างประหลาดใจ
"นี่คือเมืองหลวงของอาณาจักรหนานเจา"
"ชื่อว่าเมืองฮั่วเอียน!"
"อาณาจักรหนานเจาเป็นอาณาจักรเล็กๆ, เมืองฮั่วเอียนถึงจะดูใหญ่ แต่จริงๆแล้วมีประชากรไม่มากนักที่อาศัยอยู่ที่นี่" ยู่หยานอธิบายด้วยรอยยิ้ม
หลินเสวียนพยักหน้าเข้าใจ
แบบนี้อาณาจักรหนานเจาคงจะแตกต่างจากอาณาจักรต้าหลีที่ตระกูลหลินอาศัยอยู่มาก
"ศิษย์น้อง!"
"พวกเราเข้าวังหลวงกันเลยดีกว่า!"
"เจ้าอยากได้แก่นแท้ของจิ้งจอกสี่หาง, การไปที่วังหลวงอาจจะได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง"
"ตกลง!"
"เข้าไปในวังหลวงกันเถอะ!"
หลินเสวียนยิ้มรับ เเล้วควบคุมกระสวยแห่งความว่างเปล่ามุ่งหน้าไปยังวังหลวงของอาณาจักรหนานเจา
……
"พระเจ้าช่วย!"
"นั่นอะไร?"
"เรือบินได้!"
เมื่อกระสวยแห่งความว่างเปล่าบินผ่านเมืองฮั่วเอียน, มันก็ทำให้ผู้คนตกตะลึงจนเกิดเสียงร้องตะโกนดังขึ้นมากมาย
"เซียน!"
"นั่นคือสมบัติบินได้ของเซียน!"
"มีเซียนมาเยือนอาณาจักรหนานเจาของพวกเรา"
ในชั่วขณะ ผู้คนนับไม่ถ้วนในเมืองหลวงของอาณาจักรหนานเจาต่างคุกเข่าลง
เอี๊ยดดด!
ประตูวังหลวงของอาณาจักรหนานเจาเปิดออก
ทหารจำนวนมากเดินออกมาถืออาวุธอย่างเป็นระเบียบ, เเละมองกระสวยแห่งความว่างเปล่าด้วยความเคารพ
หลินเสวียนควบคุมกระสวยแห่งความว่างเปล่าลงจอดเหนือห้องโถงของวังหลวง
"ข้าพเจ้า!"
"ประชาชนของอาณาจักรหนานเจาขอคารวะท่านเซียน!"
ประตูห้องโถงเปิดออก, จากนั้นชายชราคนหนึ่งที่สวมชุดจักรพรรดิก็เดินออกมาจากฝูงชนอย่างสง่างามแล้วคุกเข่าลง
"ข้าพเจ้าขอคารวะท่านเซียน!"
พอจักรพรรดิคุกเข่า คนอื่นๆก็ไม่กล้าลังเลเเละคุกเข่าลงพร้อมๆกัน
……………….