ตอนที่ 36 ใต้ร่มสวรรค์จะมีใครสู้กับลิโป้ได้?
“ถูกต้อง!” ลิยูยิ้ม
“ในเมื่อกองทัพเราย้ายเมืองหลวงแล้ว ลั่วหยางก็ไม่มีประโยชน์ สู้เผาทิ้งซะดีกว่า อย่างน้อยก็ขัดขวางศัตรูได้”
"ข้าแค่ไม่รู้ว่าเฟิงเซียนจะเต็มใจหรือไม่!"
ลิโป้ขมวดคิ้ว ยังลังเล
การเผาลั่วหยางไม่เหมือนกับการสร้างผลงานอื่นๆ
ถ้าเขาทำแบบนี้ คงถูกขุนนางผู้ภักดีกับราชวงศ์ฮั่นเกลียดเข้ากระดูกดำ!
เรื่องนี้มันยากเกินไป
พอเห็นว่าลิโป้ลังเล ลิยูก็โน้มตัวมากระซิบ
"เฟิงเซียน ท่านรู้ไหมว่าทำไมข้าถึงขอให้อัครมหาเสนาบดีให้ท่านคุมทัพหลัง? "
ลิโป้มองลิยูและส่ายหัว
"เพราะเรื่องนี้เป็นความลับ มีแค่คนสนิทของท่านอัครมหาเสนาบดีเท่านั้นถึงจะทำได้!" ลิยูทำหน้าจริงจัง
"ท่านอาจจะไม่รู้ เรื่องนี้เป็นความต้องการของท่านอัครมหาเสนาบดี”
“ท่านก็เป็นบุตรบุญธรรมของท่านอัครมหาเสนาบดี ส่วนข้าก็เป็นบุตรเขย พวกเราคือคนในครอบครัว”
“ตอนนี้ บ้านเมืองกำลังวุ่นวาย ถึงแม้ว่าท่านอัครมหาเสนาบดีจะไม่พูดอะไร แต่ในใจท่านคงกังวลมาก”
“ในฐานะที่เป็นคนสนิท พวกเราก็ควรแบ่งเบาภาระของท่าน! ”
"จะทำหรือไม่ทำ ข้าพูดหมดแล้ว ท่านตัดสินใจเอาเอง ข้าขอตัวก่อน! "
พูดจบ เขาก็มองลิโป้ โค้งคำนับแล้วเดินจากไป
ลิโป้ยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความลังเล
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน สีหน้าของเขาก็มุ่งมั่นและเดินไปที่กระโจมของตัวเอง
คืนนั้น ตั๋งโต๊ะนำทหารซีเหลียงออกจากค่ายและถอยไปลั่วหยาง
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้น กองทัพนับหมื่นนายก็ถอนตัวจากค่ายอย่างเงียบๆ แต่กระโจมและเตายังคงอยู่
สายลับของกองกำลังพันธมิตรมาดูก็ไม่พบความผิดปกติ จึงกลับไปรายงาน
ในตอนเย็นของวันนั้น ลิโป้นำทหารม้าชั้นยอดหมื่นนาย ออกจากค่ายและมาท้ารบที่ด่านโสหุย
......
"รายงาน! "
ในด่านโสหุย เหล่าอ๋องกำลังประชุมกัน
"รายงาน ท่านผู้นำ ลิโป้นำทหารมาท้ารบท่านที่หน้าด่าน! "
เหล่าอ๋องต่างก็ตกใจ
“ลิโป้ ไอ้คนอวดดี!” อ้วนเสี้ยวโกรธจนมือไม้สั่น ทุบโต๊ะเสียงดัง
หลังจากพ่ายแพ้ในวันนั้น ขวัญกำลังใจของกองกำลังพันธมิตรก็ลดลงอย่างมาก และลิโป้มักจะนำทหารมาท้ารบอยู่บ่อยๆ
ตอนแรก อ้วนเสี้ยวอยากจะเพิ่มขวัญกำลังใจ จึงส่งขุนพลไปสู้หลายครั้ง แต่ลิโป้ไม่เคยรับคำท้า
ทำไปหลายครั้ง ขวัญกำลังใจไม่เพิ่ม กลับลดลง
ดังนั้น อ้วนเสี้ยวจึงเกลียดลิโป้มานานแล้ว
ตอนนี้ ได้ยินว่าลิโป้มาท้ารบคนเดียว เขาก็โกรธมาก ตะโกนถาม
“ใครเต็มใจไปสู้กับลิโป้?”
“ขุนพลฝางเยว่แห่งเหอหนานใต้บัญชาของข้ายินดี!” อ๋องกวงยืนขึ้น
“รีบไป!” อ้วนเสี้ยวดีใจ
อ๋องกวงรีบสั่งการ เห็นขุนพลนายหนึ่งควบม้าออกจากด่านไป
อ้วนเสี้ยวหันไปบอกเหล่าอ๋องคนอื่นๆ “ไปดูกัน” พูดจบ เขาก็นำเหล่าอ๋องไปที่หน้าด่าน
แต่ยังไม่ทันถึงหน้าด่าน ก็มีทหารวิ่งมา
"ฝางเยว่สู้กับลิโป้ ตายในห้ากระบวนท่าขอรับ! "
ทุกคนตกใจ กงซุนจ้าน เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยต่างก็แปลกใจเล็กน้อยตอนได้ยินเรื่องนี้
กวนอูอยากจะก้าวไปข้างหน้า แต่ถูกเล่าปี่ห้ามไว้
“ฝางเยว่ประมาทเกินไป ข้ามีขุนพลพันเฟิงที่สามารถต่อสู้กับลิโป้ได้!” ฮันฮกยิ้ม
“รีบไป!” อ้วนเสี้ยวพูดเสียงทุ้ม
ขุนพลนายหนึ่งถือขวานวิ่งออกจากด่านไป
ทุกคนไปที่หน้าด่านอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันถึง ก็มีทหารมา
"พันเฟิงถูกลิโป้ฆ่าตายแล้ว! "
ทุกคนหน้าซีด
แค่เดินจากโถงประชุมไปหน้าด่าน ลิโป้ก็ฆ่าขุนพลไปสองคนแล้ว?
ลิโป้มันเก่งขนาดนั้นเลยหรือ?
อ้วนเสี้ยวเดินขึ้นไปบนกำแพงเมือง สีหน้าเย็นชา
“ใครเต็มใจไปสู้อีก?”
เหล่าอ๋องคนอื่นๆ เงียบ
“น่าเสียดายที่เอี๋ยนเหลียงกับบุนทิวมาไม่ทัน ถ้าหากคนใดคนหนึ่งมาถึง ลิโป้คงไม่กล้าอวดดี!” อ้วนเสี้ยวพูดอย่างเกลียดชัง
“ข้ายินดีตัดหัวลิโป้มามอบให้!”กวนอูเดินออกมา
ทุกคนมองไปที่เขา เห็นว่าเขามีรูปร่างสูงใหญ่ หนวดเครายาวเฟื้อย ดวงตาคมกริบ คิ้วดกหนา หน้าแดงก่ำและเสียงดังก้อง
“ท่านเป็นใคร? ตอนนี้ดำรงตำแหน่งอะไร?” อ้วนเสี้ยวดีใจ
“นี่คือกวนอู น้องชายของข้า ตอนนี้เป็นพลธนูม้า” กงซุนจ้านรีบแนะนำ
"พลธนูม้า?"
เหล่าอ๋องคนอื่นๆ ต่างก็ดูถูกกวนอู
อ้วนเสี้ยวขมวดคิ้ว“ส่งพลธนูม้าไปสู้ ระวังจะโดนลิโป้หัวเราะเยาะเอา”
"ยังมีใครอีกไหม?”
เหล่าอ๋องคนอื่นๆ เงียบ
โจโฉมีพี่น้องเซี่ยโหวก็จริง แต่พอเห็นความเก่งกาจของลิโป้ พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไร
ทันใดนั้น ก็มีเสียงกลองดังมาจากด้านล่าง
อ้วนเสี้ยวตกใจและถาม“ใครไปสู้อีก?”
ผู้เฝ้าประตูรีบรายงาน"เป็นอู๋อันกั๋ว ขุนพลของใต้เท้าขง มู่ซุ่น หยูเซ่อ และขุนพลคนอื่นๆ ใต้บัญชาของใต้เท้าจางขอรับ พวกเขาไม่พอใจจึงออกไปท้ารบ! " ทหารเฝ้าประตูรีบรายงาน
พอได้ยินว่ามีหลายคนไป อ้วนเสี้ยวก็รีบพาเหล่าอ๋องไปที่หน้าด่าน
พวกเขาเห็นลิโป้สวมชุดคลุมสีแดง สวมหมวกสีทอง ขี่ม้าเซ็กเธาว์กำลังสู้กับขุนพลคนหนึ่ง
ทวนวงเดือนของเขาเหมือนกับเป็นแขนของเขา สะบัดไปมาเหมือนงูเงิน บีบบังคับให้อู๋อันกั๋วตั้งรับอย่างเดียว
พอเห็นว่าอู๋อันกั๋วเพลี่ยงพล้ำ มู่ซุ่น หยูเซ่อก็รีบเข้าไป"ลิโป้ พวกข้ามาแล้ว! "
ขุนพลสี่คนสู้กัน ฝุ่นตลบไปทั่ว
เหล่าอ๋องบนกำแพงเมืองต่างก็เป็นกังวล
รุมสามต่อหนึ่งยังจะแพ้อีกไหม?
แต่ในขณะที่พวกเขากำลังเป็นกังวลอยู่นั้น ลิโป้ก็เห็นช่องโหว่และแทงหยูเซ่อตายด้วยทวน
อู๋อันกั๋วตาเบิกโพลง อยากจะช่วยหยูเซ่อ แต่ลิโป้ก็สะบัดทวนมาเหมือนดาบ ฟันมือของเขาขาด
เขาหลบไม่พ้น และเลือดก็กระฉูด มือของเขาโดนตัดขาดจากข้อมือ
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเขา มู่ซุ่นรีบบังคับม้าหนี แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัวก็ถูกลิโป้แทงตาย
ในพริบตา ขุนพลสามนายก็ตายใต้ทวนของลิโป้
เหล่าอ๋องบนกำแพงเมืองต่างก็อึ้ง
พวกเขามองลิโป้ด้วยความประหลาดใจ ไม่อยากจะเชื่อสายตา
บนโลกนี้มีคนเก่งกาจขนาดนี้จริงๆ หรือ?
ลิโป้มองไปที่กำแพงเมือง ตะโกน"ที่แท้พวกเจ้าก็เป็นแค่หนู ไม่มีใครสู้ข้าได้เลยสักคน! "
เสียงหัวเราะของเขาเพิ่มขวัญกำลังใจให้กองทัพ
ส่วนกองกำลังพันธมิตรบนกำแพงเมือง ขวัญกำลังใจลดลง ก้มหน้าด้วยความอับอาย
"ยังมีใครอีกไหม?” อ้วนเสี้ยวโมโห
แต่เหล่าอ๋องคนอื่นๆ กลับก้มหน้าเงียบ
เห็นได้ชัดว่าพอเห็นลิโป้เก่งกาจขนาดนี้ พวกเขาก็ไม่อยากจะส่งลูกน้องไปตายอีกแล้ว
"น่าเสียดาย เอี๋ยนเหลียงกับบุนทิวของข้ามาไม่ทัน ถ้าหากพวกเขามาลิโป้คงไม่กล้าอวดดี! "
"พวกข้ายินดีสู้กับลิโป้! " กวนอูเดินออกมาพร้อมกับเล่าปี่และเตียวหุย
"พวกเราสามพี่น้องยินดีสู้กับลิโป้!"เล่าปี่โค้งคำนับ
อ้วนเสี้ยวขมวดคิ้ว
เขาไม่คิดว่ากวนอูถูกปฏิเสธไปแล้ว เล่าปี่จะยังอยากสู้
แต่เขาปฏิเสธไปแล้ว ถ้าหากตอนนี้ให้ไปสู้ มันจะไม่เสียคำพูดหรือ?
“เจ้าเป็นผู้นำพันธมิตร พูดมาสักคำสิว่าจะให้ไปหรือไม่ให้ไป!”
“เจ้าลังเลเหมือนผู้หญิง จะเป็นวีรบุรุษได้ยังไง!”เตียวหุยตะโกนเสียงดัง
"เจ้า!" อ้วนเสี้ยวโกรธมาก หน้าแดงก่ำ รู้สึกเหมือนโดนตบหน้า
พอเห็นแบบนี้ โจโฉก็รีบพูด
“ท่านผู้นำ อย่าโกรธเลย ในเมื่อวีรบุรุษทั้งสามอยากจะลอง ก็ให้พวกเขาลองก็ได้!”
“ดูเหมือนว่าที่นี่จะมีแต่หนู ข้าไปล่ะ!” ลิโป้หัวเราะ พูดจบ เขาก็นำทหารจากไป
พอลิโป้จากไป สีหน้าของเหล่าอ๋องก็มืดครึ้ม
ส่วนอ้วนเสี้ยวก็อับอายขายหน้า
สามพี่น้องต่างก็โกรธ
ตั้งแต่เข้าร่วมพันธมิตร พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ
สุดท้ายลิโป้ก็มาเยือนถึงที่ แต่พวกเขาก็พลาดโอกาส!
เล่าปี่มองแผ่นหลังของลิโป้ด้วยความเศร้า
สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับเขา!
ร่วมรบกับพันธมิตรมานับพันลี้ กลับไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือเลย?