ตอนที่แล้วตอนที่ 148 เฮยเฟิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 150 โลกมนุษย์

ตอนที่ 149 ของๆ สหายเก่า (ฟรี)


ตอนที่ 149 ของๆ สหายเก่า

ดูเหมือนจะมีข้อจำกัดบางอย่างที่ถูกสลักไว้ในวิญญาณของเฮยเฟิง ตราบใดที่เขาพูดถึงไป๋กู่ซุนเสิน ข้อกำจัดนั่นก็จะถูกกระตุ้น และทำลายวิญญาณของเฮยเฟิงเพื่อรักษาความลับ

ลู่ซุนไม่แปลกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเขาก็มีวิธีการดังกล่าวเช่นกัน เขาเพียงต้องการยืนยันถึงสิ่งหนึ่ง

“ดูเหมือนว่าสถานะของเจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นจะไม่ธรรมดาเลย เขาคงจะไม่ใช่แค่ราชาผีเป็นแน่” ลู่ซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย และคิดกับตัวเอง

ลู่ซุนมองไปที่เส้นทางมิติที่อบอวลไปด้วยพลังหยิน คราวนี้เขาไม่ได้เลือกที่จะทำลายมันเพราะเขามีความคิดที่ดีกว่า

ลู่ซุนเดินไปที่ข้างหน้า ยืนตรงหน้าเส้นทางมิติ เขาค่อยๆ ก้มลง และเหยียดนิ้วออกเพื่อวาดค่ายกลลงบนพื้น

จากนั้น เลือดหยดหนึ่งก็หยดลงมาจากปลายนิ้วของลู่ซุน เปล่งออร่าที่ทรงพลัง และน่าสะพรึงกลัวออกมา และในที่สุดก็ค่อยๆ รวมเข้ากับค่ายกล

ค่ายกลนั้นดูลึกลับมาก และดูเหมือนว่าจะบรรจุกฎฟ้าดินเอาไว้ เปล่งออร่าที่ลึกลับอย่างยิ่งออกมา

ลู่ซุนไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นอัดพลังอมตะฮุ่นหยวนเข้าไปในค่ายกล แล้วปรบมือด้วยความพึงพอใจ

“ด้วยพลังของค่ายกลนี้ ถ้ากองทัพผีจากโลกจิ่วโหยวต้องการผ่านทาง พวกเขาก็ต้องพยายามให้มากหน่อย” ลู่ซุนพึมพำกับตัวเอง รู้สึกพอใจกับการเตรียมการของตัวเองมาก

เขาเพิ่งยืมพลังหยินบนเรือทั้งลำ และทำให้มันเป็นกลางด้วยเลือดฮุ่นหยวนของเขาเอง ก่อให้เกิดมหาค่ายกลเหลียงอี๋ที่สมบูรณ์

ค่ายกลนี้มีพลังมากกว่าค่ายกลบนเรือโครงกระดูกมาก ไม่มีข้อบกพร่องให้เห็น หากมีใครต้องการทำลายค่ายกลด้วยกำลัง พลังอมตะฮุ่นหยวนก็จะปะทุ และทำลายทุกสิ่งด้วยพลังอันท่วมท้น!

“แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ” หลังจากที่ลู่ซุนคิดดูอย่างรอบคอบสักพักหนึ่ง เขาก็พูดช้าๆ และตัดสินใจเพิ่มบางสิ่งที่น่าตื่นเต้นเข้าไปอีก

ต่อหน้าลู่ซุน รอยแยกมิติค่อยๆ เปิดออก และเขาก็หยิบยันต์ที่เรียบง่ายหลายแผ่นออกมาจากข้างใน

“แม้ว่าสหายเก่าของข้าบางคนจะมีระดับพลังยุทธ์ไม่สูง แต่ความสามารถของเขาในการเขียนยันต์ก็ถือว่าสูงว่าใครๆ ถือเป็นโอกาสดีที่ของเหล่านี้จะได้นำมาใช้ประโยชน์” ลู่ซุนพึมพำกับตัวเองพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า

ยันต์สองสามแผ่นที่ลู่ซุนเพิ่งหยิบออกมา ไม่ว่าจะเป็นแผ่นไหนก็มีค่าอย่างยิ่ง หากปรากฏในโลกภายนอก พวกมันถือเป็นสมบัติชั้นยอด และพวกเขาก็จะไม่เต็มใจที่จะใช้มันหากไม่จำเป็นจริงๆ

นั่นคือ ผลงานอันยอดเยี่ยมของผู้ก่อตั้งสำนักยันต์ที่มีชื่อเสียงในหมู่สำนักเต๋า

“น่าเสียดายที่ชายชราคนนั้นจากไปเร็วเกินไป และยันต์ที่เขาเขียนด้วยตัวเองก็เหลืออยู่ไม่มาก” ลู่ซุนถอนหายใจเบาๆ ด้วยสายตาเศร้าโศก

เขาเก็บยันต์ และตราผนึกเหล่านี้ไว้ เดิมทีตั้งใจจะใช้เป็นอนุสรณ์ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องใช้มัน

ลู่ซุนวางยันต์หลายแผ่นไว้ในมหาค่ายกลเหลียงอี๋

ด้วยยันต์อันล้ำค่าเหล่านี้ พลังของมหาค่ายกลเหลียงอี๋ก็เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก!

“แม้ว่าผีเฒ่าเฮยซานจะมาที่นี่ด้วยตัวเอง ด้วยสิ่งนี้ เขาก็จะไม่มีทางรอดไปได้” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของลู่ซุน

เมื่อผีเฒ่าเฮยซานจากโลกจิ่วโหยวเข้าสู่โลกปาหวง เขาจะถูกปราบปรามด้วยพลังแห่งกฎ หากค่ายกลถูกกระตุ้น เขาอาจจะถูกทำลายล้างโดยตรง!

จากนั้น ลู่ซุนก็ทุบเรือผีทั้งลำเป็นชิ้นๆ ด้วยการโบกมือ จากนั้นจึงวางค่ายกลปกปิดเอาไว้รอบๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนในโลกปาหวงจะไม่ค้นพบเส้นทางมิติที่อยู่ที่นี่

หลังจากทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้จนแล้วเสร็จ ลู่ซุนก็กลับมาที่เรือของกองคาราวาน

เหล่าภูตผีที่บุกเข้ามาในเรือถูกทำลายไปแล้ว เหลือเพียงกองขี้เถ้าสีดำหรือเศษกระดูกที่แตกหักไว้บนพื้น

“รอดแล้ว ในที่สุดเราก็รอดพ้นจากการโจมตีของเรือผีได้!” หยู่ทงมองดูลำเรือที่ค่อนข้างทรุดโทรม เขาพูดกับตัวเองด้วยความดีใจ

หยู่ทงรู้สึกโชคดีมาก หากเขาไม่ได้พบกับผู้อาวุโสลู่ และกลุ่มของอีกฝ่ายในครั้งนี้ พวกเขาคงจะกลายเป็นอาหารปลาในทะเลอย่างแน่นอน

“บรรพบุรุษ ท่านกลับมาแล้วเหรอ?” หลังจากที่ลู่ไห่เห็นลู่ซุนปรากฏตัว เขาก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเคารพ

“เรื่องทุกอย่างได้ยุติลงแล้ว จากนี้ไปจะไม่มีเรือผีปรากฏให้เห็นอีก” หลังจากที่ลู่ซุนได้ยินคำพูดของลู่ไห่ เขาก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

ทันใดนั้นหยู่ทงก็มองไปที่ลู่ซุน จากนั้นจึงก้มลงคุกเข่า และคำนับลู่ซุนหลายครั้ง

ด้านหลังหยู่ทง กะลาสี และผู้คุ้มกันบนเรือ รวมถึงพ่อค้าทั่วไปบางคนก็คุกเข่าลงบนพื้นโดยไม่ลังเล

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิต ข้าหยู่ทงจะไม่มีวันลืมเลย!” หยู่ทงสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นจึงคำนับลู่ซุนหลายครั้ง และพูดด้วยความเคารพ

หลังจากเห็นสิ่งนี้ กลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังหยู่ทงก็คำนับลู่ซุน และพูดคำขอบคุณเช่นกัน

ความรู้สึกที่ได้รอดชีวิตจากภัยพิบัตินั้นวิเศษมากจนตอนนี้หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื้นตันใจ

“ทุกคน ลุกขึ้นเถิด” ลู่ซุนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วโบกมืออย่างสบายๆ

พลังที่อ่อนโยนแผ่ออกมา และค่อยๆ ยกร่างกายของทุกคนให้ยืนขึ้น

“ผู้อาวุโสลู่ ข้าจะจดจำความเมตตาของท่านไปชั่วชีวิต! ตราบใดที่ท่านออกคำสั่ง แม้ว่าจะขอให้ข้าปีนภูเขาดาบหรือลงทะเลเพลิง ข้าก็จะไม่มีวันปฏิเสธ!” หยู่ทงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาให้คำพูดเพื่อแสดงความขอบคุณต่อลู่ซุนอย่างสุดซึ้ง

“เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น แต่ให้ไม่มีพวกเจ้า เขาก็จะยังต้องออกมาจัดการกับเรื่องนี้อยู่ดี” ลู่ซุนส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดแบบสบายๆ เขาไม่ได้ใส่ใจคำพูดของหยู่ทงมากนัก

"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนท่านสำหรับความเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อเรา!" หยู่ทงรู้ดีว่าด้วยระดับพลังยุทธ์ที่ต่ำของเขา เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก

แต่เขาก็ไม่ใช่คนเนรคุณ และเขารู้สึกว่าตนจะสามารถช่วยผู้อาวุโสลู่ได้ในอนาคต!

“เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปเถอะ แล้วล่องเรือต่อ ให้ข้าไปถึงมณฑลเฉียนเจียงโดยเร็วที่สุด แค่นี้ก็ถือว่าเป็นการตอบแทนข้าแล้ว” หลังจากที่ลู่ซุนพูดจบ เขาก็หันหลังกลับ และจากไป

“ขอรับผู้อาวุโส!” หยู่ทงนำกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขาตะโกนด้วยความเคารพไปยังจุดที่ลู่ซุนหายตัวไป ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และความกตัญญู

“คงจะดีไม่น้อยหากข้าได้รับการปฏิบัติเหมือนบรรพบุรุษ แม้ถึงวันนั้น ข้าคงจะตายตาหลับโดยไม่อาวรณ์สิ่งใด” หลังจากเห็นสิ่งนี้ ลู่ไห่ก็พูดกับตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโหยหา

“ข้าเชื่อว่าต้องมีสักวัน” ลู่เหยายิ้มให้ลู่ไห่แล้วพูดอย่างแน่วแน่

สำหรับลู่เสี่ยวเซียว เธอนั่งยองๆ อยู่บนพื้นอย่างเงียบๆ ในขณะนี้ และหยิบกระดูกที่ไม่มีใครต้องการขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด