ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 44 มองทะลุดวงวิญญาณ
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 44 มองทะลุดวงวิญญาณ
เมืองโบราณผิงเหยี่ยน เมืองโบราณที่สร้างขึ้นจากหินสีน้ำตาลแดงขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งกาลเวลา มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี แม้จะเทียบมิได้กับเมืองใหญ่ แต่ก็นับว่าเจริญรุ่งเรือง
บนถนนยาวเหยียด ปกติจะมีผู้คนพลุกพล่าน รถราขวักไขว่ ผู้บำเพ็ญมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
แต่ในเวลานี้ ทั่วทั้งเมืองโบราณผิงเหยี่ยน บนท้องถนนกลับว่างเปล่าไร้ผู้คน
ทุกคนต่างหลบซ่อนตัวอยู่ในอาคาร ร่างสั่นสะท้านอย่างควบคุมมิได้
กระทั่งคุกเข่าลงกับพื้นโดยไม่รู้ตัว ไม่อาจขยับเขยื้อนได้
เพราะเหนือท้องฟ้าของเมืองโบราณปรากฏอีกาทองคำขนาดมหึมา บดบังท้องฟ้า ราวกับก้อนเมฆสีทอง
แผ่รัศมีอันยิ่งใหญ่ดุจหมื่นดาราโบราณ ราวกับทะเลดาวที่กดดันลงมา ทำให้ความว่างเปล่าโดยรอบพังทลาย
เจ้าเมืองผิงเหยี่ยนเป็นถึงระดับปราชญ์
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตนับหมื่นในเมืองนี้ เขานับเป็นบุคคลสำคัญ ดุจดั่งเทพเซียน
แต่ในเวลานี้ บุคคลสำคัญผู้นี้กลับไม่ต่างจากคนธรรมดาสามัญ
ร่างกายล้มลงกับพื้น ภายใต้รัศมีอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
“มหา… มหาปราชญ์!”
เจ้าเมืองผิงเหยี่ยนมีสีหน้าหวาดกลัวเอ่ยขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีมากกว่าหนึ่งคน!
ถูกต้อง บนท้องฟ้าเบื้องบน นอกจากมหาปราชญ์อีกาทองคำแล้ว ยังมีมหาปราชญ์อีกสามคน!
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกคนสวมชุดดำเหมือนกัน สวมหน้ากากผีเหมือนกัน
เจ้าเมืองผิงเหยี่ยนผู้นี้ ในฐานะที่เป็นระดับปราชญ์ แน่นอนว่ารู้เรื่องราวต่าง ๆ ในโลก
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในใจของเขาก็เกิดการคาดเดาที่น่ากลัวขึ้นมา
นี่คือ… ยมโลกกำลังทำสงครามกับเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ร่างกายของเจ้าเมืองผิงเหยี่ยนก็สั่นสะท้านก้มศีรษะลงต่ำยิ่งกว่าเดิม
การต่อสู้ของขุมอำนาจระดับนี้ เขามิอาจก้าวก่าย
เบื้องบนท้องฟ้า มหาปราชญ์เผ่าอีกาทองคำมองดูมหาปราชญ์สามคนที่ล้อมรอบเขา สีหน้าดูน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง
ในขณะเดียวกัน ดวงตาของเขาก็มีความหวาดกลัว
มหาปราชญ์แปดชั้นฟ้าหนึ่งคน มหาปราชญ์เจ็ดชั้นฟ้าสองคน!
ยมโลก… ไม่คิดจะปล่อยให้เขามีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่
“ลู่กวาน หนึ่งในสี่ผู้อาวุโสของเผ่าอีกาทองคำ ระดับมหาปราชญ์แปดชั้นฟ้า”
น้ำเสียงแผ่วเบาดังก้องไปทั่ว ทำให้หัวใจของลู่กวานเย็นยะเยียบ
ยมโลก… พวกเขารู้เรื่องของเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำเป็นอย่างดี แต่เผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับยมโลกเลย
พวกเขาอยู่ในที่สว่าง ส่วนอีกฝ่ายอยู่ในที่มืด แล้วจะต่อสู้ได้อย่างไร!
“ท่านทั้งหลายแห่งยมโลก เผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำของพวกเรามิได้มีเรื่องบาดหมางอันใดกับยมโลก ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความเข้าใจผิด”
“ข้ายินดีที่จะสาบาน หากท่านทั้งหลายไว้ชีวิตข้า ข้ายินดีที่จะอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ให้กับผู้นำเผ่า และสัญญาว่าจะผูกมิตรกับยมโลก”
สถานการณ์บีบบังคับ ลู่กวานจึงต้องยอมอ่อนข้อ
ถ่วงเวลาพวกเขาด้วยคำพูดก่อน รอให้กองกำลังเสริมมาถึง นั่นจะเป็นโอกาสในการโต้กลับ ลู่กวานคิดในใจ
น่าเสียดาย จี๋อวิ๋นมองทะลุทุกอย่าง จิตสังหารเลือนรางที่แผ่ออกมาจากร่างกายของลู่กวานมิอาจปกปิดจากเขาได้
ยมโลกเชี่ยวชาญในมรรคแห่งดวงวิญญาณนรก แม้ว่าจะมิอาจแยกแยะความจริงจากคำพูด แต่พวกเขากลับมองทะลุถึงดวงวิญญาณ
คำพูดสามารถโกหกได้ แต่ดวงวิญญาณโกหกมิได้
จิตสังหารของลู่กวานแผ่ออกมาจากดวงวิญญาณ
ในสายตาของจี๋อวิ๋น มันช่างเด่นชัดยิ่งกว่าโคมไฟในยามค่ำคืน
“ได้ แต่เจ้าต้องมีสิ่งของมาเป็นหลักฐาน” จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดราชันฉู่เจียงเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา
“สิ่งของอันใด? ตราบใดที่ยมโลกต้องการ ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่”
เมื่อเห็นว่ามีโอกาส ลู่กวานก็รู้สึกยินดี
“ชีวิตของเจ้า”
สิ้นคำพูด รัศมีกดดันอันยิ่งใหญ่ก็พุ่งเข้าใส่
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดยมราชสามตนลงมือทันที
หนึ่งหมัดพุ่งออกไป ท้องฟ้าแตกสลาย ราวกับแบกรับพลังของฟ้าดิน ไร้ผู้ต่อต้าน!
หนึ่งกระบี่ฟาดฟันลงมา เจตจำนงกระบี่นรกส่องแสงเจิดจ้า แม้แต่ดวงอาทิตย์บนเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าก็ยังถูกย้อมสี กลายเป็นสีดำสนิท
หนึ่งดาบสว่างไสวไร้ที่สิ้นสุด ความคมกริบตัดผ่านฟ้าดิน เสียงดาบราวกับมังกรคำราม พยัคฆ์คำรน!
ยมราชสามตนลงมือพร้อมกัน ใช้ท่าไม้ตายสังหาร ไร้ซึ่งการยั้งมือ
“เจ้า………”
สีหน้าของลู่กวานพลันเปลี่ยนไป ประสบการณ์หลายปีทำให้เขาตอบสนองโดยสัญชาตญาณ
ภายใต้ร่างกายอีกาทองคำ พลังเวทและกายเนื้อของเขาล้วนอยู่ในสภาวะสูงสุด
การลงมือในเวลานี้ ช่างน่าสะพรึงกลัว
ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ ภายใต้วิกฤตชีวิตและความตาย ลู่กวานรู้สึกว่าตบะและดวงวิญญาณของเขากำลังหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว!
กระทั่ง… ขีดจำกัดของเขาก็เริ่มสั่นคลอน
ระดับมหาปราชญ์เก้าชั้นฟ้าที่เขาใฝ่ฝันมาหลายปี ใกล้เข้ามาแล้ว ใกล้จนแทบจะเอื้อมถึง!
ในสภาวะเช่นนี้ ลู่กวานสามารถต้านทานแสงกระบี่และแสงดาบที่พุ่งเข้าใส่ได้
“ทะลวงระดับในช่วงเวลาคับขัน? แต่น่าเสียดาย… เจ้ายังคงต้องตาย”
จี๋อวิ๋นกล่าวอย่างเย็นชา
แสงกระบี่และแสงดาบถูกต้านทานไว้ แต่ยังคงมีการโจมตีครั้งที่สาม พุ่งลงมาอย่างรุนแรง
ตู้ม!
เมื่อหมัดนี้พุ่งลงมา จิตใจของลู่กวานก็สั่นสะท้าน สายตาพร่ามัว
แต่จิตใจกลับมืดมิดลง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ เขาราวกับเห็นร่างเงาอันยิ่งใหญ่ยืนเอามือไขว้หลัง บดบังแสงอาทิตย์และดวงจันทร์ มองดูเขาที่ราวกับมดปลวกอยู่เบื้องล่าง
สิ้นหวัง หวาดกลัว ไม่ยอมแพ้………
ความรู้สึกด้านลบมากมายพลันเข้ามาในจิตใจ
แต่ในชั่วพริบตาถัดมา ทุกอย่างก็กลายเป็นความมืดมิดนิจนิรันดร์
ปุ๊!
หมัดหนึ่งพุ่งเข้ามา ศีรษะของลู่กวานระเบิดออก ดวงวิญญาณภายในก็ถูกทำลายไปพร้อมกับหมัดนี้!
ตายอย่างสมบูรณ์!
ติ๊ง!
[สังหารมหาปราชญ์หนึ่งคน ได้รับ 2,000 แต้มการบำเพ็ญ]
ภายในเมืองโบราณ
สิ่งมีชีวิตนับแสนมองดูยมราชสามตนที่ยืนอาบเลือดสีทอง ต่างรู้สึกราวกับเห็นเทพมาร สั่นสะท้านอย่างควบคุมมิได้
โดยเฉพาะเจ้าเมืองยิ่งรู้สึกหวาดกลัว
มหาปราชญ์ของเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ… ตายแล้ว!
ยมโลก… พวกเขาเอาจริง!
เบื้องบนท้องฟ้า จี๋อวิ๋นไม่ได้สนใจความคิดของผู้คนเบื้องล่าง เขามองดูแต้มการบำเพ็ญ
ตอนนี้มีมากกว่าหนึ่งหมื่นแต้มแล้ว
ก่อนหน้านี้ เขาได้สังหารยอดฝีมือที่เผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำส่งออกไป
ปราชญ์ยี่สิบคน ราชันปราชญ์สิบคน มหาปราชญ์เจ็ดคน ส่วนใหญ่ล้วนตายในมือของเขา
แต้มการบำเพ็ญที่ได้จากยอดฝีมือของเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ ทำให้แต้มการบำเพ็ญของเขาไม่เพียงแต่มากกว่าหนึ่งหมื่นแต้ม แต่ยังทะลุขีดจำกัด
หนึ่งแสนสี่พันแต้ม!
นี่คือแต้มการบำเพ็ญที่จี๋อวิ๋นมีในตอนนี้!
เพียงพอที่จะยกระดับหุ่นเชิดหนึ่งตนสู่ระดับกึ่งเทพ!
แต่จี๋อวิ๋นยังไม่คิดจะหยุดเพียงเท่านี้
“ยังเหลืออีกหนึ่งคน เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนที่เผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำส่งออกไป”
หนึ่งในสี่ผู้อาวุโสระดับมหาปราชญ์เก้าชั้นฟ้า ลู่หยวน!
เผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำมีผู้อาวุโสมากมาย แต่คนที่สามารถเรียกได้ว่าสี่ผู้อาวุโส ล้วนเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ตบะของพวกเขาอยู่ในระดับมหาปราชญ์เจ็ดชั้นฟ้าถึงเก้าชั้นฟ้า
ลู่หยวนผู้นี้เป็นผู้นำของสี่ผู้อาวุโส!
เขาบำเพ็ญมาถึงสามพันห้าร้อยปีแล้ว กล่าวได้ว่าอยู่ในช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดของชีวิต
ตอนที่ลู่หยวนยังเยาว์วัย เคยเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงตำแหน่งบุตรเทพของเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ
กระทั่งมีข่าวลือว่าเคยต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งบุตรเทพกับผู้นำเผ่ารุ่นปัจจุบัน แม้ว่าจะล้มเหลว แต่พรสวรรค์ของเขาก็นับว่าน่าทึ่ง
ในอนาคตมีโอกาสที่จะก้าวสู่ระดับกึ่งเทพ!
บุคคลที่น่าทึ่งเช่นนี้ นับเป็นวัสดุชั้นดีสำหรับสร้างหุ่นเชิด
ไม่ว่าจะมองมุมใด จี๋อวิ๋นก็ไม่อยากพลาด
“ในเมื่อลงมือแล้ว ก็ต้องสังหารให้หมดสิ้น”
จี๋อวิ๋นพึมพำในใจ เขาต้องทำให้โลกรู้ถึงพลังของยมโลก แม้แต่ขุมอำนาจระดับหนึ่งก็เป็นเพียงเป้าหมายของยมโลกเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น การต่อสู้ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น!
รอให้เขาสังหารประมุขสำนักเยียวยาสวรรค์ โม่เหวินเทา เมื่อถึงเวลานั้น ชื่อเสียงของยมโลกจะต้องส่องประกายเจิดจรัสดุจดวงดาว โด่งดังไปทั่วทุกสารทิศ!
