บทที่ 316 เรียกชื่อเขาโดยเฉพาะ
บทที่ 316 เรียกชื่อเขาโดยเฉพาะ
ค่ำคืนนั้น พวกเขากลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
“คุณเฉิน ผมก็ไม่ขอพูดอะไรเยอะ คุณคิดยังไงบ้างล่ะ?” โอว จิ้งเฉิงถามขึ้น
ตอนนี้ปัญหาได้โยนกลับไปให้กับ เฉินเฉิง แล้ว
ความจริง โอว จิ้งเฉิงมีความตั้งใจอยู่อย่างหนึ่ง
“ผมได้เสนอเงื่อนไขแล้ว ถ้าคุณหาคำตอบไม่ได้ก็ต้องจ่ายเงินเป็นค่าจ้าง แต่ถ้าคุณจ่าย ผมก็สามารถทำงานได้อย่างสบายใจ”
“หัวหน้าแผนกเล่ย บอกผมแล้ว ผมคิดว่าเงื่อนไขที่คุณโอวเสนอมานั้นค่อนข้างสมเหตุสมผลครับ มันควรจะเป็นอย่างนี้” เฉินเฉิงพยักหน้า
โอว จิ้งเฉิงชะงักไป นี่เขาคิดได้แล้วหรือ?
“งั้นก็ดี!” โอว จิ้งเฉิงหัวเราะแล้วพูด “ถ้าอย่างนั้น คุณหมายความว่า...”
“พ่อตาของผมชื่อ เสิ่นเกา เขาเคยเป็นหัวหน้าแผนกโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าซุ่นผิง แต่หลังจากนั้นเพราะมีคนจำนวนมากถูกปลดออกจากงาน เขาเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ถูกปลดออก อย่างไรก็ตาม พ่อตาของผมยังมีชื่อเสียงในโรงงานพอสมควร ไม่ได้ด้อยไปกว่ากาวหยุนเหอ สักเท่าไหร่ ดังนั้น พ่อตาของผมสามารถเป็นผู้ที่รับช่วงต่อในหน้าที่นี้ได้ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ผมจะจัดการเอง ตั้งแต่เงินเดือนคนงานจนถึงการขาย ทุกอย่างผมจะจัดการเอง พ่อตาของผมดูแลแค่การผลิตก็พอ”
โอว จิ้งเฉิงตะลึง
สำหรับเรื่องนี้ เขาไม่รู้อะไรเลย
เล่ยเฉิง แทบจะกลั้นหัวเราะไม่ไหว ต้องพยายามกลั้นไว้สุด ๆ
คุณโอว ครั้งนี้คุณยกหินขึ้นมาทุบเท้าตัวเองแล้วสินะ
“คุณเฉิน นี่คุณไม่ได้ล้อเล่นกับผมหรอกใช่ไหม?”
“ทำไมถึงจะล้อเล่นล่ะ!” เฉินเฉิงหัวเราะ “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ผมจะกล้าล้อเล่นได้ยังไง? คุณลองสอบถามดูก็รู้แล้วครับ”
โอว จิ้งเฉิงรู้สึกอึดอัด แต่ก็รีบหัวเราะออกมา “แต่ว่าคุณพูดอย่างนี้ ดูเหมือนจะดีกว่าที่เราคิดไว้ก่อนหน้านี้ งั้นเอาเป็นว่าตกลงตามนี้แล้วกันนะ”
“ตกลงครับ!” เฉินเฉิงมองเขาที่เปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็วก็อดยิ้มในใจไม่ได้ “แล้วเมื่อไหร่จะประกาศล่ะ?”
“ผมต้องไปดำเนินการก่อน แต่มันจะเร็วมาก เพราะโรงงานของเราจำเป็นต้องเริ่มงานเร็วที่สุด”
“ได้ครับ!”
หลังจากกินข้าวเสร็จ โอว จิ้งเฉิงก็กลับไป แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด
ตอนแรกต้องการหาข้ออ้างเพื่อให้เฉินเฉิงจ่ายค่าจ้างสักหน่อย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ แบบนี้ เมื่อคิดได้ เขาก็ไปหาฟางต้าซาน ให้เขาถามหลินซูจี ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่
หลินซูจีจัดการเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็ว และได้สอบถามมาแล้ว
“เป็นความจริง!” หลินซูจีตอบอย่างมั่นใจ “สิ่นเกามีลูกสาวสองคน ลูกสาวคนโตชื่อ เสิ่นจือหง ทั้งเธอและสามีเคยทำงานที่โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าซุ่นผิง พักหลังพวกเขาถูกปลดออก ลูกสาวคนเล็กชื่อ เสิ่นจือฮวา ตอนนั้นเพราะพ่อแม่ของเธอไม่เห็นด้วยจึงไม่ได้มีการติดต่อกัน ดังนั้นหลายคนจึงไม่รู้จักลูกเขยของเขา ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน”
หลังจากได้ยินข่าวนี้ โอว จิ้งเฉิงรู้สึกท้อแท้ นี่มัน...หลุมที่ตัวเองขุดไว้จริง ๆ หรือว่าเดินเข้ามาหาเอง?
เอาเถอะ เอาเถอะ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้!
“รีบดำเนินการเร็ว ๆ!” โอว จิ้งเฉิงพูดกับฟางต้าซาน “พรุ่งนี้คุณไปแจ้งเสิ่นเกา บอกเรื่องนี้ให้แน่ชัด แล้วก็ให้เขาดูแลคนงานให้ดี จากนั้นให้เฉินเฉิงเตรียมตัวเปิดงาน คนของเราก็ใกล้จะมาถึงแล้ว โดยเฉพาะทหารเกษียณทั้งสามสิบคน ต้องทำให้พวกเขามีความสุข!”
“ผมเข้าใจแล้ว สบายใจได้เลยครับ!”
……
วันถัดมา เฉินเฉิงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของโอว จิ้งเฉิงได้ ดังนั้นเมื่อ เนี่ยนเนี่ยน เลิกเรียน ก็พาเสิ่นจือฮวากับเนี่ยนเนี่ยนไปบ้านเสิ่นเกาด้วยกัน
“เด็กน้อย!” เมื่อเห็นเฉินเนี่ยนเนี่ยน เสิ่นเกาดีใจจนแทบจะกระโดดขึ้นมา รีบวิ่งเข้าไปอุ้มเธอ “คิดถึงคุณตาไหม?”
“คิดถึง!” เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะอย่างสดใส
แต่ ถังเหมย ดูไม่ค่อยพอใจ
“มา ๆ รู้แค่มากินข้าวฟรี ไม่คิดจะช่วยอะไรเลย ทำอะไรก็ไม่เป็น รู้แค่กินข้าวก็พอแล้ว...ไม่เห็นหรือว่าบ้านเรายากจนแค่ไหน!”
เสิ่นเการู้สึกโกรธ แต่เฉินเฉิงไม่ได้ใส่ใจถังเหมย
“พ่อ วันนี้มาฉลองให้พ่อครับ!” เฉินเฉิงพูดพร้อมหยิบไวน์แดงออกมา “วันนี้เราดื่มกันหน่อย”
“ฉลอง? ฉลองอะไร?” เสิ่นเกาดูงง
“พูดอะไรไม่คิด คิดจะพูดอะไรก็พูดเหรอ เสิ่นสงโดนจับ คุณวิ่งมาที่นี่เพื่อฉลองเหรอ!” ถังเหมยพูดอย่างโกรธ
“แม่!” เสิ่นจือหฮวา ขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเสิ่นสง พ่อกำลังจะได้กลับไปทำงานที่โรงงาน!”
เสิ่นเกาตกใจ มองเฉินเฉิงด้วยความประหลาดใจ
“ผมจะได้กลับไปทำงานที่โรงงาน?”
“ไม่ต้องห่วงครับ โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าซุ่นผิง!” เฉินเฉิงพยักหน้า “พ่อครับ พ่อจะได้กลับไปเป็นหัวหน้าแผนกอีกครั้ง”
“แต่โรงงานตอนนี้พังไปแล้ว กาวหยุนเหอก็ถูกจับไปแล้ว จะทำงานต่อได้ยังไง”
“ผมจัดการแล้วครับ!” เฉินเฉิงยิ้มอย่างมีความสุข “ไม่ได้ใช้เงินสักบาทเดียว ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว เงินเดือนคนงานผมจะเป็นคนจ่าย เสื้อผ้าผมจะเป็นคนขาย ทุกอย่างให้ผมจัดการ แต่ตอนนั้นเราต้องแบ่งกำไรกับพวกเขาให้ได้ เอาล่ะ ก่อนหน้านี้คนงานที่ถูกปลดไปแล้วไม่มีทางแก้ แต่คนงานอีกกว่าร้อยคนในแผนกสุดท้าย พวกเรายังสามารถดำเนินงานต่อไปได้ พ่อจะได้กลับไปเป็นหัวหน้าแผนก”
เสิ่นเกายืนนิ่ง นี่มันข่าวที่ช็อกจนเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันที
“อย่าไปฟังเขาโม้เลย...” ถังเหมยพูดเยาะเย้ย “ไม่ต้องใช้เงินสักบาทก็จัดการได้ คุณยังเชื่ออีกเหรอ?”
เสิ่นจือฮวา ยิ่งไม่พอใจ ลูกเขยของคุณมีความสามารถขนาดนี้ คุณควรจะดีใจสิ ทำไมต้องพูดจาเยาะเย้ยด้วย?
หรือว่าคุณไม่พอใจที่เฉินเฉิงไม่สามารถช่วยลูกชายคุณออกมาได้?
เขาต้องมีความสามารถถึงจะช่วยได้!
“เล่าเสิ่น!” ในตอนนั้นเอง เสียงดังขึ้นจากข้างนอก และตามมาด้วยการปรากฏตัวของหลินซูจี
เมื่อเห็นเฉินเฉิงกับเสิ่นจือฮวา หลินซูจีชะงักไป
เขาไม่รู้จักเฉินเฉิง แต่รู้จักเสิ่นจือฮวา
เมื่อดูจากสถานการณ์ก็สามารถเข้าใจได้ทันที
“หลินซูจี!” เสิ่นเกายืนขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“เล่าเสิ่น!” หลินซูจีเข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง “นี่คือลูกเขยของคุณ เฉินเฉิง ใช่ไหม?”
“ใช่ ๆ ๆ!” เฉินเกาพยักหน้า
“คุณเฉิน สวัสดีครับ!” หลินซูจียิ้มแล้วยื่นมือออกมา “ในอนาคต คงต้องขอความร่วมมือจากคุณด้วยนะครับ”
“นี่คือหลินซูจี เลขาธิการพรรคของโรงงานเราครับ!” เสิ่นเการีบอธิบาย
เฉินเฉิงยิ้มแล้วจับมือเขา “หลินซูจี หวังว่าเราจะได้ร่วมมือกันอย่างราบรื่นครับ”
“เป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว!” หลินซูจีพยักหน้า มองเสิ่นเกาแล้วพูด “ทางเบื้องบนให้ผมมาบอกคุณ ตอนนี้โรงงานแห่งชาติซุ่นผิงได้กลับมาอยู่ในความดูแลของเราแล้ว เตรียมให้คุณกลับไปทำงาน เพื่อให้คนงานในแผนกสุดท้ายมั่นใจ แล้วเตรียมเริ่มงานผลิตได้ภายในสองวันนี้”
เสิ่นเกากับถังเหมยถึงกับยืนนิ่ง
“หลินซูจี คุณพูดจริงเหรอ เล่าเสิ่นจะได้กลับไปทำงานจริง ๆ เหรอ?”
“จริงครับ และเบื้องบนได้ระบุชื่อเขาโดยเฉพาะ” หลินซูจีพูด “ดังนั้นเล่าสิ่นก็ต้องเหนื่อยหน่อย ช่วยงานเราให้สำเร็จนะ” หลินซูจีหัวเราะออกมา