ตอนที่ 35 แผนชั่วของลิยู
ยึดห้วยหนาน!
โดยไม่เสียเวลาคิดให้เปลืองสมองอีก ซุนเกี๋ยนตัดสินใจทันที
ไม่ว่าจะยึดห้วยหนานได้ง่ายหรือไม่ หลังจากนี้ เขาจะต้องยึดห้วยหนานเป็นฐานที่มั่นให้ได้!
ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความคิดเห็น
แต่ไป๋หลี่หมิงพูดถูกหมด ไม่ใช่แค่เรื่องฐาน แต่ยังเรื่องศัตรูในอนาคต
โจโฉ!อ้วนสุด!
ถึงเขาจะไม่รู้ว่าทำไมไป๋หลี่หมิงถึงให้ความสำคัญกับโจโฉที่ตอนนี้มีแค่ทหารไม่กี่นาย แต่ไป๋หลี่หมิงพูดแบบนี้ โจโฉก็ต้องไม่ธรรมดาแน่
ส่วนเรื่องอ้วนสุด ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องร่วมมือกัน แต่พอทุกอย่างเรียบร้อย เขาจะจัดการอ้วนสุดเป็นคนแรก
แต่ตอนนี้ ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องไปก่อน
ต่อให้อยากจะกำจัดอ้วนสุด ก็ต้องรอให้พันธมิตรจบสิ้นก่อน
หลังจากรู้ทิศทางแล้ว ซุนเกี๋ยนก็รู้สึกมั่นใจ เขารู้สึกว่าอนาคตสดใส
นอกจากเรื่องดินแดนแล้ว เขายังมีปัญหาอีกอย่าง
นั่นคือเขาควรจะเอาอะไรจากตั๋งโต๊ะ
แต่หลังได้ยินที่ไป๋หลี่หมิงพูด เขาก็คิดได้คร่าวๆว่าอยากได้อะไร
อาหาร เงินและชื่อเสียง
ตามข้อกำหนดสามอย่างนี้ ไป๋หลี่หมิงวิเคราะห์
"ตอนนี้ตั๋งโต๊ะเสียที่มั่นสำคัญอย่างด่านโสหุยไป ตอนที่มันถอยทัพ มันต้องใช้ฮ่องเต้ข่มขู่พวกเรา "
"เพราะฮ่องเต้สูงส่ง ตั๋งโต๊ะคงไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ แน่ คงจะพาไปด้วย นี่คือส่วนแรก”
“ตามนิสัยของตั๋งโต๊ะ ถัดจากฮ่องเต้ ก็คงเป็นเงินและอาหาร”
"ส่วนที่สามก็น่าจะเป็นขุนนาง!"
"สุดท้ายก็ทหารชั้นยอด!”
“ท่ามกลางนั้น ที่แข็งแกร่งสุดคือกองทัพของฮ่องเต้และเป็นขบวนสุดท้าย!”
“ดังนั้น เป้าหมายของพวกเราคือกองทัพหลังของตั๋งโต๊ะ ซึ่งสามารถตัดเป็นสองส่วนและแยกเอาชนะได้!”
ซุนเกี๋ยนพยักหน้าเห็นด้วย
ในเมื่อมีเป้าหมายชัดเจนแล้ว จะรออะไรอีกล่ะ? ได้เวลาฉวยโอกาสตอนที่น้ำขุ่นจับปลาแล้ว!
พอเห็นว่ามันดึกแล้ว ซุนเกี๋ยนจึงกลับค่ายไปพร้อมกับไป๋หลี่หมิง เตรียมตัวสำหรับศึกใหญ่ครั้งต่อไป
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
เมืองลั่วหยางก็ดูเหมือนจะสงบ แต่มันคือความสงบก่อนพายุจะมา
ไม่ว่าจะเป็นซุนเกี๋ยน กองกำลังพันธมิตร หรือ กองทัพของตั๋งโต๊ะ ทุกคนต่างก็กำลังคิดแผนการรบในใจ
......
นอกด่านโสหุย ค่ายของตั๋งโต๊ะ
ทหารคนหนึ่งถือหนังสือผ้าไหม วิ่งเข้าไปในกระโจมใหญ่
ตอนนี้ ตั๋งโต๊ะกำลังปรึกษาเรื่องสำคัญกับลิยูและขุนพลคนอื่นๆ
"รายงาน แม่ทัพลิฉุยส่งจดหมายมาขอรับ! " ทหารคุกเข่ารายงาน
"เข้ามา! " เสียงทุ้มดังมาจากในกระโจม
“รายงาน ท่านอัครมหาเสนาบดี แม่ทัพลิฉุยรายงานว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว รอท่านไปจัดการการย้ายเมืองหลวง!”
“จริงหรือ?” ตั๋งโต๊ะยิ้ม
"ยินดีกับท่านอัครมหาเสนาบดีด้วย!” ลิยูก้าวไปข้างหน้า คว้าหนังสือผ้าไหมมาดู แล้วหันกลับมายิ้ม
“แม่ทัพลิฉุยกับกัวซือชักจูงฮ่องเต้และขุนนางได้แล้ว ตอนนี้ เหล่าตระกูลใหญ่ในลั่วหยางก็พร้อมแล้ว! ”
"รอท่านอัครมหาเสนาบดีไปจัดการ พวกเราก็เริ่มย้ายเมืองหลวงได้!”
“ตราบใดที่พวกเรากลับไปกวนจงได้ กองทัพเราก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก! ”
ขุนพลคนอื่นๆ ต่างก็ดีใจ
หลังจากเผชิญหน้ากับกองกำลังพันธมิตรมานาน ในที่สุดพวกเขาก็ถอยทัพได้เสียที!
"เยี่ยมมาก!" ตั๋งโต๊ะหัวเราะ ตบมืออย่างชอบใจ
“ถึงแม้ว่าพวกมันจะยึดลั่วหยางได้ แต่กองทัพเราก็ไม่ได้เสียหายอะไร!”พูดจบ เขาก็จับเครามองลิยูด้วยแววตาเป็นกังวล
“แต่วิธีถอยทัพ? พวกโจรที่ด่านโสหุยไม่ใช่ธรรมดา! ”
"ถ้าพวกมันไล่ตามมา พวกเราจะทำยังไงดี?”
“ไม่ต้องห่วง ข้ามีแผนรับมือรับรองว่าศัตรูไม่รู้ตัวแน่ว่าพวกเราถอยทัพ!” ลิยูยิ้ม
"แผนอะไร?"ตั๋งโต๊ะดีใจ
“แผนนี้ก็แค่กลอุบาย ท่านยังจำกลยุทธ์ที่พวกเราใช้ตอนเข้าลั่วหยางได้หรือไม่?” ลิยูยิ้ม
ตั๋งโต๊ะนึกอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ยิ้ม "แผนของเจ้า ข้าไม่มีวันลืม! "
ตอนที่เขานำทัพเข้าลั่วหยาง เขามีทหารแค่สามพันนาย กองกำลังเสริมก็ยังมาไม่ถึง
ดังนั้น ลิยูจึงเสนอให้เขาแอบออกจากลั่วหยางในตอนกลางคืน แล้วค่อยกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ในวันรุ่งขึ้น แสร้งทำเป็นว่ากองกำลังเสริมมาถึงอย่างต่อเนื่อง
หลังจากทำแบบนี้ไปสองสามวัน ฮ่องเต้กับขุนนางในลั่วหยางก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
ทำให้เขายึดอำนาจได้สำเร็จ!
“เจ้าจะใช้วิธีเดิมหรือ?” ตั๋งโต๊ะถามอย่างตื่นเต้น
“ไม่ใช่ขอรับ” ลิยูส่ายหัว
“ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แผนเดิม แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน”
“ตอนนี้ศัตรูถอยไปตั้งหลักที่ด่านโสหุยแล้ว พวกเราก็แค่ถอยทัพตอนกลางคืน พอถึงกลางวันก็ตั้งค่าย ทิ้งทหารไว้แค่บางส่วน”
"รอจนกว่ากองทัพหลักจะไปไกลแล้ว ค่อยให้ทหารที่เหลือถอยตามไป”
"แบบนี้ ศัตรูก็จะไม่รู้ว่ากองกำลังหลักของเราไปแล้ว "
"ส่วนที่ด่านหูเหลา ให้ซูหยงนำทัพไปโจมตีก่อน ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ศัตรูก็จะไม่รู้สถานการณ์ "
"แบบนี้ พวกเราก็ถอยไปด่านหูเหลาได้อย่างปลอดภัย! "
“พอทัพของเราถอยไปแล้ว ต่อให้ศัตรูจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว! ”
"ฮ่าๆๆๆ... เจ้าช่างมีแผนการที่ดีจริงๆ!” ตั๋งโต๊ะหัวเราะชอบใจ
"แผนนี้ยอดเยี่ยมมากเหวินโหยว ถ้าทำแบบนี้ ข้าว่ากว่าพวกมันจะรู้ตัว กองทัพเราก็ไปถึงฉางอันแล้ว! "
พูดจบ เขาก็หยุดหัวเราะ มองขุนพลที่อยู่รอบๆ
“พวกเจ้าว่าพวกเราควรจะทิ้งทหารไว้เท่าไหร่ดี แล้วให้ใครคุม?”
ขุนพลคนอื่นๆ ต่างก็อยากอาสา
“ท่านอัครมหาเสนาบดี ข้าว่าอย่างน้อยต้องทิ้งทหารไว้สองหมื่นนาย” ลิยูก้าวไปข้างหน้า
"ส่วนคนคุมทัพ ก็ต้องเป็นแม่ทัพลิโป้! "
“เจ้าอยากให้เฟิงเซียนนำกองทัพ?”
ตั๋งโต๊ะตกตะลึงตอนได้ยินและอดขมวดคิ้วไม่ได้เขารู้ว่าลิโป้เก่งกล้า อยากเก็บไว้ข้างกายเพื่อคอยปกป้องเขา
เขาไม่คิดว่าลิยูจะให้ลิโป้เป็นกองหลัง!
แต่ในเมื่อลิยูพูดแบบนี้ แสดงว่าต้องมีเหตุผล
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมองลิโป้ “ลูกข้า เฟิงเซียน เจ้าเต็มใจนำทัพคุ้มกันด้านหลังข้าหรือไม่?”
ลิโป้ได้ยินก็ก้าวออกมาโดยไม่ลังเล
“ข้ายินดี!”
“ดีมาก ลูกข้า ในเมื่อเจ้าเต็มใจ งั้นข้าจะให้เจ้าคุมทหารสองหมื่นนาย!”ตั๋งโต๊ะยิ้ม
“ส่วนคนอื่นๆ รีบกลับค่ายไปเตรียมกองทัพเดี๋ยวนี้ คืนนี้พวกเรากลับลั่วหยาง แล้วไปฉางอันพร้อมกับฮ่องเต้!”
"ครับ! "
หลังจากตั๋งโต๊ะออกคำสั่ง เหล่าขุนพลก็ก้มหัวก่อนจะแยกย้ายกันไป
ส่วนลิโป้ พอได้รับคำสั่ง เขาก็ดีใจมาก รีบกลับค่ายไปด้วยความสุข
แต่พอก้าวออกจากกระโจม เขาก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง
“เฟิงเซี่ยน รอข้าก่อน!”
ลิโป้หันกลับไป เห็นลิยูกำลังเดินมาหา
พอเห็นแบบนี้ เขาก็แกล้งยิ้ม
“เหวินโหยวเรียกข้า มีอะไรหรือ?”
“ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากจะถามว่าพรุ่งนี้ เฟิงเซียนจะถอยทัพยังไง?” ลิยูเดินมาหาลิโป้แล้วยิ้ม
“ทำไมจู่ๆ ถึงถามแบบนี้?” ลิโป้สับสน
“ก็ในเมื่อจะถอย ก็แค่ถอยทัพ จะมีวิธีอื่นให้เราใช้อีกหรือ?”
“ฮ่าๆๆ...ไม่ได้!” ลิยูส่ายหัว
“ถ้าหากท่านถอยทัพแบบนั้น พวกมันต้องไล่ตามมาแน่ ถ้าหากอยากจะถอยทัพอย่างปลอดภัย ต้องใช้วิธี!”
“ข้าจะสอนวิธีให้สองวิธี รับรองว่าเฟิงเซียนจะถอยทัพได้ปลอดภัยแน่นอน!”
"วิธีอะไร?" ลิโป้รีบถาม
"วิธีแรกก็คือก่อนที่ท่านจะถอยทัพ ให้นำทหารไปท้ารบที่ด่านโสหุย แสร้งทำเป็นว่าพวกเราต้องการสู้”
“ถ้าพวกมันไม่สู้ ก็ช่างมัน แต่ถ้าหากพวกมันส่งคนมาต่อสู้ ท่านก็ฆ่าขุนพลมันซะ สร้างบารมีแล้วค่อยถอยทัพ! ”
“แบบนี้ พวกมันก็จะกลัวบารมีของท่านและจะไม่รู้จุดประสงค์ของทัพเรา พอไม่กล้าไล่ตาม ท่านก็ถอยได้อย่างปลอดภัย!”
“วิธีนี้ดี!” ลิโป้ตาเป็นประกาย "ท่านช่างมีแผนการที่ดีจริงๆ! "
“แล้วยังมีวิธีที่สองอีกหรือ?”
แต่ทันทีที่พูดไป ลิยูก็ยิ้มอย่างลึกลับ
"ส่วนวิธีที่สองก็คือขัดขวางไม่ให้ศัตรูตามมา! "
"ก่อนที่ทัพของเราจะถอยในวันพรุ่งนี้ ข้าจะให้ทหารเอากองฟืนไปสุมไว้ทั่วเมืองลั่วหยาง"
"ถ้าหากศัตรูตามมา ท่านก็จุดไฟในเมืองลั่วหยางเพื่อหยุดมันซะ!”
"อะไรนะ?" ลิโป้ตกใจ สูดอากาศเย็นเข้าปอด และมองลิยูด้วยความหวาดกลัว "ท่านจะให้ข้าเผาเมืองหลวงงั้นรึ? "