ตอนที่ 34 แค่พูดคุยก็กำหนดชะตาบ้านเมือง
ซุนเกี๋ยนเป็นยอดขุนพลก็จริง
แต่เวลาพูดถึงเรื่องใหญ่ๆ เขามักจะทำอะไรไม่ถูก
ตอนเป็นเจ้าเมืองฉางซา เขานำทัพข้ามจิงโจวมาถึงหนานหยาง แต่ยังไม่ทันได้ตั้งหลัก เขาก็นำทัพไปโจมตีอี้โจวต่อ
ตลอดทางเขาชนะศึกมานับไม่ถ้วน
แต่ดินแดนที่เขายึดได้ก็เหมือนกับ "ควอนตัม" เหมือนมีอยู่แต่ก็เหมือนไม่มีอยู่
ฉางซา ภูเขาสูง ถนนหนทางลำบาก กลับไปไม่ได้
ส่วนหนานหยางก็ถูกอ้วนสุดยึดไปแล้ว
จิงโจวไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้ตกเป็นของเล่าเปียวไปแล้ว
พูดง่ายๆ คือเขาต่อสู้มามากมาย แต่ดินแดนไม่ได้เพิ่ม กลับลดลง
ตอนนี้ ไป๋หลี่หมิงเตือน เขาก็เพิ่งรู้ตัว
ที่แท้ปัญหาของเขาก็คือไม่มีฐานที่มั่น!
ตอนนี้เขาไม่สนใจปัญหาอื่นแล้ว รีบโค้งคำนับให้ไป๋หลี่หมิง
“วันนี้ ได้ยินท่านกุนซือพูด ข้ารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่”
“ขอรับคำแนะนำจากท่านด้วยว่า พวกเราควรจะยึดที่ไหนเป็นฐานที่มั่นดี?”
“นายท่าน ไม่ต้องมากพิธี” ไป๋หลี่หมิงรีบพยุงซุนเกี๋ยนขึ้นแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ข้าคิดไว้แล้ว!”
“ตอนนี้ สงครามใกล้จะสิ้นสุดแล้ว อนาคตของพวกเรายังไม่แน่นอน”
“ดังนั้น ฐานที่มั่นจึงเป็นเป้าหมายต่อไปของพวกเรา”
“ข้าในฐานะที่ปรึกษา ย่อมต้องคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว!”
“แต่ก่อนจะพูดถึงเรื่องนี้ ข้าอยากรู้ว่าเดิมนายท่านวางแผนไว้ยังไงบ้าง?”
พอได้ยินว่าไป๋หลี่หมิงมีแผนแล้ว ซุนเกี๋ยนก็โล่งใจ แต่พอถูกถามถึงแผน เขาก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ
“ตอนแรก ข้าแค่คิดจะมากำจัดตั๋งโต๊ะเลยไม่ได้คิดอะไรมาก”
"ตอนท่านกุนซือพูดถึงมันวันนี้ ข้าก็ปวดหัวเหมือนกัน"
“ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นเจ้าเมืองฉางซา แต่ตอนนี้เล่าเปียวกำลังมุ่งหน้าลงใต้ ข้าจึงส่งจางเซี่ยนไปเฝ้าฉางซา!”
“หนานหยางอุดมสมบูรณ์ก็จริง แต่ตอนนี้ถูกอ้วนสุดยึดไปแล้ว”
“ข้าว่าอ้วนสุดเสนอชื่อข้าเป็นเจ้าเมืองอี้โจว พวกเราไปตั้งหลักที่นั่นดีไหม? ”
พูดจบ เขาก็มองไป๋หลี่หมิง
“นายท่าน พวกเราจะไปที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ได้ แต่ห้ามไปอี้โจว!” ไป๋หลี่หมิงส่ายหน้า
“ทำไม?” ซุนเกี๋ยนตกใจ
"เพราะอี้โจวเป็นบ้านของตระกูลอ้วน!” ไป๋หลี่หมิงมองซุนเกี๋ยนแล้วยิ้ม
“ตระกูลอ้วน สี่ชั่วอายุคน มีอ๋องถึงสามรุ่น และพวกเขาก็ใช้ชีวิตในรู่หนานมา หยั่งรากลึก!”
“และนายท่าน หากท่านยอมรับข้อเสนอของอ้วนสุดครั้งนี้ ก็เท่ากับว่าท่านอยู่ใต้บัญชาของอ้วนสุด”
“ตอนนี้ กองทัพของเรากับอ้วนสุดก็แตกคอกันแล้ว ถ้าพวกเราไปอี้โจว พวกเราก็จะถูกควบคุม”
“แต่นิสัยอ้วนสุดเป็นคนใจแคบ คงไม่ยอมให้พวกเรามีอำนาจหรอก ”
"นายท่าน ทำไมอ้วนสุดถึงใจดีเสนอชื่อท่านเป็นเจ้าเมืองอี้โจว? "
"เพราะมันเห็นว่าท่านเก่งกล้า อยากใช้ท่านเป็นเครื่องมือ!”
“กองทัพของเราต้องการสร้างฐานที่มั่น พวกเราต้องตัดความสัมพันธ์กับอ้วนสุด ดังนั้น ไปอี้โจวไม่ได้!”
ซุนเกี๋ยนขมวดคิ้วอย่างโกรธจัด “ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง!”
“อ้วนสุด ไอคนหน้าไหว้หลังหลอก ถ้ามีโอกาสข้าจะฆ่ามันให้ได้! ”
“ถ้าอี้โจวไปไม่ได้ ส่วนฉางซาก็อยู่ไกล งั้นพวกเรากลับไปกังตั๋งดีไหม? ” ซุนเกี๋ยนเสนอ
“ข้าเริ่มต้นที่กังตั๋ง ที่นั่นอุดมสมบูรณ์เหมาะจะเป็นฐานที่มั่นที่สุด!”
“ถึงแม้ว่ากังตั๋งจะยึดได้ง่าย แต่มันก็เป็นดินแดงกันดาร ถึงแม้ว่าจะมีแม่น้ำแยงซีเป็นปราการธรรมชาติ แต่ก็แค่ตั้งรับได้ ไม่เหมาะที่จะบุกโจมตี!” ไป๋หลี่หมิงส่ายหัว
“ถึงแม้ว่าที่นั่นจะใช้เป็นฐานที่มั่นได้ แต่ก็ยัง….”
"ท่านกุนซือหมายความว่ากังตั๋งก็ไม่เหมาะหรือ? ” ซุนเกี๋ยนขมวดคิ้ว
“แล้วพวกเราควรจะไปที่ไหน?”
“ห้วยหนาน!” ไป๋หลี่หมิงยิ้ม
“ห้วยหนาน?” ซุนเกี๋ยนขมวดคิ้ว
ห้วยหนานหมายถึงอำเภอจิวเจียง อำเภอลู่เจียงและพื้นที่ส่วนเล็กของรู่หนาน
อยู่ห่างจากกังตั๋งแค่แม่น้ำกั้น!
“ท่านกุนซือ ทำไมถึงคิดแบบนั้น?” ซุนเกี๋ยนขมวดคิ้ว
“กังตั๋งยึดง่ายกว่า แต่ยากจะยึดห้วยหนาน เหนือสิ่งอื่นใด มันก็แค่หยางโจว ทำไมเราถึงควรไปยึดห้วยหนานก่อน?”
"ยึดกังตั๋งก่อน รอให้ทุกอย่างเรียบร้อย ค่อยยกทัพไปยึดอำเภอห้วยหนาน ไม่เหมือนกันหรือ? "
"ไม่เหมือนกัน!" ไป๋หลี่หมิงส่ายหน้า
พอเห็นซุนเกี๋ยนงุนงง ไป๋หลี่หมิงก็ส่ายหัวและยิ้ม
“ถึงแม้ว่าสิ่งที่ท่านพูดจะมีเหตุผล แต่การเลือกฐานที่มั่น พวกเราต้องดูสถานการณ์บ้านเมือง อย่าไปยึดติดกับผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ! ”
“สถานการณ์บ้านเมือง?” ซุนเกี๋ยนตกใจ
นี่คือจุดอ่อนของเขา คำนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วสำคัญมาก!
"ขอคำชี้แนะด้วย! "ซุนเกี๋ยนโค้งคำนับ
ไป๋หลี่หมิงดื่มสุราในจอก พูดอย่างเมาๆ ว่า“ที่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองก็คือ13มณฑลของราชวงศ์ฮั่น! ”
"ถ้าเข้าใจเรื่องราวของ13มณฑลนี้ ก็เท่ากับเข้าใจทุกเรื่องในใต้หล้า!”
“ตอนนี้ ตั๋งโต๊ะก่อความวุ่นวาย เหล่าอ๋องต่างก็ตั้งตนเป็นใหญ่ จากตะวันตกไปตะวันออกเหลียงโจว หย่งโจว ซือลี่ถูกตั๋งโต๊ะยึดครอง ตอนนี้ตั๋งโต๊ะกำลังย้ายเมืองหลวง สถานที่ยังพูดไม่ได้ไปอีกสักพัก”
“ไปทางใต้เป็นอี้โจวกับจิงโจว เล่าเอี๋ยนกับเล่าเปียวเป็นเชื้อพระวงศ์ เกี่ยวโยงกับราชวงศ์ฮั่น ภายนอกแสร้งทำเป็นเชื่อฟังราชสำนัก แต่จริงๆ แล้วคิดแยกตัว”
“ส่วนชีเซี๋ยแห่งเจียวโจว อยู่ห่างไกลจากที่ราบกลาง อยู่ตรงมุม ไม่ต้องพูดถึง”
"นอกจากหกมณฑลนี้ บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงในอนาคต!”
พอพูดถึงตรงนี้ เขาก็มองซุนเกี๋ยน
"ดังนั้น ถ้าหากกองทัพของเราอยากจะหาฐานที่มั่น ต้องพิจารณาให้ดีว่า ที่ดินผืนนั้นเหมาะที่จะเป็นฐานที่มั่นหรือไม่ และ พวกเราควรทำตัวอย่างไร เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลง!”
"ตอนนี้ ถึงแม้ว่ากองกำลังพันธมิตรจะร่วมมือกันต่อต้านตั๋งโต๊ะ แต่หลังสงครามครั้งนี้ เหล่าอ๋องก็คงจะแยกย้ายกันไปสร้างฐานที่มั่น ภายในสามถึงห้าปี สถานการณ์คงจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!”
"ปิงโจว โหยวโจว จี้โจว และชิงโจวอยู่ในเหอเป่ย หลังจากเต๊งหงวนตาย ปิงโจวก็จะไร้ผู้ปกครอง และจะโดนขุมอำนาจอื่นรุมแย่ง”
"เล่าหงีแห่งโหยวโจวใจดีเกินไปและไม่ถูกกับกงซุนจ้าน ถ้าหากทั้งสองฝ่ายสู้กัน โหยวโจวก็คงจะตกเป็นของกงซุนจ้าน”
"ส่วนฮันฮกแห่งจี้โจวก็อ่อนแอ ถ้าอ้วนเสี้ยวยึดป๋อไห่ได้ จี้โจวก็คงจะตกเป็นของอ้วนเสี้ยว”
"โจรโพกผ้าเหลืองที่ชิงโจวก็ยังปราบไม่หมด อ้วนเสี้ยวคงไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปแน่ "
“ส่วนภาคกลาง เล่าไต้แห่งหยานโจวก็ไร้ความสามารถ โตเกี๋ยมแห่งสวี่โจวก็อายุมากแล้ว ส่วนอี้โจวก็เป็นฐานที่มั่นของอ้วนสุด ที่นั่นคงจะต้องมีศึกแย่งชิงแน่”
“อย่างมากไม่เกินห้าปี อย่างน้อยไม่เกินสามปีโจโฉกับอ้วนสุดจะต้องสู้กันเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในภาคกลาง!”
“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด นี่คือสถานการณ์ที่พวกเราต้องเผชิญ!”
“ถึงแม้ว่ากังตั๋งจะเป็นดินแดนที่ดี ยึดได้ง่าย แต่ปกครองยาก ที่นั่นมีตระกูลใหญ่ๆ มากมาย อีกทั้งยังมีพวกซานเยี่ย ยึดได้ภายในสองสามปีก็จริง แต่กว่าจะปกครองได้คงต้องใช้เวลาสี่ห้าปี”
“ถ้าหากพวกเรายึดกังตั๋งก่อน ห้วยหนานก็จะถูกคนอื่นยึดไป”
“ถึงตอนนั้น ต่อให้พวกเรามีแม่น้ำแยงซีเป็นปราการธรรมชาติ แต่ต้นน้ำก็ถูกจิงโจวควบคุม พวกเราต้องไปยึดห้วยหนานทางเหนือ”
“ตราบใดที่ศัตรูยึดจุดยุทธศาสตร์ได้ พวกเราก็จะติดกับอยู่ทางใต้ของแม่น้ำแยงซี ถึงแม้ว่าจะปลอดภัย แต่อนาคตก็ไม่พัฒนา”
“ตรงกันข้าม ถ้าหากพวกเรายึดห้วยหนานเป็นฐานที่มั่น กองทัพเราก็ค่อยๆลงใต้ ค่อยๆ ยึดกังตั๋ง ทางเหนือก็ค่อยๆ บุกภาคกลาง ทางตะวันตกก็บุกจิงโจวจากเจียงเซี่ย”
“ยิ่งไปกว่านั้น ห้วยหนานยังอุดมสมบูรณ์ หลังจากยึดได้แล้ว ไม่ว่าจะรุกหรือรับก็ได้เปรียบ”
พูดจบ ไป๋หลี่หมิงก็มองซุนเกี๋ยนแล้วยิ้ม
“นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเราต้องยึดห้วยหนานก่อน!”
"ท่านช่างเป็นอัจฉริยะจริงๆ!” ซุนเกี๋ยนตื่นเต้นจนตัวสั่น
ไม่ใช่เพราะเขาได้ทิศทาง แต่เพราะการวิเคราะห์ของไป๋หลี่หมิงต่างหาก!
สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้วุ่นวายมาก
แต่ไป๋หลี่หมิงกลับอธิบายได้อย่างชัดเจน!
ตอนนี้ เหล่าอ๋องยังร่วมมือกันต่อต้านตั๋งโต๊ะ แต่ไป๋หลี่หมิงกลับรู้แล้วว่าอีกสามถึงห้าปี สถานการณ์จะเป็นยังไง!
นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ!
แสงสว่างนำทาง ที่จะนำพาเขาไปสู่ความสำเร็จ!
มองไป๋หลี่หมิงที่ยิ้มสดใส ซุนเกี๋ยนไม่รู้จะพูดอะไร!
ไป๋หลี่หมิงนี่มันตัวอะไรกัน แค่พูดคุยกันก็กำหนดชะตาบ้านเมืองได้แล้ว!