ตอนที่ 31 พักเหนื่อยและเพลิดเพลินกับอาหาร
ห่างจากค่ายของซุนเกี๋ยนไปห้าลี้
ในป่าทึบ มีลานโล่งอยู่แห่งหนึ่ง
ทหารหลายร้อยนายกำลังยืนคุ้มกันอยู่ด้านนอก ส่วนเตียนอุยกับไป๋หลี่หมิงนั่งอยู่ตรงกลาง
ทั้งสองคนกำลังก่อไฟ
บนกองไฟ มีกระต่ายย่าง เนื้อเริ่มสุกเป็นสีเหลืองทอง ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทาน
"น้องชาย ยังไม่เสร็จอีกหรือ?"เตียนอุยจ้องมองกระต่ายตาไม่กระพริบน้ำลายไหลหยดอย่างน่าเกลียด
“อีกสักพักก็เสร็จแล้ว รอหน่อยสิ!” ไป๋หลี่หมิงพลิกด้านกระต่าย
เขาบอกว่าจะออกมาเดินเล่น แต่ที่จริงแล้วเขาแอบออกมาหาอะไรกินกับเตียนอุยต่างหาก
ก่อนที่พวกเขาจะเข้าร่วมกับกองทัพของซุนเกี๋ยน ทั้งสองคนต้องนอนกลางดิน กินกลางทราย แต่โชคดีที่มีเตียนอุยอยู่ข้างๆ พวกเขาเลยไม่เคยอดอยาก!
ตั้งแต่ออกเดินทางจากอำเภอเฉินหลิว พวกเขาฆ่าสัตว์ไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
ตั้งแต่หมี เสือ หมาป่า เสือดาว ไปจนถึง ไก่ เป็ด ปลา ไม่มีตัวไหนรอด
น่าเสียดาย หลังจากเข้าร่วมกองทัพ พวกเขาก็ต้องทำงานตลอด ไม่มีเวลาออกไปล่าสัตว์!
อาหารในกองทัพก็รสชาติแย่มาก
ต่อให้ไป๋หลี่หมิงจะได้รับการปฏิบัติอย่างดี มันก็แค่เค้กข้าวราดซอสเนื้อ และเนื้อตุ๋นส่วนใหญ่ก็ไร้รสชาติสิ้นดี!
ดังนั้น เขาจึงถือโอกาสว่างที่กำลังรอตั๋งโต๊ะย้ายเมืองหลวง ชวนเตียนอุยออกมาทำครัวส่วนตัว
พวกเขาโชคดีมาก ออกจากค่ายได้ไม่นาน ก็ล่ากระต่ายกับไก่ฟ้าได้ตัวหนึ่ง
กระต่ายถูกนำไปย่าง ส่วนไก่ฟ้าถูกห่อด้วยใบไม้ และนำไปวางไว้ใต้กองไฟ
“หรัวจง มันเกือบสุกแล้ว!” เตียนอุยทนไม่ไหว
“กินเลย!”แต่ทันีทที่เขาพูดจบ ไป๋หลี่หมิงก็ปฏิเสธเสียงแข็ง
"ไม่ได้! " ไป๋หลี่หมิงส่ายหัว
"พี่เตียน ท่านรู้หรือไม่ว่า บนโลกใบนี้มีสามอย่างที่ไม่ควรพลาด?"
“อะไรหรือ?”เตียนอุยสงสัย
"คนเราเกิดมาครั้งหนึ่ง ควรดื่มสุราชั้นเลิศ แต่งงานกับหญิงงามและไม่ควรพลาดอาหารเลิศรส!”ไป๋หลี่หมิง พูดอย่างจริงจัง
“ถ้าจะนอนก็ต้องนอนให้สบายที่สุด ถ้าจะดื่มก็ต้องดื่มให้เมามาย ถ้าจะกินก็ต้องกินให้อร่อยที่สุด! ”
“ตอนนี้อาหารอร่อยอยู่ตรงหน้าแล้ว จะกินแบบลวกๆ ได้ยังไง ต่อให้กินจนอิ่ม แต่ถ้าไม่ได้ลิ้มรสชาติก็ถือว่าพลาด! ”
เตียนอุยอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะ "น้องชาย เจ้านี่พูดเก่งจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้ามักจะบอกว่าต้องดื่มสุราชั้นเลิศ หาสาวงาม ที่แท้ก็มาจากตรงนี้เอง!
"เอาล่ะ ข้าจะรอ! "
ยังไม่ทันที่ไป๋หลี่หมิงจะตอบ ก็มีเสียงหัวเราะดังมาแต่ไกล
"รออะไรกันหรือ?"ซุนเกี๋ยนเดินมาพร้อมกับทหาร
"สุราชั้นเลิศอะไร? สาวงามอะไร?" เขาพึมพำกับตัวเอง
"หรือว่าท่านกุนซือจะชอบผู้หญิง?" ซุนเกี๋ยนคิดในใจ
ตอนนี้ เขากำลังหนักใจเรื่องที่ไป๋หลี่หมิงไม่ค่อยสนใจเรื่องทางโลก ไม่รู้จะทำยังไงดีถึงจะรั้งตัวไป๋หลี่หมิงไว้ได้
แต่ถ้าไป๋หลี่หมิงชอบผู้หญิง เรื่องนี้ก็ง่ายแล้ว!
ด้วยฐานะของเขาและผลงานที่เขาทำ หาผู้หญิงสวยๆ สักคนไม่ใช่เรื่องยาก
ถ้าเจ้าชอบ ข้าจะยกให้!
ถ้าคนเดียวไม่พอก็สองคน ถ้าสองคนไม่พอก็สิบคน ถ้าสิบคนไม่พอก็ร้อยคน เขาไม่เชื่อว่าเขาจะเอาชนะใจกุนซือไม่ได้!
ไป๋หลี่หมิงกับเตียนอุยไม่รู้ว่าซุนเกี๋ยนคิดอะไรอยู่ เห็นซุนเกี๋ยนมา ทั้งสองคนก็รีบยืนขึ้น
"นายท่าน! "
“ไม่ต้องมากพิธี”ซุนเกี๋ยนรีบเดินเข้ามา ดึงไป๋หลี่หมิงให้นั่งลง แล้วมองกระต่ายย่างด้วยรอยยิ้ม
"ข้าก็สงสัยว่าท่านกุนซือมาทำอะไรนอกค่าย!”
“ที่แท้ก็มีของดี!ข้ามาได้จังหวะพอดี!”
พูดจบ เขาก็นั่งลงตรงข้าม โดยไม่คิดจะเกรงใจ
"ท่านกุนซือใส่เครื่องเทศอะไรลงไป?"
"ทำไมเนื้อย่างถึงหอมขนาดนี้? "
พอเห็นซุนเกี๋ยนไม่ติดพิธี เตียนอุยกับไป๋หลี่หมิงก็ไม่มากพิธีเช่นกัน
“ท่านไม่รู้หรอก น้องข้าทำอาหารเก่ง ไม่รู้ว่าแอบใส่เครื่องปรุงลับอะไรลงไป?” เตียนอุยหัวเราะ
“ข้าถามเขาตั้งหลายครั้ง เขาก็ไม่ยอมบอก!”พอเขาพูด เขาก็มองไป๋หลี่หมิงเคืองๆ
ไป๋หลี่หมิงยิ้ม"ไม่ใช่ข้าไม่อยากบอก แต่ต่อให้บอก พี่เตียนก็หาเครื่องปรุงพวกนี้ไม่ได้หรอก!”
“โอ้? เครื่องปรุงอะไร?” ซุนเกี๋ยนสนใจ
"ท่านกุนซือ รีบบอกข้ามาเถอะ! "
“นายท่าน ไม่ต้องเรียกข้าว่าท่านกุนซือก็ได้ตอนเราไม่ได้เข้าร่วมประชุม แค่เรียกชื่อข้าก็พอ” ไป๋หลี่หมิงหยิบกระบอกไม้ไผ่พร้อมแปรงบนพื้นขึ้นมาขึ้นมา
"เครื่องปรุงนี้ ไม่แปลกอะไร ก็แค่น้ำมันผสมน้ำผึ้ง ใส่ต้นหอม ขิง กระเทียม พริกไทย แล้วก็ซอสปรุงรสต่างๆ แล้วก็ทาบนผิวของเนื้อย่าง และมันก็จะอร่อยแล้ว "
ซุนเกี๋ยนอึ้งไปครู่หนึ่งตอนได้ยินสูตรลับ จากนั้นก็ถาม
"ท่านกุนซือ ... น้ำมันกินได้ด้วยหรือ?”
ในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เริ่มมีการใช้น้ำมันพืชแล้ว แต่น้ำมันในสมัยนั้นกินไม่ได้ ส่วนใหญ่ใช้ทำผ้าไหม
ดังนั้นพอได้ยินว่าน้ำมันกินได้ เขาก็รู้สึกเหลือเชื่อ
เห็นซุนเกี๋ยนไม่เชื่อ ไป๋หลี่หมิงจึงยื่นกระบอกไม้ไผ่ให้“มันย่อมกินได้ ไม่มีอะไรในโลกที่จะหอมหากไร้น้ำมันและจะรสชาติดีหากไร้เกลือ ข้าต้องทุ่มความพยายามไปมากกว่าจะทำได้!”
พอเห็นแบบนี้ ซุนเกี๋ยนก็สูดดมและความแปลกใจก็ปรากฏในดวงตา “หอมจริงๆ!”
"ไม่แปลกใจเลยที่หรัวจงบอกว่าเครื่องปรุงพวกนี้หาไม่ได้ แค่น้ำมันอย่างเดียว ข้าก็หาไม่เจอแล้ว! "
พูดจบ สายตาของเขาก็จ้องไปที่กระต่ายย่าง อดน้ำลายไหลไม่ได้
เห็นแบบนั้น ไป๋หลี่หมิงอดยิ้มไม่ได้
พอเห็นว่ากระต่ายสุกดีแล้ว เขาก็นำมันออกมา ห่อด้วยใบไม้ และฉีกน่องขา“นายท่าน ทำไมไม่ลองหน่อยเล่า?”
"ตกลง! " ซุนเกี๋ยนรับน่องกระต่ายหอมมันเยิ้มมา
โดยไม่ลังเล เขาอ้าปากกัดทันที
ร้อน!นี่คือความรู้สึกแรกตอนมันเข้าปาก
แต่หลังจากนั้น น้ำชุ่มฉ่ำแสนหอมก็ทะลักในปากเขา ดวงตาของซุนเกี๋ยนเบิกกว้าง เขาอดส่งเสียงครางไม่ได้
เนื้อกระต่ายชิ้นโตอัดแน่นเต็มปาก และหลังเคี้ยวไม่กี่ครั้ง เขาก็กลืนลงท้อง ซุนเกี๋ยนมองไป๋หลี่หมิงด้วยความแปลกใจ
"หอม อร่อยมาก! "
"รสนิยมของท่านเลิศจริงๆ ข้าไม่เคยกินเนื้อย่างที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อนเลย!”
พูดจบ เขาก็หยิบขากระต่ายขึ้นมากัดอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
เตียนอุยที่ยืนมองอยู่ข้างๆนั่งน้ำลายไหลและรีบพูด“น้องหรัวจง ข้าก็อยากได้!”
เห็นแบบนั้น ไป๋หลี่หมิงจึงฉีกขากระต่ายอีกข้างและส่งให้เตียนอุย