ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 40 รีบหลีกทาง มิเช่นนั้น… ตาย
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 40 รีบหลีกทาง มิเช่นนั้น… ตาย
ขณะที่ยมโลกกำลังสร้างความโกลาหลให้กับโลกภายนอก
ภายในโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยปราณมารมีบุคคลสองคนยืนอยู่
หนึ่งในนั้นคือบุรุษร่างกำยำ ส่วนอีกคนหนึ่งคือสตรีผู้เลอโฉม
ร่างกายของพวกเขาล้อมรอบด้วยปราณมาร ราวกับเทพในหมู่มาร
รัศมีกดดันแผ่ซ่านไปทั่ว บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นถึงระดับมหาปราชญ์
ยิ่งไปกว่านั้น บุรุษผู้นั้นยังบรรลุถึงระดับมหาปราชญ์เก้าชั้นฟ้า
ส่วนสตรีนางนั้นอ่อนแอกว่า แต่ก็บรรลุถึงระดับมหาปราชญ์เจ็ดชั้นฟ้า
คนทั้งสองนี้คือฉู่เทียน เจ้าโถงหลัก และโยวรั่ว เจ้าโถงสาม แห่งนิกายมารสรรค์ ซึ่งเป็นเพียงขุมอำนาจระดับสาม
ในเวลานี้ โยวรั่วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ไม่คิดเลยว่ายมโลกจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ กล้าสังหารเย่ซิงเหอ บุตรเทพสำนักเยียวยาสวรรค์ พี่ใหญ่คงไม่เห็นภาพนั้น บรรดาสมาชิกสำนักเยียวยาสวรรค์ต่างโกรธเกรี้ยว คิดแล้วก็สะใจยิ่งนัก”
“ฮ่าฮ่า ข้ารู้ ข้าอยากจะเดินทางไปยังหน้าประตูสำนักเยียวยาสวรรค์ เพื่อมองดูใบหน้าที่เจ็บปวดของพวกเขา คิดแล้วก็รู้สึกมีความสุข”
ฉู่เทียนหัวเราะอย่างเย็นชา
นิกายมารสรรค์และสำนักเยียวยาสวรรค์มีความแค้นต่อกัน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่พวกเขาเกลียดชังมากที่สุดคือโม่เหวินเทา ประมุขสำนักเยียวยาสวรรค์
ในอดีตเพื่อที่จะบำเพ็ญ โม่เหวินเทาได้จับตัวเจ้าโถงสองของนิกายมารสรรค์ไป ช่วงชิงพรสวรรค์ร่างกายและตบะ ทำให้อีกฝ่ายต้องตายอย่างน่าอนาถ
ความแค้นเช่นนี้ มิอาจอยู่ร่วมโลกได้
แต่นิกายมารสรรค์เป็นเพียงขุมอำนาจระดับสาม ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดคือฉู่เทียนผู้นี้ แต่ก็เป็นเพียงมหาปราชญ์เก้าชั้นฟ้า
ส่วนโม่เหวินเทา ประมุขสำนักเยียวยาสวรรค์ บรรลุถึงระดับกึ่งเทพหนึ่งชั้นฟ้าแล้ว เป็นตัวตนที่อยู่เหนือพวกเขามากนัก
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องฝังความแค้นนี้ไว้ภายใน
ในเวลานี้ โยวรั่วกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ในเมื่อยมโลกกล้าสังหารบุตรเทพสำนักเยียวยาสวรรค์ แสดงว่าพวกเขาหาได้เกรงกลัวสำนักเยียวยาสวรรค์ไม่ เช่นนั้นแล้ว พวกเราควรจะมอบหมายภารกิจนั้นให้กับยมโลกหรือไม่”
ฉู่เทียนส่ายหน้า “รอดูสถานการณ์ก่อน ไม่ควรรีบร้อน”
แม้ว่าเขาอยากจะแก้แค้นโดยเร็ว แต่เพื่อความปลอดภัยของนิกายมารสรรค์ เขาควรจะรออีกสักพัก
ดูว่ายมโลกจะมีพลังแข็งแกร่งถึงขั้นไม่เกรงกลัวสำนักเยียวยาสวรรค์หรือไม่
มิเช่นนั้นแล้ว หากมอบหมายภารกิจโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง หากล้มเหลวก็ไม่เป็นไร แต่หากนิกายมารสรรค์ถูกเปิดเผย พวกเขาจะต้องพบกับปัญหาใหญ่ อาจนำมาซึ่งหายนะ
ฉู่เทียนจึงต้องระมัดระวัง
“ยมโลก หวังว่าเจ้าจะแข็งแกร่งอย่างที่ล่ำลือ……”
เขาพึมพำกับตัวเอง
………………
อีกด้านหนึ่ง ณ ตระกูลกู้แห่งตงหลิ่ง
สัตว์เทพและอสูรมากมายนับไม่ถ้วนเดินทางมาจากทุกสารทิศ ลากราชรถอันหรูหรา
แม้แต่เรือเหาะขนาดใหญ่และเรือเหาะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็ยังมี
ในเวลานี้ ประตูของตระกูลกู้เปิดกว้างเพื่อต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ
“สำนักเปี่ยมอุดมมาถึง มอบของขวัญแสดงความยินดี คัมภีร์มรรคเจ็ดม้วน!”
“เผ่าห่านทองคำมาถึง มอบของขวัญแสดงความยินดี แก่นหยกผลึกเทพหนึ่งขวด!”
“………”
ของขวัญเหล่านี้ สิ่งใดสิ่งหนึ่งล้วนเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง
แต่ตอนนี้พวกเขากลับมอบให้กับตระกูลกู้โดยไม่คิดเสียดาย ทำให้ผู้คนต่างอิจฉาริษยา
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครกล้าสร้างปัญหา
เพราะมหาค่ายกลที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า แผ่รัศมีกดดันออกมา แม้แต่ปราชญ์ยังต้องหวั่นเกรง เพียงพอที่จะสยบทุกคน
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลกู้ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ ใครบ้างจะกล้าสร้างปัญหา
ว่ากันว่ายอดอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลกู้ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของผู้นำเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองการขึ้นครองตำแหน่งผู้นำตระกูลของตระกูลกู้ จึงมีขุมอำนาจมากมายเดินทางมา
หนึ่งในนั้นคือการให้เกียรติเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือต้องการสร้างสัมพันธ์อันดีกับตระกูลกู้
ท้ายที่สุดแล้ว ยอดอัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลกู้ผู้นี้มีพรสวรรค์ในการตรัสรู้มรรค ในอนาคตหากไม่ตกตาย เขาจะต้องเป็นใหญ่เหนือมณฑลเทพ!
ในเวลานี้ ภายในโถงใหญ่ของตระกูลกู้ที่หรูหรา ขุมอำนาจต่าง ๆ ต่างก็เข้าประจำที่นั่ง
สุราเลิศรส อาหารรสเลิศ ต่างก็ถูกนำมาจัดวาง
บนที่นั่งสูงสุด บุรุษวัยกลางคนที่มีคิ้วเข้มดวงตากลมโตนั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความองอาจ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนแผ่รัศมีกดดันออกมา
เขาคือกู้หาน
ส่วนข้างกายกู้หานมีบุรุษชุดขาวผู้สง่างามยืนอยู่
สายตาของผู้คนต่างก็จับจ้องไปที่บุรุษผู้นั้น
เด็กหนุ่มรูปงาม ผุดผ่องราวกับหยก รัศมีล้อมรอบกาย สวมชุดขาวราวกับหิมะ ดูราวกับเซียนที่ไม่ยึดติดกับโลกมนุษย์ เขาคือกู้อี้
“นั่นคือยอดอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลกู้ ว่ากันว่ามีกระดูกมรรคาแต่กำเนิด พรสวรรค์แข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัว”
“ว่ากันว่าตระกูลกู้ยังมียอดอัจฉริยะที่ครอบครองเลือดมรรคาแต่กำเนิดอีกคน”
“ชู่ว นี่เป็นเรื่องต้องห้าม เจ้าอยากตายหรือ”
“…………”
ความลับของตระกูลกู้ ผู้คนต่างก็รู้ดี และไม่เอ่ยถึง
ในเวลานั้นเอง ฉับพลัน รัศมีกดดันอันยิ่งใหญ่หลายสายก็ปรากฏขึ้น ทำให้ทุกคนตกตะลึง ต่างก็หันไปมอง
เห็นเพียงเงาร่างสีทองสี่ร่างเดินทางมา ทุกคนต่างก็มีพลังอันยิ่งใหญ่ ทำให้ผู้คนหวั่นเกรง
“มหาปราชญ์หนึ่งคน ราชันปราชญ์ระยะสูงสุดสามคน!”
ทุกคนต่างตกตะลึง สมกับเป็นเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงตกต่ำ แต่ก็ยังคงน่ากลัว
ภายในโถงใหญ่ เมื่อกู้หานเห็นคนของเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำมาถึง เขาก็รีบเดินออกไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
ไม่นาน คนของเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำก็เข้าประจำที่นั่ง พวกเขาหยิ่งยโสโอหังยิ่งนัก สนใจเพียงกู้หานและกู้อี้เท่านี้น
ส่วนขุมอำนาจอื่น ๆ พวกเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง
เมื่อเห็นดังนั้น ทุกคนก็ไม่กล้าเอ่ยวาจาใด ๆ ออกมา
ส่วนบนลานกว้างด้านนอกโถงใหญ่ ท่ามกลางผู้คนมากมาย บุรุษผู้นี้กำลังหลบซ่อนตัวอยู่
ดูเผิน ๆ เป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดา แต่แท้จริงแล้วคือกู้ชิงเฟิงที่ปลอมตัวมา
เขาเดินทางมาที่นี่ เพียงเพื่อต้องการเห็นยมโลกสังหารกู้หานด้วยตาตนเอง
“ยังไม่มาอีกหรือ?”
เวลาผ่านไป งานเลี้ยงเฉลิมฉลองใกล้จะสิ้นสุด แต่ยมโลกยังคงไม่ปรากฏตัว
กู้ชิงเฟิงอดรู้สึกกังวลไม่ได้
ในเวลานั้นเอง
ตู้ม—!
ทันใดนั้น แสงสว่างอันมืดมนก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ปกคลุมตระกูลกู้ทั้งหมด
ทำให้สรรพสิ่งสั่นสะเทือน ผู้คนต่างเงยหน้าขึ้นมอง
เห็นเพียงบุรุษชุดดำ สวมหน้ากากผี เดินออกมาจากความว่างเปล่า
เมื่อเห็นหน้ากากผี ทุกคนต่างตกตะลึง
“ยมโลก!”
ช่วงที่ผ่านมา ชื่อเสียงของยมโลกได้แพร่กระจายไปทั่วมณฑลเทพจงถู ผู้คนต่างก็รู้จักองค์กรมือสังหารแห่งนี้
ดังนั้น เมื่อหน้ากากผีปรากฏขึ้น พวกเขาจึงจำได้ในทันที
ซ่า—!
ในเวลานี้ เงาร่างมากมายก็พุ่งออกมาจากโถงใหญ่
พวกเขาเห็นบุรุษชุดดำสวมหน้ากากผีที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไป
กู้หานในฐานะเจ้าบ้านจึงต้องเดินออกมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ขอถามใต้เท้าแห่งยมโลก เดินทางมาที่นี่มีธุระอันใดหรือ”
เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินทางมาเพื่อร่วมงานเลี้ยง
“สังหารเจ้า”
คำพูดสองคำทำให้สีหน้าของกู้หานพลันเปลี่ยนไป
“หึ! ช่างโอหังยิ่งนัก ข้าอยู่ที่นี่ เจ้าคิดว่าจะสังหารผู้ใดได้!”
เสียงเย็นชาดังขึ้น
ในชั่วพริบตา รัศมีกดดันของมหาปราชญ์ก็แผ่ซ่านไปทั่ว สยบฟ้าดิน น่ากลัวอย่างยิ่ง
มหาปราชญ์แห่งเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำเดินออกมาจากโถงใหญ่ มาหยุดอยู่บนท้องฟ้า
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดราชันฉินกวงกวาดตามองอย่างเย็นชา “ยมโลกกำลังทำภารกิจ คนที่ไม่เกี่ยวข้อง รีบหลีกทาง มิเช่นนั้น… ตาย!”
ผู้คนได้ยินดังนั้นต่างก็ตกตะลึง
ยมโลกนี้ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก แม้แต่มหาปราชญ์แห่งเผ่าจักรพรรดิอีกาทองคำก็ยังไม่เกรงกลัว!