บทที่ 30 อาหารเพิ่มบัฟ
บทที่ 30 อาหารเพิ่มบัฟ
เลขาธิการซุนแจกรางวัลทั้งหมดให้กับพวกเขา
“มีชุดอุปกรณ์ระดับทองแดงที่เหมาะกับแต่ละอาชีพของคุณ รวมถึงหนังสือทักษะบางเล่มด้วย วันนี้คุณก็สามารถทำความคุ้นเคยกับมัน แล้วค่อยมารวมตัวกันที่นี่เวลา 8 โมงของวันพรุ่งนี้”
หลังจากได้รับรางวัล หลินหยวนก็เอ่ยถึงพวกแฟรี่ตัวน้อยกับเลขาธิการซุน โดยหลินหยวนหวังว่าจะให้เหล่าแฟรี่ตัวน้อยไปอยู่กับนายกเทศมนตรี
แน่นอนว่าเลขาธิการซุนไม่ได้ปฏิเสธคำขอนี้ โดยบอกว่าหลินหยวนมั่นใจได้เลยว่านายกเทศมนตรีจะไม่ยอมให้เหล่าแฟรี่ตัวน้อยได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ
หลังจากแยกจากทุกคนแล้ว หลินหยวนก็กลับบ้านคนเดียว
ส่วนชุดอุปกรณ์ระดับทองแดงที่หลินหยวนได้รับก็คือ
[ชุดคลุมฝึกหัด] (ระดับทองแดง)
ข้อกำหนดในการสวมใส่: ระดับ 10
คุณสมบัติ: HP +200, สติปัญญา +18, ร่างกาย +18
[รองเท้าฝึกหัด] (ระดับทองแดง)
ข้อกำหนดในการสวมใส่: ระดับ 10
คุณสมบัติ: HP +200, สติปัญญา +15, ร่างกาย +15
หลินหยวนมองดูอย่างรวดเร็วและสูญเสียความสนใจไป เขามีอุปกรณ์ระดับทองมากกว่าหนึ่งชิ้น และสร้อยคอก็เป็นระดับแพลตตินัม แน่นอนว่าหลินหยวนยอมมองข้ามอุปกรณ์ระดับทองแดงไป
หลินหยวนไม่ชอบอุปกรณ์ แต่หนังสือทักษะค่อนข้างดี
[ก้าวพริบตา] (ระดับ B) เลเวล 1
ค่าใช้จ่าย: 500 มานา
ผลลัพธ์: ก้าวไปยังระยะ 15 เมตรด้านหน้าทันที และลบเอฟเฟกต์ชะลอความเร็วของตัวเองออกไป เวลาในการคูลดาวน์คือ 30 วินาที
แม้ว่าจะมีหนังสือทักษะเพียงเล่มเดียว แต่หลินหยวนก็รู้สึกพอใจอย่างมาก
ใครบ้างที่ไม่พอใจถ้ามีทักษะในการช่วยชีวิตได้มากเกินไป?
วันนี้เขาเคลียร์หุบเหวได้สามครั้ง ยกเว้นครั้งแรกในสองครั้งที่เหลือหลินหยวนต้องใช้พลังกายและพลังใจอย่างมากถึงจะผ่านมันมาได้ ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย และเผลอหลับไปภายในสองนาทีหลังจากนอนลงบนเตียง
วันรุ่งขึ้น หลินหยวนตื่นขึ้นและมุ่งหน้าไปที่ศาลากลางเมือง
หลินหยวนมาถึงเป็นคนสุดท้าย คนอื่นๆ มาถึงที่นี่ก่อนเขาสักพักแล้ว
เมื่อมองจากระยะไกล มุมปากของหลินหยวนก็กระตุกอย่างบ้าคลั่ง
“เฮ้ เจ้าอ้วน นี่นายถึงขนาดย่างมันในตอนเช้าๆ เลยเหรอ?”
ไม่น่าแปลกใจที่หลินหยวนพูดแบบนี้ เพราะจางฟานกำลังนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กและมีเตาอบอยู่ตรงหน้าเขาซึ่งมีไม้บาร์บีคิววางอยู่
จางฟานซึ่งกำลังย่างบาร์บีคิวอยู่ก็เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้นและเห็นว่าเป็นหลินหยวน เขาหยิบไม้บาร์บีคิวสองอันขึ้นมาแล้วส่งให้อีกฝ่าย “ฉันตั้งใจจะย่างมันให้นายโดยเฉพาะ เพราะฉันเป็นห่วงว่านายจะไม่ได้กินอาหารเช้ามา”
หลินหยวนรับไม้เสียบเนื้อที่จางฟานส่งมาให้และลองชิม
“อร่อยมาก ขอบใจมาก กินแล้วรู้สึกมีพลังงานมากเลย นายหมักมันยังไง?..”
เขาคิดว่าเนื้อเสียบไม้จะมันเยิ้มและเลี่ยน แต่เปล่าเลย..มันกลับมีกลิ่นหอมของสมุนไพรออกมาแทน
“ฮ่าฮ่า นายไม่รู้หรอกว่านี่คือผลแห่งพรที่ราชินีแฟรี่ประทานให้กับฉันเมื่อวานนี้” จางฟานหัวเราะเมื่อได้ยินหลินหยวนชมเชยบาร์บีคิวของเขา
[ทักษะ] กลิ่นอายแห่งพงไพร (พิเศษ)
ผลลัพธ์ : อาหารที่คุณทำมีกลิ่นหอมของสมุนไพรและมีผลทำให้สดชื่น
“ทักษะนี่มัน..!”
ทุกคนเห็นทักษะที่จางฟานแสดงให้ดูและไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ด้วยความอยากรู้ ซู่ซานจึงเข้ามาหยิบมาหนึ่งไม้ เขาต้องการทราบผลทำให้สดชื่นจากทักษะนี้
หลังจากกินเนื้อบาร์บีคิวแล้ว ดวงตาของซู่ซานก็เป็นประกายขึ้น "มันดีจริงๆ ฉันรู้สึกว่าความเร็วในการคิดและการตอบสนองของฉันดีขึ้นสองระดับเมื่อเทียบกับปกติ"
หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบบาร์บีคิวอีกอันขึ้นมา คราวนี้มีข้อความปรากฏขึ้นบนบาร์บีคิว
【อาหาร】บาร์บีคิวที่แสนชื่นใจ
ผลลัพธ์ : หลังรับประทานจะเกิดผลกระปรี้กระเปร่าต่อเนื่องประมาณ 30 นาที
พลังงาน: เพิ่มความเร็วในการฟื้นคืนพลังทางกายภาพ 20%
“จางฟาน ไม้บาร์บีคิวราคาเท่าไหร่ ฉันจะซื้อเพิ่มอีก” ซู่ซานโลภมากขึ้นมาทันทีหลังจากเห็นผลของบาร์บีคิวและวางแผนจะซื้อเพิ่ม
วันนี้พวกเขาจะเข้าร่วมการท้าทายหอคอยศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถใช้น้ำยาทั่วไปได้ แต่สามารถกินอาหารได้
บาร์บีคิวที่ทำโดยจางฟานนั้นสามารถเพิ่มความเร็วในการฟื้นคืนพลังทางกายภาพได้ ดังนั้นควรซื้อเพิ่มเพื่อเตรียมพร้อม
เมื่อได้ยินว่าซู่ซานกำลังวางแผนที่จะซื้อ จางฟานก็หยิบไม้บาร์บีคิวออกมาหนึ่งโหลทันที "เฮ้ ยังต้อซื้ออะไรอีก ฉันจะย่างมันให้พวกคุณ ตอนนี้มันยังเช้าอยู่กว่าที่เลขาธิการซุนจะมา ดังนั้นฉันจะย่างมันเพิ่มให้ทุกคน"
โดยไม่คาดคิดว่าบาร์บีคิวที่เขาปิ้งก็จะมีคุณค่าทางโภชนาการด้วย จางฟานอดไม่ได้ที่จะดีใจ “ฉันไม่คาดคิดว่ามันจะได้ผลขนาดนี้ ฉันยังมีความสามารถที่จะเป็นเชฟได้แล้ว!”
เมื่อเห็นจางฟานมีสีหน้ามีความสุข หลินหยวนก็มีความสุขตามไปด้วย
แม้ว่าเขาและจางฟานจะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน แต่พวกเขาถูกกำหนดให้อยู่ด้วยกันไม่ได้ตลอดไป หลินหยวนจะออกจากทีมไม่ช้าก็เร็ว
เขายังกังวลว่าจางฟานจะลำบากหลังจากที่ทั้งสองแยกทางกัน
แต่เมื่อมองดูวันนี้ หลินหยวนก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก
ด้วยอาชีพที่เป็นตัวแทงค์ที่ขาดไม่ได้และความสามารถในการทำอาหารที่มีบัฟดี เขาสามารถจัดตั้งทีมของตัวเองได้ตามที่ต้องการ
และจางฟานก็รู้สึกภูมิใจในความสามารถของตัวเอง
จากนั้นจู่ๆ ดวงตาของจางฟานและหวังเซว่ก็มาประสานกันเป็นครั้งคราว เมื่อทั้งสองสบตากัน หวังเซว่จะดูเหมือนกระต่ายน้อยที่หวาดกลัวอยู่เสมอ ในขณะที่จางฟานจะเหมือนหมาป่าตัวใหญ่ที่อหังการ
สิ่งนี้ทำให้หลินหยวนพึมพำอยู่ในใจว่า "สองคนนี้ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่!"
ในรายชื่อเมล็ดพันธุ์ระดับ S นั้น ซู่ซานเป็นคนซื่อสัตย์และเป็นมิตร เขาเชื่อว่าจางฟานคงจะเข้ากับซู่ซานได้ในไม่ช้า
ส่วนจงจุนหรู่และหวังเซว่ หวังเซว่จะตามจางฟานไปหากจางฟานสามารถจับกระต่ายตัวนี้ได้ และในฐานะเพื่อนที่ดีต่อกัน จงจุนหรู่จะไปที่ไหนได้อีก
แม้ว่าในอนาคตหลินหยวนไปจะลุยเดี่ยว จางฟานที่อยู่ในทีมเช่นนี้เขาก็สามารถไว้วางใจได้
พวกเขาเพียงแค่ต้องหาคนอื่นมาทดแทนตำแหน่งของหลินหยวนเท่านั้น
20 นาทีต่อมา เลขาธิการซุนก็เข้ามาในชุดทางการและพูดว่า “พวกคุณมาค่อนข้างเร็ว พักผ่อนเป็นอย่างไร?”
หลินหยวนยิ้มและพยักหน้าและตอบว่า "ก็ดีครับ"
เลขาธิการซุนพยักหน้า ขณะที่เขากำลังจะพูดบางอย่าง จมูกของเขาก็ขยับเล็กน้อย
“นี่คือกลิ่นอะไร มันหอมมาก”
เลขาธิการซุนหันไปมองและเห็นจางฟานที่กำลังย่างเนื้ออยู่ "คุณกำลังทำบาร์บีคิวเหรอ?"
จางฟานพยักหน้า
เลขาธิการซุนหยิบมันขึ้นมาหนึ่งไม้แล้วใส่เข้าปาก หลังจากเคี้ยวมันสองครั้ง ดวงตาของเขาเป็นประกายทันที
“เป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันไม่ได้กินมาหลายปีแล้ว”
เลขาธิการซุนจับไหล่ของจางฟานด้วยมือทั้งสองข้างแล้วถาม
“แล้วคุณใส่ส่วนผสมอะไรลงไปเหรอ ทำไมมันถึงมีบัฟเสริม?”
“ฉันไม่ได้ใส่อะไรเป็นพิเศษ นี่เป็นทักษะที่ราชินีนางฟ้ามอบให้ฉัน”
เมื่อเห็นเลขาธิการซุนตื่นเต้นอย่างมาก จางฟานจึงแสดงหน้าต่างทักษะของเขาให้อีกฝ่ายดู
เมื่อเข้าใจถึงผลของทักษะแล้ว เลขาธิการซุนก็ตระหนักทันทีว่า "นี่มันยอดเยี่ยมมาก"
จากนั้นเลขาธิการซุนก็หยิบกล่องออกมาแล้วใส่ไม้บาร์บีคิวทั้งหมดลงในกล่องตรงหน้าเขา
ขณะที่แสร้งทำเป็นตัวเองไม่ได้ผิดอะไร เลขาธิการซุนเห็นจางฟานลังเลเล็กน้อย เขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มง่า “อย่ากังวล ฉันจะไม่เอาของของคุณไปฟรีๆ หรอก ฉันไม่กินบาร์บีคิวพวกนี้เอง..ฉันจะนำมันไปให้คนใหญ่คนโต เมื่อถึงเวลานั้นถ้าคนใหญ่คนโตมีความสุข ผลประโยชน์ของคุณก็จะไม่ขาดมือ”
ทันทีที่เลขาซุนอธิบาย ใบหน้าของจางฟานก็เปลี่ยนไป และเขากล่าวอย่างดีใจว่า “เลขาธิการซุนพูดอะไร ฉันแค่อยากถามบาร์บีคิวที่คุณเอาไปพอไหม ถ้าไม่พอ ฉันจะย่างเพิ่มให้คุณอีก”
แววตาไร้ยางอายนั้นทำให้เลขาธิการซุนขบขัน
“คุณทำอาหารอร่อยขนาดนี้ ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรหรอก ถ้าไม่สามารถเอาดีในการเป็นมืออาชีพก็สามารถไปเปิดร้านอาหารได้เลย”....
…………………