ตอนที่ 62 บิดาเมตตา บุตรกตัญญู
เหนือท้องฟ้าของดาวที่มืดมนดวงหนึ่ง มีเมฆาสีดำก่อตัวหนาทึบแผ่ขยายไปเกือบหมื่นลี้ นี่คือการลงทัณฑ์นักบุญ! มีผู้บรรลุระดับนักบุญ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในสวรรค์และโลก และทัณฑ์ศักนักบุญก็ลงมา!
ชายในชุดคลุมดำยืนตรงอยู่ที่นั่นอย่างมั่นคง ดวงตาที่มองผ่านหน้ากากทองแดงเผยแววมั่นใจและตื่นเต้น
“ทัณฑ์นักบุญ นี่คือทัณฑ์นักบุญ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าในที่สุดก็จะได้เป็นนักบุญแล้ว!”
“พวกจางหยุนเทียนคงต้องอิจฉาตายแน่!”
ชายในชุดคลุมดำหัวเราะอย่างมีความสุข รู้สึกปลาบปลื้มอย่างยิ่ง เขาบรรลุถึงระดับนักบุญในวัยเพียงเท่านี้ คงจะทำให้จางหยุนเทียนและโกวยวนโกรธจนเป็นลม! และยังมีบิดาของเขาที่เข้าไปในสุสานบรรพบุรุษตั้งแต่เมื่อสองร้อยปีก่อนอีกด้วย สมัยเด็กบิดามักโอ้อวดว่าตนมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมเพียงใด
“แม้ข้าจะอยากอวดเขามากแค่ไหน แต่การไปหาเขาอาจจะทำให้ข้าโดนตี คงไม่ต้องไปดีกว่า”
“อีกอย่าง ถ้าเข้าไปแล้วออกมาไม่ได้ก็แย่สิ”
“ครั้งนี้ที่ข้ากลับมา ข้ามีเรื่องสำคัญ ไม่สามารถติดอยู่ในสุสานบรรพชนได้”
โครม! ในกลุ่มเมฆาสายฟ้าก่อรูปเป็นทะเลสายฟ้า พลังที่น่าสะพรึงกลัวนั้นทำให้ชายในชุดคลุมดำต้องจริงจังขึ้นมา
ตั้งแต่ยุคเสื่อมโทรมครอบงำ การบรรลุถึงระดับนักบุญนั้นยากยิ่ง หนึ่งคือสภาพในยุคนี้ทำให้ยากที่จะบรรลุถึงระดับนักบุญ สองคือผู้บรรลุถึงระดับนี้จะต้องเผชิญกับทัณฑ์นักบุญที่แทบจะต้านทานไม่ได้ ทำให้มีเพียงสำนักเก่าแก่หรือแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ๆ เท่านั้นที่สามารถฝึกฝนนักบุญออกมาได้
ชายในชุดคลุมดำทำการเตรียมตัวอย่างรอบคอบล่วงหน้า เขาใช้ศาสตราจักรพรรดิ์บังดาวดวงนี้ไว้เพื่อปิดบังจากสายตาผู้อื่น ยกเว้นผู้ที่มีพลังมากกว่าตนมาก มิฉะนั้นไม่มีใครจะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้เลย
…
ฮั่วหยุนเฟยมองออกไปยังท้องฟ้าไกลโพ้น ตรงนั้นดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วเขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งกฎที่รุนแรง มีคนกำลังเผชิญทัณฑ์นักบุญ! และคนผู้นั้นเขารู้จัก ฮั่วหยุนเฟยยิ้มเล็กน้อย ดวงตาของเขาทอประกายวิญญาณ มองทะลุผ่านค่ายกลปิดบังไปเห็นภาพของฮั่วฉางคงที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือดภายใต้ทัณฑ์นักบุญ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า
“เหตุใดจึงอ่อนแอมากเช่นนี้?”
“นี่เรียกว่าทัณฑ์นักบุญหรือ?”
ทัณฑ์นักบุญเป็นการชำระล้าง ใครที่สามารถทนต่อมันได้จะมีประโยชน์ต่อการบรรลุขั้นอย่างยิ่ง หลายคนใช้ทัณฑ์นักบุญในการปรับเปลี่ยนระดับขั้นของตนเองให้สมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อฮั่วหยุนเฟยเห็นทัณฑ์นักบุญของฮั่วฉางคงอ่อนแอเช่นนี้ เขาตั้งใจจะช่วยเขาเล็กน้อย
คนอื่นไม่สามารถแทรกแซงการเผชิญทัณฑ์ของผู้อื่นได้ มิฉะนั้นทัณฑ์นักบุญจะยิ่งรุนแรงขึ้น
“พ่อ ข้าทำเพื่อท่าน ยิ่งทัณฑ์นักบุญรุนแรง ท่านยิ่งจะได้รับการปรับเปลี่ยนที่ดีขึ้น ใช่ไหม ท่านพ่อ?”
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะควบคุมมันให้อยู่ในขอบเขตที่ท่านรับไหวแน่นอน!”
เมื่อพูดจบ ฮั่วหยุนเฟยใช้พลังยิงกระบวนวิชาเข้าไปในทัณฑ์นักบุญอย่างแผ่วเบา
โครม! ครืน!
ทันใดนั้น เมฆาสายฟ้าขนาดหมื่นลี้เหนือศีรษะของฮั่วฉางคงก็ขยายใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัว และยังคงขยายออกไปเรื่อยๆ สายฟ้าขนาดหลายเมตรก็ขยายเป็นสิบเมตรในทันที!
“ว้อทเดอะ!”
“เกิดอะไรขึ้นนี่!”
ฮั่วฉางคงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นและสบถ “นี่มันบ้าอะไรกัน ทำไมทัณฑ์มันถึงเพิ่มความรุนแรงขึ้น? ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีบันทึกแบบนี้!”
“ไม่ถูกต้อง ต้องมีใครบางคนแทรกแซง!”
ในขณะที่ฮั่วฉางคงเริ่มตระหนักถึงความผิดปกติ ฮั่วหยุนเฟยก็ได้จากไปไกลแล้ว ก่อนจะไปเขายังเสริมค่ายกลปิดบังที่ฮั่วฉางคงจัดวางไว้ให้แข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย เพราะมันดูไม่ปลอดภัยพอ
“อ๊า!”
ในขณะที่ฮั่วหยุนเฟยเดินจากไป เขารู้สึกเหมือนว่าได้ยินเสียงร้องอย่างทรมานดังมาจากด้านหลัง เสียงนั้นน่าขนลุกและทำให้ขนลุกซู่
…
เหนือดาวเป่ยโต่ว ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว สนามรบระหว่างฮั่วฉางคงและหลัวหนิงเหล่าจู่ได้ถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ร่องรอยต่างๆ ถูกลบออกไป สายสัมพันธ์ถูกตัดขาด และเหตุการณ์ทั้งหมดถูกกำจัดออกไป
แต่ด้วยระดับพลังของฮั่วหยุนเฟยในขณะนี้ เพียงแค่สำรวจด้วยพลังจิตเขาก็สามารถค้นพบร่องรอยบางอย่างได้ เขายังคงสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้
“พลังของพ่อไม่เพียงพอ ก็ไม่ใช่ความผิดของเขาหรอก”
เมื่อพูดจบ ฮั่วหยุนเฟยใช้สองนิ้วสร้างคลื่นพลังและทำลายท้องฟ้าในบริเวณนั้น ทำให้พายุในอวกาศล้างทำลายสายสัมพันธ์ทั้งหมดที่นี่จนกระจุยกระจาย ไม่มีใครจะสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ได้อีกต่อไป เพื่อความปลอดภัยยิ่งขึ้น ฮั่วหยุนเฟยจึงใช้พลังหยุดความเชื่อมโยงของท้องฟ้าในระยะหลายหมื่นลี้รอบๆ เพื่อทำให้ความลับทั้งหมดถูกทำลายอย่างสมบูรณ์
เมื่อเส้นสายแห่งฟ้าดินใหม่เกิดขึ้น จะไม่ติดกลิ่นอายของฮั่วฉางคงและหลัวหนิงเหล่าจู่อีกต่อไป เมื่อทำสิ่งเหล่านี้เสร็จสิ้น ฮั่วหยุนเฟยจึงถอนค่ายกลปิดบังที่ครอบคลุมดาวเป่ยโต่วออก รวมทั้งอาวุธนักบุญที่ซ่อนอยู่ในห้วงอากาศ จากนั้นเขาก็ซ่อนตัวเข้าไปในห้วงอากาศและเข้าสู่ดาวเป่ยโต่ว
ในเขตตะวันออก ณ แผ่นดินชางโจว ภายในสุสานจักรพรรดิแห่งเสวียนหวง
ในพื้นที่ลับของห้วงอากาศ เซวียนอี้และสหายทั้งสี่คนยืนอยู่ที่นั่น จ้องมองไปยังสุสานจักรพรรดิแห่งเสวียนหวง แม้แต่เซวียนอี้เองก็หลับตาลงเพื่อสัมผัสกับกฎเกณฑ์แห่งจักรพรรดิภายในพลังอำนาจของจักรพรรดิ
หลังจากเข้าสู่ระดับนักบุญ การฝึกฝนก็ยากขึ้นเรื่อย ๆ กว่าจะก้าวหน้าไปได้แต่ละก้าวต้องใช้เวลาหลายปี หรือแม้กระทั่งหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีโดยที่ไม่ก้าวหน้าไปไหน โอกาสที่จะได้สัมผัสกับพลังอำนาจแห่งจักรพรรดิ์นั้นไม่บ่อยนัก แม้แต่การทำความเข้าใจเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะใช้ประโยชน์ได้
ทั้งสี่คนไม่รู้เลยว่าไม่ไกลจากที่นั่น ฮั่วหยุนเฟยได้มาถึงแล้วและกำลังมองดูพวกเขาอยู่ ฮั่วหยุนเฟยจ้องมองเซวียนอี้ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
“สมแล้วที่เป็นสำนักของเรา นี่เป็นบรรพบุรุษที่เชิญมาจากดินแดนบรรพชนหรือสุสานบรรพชนกันแน่?”
“พรสวรรค์ไม่เลวเลยทีเดียว!”
...
【ชื่อ:เซวียนอี้】
【อายุ: หนึ่งพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าปี】
【ระดับ: นักบุญขั้นสอง (ภายนอก) นักบุญขั้นสมบูรณ์ (ภายใน)】
【สถานะ: บรรพบุรุษสำนักเกาซาน หัวหน้ารุ่นที่สี่สิบหกของยอดเขาเทียนจี 】
【พรสวรรค์ในการฝึกฝน: ระดับต่ำสุดของเซียน】
【พรสวรรค์อื่นๆ: พรสวรรค์ด้านทำนายระดับสูงสุดของเซียน พรสวรรค์ด้านการผนึกระดับกลางของเซียน พรสวรรค์ด้านการควบคุมระดับต่ำของเซียน พรสวรรค์ด้านการต่อสู้ด้วยหมัดระดับต่ำของเซียน】
【กายา: ไม่มี】
【วิชา: เคล็ดวิชาลืมตัวตน (ไม่มีระดับ) เคล็ดวิชาซ่อนเร้น (ไม่มีระดับ) เคล็ดลับยืนยาว (ไม่มีระดับ) คัมภีร์ชะตาแห่งฟ้า (ระดับเซียน)】
【พลังเทพ: ตาทิพย์ (เทียนเหยียน)】
【อาวุธ: พู่กันแห่งห้วอวกาศ (ระดับนักบุญ)】
【ชะตา: สีม่วง】
...
“บรรพบุรุษผู้นี้มีพรสวรรค์ระดับเซียนที่แท้จริง ความสามารถแท้จริงของเขาถึงขั้นสมบูรณ์ของนักบุญ!”
“สมแล้วที่เป็นสำนักของเรา!”
ฮั่วหยุนเฟยประทับใจ พรสวรรค์ของเซวียนอี้แข็งแกร่งมาก เขาบรรลุขั้นสมบูรณ์ของนักบุญในอายุต่ำกว่าสองพันปี แม้ในยุคปกติก็ถือว่าเป็นพรสวรรค์ที่หายาก! เขาทำได้อย่างไร? การฝึกฝนของเขารวดเร็วจนเกินจริง เกินกว่าข้อจำกัดของยุคเสื่อมโทรมไปมาก
แต่ถ้าพูดกันตามตรง การปรากฏตัวของเซวียนอี้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยเต็มที่! การอยู่ในสำนักเกาซานแล้วมีคนคอยดูแลมันรู้สึกดีจริงๆ
“ปู้ฟ่าน พาหวงเซวียนมาหาข้า” ฮั่วหยุนเฟยส่งเสียงผ่านกระแสจิตไปยังเย่ปู้ฟ่าน ขณะที่เซวียนอี้และอีกสามคนอยู่ที่นี่ การทำธุระบางอย่างอาจไม่สะดวก นั่นเป็นเรื่องสำคัญต่อชีวิตของหวงเซวียน ไม่สะดวกให้ผู้อื่นรู้
“อาจารย์!” เมื่อได้ยินเสียงของฮั่วหยุนเฟย เย่ปู้ฟ่านยิ้มออกมา จากนั้นหันไปพูดกับเทียนจีเจินเหรินว่า “ท่านอาจารย์ลุ่ง ท่านบรรพบุรุษสองท่าน อาจารย์ของข้าได้มาถึงแล้ว ท่านเพิ่งส่งเสียงมาบอกให้ข้ากับหวงเซวียนไปหาท่าน”
ทันใดนั้น เซวียนอี้ลืมตาขึ้นและปกคลุมตัวเองและอีกสามคนด้วยชะตา เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นค้นพบที่นี่