ตอนที่ 25 จูล่งตกใจ
อำเภอเหอเน่ย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของลั่วหยาง โดยมีแม่น้ำกั้นกลาง
ในสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก เรือแล่นทวนน้ำไปตามแม่น้ำหวงเหอได้ยาก
ดังนั้น กองทัพของซุนเกี๋ยนจึงมุ่งตรงไปยังริมฝั่งใต้ของแม่น้ำหวงเหอ หาเรือแล้วขนทหารข้ามไปยังฝั่งเหนือ
หลังจากเข้าสู่เขตเฉาเก๋อ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปทางตะวันตก ไปยังตะวันออกของแม่น้ำ
อยู่มาวันหนึ่ง ทหารก็มารายงานว่าตั๋งโต๊ะนำทัพสามแสนนายมาที่ด่านโสหุย และได้เผชิญหน้ากับกองกำลังพันธมิตรแล้ว
หลังซุนเกี๋ยนได้รับรายงาย เขาก็เรียกทุกคนมาหารือที่กระโจมใหญ่
หลังจากเข้าไปในกระโจมใหญ่แล้ว เขาก็นั่งลงบนที่นั่งหลัก ด้านซ้ายคือ เฉิงผู่ ซูเหมา หันต๋ง และฮองตง แม่ทัพใหญ่สี่คน ส่วนด้านขวาคือนั่งไป๋หลี่หมิง เตียวเลี้ยว ตามด้วยแม่ทัพในชุดขาว และคนสุดท้ายคือจ้าวเซิน
แม่ทัพในชุดขาว มีใบหน้าเหลี่ยม เคราแพะสั้น รูปร่างสูงใหญ่ ดูองอาจ
เขาคือจ้าวอวิ๋น
"ท่านกุนซือคาดการณ์ไว้แล้วว่าตั๋งโต๊ะจะต้องยกทัพใหญ่มา ตอนนี้ กองทัพของเรามุ่งหน้าไปทางเหนือ แต่แม่น้ำเหลืองเป็นอุปสรรค พวกเราควรทำอย่างไร? "ซุนเกี๋ยนพูดขึ้น
พูดจบ เขาก็มอบจดหมายรายงานให้ไป๋หลี่หมิง
ไป๋หลี่หมิงอ่านเสร็จก็ยิ้มโดยไม่พูดอะไร จากนั้นก็ส่งจดหมายรายงานให้เตียวเลี้ยว
หลังจากที่ทุกคนดูจบแล้ว เฉิงผู่ก็ขมวดคิ้ว “ท่านกุนซือเคยบอกว่าตั๋งโต๊ะจะยกทัพออกมาทั้งหมด ตอนนี้ ตั๋งโต๊ะส่งทหารมาตั้งสามแสนนาย กองกำลังพันธมิตรคงต้านไม่อยู่”
“ตอนนี้ พวกเราไปทางเหนือแล้ว ข้าเกรงว่ากองกำลังพันธมิตรจะไม่ไหว!”
"ทำไมพวกเราไม่ฉวยโอกาสนี้ ข้ามแม่น้ำที่เมืองเหมิ่งจิ่น แล้วมุ่งหน้าไปทางเหนือของลั่วหยาง โจมตีกองทัพของตั๋งโต๊ะเพื่อแบ่งเบากองกำลังพันธมิตร? "
เหล่าแม่ทัพคนอื่นๆ พยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดนี้
“ท่านกุนซือ คิดอย่างไร?”ซุนเกี๋ยนถาม
“ไม่ได้!”ไป๋หลี่หมิงส่ายหัว
“สามแสนนาย เป็นแค่กลลวงของตั๋งโต๊ะ อย่าไปกลัวมัน!”
"ข้าเคยวิเคราะห์ให้พวกท่านฟังแล้ว กองทัพทั้งหมดของตั๋งโต๊ะไม่น่าจะเกินสามแสนนาย ตอนนี้ เสียไปหลายหมื่นแล้ว จะไปหาทหารสามแสนมาจากไหน!”
“ต่อให้มันระดมพลจากทุกสารทิศ และลดการป้องกันที่อื่น ก็คงได้แค่แสนห้าเท่านั้น”
“ถึงแม้ว่าวันนี้จะบอกว่ามีทหารสามแสนนาย แต่จริงๆ แล้วต้องลดไปครึ่งหนึ่ง!”
"ที่ท่านกุนซือบอกว่าให้พวกเรามาทางเหนือ มันเป็นเรื่องถูกต้อง " ซูเหมา พูดขึ้น
"แต่ทำไมท่านถึงไม่ให้พวกเราข้ามแม่น้ำ? ตอนนี้ ตั๋งโต๊ะส่งทหารไปที่ด่านโสหุย เมืองลั่วหยางก็ว่างเปล่า ถ้าหากพวกเราข้ามแม่น้ำไป ก็อาจจะยึดเมืองลั่วหยางได้! "
"ใช่ๆ "แม่ทัพคนอื่นๆ เห็นด้วย
"ถ้าข้ามไปตอนนี้ พวกเราจะถูกโจมตีตอนที่กำลังข้ามแม่น้ำพอดี " ไป๋หลี่หมิงมองเหล่าแม่ทัพ
“ข้าเกรงว่าไม่เพียงแต่จะข้ามแม่น้ำไม่ได้ แถมยังต้องเสียทหาร ดังนั้นห้ามข้ามแม่น้ำเด็ดขาด!”
"แต่ท่านกุนซือบอกว่า ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการไปทางเหนือ ทำไมพอพวกเราขึ้นเหนือ ท่านกลับบอกว่าข้ามแม่น้ำไม่ได้? ไม่แน่เราอาจจะชนะตั๋งโต๊ะในคราเดียวก็ได้!”
ซุนเกี๋ยนรีบพูดว่า"ต้าหรง อย่าเสียมารยาท!”
"ก่อนขึ้นเหนือ ท่านกุนซือบอกเหตุผลกับพวกเราแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงลืมไปแล้ว?”
ซูเหมารู้สึกน้อยใจเล็กน้อย
"นายท่าน ท่านใจร้ายขึ้นทุกวัน ในเมื่อท่านเรียกพวกเรามาประชุม ก็ให้พวกเราพูดหน่อยสิ!”
"ถ้าไม่ต้องการพวกเรา ท่านก็ไปคุยกับท่านกุนซือสองคนก็สิ้นเรื่อง จะเรียกพวกเรามาทำไม!”
เขาเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ของซุนเกี๋ยน เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาไม่เกรงใจ
ซุนเกี๋ยนกำลังจะดุ แต่ไป๋หลี่หมิงก็ยิ้มและพูดว่า"นายท่าน อย่าโกรธเลย แม่ทัพซูพูดถูกแล้ว การประชุมก็เพื่อระดมความคิดเห็น”
“ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นอะไร ก็พูดออกมาได้เลย!”
“ถ้าหากมีความคิดเห็นที่ไม่ถูกต้อง พวกเราก็ค่อยๆพูดคุยกัน เพื่อหาแผนการที่สมบูรณ์แบบที่สุด!”
ซูเหมาดีใจ "ท่านกุนซือพูดถูกต้อง! มันควรจะเป็นแบบนี้
“เอาล่ะ” ซุนเกี๋ยนยิ้มแห้ง
"ท่านกุนซือ ท่านใจดีจริงๆ ต้าหรง เจ้าว่ามาเลย! "
ซูเหมาเหมือนหมูตายที่ไม่กลัวน้ำร้อน สะบัดหน้าหนี“ข้ามีคำถามแค่นี้แหละ!”
ทุกคนหัวเราะ
ทุกคนรู้ว่าซูเหมาสนิทกับซุนเกี๋ยนมากที่สุด รู้ว่าอีกฝ่ายล้อเล่น จึงไม่ได้ถือสา
"ในเมื่อทุกคนไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ข้าก็จะอธิบายข้อสงสัยให้ฟัง!” ไป๋หลี่หมิง ยิ้ม
ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ซูเหมาก็รีบพูดขึ้นพร้อมหัวเราะ
“ท่านกุนซือ ไม่ต้องเป็นทางการแบบนี้หรอก ข้าเคยบอกไปแล้วว่า ต่อจากนี้ไปจะเชื่อฟังท่าน ไม่ต้องเรียกข้าว่าแม่ทัพซู เรียกข้าว่าต้าหรงก็พอ!”
พอเขาพูดจบ ทุกคนก็หัวเราะ แม้แต่จ้าวอวิ๋นที่เพิ่งมาถึงก็ยังอดขำไม่ได้
ตอนแรก เขานึกว่าต้องมาอยู่ใต้อาณัติของคนอื่น คงไม่มีวันที่สุขแน่
เขาไม่อยากมา แต่ซุนเกี๋ยนกลับมอบหมายงานสำคัญให้เขา แม่ทัพที่อยู่ที่นี่ยินดีต้อนรับเขา แม้แต่กุนซือก็ยังมีอารมณ์ขัน
หลังจากอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน เขาก็รู้สึกว่าที่นี่สบายใจกว่าอยู่กับกงซุนจ้าน และค่อยๆ ปรับตัวได้
พอได้ยินว่ากุนซือจะพูด เขาก็รีบมองไปที่ไป๋หลี่หมิง
ช่วงนี้ ตอนที่แม่ทัพคนอื่นๆ พูดถึงไป๋หลี่หมิง ต่างก็ยกย่องไป๋หลี่หมิงเหมือน "เทพเจ้า"
ตอนนี้เขาอยากรู้แล้วว่า กุนซือคนนี้มีอะไรดี?
“เอาล่ะ หัวเราะกันพอแล้ว เข้าเรื่องกันเถอะ!” ไป๋หลี่หมิง พูดขึ้น
“ขอยืมคำพูดของแม่ทัพทั้งสอง มาพูดถึงกลยุทธ์ของพวกเรากันเถอะ! ”
“อย่างที่ท่านทั้งสองพูด กองทัพของพวกเราต้องข้ามแม่น้ำ แต่วิธีข้ามแม่น้ำที่ท่านพูดนั้นผิด เวลาที่ข้ามแม่น้ำก็ผิด! ”
"แม้แต่จุดประสงค์ในการข้ามแม่น้ำก็ยังผิด! "
"เพื่อให้กลยุทธ์ของกองทัพชัดเจน พวกเราต้องคิดให้ชัดเจนในสี่ข้อ"
“กองทัพของพวกเราจะข้ามแม่น้ำเมื่อไหร่ ข้ามแม่น้ำที่ไหน ข้ามแม่น้ำยังไง และหลังจากข้ามแม่น้ำแล้วจะทำอะไร! ”
“หลังจากคิดถึงสี่ข้อนี้ชัดเจนแล้ว กลยุทธ์ของกองทัพก็จะชัดเจนในตัวมันเอง! ”
คำพูดของเขา ทำให้ทุกคนเข้าใจ
ทุกคนรู้สึกเหมือนได้สติ ก้มหน้าครุ่นคิด
ซุนเกี๋ยนขมวดคิ้ว
"ถ้าทำตามที่ท่านกุนซือว่า กองทัพของเราต้องรีบข้ามแม่น้ำ ส่วนสถานที่ ถ้าไม่ใช่ที่เมืองเหมิ่งจิ่น แล้วจะไปที่ไหน? "
“ส่วนวิธีข้ามแม่น้ำ? ก็แค่หาเรือข้ามแม่น้ำ มันจะแปลกอะไร? ”
“ถ้าทำตามที่ท่านพูด กองทัพของเราก็ข้ามแม่น้ำไม่ได้หรอก!” ไป๋หลี่หมิง ยิ้ม
“ข้าว่ากองทัพของพวกเราควรค่อยๆข้ามแม่น้ำ สถานที่? ตรงไหนก็ได้ ยกเว้นเหมิ่งจิ่น!”
“ส่วนวิธีการ?พวกเราควรใช้วิธีโบราณ สร้างทางเดินข้ามแม่น้ำอย่างเปิดเผย แต่แอบข้ามแม่น้ำไปที่อื่น!”
พอได้ยินแบบนี้ เหล่าแม่ทัพก็อึ้งไป มีเพียงจ้าวอวิ๋นเท่านั้นที่ตกใจ
กุนซือคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ
ก่อนที่แผนการจะถูกเสนอ นายท่านก็โดนสวนกลับซะแล้ว!
ถึงหน้าตาจะเด็ก แต่ใจกล้า และหยิ่งมาก!