ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 31 วังสวรรค์บุกโจมตีเครือข่ายลับ
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 31 วังสวรรค์บุกโจมตีเครือข่ายลับ
จี๋อวิ๋นไม่ได้สนใจกู้ชิงเฟิงที่กำลังทำความเข้าใจวิชาลับนวโคจรนิลกาฬอยู่กลางลานกว้าง
ในเวลานี้เขากำลังครุ่นคิดว่าจะสืบหาที่ตั้งของเครือข่ายลับได้อย่างไร จากนั้นจึงจะยกทัพไปกวาดล้าง ทำลายล้างพวกมันให้สิ้นซาก
เครือข่ายลับในฐานะองค์กรมือสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเบื้องล่าง นอกจากความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวแล้ว พวกมันยังมีความสามารถในการปกปิดตัวตนเป็นเลิศ
มิเช่นนั้นคงถูกทำลายล้างไปนานแล้ว
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเครือข่ายลับไม่เคยไปยั่วยุขุมอำนาจชั้นยอด
ถึงกระนั้น ที่ซ่อนของเครือข่ายลับย่อมต้องเป็นสถานที่ที่ปกปิดเป็นความลับอย่างแน่นอน
“วิธีเดียวก็คือช่วงชิงป้ายคำสั่งจากมือสังหารของเครือข่ายลับในขณะที่พวกมันรับงาน จากนั้นจึงทำการสืบค้นวิญญาณ……”
โดยปกติแล้ว มือสังหารเหล่านี้จะถูกฝังผนึกไว้ในดวงวิญญาณ
หากถูกสืบค้นวิญญาณ ผนึกจะระเบิด ทำให้ดวงวิญญาณแตกสลาย ไม่อาจสืบหาข้อมูลใด ๆ ได้
แต่เรื่องนี้สำหรับจี๋อวิ๋นแล้ว มิใช่ปัญหาใหญ่ เขามีวิธีแก้ไข
เมื่อคิดได้ดังนั้น จี๋อวิ๋นจึงเริ่มวางแผน
สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือหาเครื่องมือที่สามารถติดต่อกับเครือข่ายลับและมอบหมายงานให้กับพวกมันได้
พูดตามตรง ขั้นตอนแรกนี้ยากเป็นอย่างยิ่ง
โดยทั่วไปแล้ว คนหรือขุมอำนาจที่มอบหมายงานสังหารให้กับเครือข่ายลับ ล้วนปกปิดตัวตนเป็นอย่างดี ไม่อาจสืบหาได้
มิเช่นนั้น หากเปิดเผยตัวตนออกมา ก็ไม่ต่างอะไรกับการประกาศให้โลกรู้ว่า ข้าเป็นคนจ้างมือสังหารไปฆ่าคนนั้นคนนี้
หากผู้ที่ถูกลอบสังหารเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญก็แล้วไป แต่หากเป็นคนของขุมอำนาจใหญ่ เรื่องนี้คงไม่จบง่าย ๆ
ดังนั้นทุกคนจึงติดต่อกับเครือข่ายลับอย่างลับ ๆ
“ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากส่งหุ่นเชิดทหารสวรรค์สามพันนายและหุ่นเชิดทหารหยินสามพันนายออกไปสืบหาทีละขุมอำนาจ เพื่อค้นหาป้ายคำสั่งที่ใช้ติดต่อกับเครือข่ายลับ……”
วิธีการเช่นนี้ คงมีเพียงจี๋อวิ๋นเท่านั้นที่คิดและสามารถทำได้
ท้ายที่สุดแล้ว ใครจะมีตัวตนระดับปราชญ์ถึงหกพันคน รากฐานเช่นนี้ แม้แต่ขุมอำนาจระดับหนึ่งยังต้องตกตะลึง
แน่นอนว่าขุมอำนาจระดับหนึ่งก็สามารถรวบรวมตัวตนระดับปราชญ์ได้ถึงหกพันคน แต่คงไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น ต้องใช้เวลาในการเตรียมการ
แต่การทำเช่นนั้นเพื่อทำลายล้างเครือข่ายลับ เห็นได้ชัดว่าไม่คุ้มค่า
แต่เรื่องทั้งหมดนี้สำหรับจี๋อวิ๋นแล้ว เป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก
ตัวตนระดับปราชญ์หกพันคนของเขาล้วนเป็นหุ่นเชิด ไม่ต้องการทรัพยากรในการบำเพ็ญเพียร และไม่ต้องกังวลเรื่องอายุขัย
ยิ่งไปกว่านั้น เขาสามารถเรียกพวกมันมารวมตัวกันได้ในพริบตา ช่างสะดวกสบายยิ่งนัก
จากนั้นจี๋อวิ๋นก็เริ่มลงมือ
เพียงแค่คิดในใจ เขาก็ส่งหุ่นเชิดทหารสวรรค์สามพันนายและหุ่นเชิดทหารหยินสามพันนายออกไป พวกมันจากไปอย่างเงียบเชียบ มุ่งหน้าไปยังขุมอำนาจต่าง ๆ เพื่อทำการค้นหาอย่างละเอียด
ขั้นตอนการค้นหาก็ง่ายดายยิ่งนัก
เพียงแค่สืบหาบุคคลระดับสูงและผู้นำของขุมอำนาจ ทำการสะกดจิต จากนั้นจึงสอบถามว่ามีป้ายคำสั่งที่ใช้ติดต่อกับเครือข่ายลับหรือไม่
และภายใต้การค้นหาอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ ไม่นานก็ได้ผลลัพธ์
……
บนความว่างเปล่า
ฉับพลัน เรือเหาะลำหนึ่งทะลวงผ่านหมู่เมฆ ธงผืนหนึ่งโบกสะบัดตามสายลม บนธงมีตัวอักษร ‘ฮั่ว’ ขนาดใหญ่
นี่คือเรือเหาะของฮั่วหยูฉี ผู้นำตระกูลฮั่วแห่งเมืองเจียงหนิง
ในเวลานี้ ฮั่วหยูฉีเพิ่งร่วมงานเลี้ยงของสหาย จึงกำลังนั่งเรือเหาะของตระกูลทะลวงผ่านหมู่เมฆ มุ่งหน้ากลับไปยังจวน
แต่ในขณะนั้นเอง
ตู้ม!
ทันใดนั้น รัศมีกดดันอันยิ่งใหญ่ก็พุ่งลงมา ปกคลุมเรือเหาะทั้งลำ
ฮั่วหยูฉีและผู้อาวุโสตระกูลฮั่วหลายคนที่อยู่บนเรือต่างถูกกดจนตัวสั่น
ชั่วพริบตาถัดมา เบื้องหน้าฮั่วหยูฉีก็ปรากฏร่างเงาหลายร่างขึ้น
“ตัวตนระดับปราชญ์!”
ฮั่วหยูฉีมีสีหน้าตกตะลึง
แต่ในวินาทีถัดมาสติของเขาก็มืดมิด ความคิดไม่อยู่ในการควบคุม
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดทหารหยินนายหนึ่งกล่าวว่า “เจ้ามีป้ายคำสั่งของเครือข่ายลับหรือไม่?”
“มี” ฮั่วหยูฉีพยักหน้ากล่าว “อยู่กับตัวข้า”
เจอแล้ว!
จี๋อวิ๋นรู้สึกยินดี จึงกล่าวว่า “นำป้ายคำสั่งออกมาให้ข้า”
“ขอรับ”
ฮั่วหยูฉีเปิดมิติเก็บของ นำป้ายคำสั่งสีแดงเข้มออกมา มอบให้กับจี๋อวิ๋น
“เรียบร้อย”
หลังจากได้รับป้ายคำสั่ง จี๋อวิ๋นก็โบกมือ ลบความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
จากนั้นเขาก็ควบคุมหุ่นเชิดทหารหยินหายไปจากที่เดิม
ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของจี๋อวิ๋น แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวขุมอำนาจเหล่านี้
แต่เขามักจะทำอะไรอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความผิดพลาด จึงลบความทรงจำของพวกเขา อย่างไรเสีย นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ใช้เวลาไม่นาน
“แปลกยิ่งนัก ข้าเผลอหลับไปหรือ”
ไม่นาน ฮั่วหยูฉีก็ตื่นขึ้น เขาเอียงศีรษะอย่างสงสัย จากนั้นก็เดินทางต่อไป
…………
ในเวลานี้ ภายในโถงใหญ่
จี๋อวิ๋นมีแววตาเป็นประกาย “ในที่สุดก็ได้มาแล้ว”
ชั่วพริบตาถัดมา เขาก็ควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิง นำร่างจริงหายไปจากโถงใหญ่
ภายในป่าแห่งหนึ่ง
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดทหารหยินนายหนึ่ง นำป้ายคำสั่งสีแดงเข้มออกมา
ส่งข้อมูลเข้าไป ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการมอบหมายงาน
อีกฝ่ายจะรับข้อมูลและมารับงานเอง
ดังที่คาด ไม่นานนัก
ความว่างเปล่าก็สั่นสะเทือน ร่างเงาชุดดำก้าวออกมาจากความว่างเปล่า
เขายืนอยู่กลางอากาศ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “บอกมา เจ้าต้องการ………”
แต่ในชั่วพริบตาถัดมา มือสังหารชุดดำก็มีสีหน้าตกตะลึง
เพราะรอบตัวเขามีตัวตนระดับปราชญ์ถึงสิบคนปรากฏขึ้น ล้อมรอบเขาไว้!
มือสังหารผู้นี้เป็นเพียงผู้ทรงอำนาจระดับก่อมรรค ถูกปราชญ์สิบคนล้อมไว้ ไม่อาจขยับเขยื้อนได้
วินาทีถัดมา นิ้วเรียวงามปรากฏขึ้น แตะไปที่หว่างคิ้วของเขา พยายามทำการสืบค้นวิญญาณ
แต่ทันทีที่สัมผัสกับดวงวิญญาณของมือสังหารชุดดำ ผนึกที่อยู่ภายในก็สั่นสะเทือน เตรียมที่จะระเบิดดวงวิญญาณ
ในขณะนั้น ร่างจริงของจี๋อวิ๋นก็ปรากฏขึ้น เขาโบกแขนเสื้อ
กาลเวลาพลันหยุดนิ่ง ห้วงมิติไม่อาจขวางกั้น ราวกับว่าเขาเป็นผู้เดียวในโลกนี้ เป็นนิรันดร์เพียงผู้เดียว
ปัง!
ฝ่ามือของเขากดลง บดขยี้ผนึกในดวงวิญญาณของมือสังหารที่เครือข่ายลับฝังไว้จนกลายเป็นผุยผง หลังจากนั้น ทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะปกติ
“พลังอิทธิฤทธิ์พันธนาการห้วงมิติจากมรดกของนักพรตกาลเวลาวิเศษจริง ๆ”
จี๋อวิ๋นมีสีหน้ายินดี เพียงแค่เขาทำความเข้าใจเพียงเล็กน้อยก็มีพลังอำนาจถึงเพียงนี้
หากฝึกฝนจนสำเร็จ การทะลวงผ่านสายธารแห่งประวัติศาสตร์ก็มิใช่เรื่องยาก
หลังจากทำลายผนึกในดวงวิญญาณ จี๋อวิ๋นก็ทำการสืบค้นวิญญาณอย่างง่ายดาย
ไม่นานเขาก็ทราบที่ตั้งของเครือข่ายลับ
“ที่แท้ก็ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ มิน่าเล่า หลายปีมานี้ไม่เคยถูกทำลายล้าง น่าเสียดาย พวกเจ้าไม่ควรยุ่งกับข้า……”
จี๋อวิ๋นยิ้มเยาะ สำหรับศัตรู เขาไม่มีความปราณีใด ๆ
หากลงมือก็ต้องกำจัดให้สิ้นซาก ไม่ให้มีโอกาสแก้แค้น
“ไม่คิดเลยว่าความแข็งแกร่งของเครือข่ายลับจะเหนือกว่าเผ่ามังกรเจียวมากนัก ภายในมีมหาปราชญ์ห้าคน ราชันปราชญ์สิบคน และปราชญ์ห้าสิบคน”
“ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีค่ายกลระดับกึ่งเทพ รากฐานล้ำลึกยิ่งนัก”
“และยังมีตัวตนที่เคยพยายามทะลวงผ่านระดับกึ่งเทพแต่ล้มเหลว ถูกผนึกไว้ในแก่นเทวะ ยังคงมีชีวิตอยู่”
จี๋อวิ๋นรู้สึกตกตะลึง สมกับเป็นขุมอำนาจที่สืบทอดมาจากยุคโบราณ
รากฐานล้ำลึกยิ่งกว่าเผ่ามังกรเจียวมากนัก
น่าเสียดาย เบื้องหน้ากองทัพหุ่นเชิดของเขา ทุกอย่างล้วนไร้ประโยชน์ กวาดล้างทั่วทั้งฟ้าดิน ไร้ผู้ต่อต้าน!
