บทที่ 25: อีหนูน้อย แกหนีไปไหนไม่พ้นแล้ว!
บทที่ 25: อีหนูน้อย แกหนีไปไหนไม่พ้นแล้ว!
ความรู้สึกหายใจไม่ออกทวีความรุนแรงขึ้น ผีน้ำดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง โดยใช้ทักษะการควบคุมน้ำเพื่อกวนกระแสน้ำที่ก้นแม่น้ำ มันพยายามที่จะหลุดพ้นจากพันธนาการของซูหยาง
แต่ทั้งหมดนั้นก็ไร้ผล
น้ำปริมาณมากจากแม่น้ำฮวงโหไหลซึมเข้าไปในปากและจมูกของเธอ ทำให้เธอเกิดอาการไออย่างรุนแรง
“แค่กๆ…”
“เป็นไปไม่ได้!”
“แกควบคุมน้ำได้ยังไง”
“แถมมันยังแข็งแกร่งกว่าฉันด้วยซ้ำ…แค่กๆ!”
ความกลัวต่อการ “จมน้ำ” ปรากฎขึ้นในใจของเธออย่างกะทันหัน ผีน้ำพยายามแหวกว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำ แต่ซูหยางกลับหัวเราะและดึงข้อเท้าของเธอให้ตกลงไปแทน “จะรีบไปทำไม? พวกเราอยู่ก้นแม่น้ำแล้ว มาเล่นกันต่ออีกหน่อยเถอะ!”
“ติ้ง!”
“ผีน้ำตกใจกลัว +10 ค่าบุญ +1 ทักษะการควบคุมน้ำ+1”
“ติ้ง!”
“ผีน้ำตกใจกลัว…”
ในขณะที่การแจ้งเตือน “ทักษะการควบคุมน้ำ +1” ดังขึ้น ซูหยางก็รู้สึกว่าเขาเริ่มคุ้นเคยกับน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ แค่คิดเขาก็สามารถเปลี่ยนและควบคุมกระแสน้ำได้อย่างง่ายดาย
เขาจมลงไปที่ก้นแม่น้ำแล้ว
เขากระชากข้อเท้าของผีน้ำและเยาะเย้ย “ผีน้ำชอบทำแบบนี้กับคนอื่น... ตอนนี้แกตกอยู่ในมือฉันแล้ว การตายด้วยวิธีเดียวกับที่แกใช้ทำร้ายคนอื่นถือว่าแกสมควรโดนแล้ว!”
“ติ้ง!”
“ผีน้ำตกใจกลัว +10 ค่าบุญ +1 ทักษะการควบคุมน้ำ+1”
“ติ้ง…”
การแจ้งเตือนของระบบที่เกิดขึ้นติดต่อกันนั้นเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความกลัวของผีน้ำในขณะนี้
เมื่อเห็นว่าการดิ้นรนนั้นไร้ประโยชน์ เธอจึงพยายามล่อลวงซูหยาง โดยเปลี่ยนพลังหยินของเธอให้กลายเป็นหญิงสาวที่สวยงาม เธอก้มศีรษะลงมองซูหยางด้วยสายตาที่เย้ายวน “ท่านปรมาจารย์เต๋า…”
ฉึก!
ซูหยางยกกระบี่ไม้ขึ้นและแทงตรงไปที่ใบหน้าของผีน้ำ!
ผีน้ำกรีดร้องในขณะที่ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอถูกเผาไหม้ไปด้วยพลังหยางบริสุทธิ์ที่ติดอยู่กับกระบี่ไม้
“ไร้สาระ!”
“แกกล้าดียังไงมาล่อลวงฉันอีผีร้าย!”
ซูหยางพรั่งพรูสบถคำสาปแช่งออกมาไม่หยุด
เนื่องจากเขาสามารถมองทะลุวิชาลวงตาของผีน้ำได้ เขาจึงยังเห็นใบหน้าของเธอปกคลุมไปด้วยวัชพืชและหนองที่ไหลเยิ้มออกมา!
ในความเป็นจริง
สิ่งที่ผีน้ำแสดงนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น การใช้พลังหยินเพื่อหลอกลวงจิตใจของผู้คนไม่ใช่คาถาเปลี่ยนแปลงรูปโฉมที่แท้จริง แม้ว่ากลอุบายนี้จะได้ผลกับคนทั่วไป แต่มันก็ไร้ประโยชน์กับเขา
การใช้มนตร์สะกดกับผู้ฝึกเต๋าจะไปมีประโยชน์อะไร?
เมื่ออยู่ในขอบเขตเต๋าแล้ว คนๆ หนึ่งจะสามารถฝึกฝนเนตรสวรรค์ได้ ในเวลานั้น การเหลือบมองจากเนตรสวรรค์จะทำให้วิญญาณหยินและสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายถูกเปิดเผยตัวตน!
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ ด้วยเลือดและพลังปราณอันแข็งแกร่งของพวกเขา พลังหยินจึงจะส่งผลกระทบต่อพวกเขาได้ยาก
เว้นแต่ว่าวิญญาณหยินและวิญญาณร้ายจะแข็งแกร่งและทรงพลังกว่าคู่ต่อสู้มาก!
ในขณะเดียวกัน บนชายฝั่ง
หม่าหลงมองไปที่น้ำขุ่นมัวของแม่น้ำฮวงโหและคร่ำครวญว่า “ซูหยาง…”
“ซูหยาง ขึ้นมาเร็วเข้า!”
แต่กระนั้นมันก็ไม่มีสัญญาณของซูหยางบนผิวน้ำเลย
“ช่วยด้วย… มีใครอยู่ที่นี่ไหม พี่ชายของฉันตกลงไปในน้ำ! ขอร้องล่ะ ใครก็ได้!”
เขาตะโกนเสียงดัง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรเรียกตำรวจ
ในขณะนั้น รถคันสีดำก็จอดข้างทางไม่ไกลนัก
มีคนสองคนอยู่ในรถ
มันเป็นชายและหญิง
ชายคนนั้นยิ้มกริ่มและพูดว่า “ไป๋เว่ย มันจำเป็นจริงๆ หรอ มันก็เป็นแค่นักตกปลาที่อยากจะดัง เมื่อผู้คนที่เฝ้าดูจากไป เขาก็คงจะจากไปแล้วเหมือนกัน!”
หญิงคนนั้นที่ชื่อไป๋เว่ยส่ายหัว “ผีน้ำกำลังซ่อนตัวอยู่ในน้ำ และตอนนี้เราก็จัดการมันไม่ได้ แต่เราต้องแน่ใจว่ามันจะไม่ไปทำอันตรายใคร… ห๊ะ? มีคนอยู่ที่ชายฝั่งด้วย!”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ สายตาของเธอก็เปลี่ยนไปมองนอกรถ
ผ่านกระจกรถ
เธอเห็นหม่าหลงนอนอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำห่างออกไปหลายสิบเมตร
ทั้งสองคนรีบลงจากรถและเดินไปหาหม่าหลง ในสายลมยามค่ำคืน พวกเขาได้ยินเสียงดังมาจากความมืด —
“เฮ้!”
“ไม่นะ”
“ผมอยากจะแจ้งความ…ตอนนี้ผมอยู่ที่แม่น้ำฮวงโห ตรงที่ศพเพิ่งถูกพบ!”
“เพื่อนของผมถูกผีลากลงไปในน้ำ…”
หม่าหลงกำลังโทรหาตำรวจ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลังเขา “ไม่จำเป็นต้องโทรหาตำรวจ พวกเขาไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมาก็ตาม!”
มันคือชายและหญิงที่เดินเข้ามา
หม่าหลงหันกลับมา เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้พบกับผู้ช่วยชีวิตแล้วพูดว่า “พี่ชาย น้องสาว… โปรดช่วยพี่ชายของฉันด้วย เขาถูกผีลากลงแม่น้ำไป!”
ชายและหญิงมองหน้ากันอย่างเคร่งขรึม
ชายคนนั้นกำลังจะถอดเสื้อคลุมและกระโดดลงไปในน้ำ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็หยุดเขาและดุว่า “นายกำลังทำอะไรอยู่ สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน นายอยากตายรึไง?”
ชายผู้นั้นลังเลและพูดว่า “แต่ไป๋เว่ย เราต้องช่วยเขา!”
“มีแต่ปรมาจารย์ลัทธิเต๋าชั้นนำเท่านั้นที่จะสามารถจัดการกับผีน้ำในน้ำได้ การลงไปในน้ำตอนนี้จะช่วยอะไรเขาได้อีก? นอกจากส่งคนอีกคนไปสู่ความตาย”
หญิงผู้นั้นใจเย็นมากและถามหม่าหลงว่า “เพื่อนของคุณอยู่ในน้ำมานานแค่ไหนแล้ว”
“ห้าหรือหกนาที ฉันเดานะ”
จากการสนทนาของทั้งสองคน หม่าหลงสามารถบอกได้ว่าพวกเขาพิเศษ และเขาก็ขอความช่วยเหลือโดยทันที “พวกคุณทั้งสองคน ได้โปรดเถอะ ช่วยพี่ชายของฉันด้วย!”
ห้าหรือหกนาที?
เมื่อได้ยินคำตอบนี้ หญิงผู้นั้นก็ส่ายหัวไม่พูดจา
แม้แต่ตัวเธอเอง เธอก็น่าจะตายไปแล้วหากถูกผีน้ำลากลงไปนานขนาดนั้น
เธอถามอีกครั้งว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกฉันมาโดยละเอียดหน่อย!”
หม่าหลงสำลักและเล่าว่าเขาได้ยินใครบางคนร้องขอความช่วยเหลือ และเขาก็ว่ายลงไปในน้ำเพื่อช่วยชีวิตเธอ
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าหม่าหลงลากผีน้ำขึ้นมาที่ชายฝั่งและทำการ "ช่วยหายใจแบบปากต่อปาก" ทั้งชายและหญิงต่างก็ตะลึงงัน
หม่าหลงกล่าวต่อ “หลังจากที่ฉันสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปาก เลือดและหนองก็ไหลเข้ามาเต็มปากเลย ฉันรู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ใช่คน แต่เป็นผี ดังนั้นฉันจึงรีบวิ่งหนีไปโดยทันที... แต่พี่ชายของฉัน... เขา... เขา...”
หม่าหลงชี้ไปที่หัวของเขาแล้วพูดว่า “เขาไม่สบายและยังไม่หายดี เขาไม่เพียงแต่ไม่วิ่งหนีผีเท่านั้น แต่เขายังหยุดผีและถามเธอว่าทำไมเธอถึงต้องการทำร้ายผู้คน จากนั้นคลื่นลูกใหญ่ก็ซัดเข้ามาและพัดพี่ชายของฉันไป ฉันค้นหาในน้ำแล้วแต่ก็ไม่พบเขา”
“ฮือฮือ...”
“ซูหยาง!”
“พี่ชายของฉัน... ปู่ของเขายังหาศพไม่พบด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขาก็มาด่วนจากไปตามอีก!”
เห้อ!
ชายคนนั้นถอนหายใจยาวและตบไหล่ของหม่าหลง “น้องชาย ทำใจให้ดีๆ นะ... กลางคืนมันหนาว ใส่เสื้อผ้าก่อน หลังฟ้าสาง เราจะจัดการให้คนมาค้นหาศพน้องชายนาย”
วูบ!
ทันใดนั้นเอง
ผิวน้ำก็ระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน
“ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย…”
มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นจากใจกลางแม่น้ำ
แต่กระนั้นมันกลับไม่ใช่เสียงผู้ชาย..
มันคือผีน้ำ!
เธอทะลุผิวน้ำและว่ายขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว เธอร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัวขณะจวกน้ำอย่างกับนักว่ายน้ำมืออาชีพ
“ไอ้ชิบหาย!”
หม่าหลงซึ่งกำลังร้องไห้อยู่ลุกขึ้นโดยทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือนี้ เขาตะโกนอย่างโกรธเคืองไปที่ร่างผีน้ำว่า “อีผีเวรเอ้ย มึงยังกล้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากกูอีกหรอ!”
ทันทีที่คำพูดของเขาหลุดออกไป
วูบ!
ผิวน้ำก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง
ร่างมนุษย์กระโจนออกมาจากผิวน้ำด้านหลังผี
เขาหัวเราะเสียงดังราวกับคนร้ายแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อีหนูน้อย ยอมแพ้ซะเถอะ แกหนีไปไหนไม่พ้นแล้ว!”
...
*ไม่ไหวๆ ปรมาจารย์สวรรค์คนนี้แม่งอันตรายอย่างถึงที่สุด