ตอนที่ 41 จักรพรรดิโบราณ
ตอนที่ 41 จักรพรรดิโบราณ
“เจ้าสามารถเลือกวิชาฝึกตนได้หนึ่งวิชา และฝึกฝน ณ ที่นี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้า!”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชุดป่าน ลู่เหรินก็สำรวจดูคัมภีร์วิชาฝึกตนทั้งสิบเล่มที่อยู่ตรงหน้า
มีวิชาฝึกตนระดับแผ่นดินขั้นต่ำ วิชากระทิงคลั่ง เมื่อฝึกฝนสำเร็จแล้ว จะสามารถสร้างปราณวัวคลั่งซึ่งมีพละกำลังมหาศาลออกมาได้
ยังมีวิชาฝึกตนระดับลึกล้ำขั้นต่ำ วิชาอัคคีสวรรค์ สามารถบ่มเพาะพลังปราณอัคคีสวรรค์ได้
แน่นอนว่ายังมีคัมภีร์วิชาฝึกตนระดับปฐพี และระดับสวรรค์อีกสองสามเล่ม
วิชาฝึกตนที่ทรงพลังที่สุดคือวิชาฝึกตนระดับสวรรค์ขั้นสูง วิชาอาทิตเก้าเทวะ หากฝึกฝนวิชานี้จนถึงขั้นสมบูรณ์ จะสามารถรวมดวงอาทิตย์อันร้อนแรงได้ถึงเก้าดวง เผาผลาญทุกสิ่ง
“วิชาอาทิตเก้าเทวะ!”
ลู่เหรินตัวสั่นสะท้าน
วิชาฝึกตนระดับสวรรค์ขั้นสูง เป็นวิชาฝึกตนชั้นยอดที่สุดในแผ่นดินแห่งนี้ หากฝึกฝนสำเร็จคงจะสามารถกวาดล้างนักสู้ในระดับเดียวกันได้
อย่างไรก็ตาม ลู่เหรินก็ส่ายหัวรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
เขาเป็นผู้มีสายเลือดไร้ค่า อย่าว่าแต่ฝึกวิชาฝึกตนระดับสวรรค์ขั้นสูงเลย แม้แต่วิชาฝึกตนระดับปฐพีขั้นล่างก็อาจจะไม่สามารถฝึกได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็หยิบวิชากระทิงคลั่งขึ้นมา
แต่ทันทีที่เขาคว้าวิชากระทิงคลั่ง คัมภีร์อีกเก้าเล่มก็ระเบิดออกเหมือนดอกไม้ไฟ สร้างแรงกระแทกมหาศาลและทำให้เขาถูกกระแทกจนกระเด็นออกไป
และคัมภีร์ในมือของเขาก็แตกสลายทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
ลู่เหรินมีสีหน้าตกตะลึง
ชายชุดป่านยิ้มและพูดว่า “เจ้าไม่เลวเลย ในบรรดาคัมภีร์วิชาฝึกตนทั้งสิบเล่ม มีหลายเล่มที่เป็นวิชาฝึกตนระดับสวรรค์ แต่เจ้ากลับเลือกเพียงวิชาฝึกตนระดับปฐพีขั้นล่าง เจ้ารู้หรือไม่ว่าถ้าเจ้าเลือกวิชาอื่น การทดสอบขั้นสุดท้ายเจ้าก็จะล้มเหลว!”
ลู่เหรินตกใจ เขาเดาว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้อาจเป็นการทดสอบ แต่ไม่คิดว่าการเลือกคัมภีร์วิชาฝึกตนจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าการทดสอบขั้นสุดท้าย
“ผู้อาวุโส ทำไมการที่ข้าเลือกวิชาอื่นถึงทำให้การทดสอบล้มเหลว?”
ลู่เหรินอดไม่ได้ที่จะถาม
“ผู้ที่สามารถเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ได้จะต้องเป็นนักสู้ที่มีพรสวรรค์สายเลือดระดับสี่หรือต่ำกว่า การฝึกฝนวิชาฝึกตนระดับปฐพีขั้นล่างถือเป็นขีดจำกัดแล้ว หากไม่รู้จักพรสวรรค์ของตนเอง และโลภอยากได้วิชาอื่นก็ย่อมไม่สามารถผ่านการทดสอบได้!”
ชายชุดป่านกล่าว
“ผู้อาวุโส ท่านคือจักรพรรดิโบราณหรือไม่?”
ลู่เหรินถาม
“ถูกต้อง ข้าคือถัวซา!”
ชายชุดป่านกล่าวอย่างช้า ๆ บนใบหน้าปรากฏร่องรอยของความภาคภูมิใจ
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ลู่เหรินก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นสะท้าน เดิมทีเขาคิดว่าจักรพรรดิโบราณน่าจะเป็นชายชรา แต่กลับไม่คิดว่าจะเป็นชายวัยกลางคน
บุคคลตรงหน้า แท้จริงแล้วคือจักรพรรดิโบราณ เขายังไม่ตายงั้นหรือ?
“เจ้าไม่ต้องแปลกใจ ข้าได้ตายไปนานแล้ว สิ่งที่เจ้าเห็นตอนนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยววิญญาณ ข้าทิ้งถ้ำแห่งนี้ไว้และตั้งการทดสอบก็เพื่อหาผู้สืบทอดที่มีพรสวรรค์สายเลือดไร้ค่า!”
จักรพรรดิโบราณกล่าวช้า ๆ
ลู่เหรินขมวดคิ้วเล็กน้อยถามด้วยความสงสั: “ท่านถัวซา ในเมื่อท่านต้องการหาผู้สืบทอด ทำไมไม่หาคนที่มีพรสวรรค์สูง? ทำไมถึงหาเฉพาะในหมู่นักสู้ที่มีพรสวรรค์สายเลือดระดับสี่หรือต่ำกว่า?”
ในใจของลู่เหรินเต็มไปด้วยความสงสัย
แม้ว่าจักรพรรดิโบราณจะมีสายเลือดระดับสอง แต่อย่างไรก็ตามคงไม่อยากให้ผู้สืบทอดของตนเองเป็นคนที่มีพรสวรรค์ต่ำเช่นกันไม่ใช่หรือ?
“ในเส้นทางแห่งผู้ฝึกตน พรสวรรค์เป็นสิ่งสำคัญ แต่จิตใจที่มุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งยิ่งสำคัญกว่า หากนักสู้ที่มีพรสวรรค์สายเลือดระดับสี่หรือต่ำกว่าสามารถผ่านการทดสอบของข้าได้ แสดงว่าจิตใจในการฝึกฝนบู๊ของเขามั่นคงเพียงพอ ส่วนเรื่องสายเลือด ข้ามีวิธีที่จะยกระดับมัน!”
จักรพรรดิโบราณกล่าวอย่างแผ่วเบา
เขาเคยเห็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์มากมาย แต่พวกเขาอาศัยเพียงพรสวรรค์ที่แข็งแกร่ง แต่จิตใจในการฝึกฝนไม่มั่นคงก็ยังไม่สามารถก้าวขึ้นเป็นจอมยุทธ์ระดับจักรพรรดิได้
ลู่เหรินตัวสั่นและพูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านผู้อาวุโส ท่านมีวิธีที่จะยกระดับสายเลือดจริง ๆ หรือ?”
“ดูเหมือนเจ้าจะรู้ว่าข้ามีวิธีที่จะยกระดับสายเลือด!”
จักรพรรดิโบราณกล่าวอย่างช้า ๆ
“ท่านถัวซา ท่านมีสายเลือดระดับสองแต่สามารถฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดของทวีป จอมยุทธ์ระดับจักรพรรดิ ทุกคนต่างคาดเดาว่าท่านมีวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงสายเลือด!”
ลู่เหรินพยักหน้าและพูด
เขามีหอคอยศักดิ์สิทธิ์ ถ้าสามารถยกระดับพรสวรรค์สายเลือดได้ ในอนาคตก็จะสามารถฝึกฝนวิชาระดับปฐพี ระดับลึกล้ำ หรือแม้กระทั่งระดับปฐพีและระดับสวรรค์ได้
“ในตอนนั้น ข้ามีสายเลือดระดับสอง และการฝึกฝนจนถึงขอบเขตสมุทรเทวะก็ถือเป็นขีดจำกัดแล้ว ต่อมาข้าได้พบกับโอกาสพิเศษ ค่อย ๆ ยกระดับสายเลือดจนถึงระดับสายเลือดเทวะจึงสามารถก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิได้ในที่สุด แล้วเจ้าชื่ออะไร?”
จักรพรรดิโบราณถาม
“ผู้อาวุโส ข้าน้อยชื่อลู่เหรินขอรับ!”
ลู่เหรินตอบ
“ลู่เหริน เจ้าบอกข้ามาเมื่อครู่เหตุใดเจ้าจึงเลือกเพียงวิชาฝึกตนระดับปฐพีขั้นต่ำ?”
จักรพรรดิโบราณถามอย่างกะทันหัน
“พรสวรรค์สายเลือดของข้าน้อยต่ำเกินไป วิชาฝึกตนทั้งสิบเล่มนี้ล้วนไม่สามารถฝึกได้ การเลือกวิชากระทิงคลั่งนั้น อาจยังพอมีความเป็นไปได้ที่จะฝึกสำเร็จ!”
ลู่เหรินยิ้มแห้ง ๆ แล้วกล่าว
“ต่ำเกินไป? เจ้าจะต่ำกว่าข้าได้อย่างไร? ในตอนนั้นข้ามีสายเลือดระดับสอง ฝึกฝนอย่างยากลำบากเป็นสิบกว่าปีจึงสามารถฝึกวิชาฝึกตนระดับปฐพีขั้นล่างได้สำเร็จ...”
อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิโบราณยังพูดไม่ทันจบก็เผยสีหน้าตกตะลึง
“เจ้า...”
จักรพรรดิโบราณตกใจจนพูดไม่ออกเป็นเวลานานจึงพูดว่า “เจ้า... แย่ยิ่งกว่าข้าอีกหรือ?”
เดิมทีเขาคิดว่าลู่เหริน แม้จะไม่ดีก็ควรจะมีสายเลือดระดับสี่ แต่เขากลับรู้สึกว่าพรสวรรค์สายเลือดของลู่เหรินด้อยกว่าเขา
“ผู้อาวุโส พูดตามตรง ข้าน้อยมีสายเลือดไร้ค่า!”
ลู่เหรินกล่าวอย่างช้า ๆ
“เจ้ามีสายเลือดไร้ค่า?”
จักรพรรดิโบราณตกใจ ใบหน้าแสดงความตื่นตระหนกและพูดว่า “สายเลือดไร้ค่า แผ่นดินกำเนิดนี้มีสายเลือดไร้ค่าจริง ๆ หรือ... หรือว่าตำนานเมื่อแสนปีก่อนเป็นเรื่องจริง?”
“ผู้อาวุโส ตำนานเมื่อแสนปีก่อนคืออะไร?”
ลู่เหรินถามด้วยความสงสัย
จักรพรรดิโบราณไอสองสามครั้ง เขาตั้งสติแล้วพูดว่า “สายเลือดไร้ค่า ดีมาก ดีจริง ๆ!”
“ผู้อาวุโส ข้ามีสายเลือดไร้ค่ายังดีอีกหรือ? ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าต้องทุ่มเทมากแค่ไหนกว่าจะฝึกฝนมาถึงระดับนี้ได้?”
ลู่เหรินส่ายหัวช้า ๆ ถ้าไม่มีหอคอยศักดิ์สิทธิ์ เขาคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะเป็นนักสู้
แน่นอนว่าหอคอยศักดิ์สิทธิ์นี้คือไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เขาไม่อาจเปิดเผยมันออกไปได้
“สายเลือด… แท้จริงแล้วคือพลังพิเศษที่ซ่อนอยู่ในร่างกายมนุษย์ ผู้ที่มีพรสวรรค์สายเลือดสูง พลังพิเศษนี้ก็จะยิ่งแข็งแกร่ง นักสู้สามารถใช้พลังพิเศษนี้ในการฝึกฝนวิชาบู๊และเคล็ดวิชาได้เร็วขึ้น และสามารถทะลวงผ่านไปสู่ขอบเขตที่สูงขึ้นได้!”
“แต่เมื่อแสนปีก่อน นักสู้ในยุคนั้นไม่มีพลังพิเศษนี้ พวกเขาถูกเรียกว่านักสู้โบราณ ไม่ถูกจำกัดด้วยสายเลือด ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ พวกเขาสามารถกลายเป็นจอมยุทธ์ระดับจักรพรรดิ และยังสามารถทะลวงผ่านขีดจำกัดของจักรพรรดิ ขึ้นไปยังโลกเบื้องบนได้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไม?”
จักรพรรดิโบราณกล่าว
ลู่เหรินส่ายหัวว่าไม่เข้าใจ
“สายเลือดสำหรับนักสู้ เป็นทั้งตัวช่วยและข้อจำกัด แต่เจ้าไม่มีข้อจำกัดนี้ ตอนนี้เจ้ามีสองทางเลือก ทางแรกคือเดินตามเส้นทางเดิมของข้า ใช้เคล็ดวิชาลับเพื่อยกระดับสายเลือดของเจ้า!”
“แน่นอนว่าถ้าเจ้าประสบความสำเร็จในการยกระดับ เจ้าจะไม่เป็นนักสู้โบราณอีกต่อไป เจ้าจะสูญเสียคุณสมบัติในการทะลวงผ่านขีดจำกัดของจักรพรรดิโดยสิ้นเชิง!”
จักรพรรดิโบราณกล่าวอย่างช้า ๆ
“แล้วทางที่สองล่ะขอรับ?”
ลู่เหรินถาม
“ทางที่สองคือการเดินบนเส้นทางการฝึกฝนของนักสู้โบราณ เส้นทางนี้จะยากลำบากอย่างมาก แม้แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าจะสามารถเดินต่อไปบนเส้นทางนี้ได้หรือไม่ เพราะในแผ่นดินกำเนิดเมื่อแสนปีก่อน นักสู้โบราณแทบจะไม่มีอยู่แล้ว ถ้าประสบความสำเร็จ ก็จะสามารถอยู่เหนือจอมยุทธ์ระดับจักรพรรดิได้แน่นอน!”
หลังจากที่จักรพรรดิโบราณพูดจบ เขาก็มองลู่เหรินรอคอยการตัดสินใจของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น…