ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 30 วังสวรรค์กับยมโลก
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 30 วังสวรรค์กับยมโลก
ฉึก ฉึก ฉึก—!!
ทันใดนั้น เมื่อจี๋อวิ๋นคิด ภายในโถงใหญ่ก็มีแสงสลัววาบขึ้น
ทหารหยินสามพันนาย ปรากฏตัวในพริบตา
ปราณปีศาจแผ่ซ่าน ปราณลมเย็นยะเยียบพัดผ่าน
ทำให้ผู้คนรู้สึกราวกับมาถึงยมโลก หนาวเหน็บไปทั่วร่าง
ทหารหยินสามพันนาย เช่นเดียวกับทหารสวรรค์สามพันนาย ล้วนเทียบเท่าระดับปราชญ์
อืม?
แต่ในไม่ช้า จี๋อวิ๋นก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เบื้องหน้าทหารหยินสามพันนาย ปรากฏร่างเงาสิบกว่าร่างที่ดูไม่ธรรมดา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งร่างเงาสิบร่างที่ยืนอยู่แถวหน้าสุด ล้วนสวมชุดดำ ปราณราวกับสายน้ำเชี่ยวกราก แทบจะทะลวงผ่านเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน
รัศมีกดดันอันยิ่งใหญ่แผ่ซ่าน ปรากฏร่างเงาที่เทียบเท่าระดับมหาปราชญ์!
ส่วนร่างเงาแปดร่างที่ยืนอยู่ด้านหลัง ปราณอ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่ก็เทียบเท่าระดับราชันปราชญ์!
มหาปราชญ์สิบคน และราชันปราชญ์แปดคน!
ช่างเป็นกองกำลังที่หรูหราเสียจริง!
“ตัวตนของหุ่นเชิดเหล่านี้………”
จี๋อวิ๋นคาดเดาในใจ จึงตรวจสอบดูทันที
[หุ่นเชิด: ยมราชแห่งสิบขุมนรก ราชันฉู่เจียง]
[หุ่นเชิด: ยมราชแห่งสิบขุมนรก ราชันฉินกวง]
……
……
[หุ่นเชิด: สี่ยอดผู้พิพากษา จงขุย]
[หุ่นเชิด: สี่ยอดผู้พิพากษา เว่ยเจิ้ง]
[หุ่นเชิด: สี่ยอดผู้พิพากษา ลู่จื่อเต้า]
[หุ่นเชิด: สี่ยอดผู้พิพากษา ชุยเจวี๋ย]
……
[หุ่นเชิด: ยูมทูตหัววัวหัวม้า]
[หุ่นเชิด: ยมทูตขาวดำ]
……
“เป็นพวกเขาจริง ๆ ด้วย ยมราชแห่งสิบขุมนรก สี่ยอดผู้พิพากษา ยูมทูตหัววัวหัวม้า ยมทูตขาวดำ………”
จี๋อวิ๋นรู้สึกตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าทหารหยินสามพันนายนี้ จะมีบุคคลสำคัญเหล่านี้ซ่อนอยู่
ยิ่งใหญ่กว่าหุ่นเชิดทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนายเสียอีก
“เวรเอ๊ย! รอบนี้รุ่งแน่!”
แม้ว่าจี๋อวิ๋นจะมีทหารสวรรค์และแม่ทัพสวรรค์สามพันนาย ดูเหมือนแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับขุมอำนาจที่แข็งแกร่งจริง ๆ แล้วยังคงห่างไกล
ตอนนี้เขามีทหารหยินสามพันนาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ่นเชิดยมราชแห่งสิบขุมนรก พลังเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของเขาย่อมเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว!
“มหาปราชญ์สิบสองคน ราชันปราชญ์แปดคน ปราชญ์หกพันคน…………”
ดวงตาของจี๋อวิ๋นเป็นประกาย พลังเช่นนี้ หากเปิดเผยออกไป คงทำให้ห้ามหามณฑลเทพต้องสั่นสะเทือน
“แต่ยังไม่พอ ยังห่างไกลจากคำว่าไร้เทียมทาน……”
จี๋อวิ๋นพึมพำกับตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ได้คิดจะรวมทหารหยินสามพันนายนี้เข้ากับทหารสวรรค์สามพันนาย
เพราะหากวังสวรรค์ปรากฏตัวเปิดเผยพลังทั้งหมดออกมา อาจถูกเพ่งเล็งร่วมมือกันกำจัดได้ นั่นคงเป็นหายนะ
แม้ว่าสถานการณ์เช่นนั้นอาจไม่เกิดขึ้น แต่จี๋อวิ๋นเป็นคนรอบคอบ แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียงหนึ่งในหมื่น เขาก็จะไม่ทำ
หากเขาต้องการทำสิ่งใด ย่อมต้องเตรียมการอย่างรอบคอบ
เช่นเดียวกับการลงมือกับเผ่ามังกรเจียว จี๋อวิ๋นคำนวณแล้วว่าพลังของเขาในตอนนี้เพียงพอที่จะทำลายเผ่ามังกรเจียว จึงตัดสินใจลงมือ
หากลงมือแล้ว ก็ต้องทำให้ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น!
ดังนั้น จี๋อวิ๋นไม่ได้คิดจะสร้างขุมอำนาจเพียงแห่งเดียว
นอกจากการสร้างขุมอำนาจต่าง ๆ ในโลกเทพนิยายขึ้นมาใหม่แล้ว การป้องกันการถูกรุมทำร้ายก็เป็นปัจจัยสำคัญ
การสร้างขุมอำนาจหลายแห่งย่อมสามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลต่อการก่อเรื่องวุ่นวาย ยังสามารถพัฒนาพลังในที่ลับได้ นับว่าดีเลิศยิ่งนัก
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยคุยโม้กับกู้ชิงเฟิงเกี่ยวกับยมโลก ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ให้ยมโลกปรากฏตัวออกมาเถิด………”
จี๋อวิ๋นพึมพำกับตัวเอง
ส่วนเรื่องการให้ยมโลกปรากฏตัวอย่างไรนั้น ต้องออกแบบอย่างรอบคอบ
อืม?
ในเวลานั้น จี๋อวิ๋นก็รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว จึงควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงเดินทางไปยังลานกว้าง
เห็นเพียงระลอกคลื่นปรากฏขึ้น กู้ชิงเฟิงเดินออกมาจากนั้น
แต่ปราณของเขาดูวุ่นวาย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งผ่านการต่อสู้มา
“เกิดอะไรขึ้น รีบร้อนมาหาข้าเช่นนี้ มีเรื่องอันใดหรือ?”
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงเอ่ยถาม
“ผู้อาวุโสเฟยเผิง เครือข่ายลับมาหาข้า พวกเขาต้องการรู้ที่ตั้งของวังสวรรค์ คงจะคิดลงมือกับวังสวรรค์”
กู้ชิงเฟิงกล่าวอย่างเหนื่อยหอบ
เครือข่ายลับหรือ?
จี๋อวิ๋นรู้สึกสนใจ
เขามาถึงโลกเบื้องล่างนี้ได้สักพักแล้ว แม้ว่าเขาจะแทบไม่ได้ออกไปไหน แต่เขาก็เคยส่งหุ่นเชิดทหารสวรรค์ไปรวบรวมข้อมูล
เครือข่ายลับ เขาย่อมรู้จัก
องค์กรมือสังหารโบราณที่สืบทอดมาจากยุคโบราณ เคยรุ่งเรืองอย่างมาก
ในเวลานั้น ขุมอำนาจหลายแห่งต่างก็หวาดกลัวเครือข่ายลับ ไม่กล้าทำอะไร พวกเขากลัวว่าตนเองจะถูกลอบสังหาร
ต่อมา เครือข่ายลับทำตัวโหดเหี้ยมเกินไป ทำให้ผู้คนโกรธแค้น จึงถูกรุมทำร้าย
ครั้งนั้นทำให้เครือข่ายลับบาดเจ็บสาหัส แม้ว่าจะไม่ถูกทำลาย แต่ก็มิอาจรุ่งเรืองเช่นเดิม
“องค์กรมือสังหารอันดับหนึ่งเชียวหรือ ในเมื่อกล้ามาหาเรื่องข้า เช่นนั้นก็จะทำลายล้างให้สิ้นซาก!”
จี๋อวิ๋นกล่าวในใจ
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อครู่นี้ เขาคิดวิธีที่ทำให้ยมโลกปรากฏตัวอย่างสมเหตุสมผลได้แล้ว
นั่นก็คือเข้าแทนที่เครือข่ายลับ!
กลายเป็นองค์กรมือสังหารแห่งใหม่!
ทหารหยินแห่งยมโลกล้วนบำเพ็ญจากวิญญาณ มีรูปร่างเลือนราง นอกจากการโจมตีดวงวิญญาณแล้ว พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตีทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีรูปร่าง ไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น เหมาะที่จะเป็นมือสังหารยิ่งนัก!
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่กลายเป็นองค์กรมือสังหารแล้ว พวกเขาสามารถรับงานได้
เช่นนี้ พวกเขาก็จะรู้ที่ตั้งของบุคคลระดับปราชญ์ขึ้นไป และสามารถรับแต้มการบำเพ็ญได้!
ทั้งสามารถทำให้ชื่อเสียงของยมโลกโด่งดัง และได้รับแต้มการบำเพ็ญ นับว่าดีเลิศยิ่งนัก!
ดังนั้นจี๋อวิ๋นจะรับเฉพาะภารกิจที่เป้าหมายเป็นระดับปราชญ์ขึ้นไปเท่านั้น
ต่ำกว่านี้ไม่รับ
ท้ายที่สุดแล้ว เขาไม่ได้ต้องการเป็นองค์กรมือสังหารจริง ๆ
หลังจากคิดอย่างรวดเร็ว จี๋อวิ๋นก็ควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิงกล่าวว่า
“เรื่องนี้ข้ารู้แล้ว วางใจเถิด เครือข่ายลับคงอยู่ได้อีกไม่นาน”
“เพราะมีขุมอำนาจโบราณที่เทียบเท่าวังสวรรค์ของพวกเรากำลังเพ่งเล็งพวกเขาอยู่”
สิ้นคำพูด กู้ชิงเฟิงและชายชราไป๋อวี่ก็สั่นสะท้าน
เพียงประโยคสั้น ๆ สองประโยค กลับเปิดเผยข้อมูลมากมาย
แต่จี๋อวิ๋นไม่ได้พูดอะไรต่อ กู้ชิงเฟิงและไป๋อวี่ก็ไม่กล้าถาม จึงต้องเก็บความสงสัยไว้ในใจ
แน่นอนว่าพวกเขาสามารถยืนยันได้ว่า ขุมอำนาจโบราณที่ผู้อาวุโสเฟยเผิงเคยกล่าวถึงกำลังจะปรากฏตัว
ตอนนี้เริ่มปรากฏตัวออกมาแล้ว!
“ไม่รู้ว่าขุมอำนาจโบราณที่กำลังจะปรากฏตัวคือขุมอำนาจใด ยมโลก วังอสูร หรือเผ่าจอมเวท………”
กู้ชิงเฟิงคิดในใจ
ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฟยเผิงก็ดังขึ้นข้างหู
“รางวัลที่ข้าร้องขอจากเบื้องบนมาให้เจ้ามาถึงแล้ว ตั้งใจฟัง ข้าจะถ่ายทอดให้เจ้า”
มาแล้ว!
เมื่อกู้ชิงเฟิงได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกตื่นเต้นทันที ลืมเรื่องขุมอำนาจโบราณไปโดยสิ้นเชิง
ผลประโยชน์ที่แท้จริงต่างหากสำคัญที่สุด!
อืม!
ในชั่วขณะถัดมา จี๋อวิ๋นก็ควบคุมหุ่นเชิดเฟยเผิง ชี้นิ้วไปยังหว่างคิ้วของกู้ชิงเฟิง แสงสว่างส่องประกาย
ตู้ม!
ทันใดนั้น กู้ชิงเฟิงก็รู้สึกราวกับว่าสมองของเขาระเบิดออก
อักขระโบราณมากมายไหลทะลักเข้ามา อักขระโบราณแต่ละตัวดุจดวงดาว ส่องประกายเจิดจรัส ศักดิ์สิทธิ์ไร้ขอบเขต ฝังลึกเข้าไปในห้วงสมุทรแห่งปัญญาของเขา
“วิชาลับนวโคจรนิลกาฬ อมตะนิรันดร์ กายเนื้อเป็นเซียน ไร้เทียมทานตลอดกาล!”
เพียงอักขระสิบหกคำ กลับทำให้กู้ชิงเฟิงตกตะลึงอย่างยิ่ง
