บทที่ 5 วิชายุทธ์จะหอมเท่าสาวสวยได้ไหม?
"เว้นแต่ว่าการเพิ่มค่าคุณสมบัติจะมีผลฟื้นฟูความเหนื่อยล้าด้วย!"
จนถึงตอนนี้ก็มีความเป็นไปได้แค่นี้เท่านั้น
ไม่อย่างนั้นก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมค่าร่างกายเพิ่มขึ้นแค่ 0.4 แต่กลับทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราวกับเพิ่มขึ้น 4 คะแนนเต็มๆ
"เซ็งจริงๆ กับระบบอย่างนี้ อะไรๆ ก็ต้องให้ฉันค้นหาเองทั้งนั้น!"
จางเป่ยซิงถอนหายใจ รู้สึกหงุดหงิดในใจ
ไร้สติปัญญา ไร้คำอธิบาย ไร้การแนะนำ
ใครบ้างจะมีระบบคนดีแบบนี้?
ก็เพราะว่าผลลัพธ์ของมันยังพอใช้ได้ ไม่งั้นตอนนี้จางเป่ยซิงคงไม่ใช่แค่ถอนหายใจ แต่คงด่าแล้ว
เดินมาถึงลานกีฬา
แม้ว่าตอนนี้จะเพิ่งตีหกเท่านั้น แต่ก็มีคนมาวิ่งที่นี่แล้ว
จางเป่ยซิงใช้โทรศัพท์ศึกษาวิธีหายใจแบบสี่จังหวะและวิธีหายใจแบบท้องอย่างละเอียด
เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดปัญหาเหมือนเมื่อวาน
จากนั้นจึงอบอุ่นร่างกายและเริ่มการออกกำลังกายประจำวันของเขา
ในพริบตา ช่วงเช้าก็ผ่านไป
ยกเว้นช่วงเจ็ดโมงเช้าที่ซื้อข้าว 4 กล่องกลับไปกินที่หอและพักสักครู่
เวลาที่เหลือจางเป่ยซิงก็วิ่งอยู่ที่ลานกีฬา
เขาไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งไปกี่รอบแล้ว
รู้แต่ว่าแต้มความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้เกินสองแต้มแล้ว
ในขณะเดียวกัน เขาก็แน่ใจแล้วว่าการใช้แต้มความสามารถแลกคุณสมบัติ จะช่วยฟื้นฟูพลังกายได้บ้าง บรรเทาความเหนื่อยล้าได้
แต่ไม่ได้มากนัก
การคิดจะใช้คุณสมบัติพิเศษนี้เพื่อหาช่องโหว่ ให้มีพลังกายไม่จำกัด วิ่งได้ไม่มีที่สิ้นสุด ชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้
"พี่จาง คุณยังวิ่งอยู่อีกเหรอ? ทั้งเช้าวิ่งไปกี่เมตรแล้ว ไม่รู้สึกเหนื่อยบ้างเหรอ?"
หลินซือฉีที่กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วกลับมาขายของต่อ เห็นจางเป่ยซิงยังวิ่งอยู่ ก็อุทานด้วยความประหลาดใจ
ในฐานะคนที่หากินอยู่แถวลานกีฬา
ตราบใดที่ไม่มีเรียน หลินซือฉีก็จะอยู่ที่ลานกีฬาขายของ
ดังนั้น ตั้งแต่เช้าเธอก็สังเกตเห็นจางเป่ยซิงแล้ว
แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจอะไรมาก คิดว่าจางเป่ยซิงก็เหมือนคนอื่นๆ ที่มาออกกำลังกายตอนเช้า
เธอทักทายเล็กน้อยแล้วก็ไม่ได้สนใจอีก
แต่ไม่คิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป เธอพบว่าจางเป่ยซิงยังคงวิ่งอยู่ตลอด
แม้จะหยุดพักเป็นระยะ วิ่ง 20 กว่านาทีแล้วพัก 10 นาที
แต่การที่สามารถอดทนแบบนี้ได้ทั้งเช้า...
"คุณโดนแย่งร่างหรือเปล่า?"
หลินซือฉีมองจางเป่ยซิงตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วถามขึ้นอย่างกะทันหัน
ไม่แปลกที่เธอจะมีความคิดแปลกๆ แบบนี้ เพราะการเปลี่ยนแปลงของจางเป่ยซิงในช่วงนี้มันมากเกินไป
ในฐานะเด็กติดเกมที่ขลุกอยู่แต่ในหอพักทั้งวัน การที่เขาเริ่มออกกำลังกายกะทันหันก็แปลกแล้ว ที่สำคัญคือความมุ่งมั่นก็มากจนน่าตกใจ
มองยังไงก็เหมือนฉากการเกิดใหม่ของตัวเอกในนิยายออนไลน์
มุมปากของจางเป่ยซิงกระตุก มองหลินซือฉี รู้สึกว่าจินตนาการของเธอช่างกว้างไกลจริงๆ
จากนั้นเขาก็แกล้งทำหน้าจริงจัง: "เธอทายถูกแล้ว ที่จริงฉันไม่ใช่คนโลกนี้ ฉันคือจักรพรรดิแห่งเผ่าลาจากโลกใหญ่ของทีมผลิต ตอนนี้รีบโอนเงินให้ฉัน 200 หยวน พอฉันฟื้นฟูพลังทั้งหมดแล้ว จะตอบแทนเป็นร้อยเท่าแน่นอน!"
"ไปไป ไอ้หนุ่มบ้า พูดจาเหลวไหลอะไรของนาย ถ้านายบอกว่าเป็นจักรพรรดิฉินสื่อหวง ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่นายเป็นแค่ลาจากทีมผลิต ยังจะมาหลอกเงินฉันอีก ช่างเป็นปีศาจร้ายจริงๆ!"
พอได้ยินเรื่องเงิน หลินซือฉีก็รีบปกป้องโทรศัพท์ของตัวเองทันที พูดด้วยสีหน้าตื่นตระหนกปนรังเกียจ ดูน่ารักมาก
เห็นเธอเป็นแบบนั้น จางเป่ยซิงก็หัวเราะ ไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ
เขาเพียงแค่นั่งลงบนอัฒจันทร์ คุยเรื่อยเปื่อยกับหลินซือฉี สุดท้ายก็ถูกหลินซือฉีแนะนำอย่างหนักหน่วงให้ซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่สองขวด แล้วก็กลับหอพักไปพัก
จางเป่ยซิงก็ไม่ใช่มนุษย์เหล็ก
ที่สามารถวิ่งได้ทั้งเช้าก็เพราะอาศัยคุณสมบัติพิเศษที่การเพิ่มคุณสมบัติจะช่วยฟื้นฟูพลังกายและบรรเทาความเหนื่อยล้าได้บ้าง จึงอดทนมาได้
ตอนนี้แต้มความสามารถใช้หมดแล้ว เพิ่มคุณสมบัติไม่ได้ อยากจะได้อีกก็ต้องวิ่งอีกอย่างน้อยสามกิโลเมตร
จางเป่ยซิงไม่คิดว่าด้วยสภาพ 'เหนื่อยล้าอย่างหนัก' ของตัวเอง จะสามารถอดทนต่อไปได้
วันต่อมา จางเป่ยซิงก็ยังคงเป็นแบบเดิม
ตอนเช้าวิ่งทั้งเช้า ตอนบ่ายก็นอนพักบนเตียง
เหนื่อยก็เหนื่อยหน่อย แต่ผลลัพธ์ก็คุ้มค่ามาก
หลังจากเพิ่มคุณสมบัติสองวัน ค่าร่างกายของเขาเพิ่มจาก 61.1 เดิม เป็น 65.3 แล้ว
แม้ว่ายังคงวนเวียนอยู่แถวๆ เกณฑ์ผ่าน
แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ก็ดีขึ้นมากแล้ว
"วันละ 2.2 แต้มความสามารถ หนึ่งสัปดาห์ก็ 15.4 แต้ม"
"พยายามเข้า ต้องพยายามให้ค่าร่างกายถึง 80 ในสุดสัปดาห์หน้าให้ได้ แบบนั้นฉันก็จะหลุดพ้นจากสภาวะสุขภาพต่ำกว่าเกณฑ์แล้ว!"
คิดในใจแบบนั้น จางเป่ยซิงก็รู้สึกมีกำลังใจเต็มเปี่ยม
เขาต้องแข็งแกร่งขึ้น
ต้องมีสุขภาพดี! ต้องมีซิกแพ็ค
ต้อง...
"โอ้โฮ เอวบิดดีจัง บิดเก่งมาก ฉิ้บ!"
"ช่างเป็นไก่ย่างชั้นเยี่ยมจริงๆ! อินเทอร์เน็ตช่างน่าตื่นเต้นเหลือเกิน!"
"พี่จาง บัญชี Douyin ของคุณนี่ใช้ได้เลยนะ เปิดดูนิดเดียวก็เจอสาวสวยคุณภาพสูง งี้นะ ผมยอมเสียเปรียบ ซื้อ 500 หยวนเลยดีไหม?"
ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมห้องทั้งสามคนโวยวายอยู่ข้างหลัง แถมยังมีคนอยากซื้อบัญชีของเขา
จางเป่ยซิงไม่ต้องคิดเลย ตอบทันที: "ไม่ขาย ไม่ว่าราคาเท่าไหร่ก็ไม่ขาย!"
ล้อเล่นหรือไง บัญชีนี้เขาสร้างมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ใช้ความพยายามมากมายกว่าจะปรับข้อมูลให้ตรงกับรสนิยมของตัวเอง นี่มันผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาเชียวนะ! จะมาตีราคาเป็นเงินได้ยังไง?
จางเป่ยซิงแค่นเสียงเย้ยหยัน แล้วก็เลื่อนดูวิดีโอต่อไป
ส่วนคนอื่นอีกสามคนก็ดูไปได้สักพัก ต่างบอกว่าทนไม่ไหวแล้ว วิ่งไปเล่นเกมเพื่อสงบสติอารมณ์
เห็นพวกเขาเป็นแบบนั้น จางเป่ยซิงก็ปีนขึ้นเตียง นอนดูโทรศัพท์ต่อ
ขณะที่กำลังดูอย่างเพลิดเพลิน
จู่ๆ ก็มีวิดีโอเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ปรากฏขึ้นมา
"???"
การเปลี่ยนแปลงของเนื้อหาทำให้จางเป่ยซิงงงไปชั่วขณะ เขามองโทรศัพท์อย่างงุนงง! เขาแน่ใจว่าได้ปรับข้อมูลให้ตรงกับรสนิยมแล้ว ทำไมถึง...
เหลือบมองสถิติ
ยอดไลค์ 1 ล้านกว่า, คอมเมนต์ 1 หมื่นกว่า, แชร์ 2 แสนกว่า
เป็นวิดีโอยอดนิยมที่ทางการผลักดัน
งั้นก็ไม่เป็นไร!
จางเป่ยซิงแค่นเสียง ยกนิ้วขึ้นเตรียมจะเลื่อนผ่าน
แต่ในตอนนั้นเอง
"ฟู้ ฟู้——"
เสียงฟาดอากาศดังมาจากโทรศัพท์ ทำให้จางเป่ยซิงชะงักมือ
เขาวางนิ้วลง จ้องมองไปที่หน้าจอ
พบว่าในวิดีโอ ชายวัยกลางคนสวมเสื้อขาวคนหนึ่ง กำลังเหยียดแขนออก สะบัดไปมาไม่หยุด
ถ้าดูแค่ท่าทางก็ดูเหมือนกำลังแสดงละครเก่า ให้ความรู้สึกฟุ่มเฟือยไร้พลัง
แต่ทุกๆ หมัดที่เขาออก กลับมีเสียงฟาดอากาศดังตามมา
ทำให้คนเข้าใจว่า นี่ไม่ใช่ลีลาเปล่า แต่เป็นวิชายุทธ์ของจริง!
"หมัดพิฆาต?"
อ่านคำบรรยายใต้วิดีโอ จางเป่ยซิงพึมพำ
ชื่อนี้เขาไม่ได้รู้สึกแปลกหู
ก่อนหน้านี้ตอนดู "ยิปมัน" ใน Bilibili เขามักจะเห็นคอมเมนต์พวก 'แปดขั้นสุดยอดบวกหมัดพิฆาต แม้แต่เทวดาก็กลัว' อยู่บ่อยๆ
ดังนั้นเขาจึงคิดมาตลอดว่าหมัดพิฆาตกับหมัดแปดขั้นสุดยอดคงคล้ายๆ กัน เป็นหมัดที่รุนแรง เน้นความเร็ว แรง และแม่นยำ
แต่ไม่คิดว่าเวลาชกจริงๆ จะดูเหมือนกำลังเต้นรำขนาดนี้?
ดูไปครึ่งทาง เขาก็เปิดส่วนคอมเมนต์
เห็นแต่คอมเมนต์ประเภท 'เก่งจริงๆ' 'วิชายุทธ์ชั้นยอด' 'ขอชื่นชมศิลปะการต่อสู้ของชาติ'
จางเป่ยซิงคิดสักครู่ แล้วก็คอมเมนต์ไปว่า:
[ผมยอมรับว่าหมัดพิฆาตของท่านแข็งแกร่งมาก แต่ถ้า สมมติว่าถ้านะ ผมออกกำลังกายสองปีครึ่ง สร้างกล้ามเนื้อเต็มตัว ใส่กางเกงมีสายเอี๊ยม ผมไม่รู้จริงๆ ว่าท่านจะรับมือยังไง!]
นี่เป็นรูปแบบคอมเมนต์ที่จะเริ่มเป็นที่นิยมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เน้นความไร้เดียงสา หยิ่งผยอง และมั่นใจในตัวเองอย่างดื้อรั้น
โพสต์คอมเมนต์นี้เสร็จ จางเป่ยซิงก็รีบเลื่อนนิ้วขึ้น
กลับไปดูสาวสวยต่อ
ส่วนศิลปะการต่อสู้น่ะเหรอ?
ขอโทษที ถึงแม้จะดูสวยงาม ดุดัน แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าไม่หอมเท่าสาวสวย!
จางเป่ยซิงดูสาวสวยไปเรื่อยๆ จนถึงเที่ยงคืน นึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้มีเรียนแปดโมงเช้า จึงปิดโทรศัพท์ เสียบชาร์จ
คลุมผ้าห่ม หลับตา
ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทรา
(จบบทที่ 5)
