บทที่ 22 ใจที่หวั่นไหว 

ริมฝั่งแม่น้ำหวงผู่ ตลอดแนวไว่ทาน

ถังหยวนและเวินมู่เสวี่ยเดินเล่นท่ามกลางฝูงชน มองไปยังตึกสูงเสียดฟ้า เช่น อาคารศูนย์กลางจงไห่ ตึกการเงินโลกจงไห่ และหอไข่มุกตะวันออก ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางเมฆ ความรู้สึกถึงความเล็กน้อยของตนเองก็พลันเกิดขึ้นมาในใจ

“รุ่นพี่ คุณตั้งใจจะทำอะไรหลังจากเรียนจบ?”

หลังจากที่ทั้งสองเดินเล่นมาเกือบครึ่งชั่วโมง ขณะนี้พวกเขาพิงอยู่ที่ราวกั้น เวินมู่เสวี่ยมองถังหยวนและถามขึ้น

“ทำอะไร?”

“ผมไม่เคยคิดถึงคำถามนี้”

ถังหยวนส่ายหัวเบาๆ เขามองไปยังทิวทัศน์ยามค่ำคืนเบื้องหน้า สายตาที่มองนั้นดูจะลึกซึ้ง “ถ้าจะต้องบอกเป้าหมายสักอย่าง ก็เพียงเพื่อเพลิดเพลินกับชีวิต โลกนี้กว้างใหญ่ไพศาลขนาดนี้ หากไม่ชื่นชมสักหน่อย ก็คงจะถือว่าเสียชาติเกิดเปล่าๆ”

“แต่ผู้คนมักพูดกันว่า ผู้ชายต้องมีธุรกิจของตัวเองถึงจะได้ศักดิ์ศรีในสังคมนี้ใช่ไหม?” เวินมู่เสวี่ยถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ

“คนเราอยู่ไปทำไมต้องให้คนอื่นมากำหนด?”

“คุณอยากเป็นคนแบบไหน ใช้ชีวิตแบบไหน มีแต่คุณเท่านั้นที่ตัดสินใจได้ บางคนชอบกินอาหารอย่างรวดเร็ว บางคนชอบเคี้ยวช้าๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะตื่นเจ็ดโมงเช้า และไม่ใช่ทุกคนที่จะกินข้าวแค่หนึ่งชามต่อมื้อ”

“ชีวิตมีความเป็นไปได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ใช่ทุกทางเลือกที่จะต้องถูกต้องเสมอไป ตราบใดที่คุณชอบและไม่เสียใจ คุณก็สามารถละทิ้งสายตาของสังคม และเลือกทางที่คุณชอบได้อย่างเต็มที่”

“อะไรคือความแท้จริงของการมีน้ำใจ?”

“นั่นคือการยอมให้คนอื่นเป็นตัวของตัวเอง และยอมให้ตัวเองเป็นตัวเองเช่นกัน”

ถังหยวนหันไปมองเวินมู่เสวี่ย ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังและบริสุทธิ์

ชาตินี้ไม่เรียนรู้อะไรเลยจะเป็นยังไง?

ชาตินี้ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยจะเป็นยังไง?

บางทีหลายคนไม่มีทางเลือก ต้องมุ่งหน้าไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง แต่สำหรับถังหยวนที่มีระบบนักสะสมผู้ยิ่งใหญ่ ชีวิตนี้เขาถูกกำหนดให้มีเงินที่ใช้ไม่หมด แล้วทำไมเขาจะต้องอยู่ภายใต้พันธนาการในสายตาของคนอื่นด้วย

เมื่อรู้สึกมีความสุข เขาก็ใช้ชีวิตคนเดียวตามอารมณ์

เมื่อไปถึงที่สุดของแม่น้ำ ก็หยุดดูเมฆที่ลอยขึ้น

ใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่ละเมิดกฎ นี่คือชีวิตที่ถังหยวนต้องการ

เผชิญกับสายตาที่บริสุทธิ์และจริงใจของถังหยวน เวินมู่เสวี่ยอ้าปากแต่ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเธอพบว่าระดับความคิดของเธอไม่เทียบเท่ากับฝ่ายตรงข้ามเลย

ถ้าหากเมื่อสองชั่วโมงก่อน เวินมู่เสวี่ยเพียงแค่ถูกดึงดูดด้วยความมั่งคั่งของถังหยวน ตอนนี้กลับมีจุดหนึ่งที่ดึงดูดเธออย่างลึกซึ้ง นั่นคือความลึกซึ้งในความคิดของถังหยวน

ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกถึงความคิดของคนรวยในร้านอาหาร หรือการแสดงออกถึงความมีน้ำใจและการใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขในตอนนี้ ต่างก็เปิดโลกทัศน์ของเวินมู่เสวี่ยอย่างมาก ทำให้เธอชื่นชมจากใจจริง

“แล้วคุณล่ะ?”

“หลังจากเรียนจบ คุณตั้งใจจะทำอะไร?”

ถังหยวนเห็นว่าเวินมู่เสวี่ยกำลังเหม่อเล็กน้อย จึงถามขึ้น

“ฉันอยากอยู่ที่จงไห่ ส่วนเรื่องอื่น ฉันยังไม่ได้คิด”

เวินมู่เสวี่ยตอบกลับด้วยความสับสนเล็กน้อย ส่ายหัวเบาๆ

“คุณยังมีเวลาอีกสองปี คุณสามารถค่อยๆ คิดได้ ลองคิดดูว่าตัวเองรักอะไรจริงๆ? ลองคิดดูว่าตัวเองต้องการอะไรจริงๆ?”

“เมื่อคุณเข้าใจหัวใจตัวเองอย่างชัดเจน คุณจะสามารถเลือกทางที่ถูกต้องที่สุดได้”

วันนี้ถังหยวนใช้ชีวิตอย่างสบายใจ เป็นความสบายใจที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อพันธนาการถูกปลดปล่อย จิตใจและร่างกายก็เป็นอิสระอย่างเต็มที่ ดังนั้นในขณะที่เขาอารมณ์ดี เขาจึงไม่ลังเลที่จะให้คำแนะนำเวินมู่เสวี่ยสองสามคำ

โดยไม่รู้ตัว หัวข้อที่ทั้งคู่พูดคุยกันเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ในหัวข้อนี้ ถังหยวนอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง ขณะที่เวินมู่เสวี่ยที่มีประสบการณ์ชีวิตน้อยกว่าอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า ทำให้ถังหยวนสามารถถ่ายทอดสาระสำคัญของเขาให้เธอได้อย่างเต็มที่

หลังจากที่ทั้งสองพิงราวกั้นคุยกันอยู่สักพัก ก็เริ่มเดินกลับ

เมื่อทั้งคู่กลับมาที่ลานจอดรถของร้าน THE NEST อีกครั้ง เวลาก็ใกล้เที่ยงคืนแล้ว

อากาศเริ่มเย็นลงในยามค่ำคืน ถังหยวนจึงปิดหลังคาเปิดของ Ferrari LaFerrari Aperta และทั้งคู่ก็นั่งลงในรถพร้อมเปิดเครื่องทำความร้อน

“มันดึกแล้ว จะให้ฉันหาที่พักแถวนี้ดีไหม?”

ในห้องโดยสารเล็กๆ ถังหยวนมองนาฬิกา แล้วถามด้วยท่าทางธรรมชาติ

“รุ่นพี่ เพื่อนร่วมห้องของฉันยังไม่ได้นอนเพราะรอเปิดประตูให้ฉันกลับ ถ้าฉันทิ้งเธอแล้วไม่กลับไป เธอคงจะโกรธและเลิกคบกับฉันแน่ๆ” เวินมู่เสวี่ยมองถังหยวนด้วยสายตาที่สวยหวาน หลังจากพูดจบเธอก็กัดริมฝีปากเล็กน้อย “รุ่นพี่ คุณ...คุณคงไม่โกรธฉันใช่ไหม?”

“จะโกรธได้ยังไง”

“ฉันเพียงกลัวหอพักปิด เลยพูดแบบนั้น”

ถังหยวนยิ้มเบาๆ ไม่มีท่าทางเปลี่ยนแปลงเลย

ในความเป็นจริง คำตอบของเวินมู่เสวี่ยอยู่ในความคาดหมายของถังหยวนทั้งหมด เขาเพียงตั้งใจถามเช่นนั้น

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการอ่านสัญญาณ ถังหยวนรู้เท่าทันเทคนิคของพวกหญิงชาเขียวเทคนิคหลักๆ คือการใช้ประโยชน์จากความรู้สึกของคนอื่น

หากพิจารณาจากพฤติกรรมของเวินมู่เสวี่ยในช่วงสองวันที่ผ่านมา เธอมักจะแสดงออกในที่สาธารณะว่าเป็นผู้หญิงที่เย็นชาและห่างเหิน แต่เมื่ออยู่กับถังหยวน กลับเหมือนภูเขาน้ำแข็งที่ละลาย เธอจะเปิดเผยรอยยิ้มที่สวยงามเพียงเพื่อถังหยวนคนเดียว และเมื่อได้รู้จักกันมากขึ้น เธอเริ่มเพิ่มการสัมผัสทางกาย เช่น การพิงก่อนทานอาหาร การเช็ดปากหลังอาหาร หรือการจับมือข้ามถนน เป็นต้น

ถ้าเป็นผู้ชายทั่วไปหรือผู้ชายที่ไม่เชี่ยวชาญการอ่านสัญญาณ เมื่อต้องเผชิญกับชุดท่าทางแบบนี้จากเวินมู่เสวี่ย ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะรู้สึกพอใจอย่างมาก และจะเกิดความเข้าใจผิดว่าเวินมู่เสวี่ยมีความรู้สึกดีกับพวกเขาอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ความรู้สึกนี้เกิดขึ้น พวกเขาก็จะตกอยู่ในกับดักของเวินมู่เสวี่ย ในช่วงเวลาต่อมาเธอจะเริ่มแสดงความเย็นชา เพื่อให้ผู้ชายรู้สึกหวั่นไหวและขาดความมั่นใจ

พูดง่ายๆ คือ หลักการหลักของผู้หญิงที่มีเล่ห์เหลี่ยมก็คือ “คุณเข้ามาฉันถอย คุณถอยฉันเข้ามา”

เมื่อเธอรู้สึกว่าคุณเริ่มท้อ เธอก็จะกลับมาเป็นคนอบอุ่นอีกครั้ง ให้คุณรู้สึกมีความหวังอีกครั้ง แต่เมื่อเธอรู้สึกว่าคุณเริ่มกระตือรือร้น เธอก็จะเย็นชาอีกครั้ง ทำให้คุณรู้สึกหวั่นไหว

ในช่วงแรก เธอให้คุณค่าทางอารมณ์แก่คุณ

ในช่วงหลัง คุณให้คุณค่าทางอารมณ์แก่เธอ และคุณค่าทางอารมณ์ที่คุณให้จะสูงกว่าเธอมาก

คุณค่าทางอารมณ์ก็เป็นต้นทุนที่จมลงไปเช่นกัน

เมื่อผู้ชายลงต้นทุนที่จมลงไปมากขึ้น ก็อาจเปลี่ยนจากการจ่ายต้นทุนทางอารมณ์ไปเป็นต้นทุนทางวัตถุ ทำให้จมลงไปลึกขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายติดอยู่ในบ่อน้ำของเธอจนไม่สามารถหลุดออกมาได้

จากประสบการณ์ของถังหยวน เวินมู่เสวี่ยในช่วงสองวันนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนการให้คุณค่าทางอารมณ์กับเขาอยู่ นี่เป็นกระบวนการที่เธอโปรยเหยื่ออย่างต่อเนื่อง หากถังหยวนเดาไม่ผิด ขั้นตอนการโปรยเหยื่อกำลังจะสิ้นสุดลง ขั้นต่อไปเวินมู่เสวี่ยจะเริ่มถอนตัวออกจากชีวิตของถังหยวนอย่างรวดเร็ว ทำให้ถังหยวนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง

หากเธอมีเทคนิคที่สูงกว่านี้ เธออาจจะดึงดูด “ผู้ติดตาม” ของเธอมาเพื่อสร้างความรู้สึกถึงความอันตรายและการแข่งขันให้กับถังหยวน เพราะไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ เมื่อเกิดการแข่งขันในเพศเดียวกัน จะทำให้คนคลั่งไคล้มากขึ้น เพราะการชนะและการรักษาศักดิ์ศรีเป็นสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่สามารถต้านทานได้

เวินมู่เสวี่ยคิดว่าจะสามารถควบคุมถังหยวนได้ แต่ถังหยวนเองก็คิดจะควบคุมเวินมู่เสวี่ยเช่นกัน

เวินมู่เสวี่ยคิดว่าเธออยู่ในระดับที่สูง แต่ในความเป็นจริงถังหยวนมองลงมาจากระดับที่สูงกว่ามานานแล้ว

ใจที่หวั่นไหว?

เทคนิคนี้ ผู้หญิงเล่นได้ ผู้ชายก็เล่นได้เช่นกัน

สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีเทคนิคที่สูงกว่า และใครจะมีความมั่นคงทางอารมณ์มากกว่า

ใครที่หลุดก่อน คนนั้นก็จะตกเป็นเหยื่อของอีกฝ่าย

สำหรับการต่อสู้ที่น่าสนใจเช่นนี้ ถังหยวนชอบเสมอ การปรับแต่งหญิงชาเขียวให้กลายเป็นสิ่งที่อยู่ในรูปแบบของคุณทั้งหมด จะเป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกภูมิใจอย่างมาก

“วู้ว...”

พร้อมกับเสียงคำรามดังขึ้น ถังหยวนขับ Ferrari LaFerrari Aperta มุ่งหน้าสู่มหาลัยด้วยความเร็วสูง

เกมที่เป็นของพวกเขาทั้งสองเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น...