บทที่ 21 มีดบินฝ่ามรสุม

ฟ่านปิงปิงเปลี่ยนมานั่งในตำแหน่งที่สบายขึ้น เธอขี้เกียจที่จะโต้แย้งอะไร จึงพูดด้วยเสียงอ่อนหวานว่า: "คืนนี้ฉันว่างแค่คืนนี้เท่านั้น จากนั้นก็ต้องไปเล่นบทคู่รักกับคนที่นามสกุล 'หลี่' อารมณ์ฉันไม่ดีเลยต้องหาที่ระบาย และคุณก็กำลังจะเข้าร่วมกองถ่าย ยังไม่รู้เลยว่าจะไปถูกใจยัยผู้หญิงคนไหน ถ้าไม่ทำให้คุณหมดแรงได้ยังไงไหว!"

เมื่อพูดถึงคู่แข่งที่มีนามสกุลหลี่ อารมณ์ของเธอก็พลันหดหู่ ทั้งคู่ทำงานในบริษัทเดียวกัน มีระดับชื่อเสียงและความนิยมใกล้เคียงกัน การแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยากรและไม่ต้องเป็นฝ่ายถูกกดดัน จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอต้องเล่นบทคู่รักกับคนรักลับๆ ของอีกฝ่ายหนึ่ง

ตู้เซิง: "..."

ถูกดูถูกขนาดนี้ ใครจะทนไหว! ถ้าเส้นทางประวัติศาสตร์ไม่ผิดไป ฟ่านปิงปิงก็คงจะมีประกายไฟกับพระเอกแน่ๆ ตอนนี้ยังไงเขาก็เป็นพระรองแล้ว ระหว่างนี้จะต้องทนใส่หมวก LV ที่แสนหนักนี้อีกเหรอ? ไม่มีทาง!

ตู้เซิงโกรธมาก ทันใดนั้นเขาใช้ 1000 ค่าความโด่งดังเพื่ออัปเกรดทักษะ "สีสันเสียงดนตรีและม้า" เป็น LV2 ในชั่วพริบตา เทคนิคการสร้างบรรยากาศโรแมนติกที่เคยมีอยู่ ก็กลับมาใช้งานได้อย่างลื่นไหล ในคืนนี้หากเขาไม่สามารถทำให้ยัยผู้หญิงคนนี้ยอมจำนนได้ จะเป็นไปได้อย่างไร

...

ฟ่านปิงปิงหมดแรงทั้งตัว มีเหงื่อชุ่มไปทั้งร่าง พูดอย่างอ่อนแอ: "ฉันเลิกกับหงจินเป่าแล้วนะ และระหว่างนี้ฉันก็ไม่ได้นอกใจคุณ ถือว่าผ่านได้ไหม?"

เสียงของเธอยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์ แต่ก็แฝงไปด้วยความนอบน้อมขึ้นมานิดหน่อย มันน่ากลัวจริงๆ โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายอยู่ในสภาวะบ้าคลั่งที่ไม่สนใจเหตุผล

ตู้เซิงดึงตัวเธอกลับมาในอ้อมแขนของเขา ลูบไล้ไหล่ขาวนวลของเธอและถาม: "ทำไมเลิกกันล่ะ? เกิดอะไรขึ้น?"

ฟ่านปิงปิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบว่า: "หงจินเป่าให้บทนางเอกในเรื่อง * จอมพลน้อยสายลับ กับคนอื่นไปแล้ว คงเป็นเพราะเขาเป็นพวกผู้ชายที่เอาแต่ใจตัวเอง"

เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องข่าวลือก่อนหน้านี้ เพราะมันไม่มีประโยชน์ และหงจินเป่าก็เปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อยๆ แต่กลับต้องการให้เธอซื่อสัตย์ตลอดไป มันไม่ใช่เรื่องขำๆ หรอกเหรอ? เขามองเธอเหมือนเป็นแค่สาวใช้ไปเสียแล้ว แทนที่จะยึดติดกับทรัพยากรเล็กๆ น้อยๆ นั้น จะไม่ดีกว่าหรือถ้าเธอได้อิสรภาพกลับมา

ตู้เซิงไม่ได้แปลกใจ เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า: "หนังห่วยๆ แบบนี้หายไปก็ดีแล้ว จะไปเสียดายอะไร? บางที ต่อไปคุณอาจจะต้องขอบคุณผมด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นคุณจะมีหนังที่ทำให้ชื่อเสียงด่างพร้อยเพิ่มขึ้นอีกเรื่อง"

เขาพูดความจริง หนังเรื่องนี้ห่วยจนถึงที่สุด หงจินเป่าพยายามดันลูกชายขึ้นแท่นพระเอกและโกยเงินในเวลาเดียวกัน แต่ผลลัพธ์คือหนังที่ทั้งไม่เป็นรูปแบบไหนเลย ฟ่านปิงปิงลงทุนลงแรงไปมาก แต่ไม่เพียงไม่ได้รับผลตอบแทน ยังต้องแบกรับข้อครหามากมาย มันเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการพยายามพึ่งพาภูเขาแล้วได้เพียงโลงศพกลับมา

"ยังไม่ได้ถ่ายทำเลย คุณรู้ได้ยังไงว่าจะไม่ดี?"

ฟ่านปิงปิงมองเขาด้วยสายตายั่วยวนแต่ก็แฝงด้วยความสงสัย ในยุคนี้ ทรัพยากรในวงการภาพยนตร์เป็นที่ต้องการมาก การปล่อยโอกาสหลุดมือไปถือว่าน่าเสียดายจริงๆ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเมื่ออยู่กับตู้เซิง เธอค่อยๆ ปลดเปลื้องตัวตนที่เสแสร้งออกไป

ตู้เซิงเห็นการเปลี่ยนแปลงของเธอ แต่ก็ยากจะอธิบายเรื่องในอนาคตได้ เขาจึงส่ายหัวแล้วพูดว่า: "มันง่ายมาก หงจินเป่าแก่แล้ว ยุคของเขาผ่านไปแล้ว คุณไม่สังเกตเหรอว่าหลังจากยุค 90 เป็นต้นมา เขาไม่มีผลงานที่น่าจดจำสักเรื่อง? เขายังอาจจะสามารถใช้ความน่ากลัวของแก๊งค์มาขู่คนได้อยู่ แต่ก็คงจะไม่ได้นาน ถ้าไม่เชื่อ รอดูปีหน้าสิ เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง"

แม้ว่าฟ่านปิงปิงจะครึ่งเชื่อครึ่งสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดมากเรื่องนี้อีก เธอซบลงบนอกของเขาอย่างสบายใจแล้วกอดเอวของเขาไว้: "ไม่มีมันก็ไม่เป็นไร แบบนี้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ"

การเล่นละครและเสแสร้งมาเนิ่นนาน ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อย เธอเป็นมนุษย์ และมนุษย์ก็ย่อมเหนื่อยได้ จนกระทั่งบางครั้งก็แทบจะไม่รู้จักตัวตนของตัวเองอีกต่อไป

ก่อนหน้านี้เพื่อให้ตัวเองได้ไต่เต้า เธอต้องทำหลายสิ่งที่ขัดกับความตั้งใจ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเกลียด

ทำไมเธอถึงติดใจพวกหนุ่มๆ? ก็เพราะเธอต้องการให้รางวัลกับตัวเอง ไม่อย่างนั้นคงเป็นบ้าไปแล้ว ส่วนทำไมเธอถึงไม่ถอนตัวออกมา? จริงๆ แล้วเธออยากทำมาก แต่มันทำได้ยาก ด้วยความสามารถที่เธอมีในตอนนี้ เธอยังไม่สามารถทำตัวให้เป็นอิสระได้ และทรัพยากรและความนิยมที่เธอมีอยู่ ล้วนมาจากการสนับสนุนจากเงินทุน ซึ่งสามารถถูกดึงกลับไปได้ตลอดเวลา เว้นแต่ว่าเธอจะไม่อยากอยู่ในวงการนี้ต่อไป แต่เมื่อเคยเห็นชีวิตบนยอดเขาที่สวยงามแล้ว ใครจะอยากละทิ้งมัน?

ตู้เซิงรู้เรื่องนี้ดี จึงพูดต่อด้วยรอยยิ้ม: "ได้ยินมาว่าบทนางเอกในเรื่อง *มีดบิน อีกครั้งกับมีดบิน* ที่ตอนแรกจะเป็นของหลินซินหรู แต่เธอต้องไปเรียนต่อที่อเมริกา เลยทำให้บทนี้ว่างลง ซีรีส์นี้ถือว่ามีระดับและมาตรฐานไม่น้อย ถ้าคุณมีเวลา ลองไปคัดตัวดูไหม?"

แม้ว่าในปัจจุบันผู้คนในตะวันออกจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่การใช้เงินไปกับการดูหนังยังไม่เป็นที่นิยม การทำหนังในตอนนี้จึงเป็นเพียงการเพิ่มชื่อเสียง ไม่ได้ทำเงินมากนัก แทนที่จะเสียเวลาไปกับการถ่ายทำหนังสู้ไปถ่ายละครทีวีเพื่อทำเงินและสร้างฐานแฟนคลับขนาดใหญ่ดีกว่า

ฟ่านปิงปิงแปลกใจเล็กน้อย: "บริษัทกำลังช่วยฉันแย่งบทนี้อยู่ คุณก็เห็นดีด้วยเหรอ?"

ถ้ามองไปที่วงการละครทีวี เธอมีตัวเลือกมากมาย มีซีรีส์สองเรื่องที่กำลังถ่ายทำ *จอมยุทธ์ไร้พ่าย* และ *เทพบุตรไร้เทียมทาน* ที่เธอสามารถเลือกได้

ทำให้เธอลังเลเล็กน้อย

ตู้เซิงที่ได้รับความช่วยเหลือจากฟ่านปิงปิงในการคัดตัวก็มีความลำเอียงเล็กน้อย: "ฉันเคยอ่านนวนิยายเรื่องนี้ มันน่าสนใจมาก และตัวนางเอกที่มีรูปลักษณ์สูงศักดิ์และเย็นชา เหมาะกับคุณอย่างมาก เรื่องราวของความรักและการแก้แค้นก็น่าดึงดูดมากด้วย"

ซีรีส์นี้เป็นที่นิยมมากในตอนนั้น ทั้งในแง่ของเรตติ้งและความนิยมสามารถติดอันดับท็อปเท็นประจำปีได้ ตู้เซิงรู้ว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะได้แสดงในเรื่องนี้ จึงขอมอบโอกาสนี้ให้ฟ่านปิงปิงแทน อย่างน้อยถ้าฟ่านปิงปิงมีชื่อเสียงมากขึ้น เธอก็อาจจะตอบแทนเขาบ้าง

ส่วนซีรีส์อีกสองเรื่องที่เธอพูดถึง ยกเว้นนักแสดงนำชายที่ดูโดดเด่นเล็กน้อย ที่เหลือก็ไม่น่าสนใจเท่าไร

หลังจากพูดคุยกัน ฟ่านปิงปิงรู้สึกดีขึ้นมาก และในใจก็ตัดสินใจได้แล้ว เธอนึกถึงบางอย่างและถามว่า: "แล้วคุณล่ะ เซ็นสัญญากับ *แปดเทพอสูรมังกรฟ้า* หรือยัง?"

เธอรู้ดีถึงการเล่นตลกของจางจื้อจง หากไม่เซ็นสัญญาเขาอาจจะเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ

"เซ็นแล้ว สองวันหลังจากนี้จะเริ่มเข้ากอง"

"ดีแล้ว ถ้า *แปดเทพอสูรมังกรฟ้า* ไม่เวิร์ก ฉันก็จะเสนออีกเรื่องหนึ่งให้คุณ แต่ขนาดมันเล็กไปหน่อย"

ตู้เซิงฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย การลงทุนเล็กๆ... ซีรีส์แนวกำลังภายใน... นักแสดงหน้าใหม่... กำลังพยายามเชิญนักแสดงดาวรุ่งที่ถูกปิดกั้นมาร่วมงาน...

ทันใดนั้นในหัวของเขาก็โผล่ชื่อซีรีส์ขึ้นมา เพราะหลายอย่างที่พูดถึงตรงกับรายละเอียดที่เขารู้ และภาพหลายภาพก็ผุดขึ้นมาในความคิด

ถ้ามันเป็นเรื่องนี้จริงๆ ก็ถือว่าน่าคาดหวังทีเดียว! ถ้าพูดถึงซีรีส์แนวกำลังภายในที่สามารถแข่งขันกับ *แปดเทพอสูรมังกรฟ้า* ได้ ก็คงต้องเป็นซีรีส์เรื่องนี้แน่นอน แม้ว่าตอนนี้มันจะไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนหรือผู้กำกับเท่าไร และเมื่อฉายแล้วก็ถูกเรียกว่าเป็น "ซีรีส์ตลก" แต่นั่นก็ไม่ทำให้ผู้ชมเลิกดู ในทางตรงกันข้าม ผู้ชมทั้งติทั้งชม และเรตติ้งก็ยังแซงหน้าซีรีส์ใหญ่ๆ ที่ลงทุนสูงไปมากมาย อีกทั้งนักแสดงหน้าใหม่ที่แสดงในเรื่องนั้น ก็กลายเป็นดาวเด่นในชั่วข้ามคืน

"แต่ยังเร็วอยู่ รอถ่ายทำ *แปดเทพอสูรมังกรฟ้า* ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากัน"

ซีรีส์นั้นอยู่ในช่วงเตรียมงานและเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ถูกปฏิเสธโดยนักลงทุนและนักแสดง จึงยังไม่มีทางที่จะเตรียมงานเสร็จเร็วๆ นี้ ตู้เซิงถึงแม้จะมีความคิดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่รีบที่จะเข้าไปแทรกในตอนนี้

และเมื่อถ่ายทำ *แปดเทพอสูรมังกรฟ้า* เสร็จแล้ว ตอนนั้นเขาอาจไม่ต้องพึ่งฟ่านปิงปิงให้ช่วยแนะนำอีกต่อไป แต่สามารถรับบทที่สำคัญได้ด้วยตัวเอง

(จบบท)