ตอนที่ 9 ศึกแรกของเตียวเลี้ยว ฮัวหยงตาย
หลี่ซูไม่รู้เลยว่า เทียบกับกองทัพของเขาที่บุกโจมตีหลังค่าย กองทัพของฮัวหยงที่บุกโจมตีหน้าค่าย ดูเหมือนจะประสบความสำเร็จมากกว่า
ฮัวหยงเห็นว่าหลังค่ายเกิดไฟไหม้ ก็รีบนำทัพบุกเข้าโจมตีค่ายของซุนเกี๋ยนทันที
"ฆ่า!"
ฮัวหยงนำทัพ บุกเข้าไปในค่าย
ชั่วพริบตาก็ไปถึงหน้าประตูค่าย
ฮัวหยงฆ่าทหารของซุนเกี๋ยนที่ยืนขวางทางไปหลายคน
ไม่นานนัก ซุนเกี๋ยนก็รีบวิ่งออกมาจากกระโจม สวมหมวกแดง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย เห็นได้ชัดว่าเพิ่งจะตื่น
"ซุนเกี๋ยน อย่าหนี!"
จากนั้นฮัวหยงก็พาทหารม้า บุกเข้าโจมตีซุนเกี๋ยนทันที
ซุนเกี๋ยนเห็นฮัวหยงบุกเข้ามา ก็รีบกระโดดขึ้นหลังม้า รับมือกับฮัวหยง
แม่ทัพทั้งสอง ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ซุนเกี๋ยนแกล้งทำเป็นเปิดช่องโหว่ ตอนที่ฮัวหยงกำลังจะฆ่าเขาเขาก็ยกดาบขึ้นมา ปัดดาบของฮัวหยง
จากนั้นก็หันหลัง และตะโกน
"ถอยทัพ! "
พูดจบซุนเกี๋ยนก็พาทหารกว่าพันนาย หนีออกจากค่ายไป
"อย่าให้มันหนีไปได้! " ฮัวหยงตะโกน
"ตามข้าไปฆ่าซุนเกี๋ยน! "
พูดจบฮัวหยงก็รีบสั่งให้ทหารคนสนิท ไปบอกกองทัพอื่นๆ ให้ไล่ล่าซุนเกี๋ยน
ไม่นาน ฮัวหยงก็พาทหารม้าออกจากค่ายไป
กองทัพทั้งสอง วิ่งไปตามเส้นทางอย่างรวดเร็ว
ทหารม้านับหมื่น เสียงฝีเท้าดังกึกก้อง
ถึงแม้ว่า ซุนเกี๋ยนจะมีทหารม้าแต่พวกเขาพึ่งจะได้ม้าศึกมา ยังไม่ชำนาญ
ระหว่างทาง มีทหารหลายคนที่ตกลงมาจากหลังม้า
"ซุนเกี๋ยน อย่าหนี!วันนี้ เจ้าไม่รอดแน่! " ฮัวหยงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
"ทุกคนฟังให้ดี คนที่อยู่ข้างหน้า สวมหมวกแดงคือซุนเกี๋ยน!"
"ใครที่สามารถตัดหัวซุนเกี๋ยนได้ ข้าจะให้รางวัลเป็นทองคำร้อยตำลึง และผ้าไหมชั้นดีอีกสิบม้วน"
มีรางวัล ก็ต้องมีคนกล้า พอได้ยินแบบนี้ ทหารซีเหลียง ต่างก็พากันฮึกเหิม
ซุนเกี๋ยนได้ยินแบบนั้น ก็รีบถอดหมวกแดงออก แล้วโยนทิ้ง
"คนที่ใส่เสื้อคลุมสีแดงคือซุนเกี๋ยน! "
ซุนเกี๋ยนได้ยินแบบนั้น ก็รีบถอดเสื้อคลุมสีแดงออก ตอนนี้เขาทั้งร้อนใจ ทั้งอับอายขายหน้า
เขามองไปข้างหน้า ทำไมวันนี้ทางมันถึงได้ยาวขนาดนี้!
......
ในขณะที่ซุนเกี๋ยนกำลังวุ่นวายอยู่ ไป๋หลี่หมิงและคนอื่นๆ ก็ค่อนข้างสบาย
ไป๋หลี่หมิงนอนอยู่ใต้ต้นไม้ เตียนอุยนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนซูเหมาถือดาบคู่เดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ
"ตอนนี้ ค่ายก็ถูกไฟไหม้ "
"ทำไมท่านแม่ทัพใหญ่ยังไม่มาถึงสักที!"
"หรือว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว?"
เห็นไป๋หลี่หมิงทำท่าทางสบายๆ ซูเหมาจึงถามด้วยความร้อนใจ
"ท่านไป๋หลี่ หรือว่าพวกเราควรจะไปช่วยท่านแม่ทัพใหญ่?"
"ไม่ต้อง ตอนนี้คือช่วงเวลาสำคัญที่สุด!" ไป๋หลี่หมิง ส่ายหัวและยิ้ม
"การที่เราจะฆ่าฮัวหยงได้หรือไม่ อยู่ที่แผนการนี้แล้ว "
"ห้าม ทำอะไรโดยพลการเด็ดขาด!"
"แต่ว่า..."
"ถ้าหากท่านแม่ทัพใหญ่ เกิดอันตรายขึ้นมาจะทำอย่างไร?" ซูเหมาขมวดคิ้ว
"น้องชาย ยุทธการในครั้งนี้ มันอันตรายมาก ถ้าหากท่านแม่ทัพซุนเกิดเป็นอะไรขึ้นมา พวกเรารับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ" เตียนอุยพูดอย่างกังวล
"พวกเจ้าไม่ต้องกังวล" ไป๋หลี่หมิงยิ้ม "ข้าคิดว่าท่านแม่ทัพจะต้องปลอดภัย"
พูดจบ ไป๋หลี่หมิง ก็หยิบเหรียญขึ้นมาสามเหรียญ
จากนั้น ก็โยนเหรียญทั้งสามขึ้นไปในอากาศหกครั้ง
พอเห็นสัญลักษณ์แปดเหลี่ยม เขาก็พูด“พวกเจ้าสองคนมาเดิมพันกับข้าเป็นไง?ข้าเดิมพันว่าท่านแม่ทัพจะโชคดีและกองทัพเราจะได้ชัยชนะ!”
เห็นดังนั้น เตียนอุยก็เบิกตากว้าง
เขารู้ดีว่าไป๋หลี่หมิงดูดวงแม่นมาก เหมือนโกงสวรรค์เลย
"ไม่เล่น ไม่เล่น เจ้าโกงอีกแล้ว " เตียนอุยส่ายหัว
ส่วนซูเหมาทำได้แค่พูดอย่างขมขื่น
“ท่าน ยามคับขันเช่นนี้ ท่านยังมีเวลามาเล่นเดิมพันอีก!”
"ถ้าท่านแม่ทัพรอดจริงๆ อย่าพูดถึงเรื่องเดิมพันเลย จากนี้ไป ถ้าท่านบอกให้ข้าไปตะวันออก ข้า ซูเหมาก็จะไม่มีวันไปตะวันตก!”
"ตกลง งั้นเอาแบบนี้แหละ" ไป๋หลี่หมิงยิ้ม จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก
ขณะที่ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกันอยู่ ก็ได้ยินเสียงม้าดังมาแต่ไกล จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ซูเหมาดีใจมาก จึงพูดขึ้นว่า
"มาแล้ว!"
จากนั้นก็หันไปหาไป๋หลี่หมิง "ท่านไป๋ ตอนนี้ พวกเรา "
"แม่ทัพซู " ไป๋หลี่หมิงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ท่านลงไปสั่งให้ทหารทุกนายเตรียมพร้อม พอฮัวหยงมาถึง ให้รอจนกว่า ทหารของมันจะเข้ามาเกินครึ่ง ค่อยโจมตี"
"ตกลง" ซูเหมา ไม่พูดอะไรมาก รีบรับคำสั่ง แล้วลงจากเขาไป
"พี่เตียว" ไป๋หลี่หมิงหันไปหาเตียนอุย
"ท่านเตรียมตัวได้เลย ฮัวหยงมีฝีมือร้ายกาจ นอกจากท่านแล้ว คงไม่มีใครเอาชนะมันได้ "
"ตกลง"เตียนอุยเผยรอยยิ้ม
รอคอยมานาน ในที่สุดก็ถึงตาเขาออกโรงแล้ว!
เตียนอุยยกง้าวคู่ ขึ้นมาถือไว้
ไม่นานนักพื้นดินก็สั่นสะเทือน
"ท่านไป๋ ต้าหรง พวกเจ้าออกมาเถอะ! " ซุนเกี๋ยนตะโกน
"ซุนเกี๋ยน เจ้าบ้าไปแล้วรึไง?ตะโกนอะไร กลางดึกแบบนี้ " ฮัวหยงหัวเราะ
แต่ก่อนที่ฮัวหยงจะได้พูดจบ ก็มีเสียงดังขึ้นจากบนเนินเขา
"ทหารทุกนาย โจมตี!"
"ฆ่า!"
"ฆ่า!"
ทันใดนั้น ก็มีทหารนับหมื่นปรากฏขึ้นทั้งสองข้างทาง
ทหารของฮัวหยง ต่างก็พากันตกใจ
"ซุ่มโจมตี?"
"ทำไม ถึงมีการซุ่มโจมตี?"
"พวกมัน ไม่ใช่ว่า "
ขณะที่ฮัวหยงกำลังตกตะลึง ซุนเกี๋ยนก็หยุดม้า แล้วหัวเราะเสียงดัง
"ฮัวหยง เจ้าติดกับแล้ว! "
"ทหารทุกนาย ฆ่าฮัวหยง! "
ฮัวหยงรู้สึกว่าตอนนี้มีแต่ศัตรูเต็มไปหมด
"ถอยทัพ! ถอยทัพ! "
แต่ตอนนี้ กองทัพตกอยู่ในความวุ่นวาย ต่อให้เขาจะตะโกนดังแค่ไหน ทหารก็ไม่ได้ยิน
ที่สำคัญเสียงตะโกนของเขากลับทำให้ศัตรูรู้ตำแหน่งของเขา
"ฮัวหยง ตายซะ!"
ทันใดนั้น ก็มีเงาดำพุ่งออกมาจากป่า ในมือถือง้าวคู่
ฮัวหยงมองไม่ทัน จึงรีบยกดาบขึ้นมา
"ฉ้ง!"
ทันทีที่ดาบกับง้าวกระทบกัน ก็เกิดคลื่นแรงกดดันถาโถมใส่เขา ฮัวหยงไม่อาจต่อต้าน เขาพลิกดาบไปด้านข้างและเด้งง้าวออกไป
แต่เตียนอุยใช้ง้าวคู่ ตอนง้าวหนึ่งเสียพลัง อีกง้าวก็ฟันมา
ฮัวหยงไม่มีเวลาตอบสนอง รู้สึกถึงแค่แสงเย็นด้านหน้า และจากนั้นโลกก็หมุน ตาเสียแวว
"ท่านแม่ทัพ ตายแล้ว!"
"ท่านแม่ทัพฮัวหยง ตายแล้ว! "
พอเห็นแบบนี้ เสียงร้องอุทานก็ดัง และการตายของฮัวหยงก็กลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับทหารม้าซีเหลียง
ทหารม้ากว่าหมื่นนายเริ่มแตกตื่น
ตอนซุนเกี๋ยนเห็นเช่นนี้ แม้จะไม่รู้ว่าใครฆ่าฮัวหยง สถานการณ์ปัจจุบลันก็คือโอกาสดีต่อการโจมตีขวัญกำลังใจข้าศึก
เขารีบยกดาบของเขาและตะโกนลั่น!
"แม่ทัพพวกเจ้าตายแล้ว ใครยอมมอบตัว ข้าจะไว้ชีวิต! " ซุนเกี๋ยน รีบฉวยโอกาส ตะโกน
เริ่มจากเขา เสียงตะโกนโน้มน้าวให้ยอมแพ้เริ่มดัง
"แม่ทัพพวกเจ้าตายแล้ว ใครยอมมอบตัว ข้าจะไว้ชีวิต! "
"แม่ทัพพวกเจ้าตายแล้ว ใครยอมมอบตัว ข้าจะไว้ชีวิต! "
เสียงตะโกน ดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา