ตอนที่ 6 แม่นยำ แผนตลบหลัง
เหลียงตง กระโจมหลัก
เฉิงผู่เดินเข้ามาในกระโจมด้วยสีหน้าร้อนรน
"ท่านแม่ทัพ ข้าได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าที่ภูเขาด้านหลังค่ายมีทางเล็กๆ ที่สามารถทะลุไปยังเส้นทางหลักของด่านโสหุยได้จริง"
"เพราะเห็นว่าเป็นทางเล็กๆ จึงคิดว่าเป็นทางที่ชาวบ้านใช้สำหรับหาบน้ำ จึงไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ข้าได้ลงโทษไปแล้ว"
"อืม" ซุนเกี๋ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้ โบกมืออย่างเหนื่อยล้า "นั่งลงก่อนเถอะ"
"ขอรับ!" เฉิงผู่นั่งลงอย่างงุนงง
เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมวันนี้ บรรยากาศในกระโจมถึงได้เงียบเหงาเช่นนี้?
ขณะที่เฉิงผู่กำลังครุ่นคิดก็มีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน
"ท่านแม่ทัพ แม่ทัพหยวนตอบกลับมาแล้ว"
"เข้ามารายงาน!" ซุนเกี๋ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
"ท่านแม่ทัพ แม่ทัพหยวนบอกว่าที่ค่ายใหญ่ก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้กำลังเตรียมอยู่ อีกห้าวันจะรีบส่งให้"
"นี่คือจดหมายจากแม่ทัพหยวนขอรับ" ทหารคนนั้น ยื่นจดหมายให้
ซุนเกี๋ยนยืนขึ้น รับจดหมายมาอ่านอย่างละเอียด จากนั้นก็ขยำจดหมายด้วยความโกรธ
"หยวนซู! ครั้งก่อนก็บอกว่าสามวัน ครั้งนี้ก็บอกว่าห้าวัน ข้ารบกับกบฏอยู่เบื้องหน้า มันกลับมาแทงข้างหลังข้าแบบนี้"
"คนอย่างมัน ไม่คู่ควรกับสกุลหยวนสี่รุ่น สามรัชสมัย!"
จากนั้น ซุนเกี๋ยนก็หันไปหาไป๋หลี่หมิง คารวะอย่างนอบน้อม
"ข้าช่างโง่เขลา เกือบจะทำให้กองทัพตกอยู่ในอันตราย โชคดีที่มีท่านเตือนสติ มิเช่นนั้น ข้าคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิต"
ซูเหมา หันต๋ง ฮองตง และเหล่าแม่ทัพคนอื่นๆ ต่างก็มองหน้ากัน
พวกเขามองไป๋หลี่หมิงด้วยแววตาตกตะลึง ลุกขึ้นยืนและคารวะอย่างนอบน้อม
"พวกเรามีตาหามีแววไม่ ล่วงเกินท่าน ขอท่านโปรดอภัย"
ไป๋หลี่หมิงเห็นดังนั้นก็ไม่กล้ารับ รีบลุกขึ้นประคองซุนเกี๋ยน "ท่านแม่ทัพ ไม่ต้องมากพิธีเช่นนี้ ข้าเห็นว่าท่านแม่ทัพ เป็นคนซื่อตรง จึงได้เอ่ยปากเตือน หวังว่าท่านแม่ทัพจะไม่ถือสา"
"ไฉ่ซ่าง ท่านนี่พูดอะไร " ซุนเกี๋ยนยิ้ม "ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ข้าคงพลาดคนมีความสามารถไปแล้ว "
ซุนเกี๋ยนพูดอย่างจริงใจ
ในฐานะผู้ก่อตั้งง่อตะวันออก เขาเป็นคนที่ใจกว้างและชอบคบหาคนมีความสามารถ
เขาไม่เพียงไม่สงสัย แต่กลับรู้สึกว่านี่เป็นการกระทำของยอดคน!
เมื่อคิดดังนั้น เขาก็อดหวาดกลัวไม่ได้
ถ้าหากเมื่อครู่นี้ หากเขาไม่ยอมลดตัวลง เขาคงต้องพลาดคนมีความสามารถอย่างไป๋หลี่หมิงไปแล้ว!
การปรากฏตัวของไป๋หลี่หมิง ทำให้เขารู้ตัวว่าตอนนี้ เขาขาดกุนซือที่ชาญฉลาด คอยให้คำปรึกษา!
แม้ช่วงแรก เขาจะได้รับชัยชนะมาโดยตลอด แต่ก็เพราะว่าเขามีฝีมือในการต่อสู้
แต่ถ้าหากเป็นเรื่องการวางแผน เขาก็ยังขาดประสบการณ์
ดังนั้น เขาจึงต้องการกุนซือที่ชาญฉลาดมาช่วยเหลือ
ส่วนหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นยอดกุนซือ!
"ขออภัย ที่เสียมารยาท ยังไม่ได้ถามชื่อของท่านเลย"
"ข้าแซ่ไป๋หลี่ ชื่อหมิง " ไป๋หลี่หมิงยิ้ม
จากนั้นก็ชี้ไปที่เตียนอุย "ส่วนผู้นี้ พี่ชายของข้าแซ่เตียว ชื่อเลี้ยว "
เตียนอุยรีบลุกขึ้น คารวะซุนเกี๋ยนอย่างนอบน้อม
"ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม บุรุษเปรียบเสมือนกลอง ถ้าไม่ตีก็ไม่ดัง" ซุนเกี๋ยนหัวเราะอย่างชอบใจ
"ทั้งบุ๋น ทั้งบู๊ หายากยิ่งนัก"
แต่หลังจากหัวเราะได้ครู่เดียว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นผิดหวัง
ถึงแม้ว่าคนทั้งสองจะมีความสามารถมาก แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีทีท่าว่าจะรับใช้เขา
คนมีความสามารถขนาดไหน ถ้าหากไม่ยอมรับใช้เขา ก็ไม่มีประโยชน์
หรือว่าที่ผ่านมา เขาทำอะไรผิดพลาดไป?
"ไฉ่ซ่าง ในเมื่อท่านมั่นใจว่าคืนนี้ฮัวหยงจะยกทัพมาบุก ท่านพอจะมีวิธีรับมือหรือไม่?"
"เหอะๆ " ไป๋หลี่หมิงหัวเราะเบาๆ
"ท่านแม่ทัพ ท่านเก่งกาจเรื่องการรบ หาตัวจับยาก ในเมื่อท่านรู้ว่าคืนนี้ข้าศึกจะยกทัพมาบุกแล้ว ท่านไม่มีวิธีรับมือเลยหรือ?"
"ในเมื่อเรารู้ว่าข้าศึกจะยกทัพมา เราก็ซุ่มโจมตีในค่าย ไม่ว่าข้าศึกจะใช้วิธีใด เราก็สามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน!" ซุนเกี๋ยนตอบอย่างมั่นใจ
จากนั้นก็มองไป๋หลี่หมิงด้วยสายตาเป็นประกาย หวังว่าจะได้รับคำชมจากไป๋หลี่หมิง
"ถึงแม้ว่าแผนนี้จะสามารถขับไล่ข้าศึกได้ แต่หลังจากคืนนี้ไป เสบียงอาหารของกองทัพก็จะยิ่งร่อยหรอลง สุดท้ายท่านแม่ทัพก็ต้องล่าถอยอยู่ดี" ไป๋หลี่หมิงส่ายหัวและยิ้ม
"ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้อากาศแห้งแล้ง ถ้าหากข้าศึกบุกโจมตีไม่สำเร็จ พวกมันอาจจะใช้วิธีเผาค่าย ถึงแม้ว่ากองทัพของท่านจะปลอดภัย แต่ก็ต้องสูญเสียเสบียงอาหารไปไม่น้อย"
"เอ่อ... " ซุนเกี๋ยนครุ่นคิด
"แบบนี้ เราก็มีทางเดียวคือล่าถอยงั้นรึ?"
"ไม่ใช่แบบนั้น" ไป๋หลี่หมิงส่ายหัว
"การล่าถอยเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุด ถ้าหากท่านแม่ทัพถอยโดยไม่ต่อสู้ หยวนซูจะต้องเอาเรื่องนี้มาโจมตีท่านแม่ทัพอย่างแน่นอน"
"ส่วนแผนที่ท่านแม่ทัพกล่าวถึงก็แค่แผนธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษ"
"ทั้งสองแผน ใช้ไม่ได้ผล" ไป๋หลี่หมิง กล่าวอย่างไม่ลังเล
"ถ้าอย่างนั้น เราควรทำอย่างไร?"
ซุนเกี๋ยนรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย
เขาถนัดเรื่องการต่อสู้
แต่ถ้าหากเป็นเรื่องกลยุทธ์ เขายอมรับว่าไม่ถนัดจริงๆ!
"ไฉ่ซ่าง ในเมื่อท่านมีแผนที่ดี เหตุใดจึงไม่พูดออกมาตรงๆ?ทำแบบนี้มันเสียเวลา" ซูเหมาทนไม่ไหวจึงพูดอย่างหัวเสีย
"ต้าหรง!อย่าเสียมารยาท!" ซุนเกี๋ยนรีบห้ามก่อนที่ไป๋หลี่หมิงจะได้พูดอะไร เพราะเขากลัวว่าซูเหมาจะทำให้ไป๋หลี่หมิงไม่พอใจ
ตอนแรก เขาไม่รู้ว่าไป๋หลี่หมิงมีความสามารถมากขนาดไหน ซูเหมาจะพูดอะไรก็ไม่เป็นไร
แต่ตอนนี้ไป๋หลี่หมิงเป็นถึงยอดคน เขากำลังหาทางชักชวนอยู่ จะปล่อยให้ซูเหมามาทำลายแผนการของเขาได้อย่างไร?
"ท่านแม่ทัพซูพูดถูก ข้าผิดเอง" ไป๋หลี่หมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ข้ามีแผน แต่แผนนี้ ค่อนข้างเสี่ยง ข้าไม่รู้ว่าท่านแม่ทัพจะกล้าเสี่ยงหรือไม่ จึงยังไม่ได้พูดออกมา”
"ไฉ่ซ่าง อย่าได้กังวล " ซุนเกี๋ยนรีบพูด เมื่อรู้ว่าไป๋หลี่หมิงมีแผน "ข้าผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมาย ถ้าหากแผนนี้ทำให้เราชนะศึกได้ จะเสี่ยงแค่ไหน ข้ายอมทั้งนั้น"
"ตกลง" ไป๋หลี่หมิงรู้สึกพอใจที่ซุนเกี๋ยน ตัดสินใจเด็ดขาด "แผนของข้าคือการสละค่าย และทิ้งสัมภาระทั้งหมด"
"ถ้าหากท่านแม่ทัพ ยอมสละค่าย ข้ายินดีช่วยท่านแม่ทัพ กำจัดกองทัพของฮัวหยง"
"อะไรนะ? กำจัดกองทัพของฮัวหยง?"
เหล่าแม่ทัพที่ยืนอยู่ด้านล่าง ต่างก็พากันตกตะลึง
ไฉ่ซ่าง ช่างกล้าพูด!
ครั้งนี้ ฮัวหยงนำทัพม้าที่แข็งแกร่งหลายหมื่น ถ้าหากพวกมันยกทัพมาตอนกลางคืน จำนวนพล คงไม่ต่ำกว่าสองหมื่น
ที่สำคัญ ทัพม้าซีเหลียงขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง เคลื่อนพลรวดเร็ว
การจะเอาชนะ ก็ยากอยู่แล้ว
แล้วจะกำจัดกองทัพของฮัวหยงได้อย่างไร?
ซุนเกี๋ยน ดวงตาเป็นประกาย ตอนนี้ในค่าย ไม่มีเสบียงอาหาร ถ้าหากต้องเสีย ก็แค่เสียกระโจมไม่กี่หลัง
แต่ถ้าหาก สามารถกำจัดกองทัพของฮัวหยงได้ ศึกครั้งนี้ เขาจะเป็นฝ่ายชนะ!
วันนี้ เขาคงได้พบกับยอดคน เข้าแล้ว!