ตอนที่ 6 ความลึกลับซ้อนลึกลับ อะไรคือเซียนแห่งความลึกลับ เสวี่ยนตู้แสวงหาคำตอบ ศิษย์เอกสองสำนักร่วมท่องเขาคุนหลุน! 

เมื่อหลินจู้ได้ยินดังนั้น

ก็รู้ว่าอาจารย์กำลังจะสั่งสอนตน

เขาไม่กล้าประมาท รีบนั่งขัดสมาธิบนเบาะ

ตั้งใจฟังคำสอนของเซียน

ท่านอาจารย์ทงเทียนเริ่มบรรยายหลักการสำคัญของลัทธิเสวียนเหมิน

ท่านได้บรรลุระดับเซียน

และได้รับการถ่ายทอดจากฮงจวิน กลายเป็นศิษย์ตรงของเสวียนเหมิน

อีกทั้งท่านยังมีพรสวรรค์สูง จึงเข้าใจหลักธรรมอย่างลึกซึ้ง

หลินจู้เป็นศิษย์เอกของสำนักเจี๋ย

ท่านอาจารย์ทงเทียนจึงไม่ปิดบังความรู้ใดๆ

เนื่องจากท่านเพิ่งบรรลุระดับเซียน

และยังอยู่ระหว่างทำความเข้าใจความลึกลับของระดับเซียน

เพื่อเสริมสร้างวิชา

ท่านจึงสอนเพียงแก่นแท้ของธรรมะเท่านั้น

การสอนครั้งนี้ใช้เวลาหลายร้อยปี

หลินจู้ตั้งใจฟังอย่างละเอียด

ไม่ละเลยแม้แต่น้อย

เขารู้ว่าหลักธรรมที่ท่านอาจารย์ทงเทียนสอนนั้นลึกซึ้งยิ่งนัก

หากพลาดตกหล่นไปแม้แต่น้อย

ก็จะเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่

การได้ฟังเซียนสั่งสอน

เป็นสิ่งที่ผู้บำเพ็ญเพียรมากมายในโลกหงหวางใฝ่ฝันถึง

เขามีพรสวรรค์สูง

จึงพยายามทำความเข้าใจทุกสิ่งที่ท่านอาจารย์ทงเทียนสอนอย่างถี่ถ้วน

ได้รับประโยชน์มากมาย

หลายร้อยปีผ่านไป

ในที่สุดท่านอาจารย์ทงเทียนก็สอนจบ

เสียงธรรมะค่อยๆ จางหายไปในลานฝึก

ท่านอาจารย์ทงเทียนลุกขึ้น

เห็นหลินจู้ยังคงกำลังทำความเข้าใจหลักธรรม

จึงไม่รบกวน ร่างกายสั่นไหวเล็กน้อย

แล้วเข้าไปในห้องรองของลานฝึก

เริ่มปิดวาจาเพื่อทำความเข้าใจความลึกลับของระดับเซียน

หลินจู้ค่อยๆ ทำความเข้าใจสิ่งที่ท่านอาจารย์ทงเทียนสอน

ไม่หยุดคิดวิเคราะห์

ต้องการย่อยความรู้เหล่านี้ให้หมดสิ้น เมื่อเวลาผ่านไป

ข้อมูลอันลึกลับสุดขีดก็ปรากฏขึ้นในห้วงจิตของหลินจู้

เขาได้เข้าใจวิธีการบำเพ็ญเพียรเฉพาะตัวจากสิ่งนี้

เขาใช้ความรู้ที่ได้รับในช่วงหลายปีนี้

ปรับปรุงวิธีการบำเพ็ญเพียรของไม้วิเศษปฐมกำเนิด

สร้างเป็นวิธีการบำเพ็ญเพียรแบบใหม่ทั้งหมด

วิธีนี้สามารถแยกธาตุทองในอากาศว่างเปล่า

ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แล้วหมุนเวียนรอบร่าง ด้วยวิธีนี้

ความเร็วในการฝึกวิชาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับเดิม

“อืม วิธีบำเพ็ญเพียรนี้ ขอตั้งชื่อว่า 'วิชาพลังธาตุทองและไม้' แล้วกัน”

หลินจู้ค่อยๆ ลืมตา ลูบคางพลางพึมพำ

จากนั้นเขาก็เริ่มฝึกฝนโดยใช้วิชาพลังธาตุทองและไม้นี้

และแล้ว เมื่อวิชาภายในร่างกายของหลินจู้หมุนเวียน

ธาตุทองและไม้ในอากาศว่างเปล่าก็ถูกแยกออกมา

หลอมรวมเข้าสู่ร่างกายของเขา

ความเร็วในการเพิ่มพลังของเขาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึงสิบเท่า

ช่างเป็นวิธีบำเพ็ญเพียรที่น่าอัศจรรย์จริงๆ

หลินจู้ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากวิธีบำเพ็ญเพียรนี้แล้ว

สิ่งที่ท่านอาจารย์ทงเทียนสอนยังเกี่ยวข้องกับวิชาดาบด้วย

หลินจู้ทำความเข้าใจความลึกลับในนั้นอย่างละเอียด

ประโยชน์มหาศาล

แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างเป็นวิชาดาบแบบใหม่ได้

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ลานฝึกนี้เป็นลานฝึกของเซียน

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง

พลังวิเศษของที่นี่เข้มข้นกว่าภายนอกนับพันเท่า

ดังนั้น พลังของหลินจู้จึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

เวลาผ่านไปหลายร้อยปี

ในที่สุดพลังของหลินจู้ก็ขึ้นถึงจุดสูงสุดของระดับเซียนแท้

เหลือเพียงก้าวเดียวก็จะบรรลุระดับเซียนเสวียน

หลินจู้ไม่ได้รีบบรรลุระดับเซียนเสวียนทันที

แต่เลือกที่จะหยุดพักและลุกขึ้น เขารู้หลักการที่ว่า

ความเร็วมักนำมาซึ่งความล้มเหลว

พลังของตนต้องมั่นคงอยู่ในระดับเซียนแท้สักพัก

การก้าวเข้าสู่ระดับเซียนเสวียนจึงจะเป็นไปอย่างราบรื่น

คิดแล้ว หลินจู้ก็ขยับมือ

ยาเม็ดนั้นก็ปรากฏในมือเขา

มันคือยาวิเศษธาตุทองและไม้ที่ไท่ซางมอบให้

ไท่ซางเชี่ยวชาญในการปรุงยา

ยาที่ปรุงขึ้นจึงมีคุณภาพยอดเยี่ยม

ยาวิเศษธาตุทองและไม้นี้ยิ่งเป็นยาชั้นสูง

เมื่อยาวิเศษอยู่ในมือ กลิ่นหอมของยาก็โชยมา

ถึงเวลาแล้วที่จะกินยานี้ เพื่อก้าวเข้าสู่ระดับเซียนเสวียน

หลินจู้อ้าปาก กลืนยาลงไป พ

ลังอันแข็งแกร่งของยาก็แผ่ซ่านในท้องของเขาทันที

แล่นไปทั่วร่างกายของหลินจู้

หลินจู้รีบใช้วิชา ดูดซึมพลังยานี้

ในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงโอกาสในการบรรลุระดับเซียนเสวียน

เขารีบนั่งขัดสมาธิอีกครั้ง

รวบรวมพลัง เพื่อทะลวงด่านเสวียนของระดับเซียนเสวียน

และแล้ว สิบปีผ่านไป พลังมหาศาลระเบิดออกในร่างของหลินจู้

พลังของเขาในที่สุดก็บรรลุถึงระดับเซียนเสวียน

หลินจู้สูดหายใจลึก ลุกขึ้นยืน

รู้สึกถึงพลังอันท่วมท้นในร่างกาย

อดไม่ได้ที่จะดีใจอย่างบอกไม่ถูก

ระดับเซียนเสวียน ก้าวข้ามประตูแห่งความมหัศจรรย์

ลึกลับซ้อนลึกลับ แม้จะมองในโลกหงหวาง

ก็ยังไม่ถือว่าเป็นอะไร แต่หลินจู้เชื่อว่า

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เขาจะต้องบรรลุไม่หยุดยั้ง

จนถึงจุดสูงสุดของมรรคาอันยิ่งใหญ่!

คิดมาถึงตรงนี้! หลินจู้ดีดนิ้ว

พลังอันมหาศาลพุ่งออกไป

ระดับเซียนเสวียน ช่างแข็งแกร่งจริงๆ

หลังจากดีใจชั่วครู่ หลินจู้ก็สงบลง

ระดับเซียนเสวียน แม้จะไม่ใช่เรื่องเล็ก

แต่เมื่อวางไว้ในโลกหงหวาง

ก็ดูไม่มีความสำคัญเลย

ในฐานะศิษย์เอกของสำนักเจี๋ย

และเป็นศิษย์ของเซียน หากมีเพียงพลังระดับเซียนเสวียน

ก็แทบจะเป็นการทำให้สถานะนี้อับอายเลยทีเดียว

ต้องรู้ว่า ในอนาคต ศิษย์ตรงสี่คนของท่านอาจารย์ทงเทียน

คนที่อ่อนแอที่สุดก็ยังอยู่ในระดับสูงสุดของต้าลัว

อย่างไรก็ตาม หนทางแห่งการบำเพ็ญเพียร

ต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา

การปิดวาจาบำเพ็ญเพียรอย่างหนักหน่วงเพียงอย่างเดียว

อาจทำให้หลงผิดได้ง่าย

หลินจู้กวาดตามองรอบหอใหญ่ของลานฝึก

รู้ว่าอาจารย์ยังคงปิดวาจาอยู่ จึงก้าวเดินออกจากลานฝึก

เตรียมตัวออกเดินทางท่องโลกหงหวาง

เขาคุนหลุนเป็นจุดรวมของเส้นเลือดใหญ่หลายสายในโลกหงหวาง

บนยอดเขายังคงมีป่าสนเขียวขจี

นกกระเรียนโบยบินในอากาศ

บนพื้นดินยังมีสัตว์วิเศษเดินไปมา

ในฐานะลานฝึกของเซียน

และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

เขาคุนหลุนงดงามจนบรรยายไม่ถูก

หลินจู้ก้าวเดิน เดินอยู่บนยอดเขาคุนหลุน

มองทิวทัศน์โดยรอบ

จิตใจรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก ทันใดนั้น

หลินจู้ก็เกิดความรู้สึกบางอย่าง

ตัดสินใจที่จะเดินเที่ยวชมเขาคุนหลุนก่อนออกท่องโลกหงหวาง

บนยอดเขา เขาก้าวเดินทีละสิบจั้ง

หยุดชมทิวทัศน์ของคุนหลุน

พินิจดูสิ่งต่างๆ บนคุนหลุนอย่างละเอียด

แล้วมุ่งหน้าเข้าไปในเขาคุนหลุน

ในเขาคุนหลุน สมุนไพรวิเศษมีมากมายนับไม่ถ้วน

หลินจู้ไม่ได้เก็บ เพียงแค่เดินเงียบๆ บนทางเดินในภูเขา

ทันใดนั้น หลินจู้เห็นคนหนึ่งยืนอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่ง

คนผู้นั้นสวมชุดสีเขียว หน้าตางดงามดั่งหยก

เมื่อมองใกล้ๆ คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเสวี่ยนตู้

หลินจู้เดินเข้าไปหา เสวี่ยนตู้หันมา เห็นหลินจู้มาถึง รีบคำนับ

“คารวะพี่ใหญ่”

แม้เสวี่ยนตู้จะเป็นศิษย์เอกของไท่ซาง

แต่เข้าสำนักทีหลัง จึงต้องเรียกหลินจู้ว่าพี่ใหญ่

หลินจู้ยิ้มพูด

“เราเป็นพี่น้องร่วมสำนัก ไม่จำเป็นต้องคำนับหรอก

ไม่คิดว่าน้องเสวี่ยนตู้จะบรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับเซียนแท้เช่นกัน”

เสวี่ยนตู้เป็นมนุษย์ปฐมกำเนิด

มีพรสวรรค์ติดตัวมาแต่กำเนิด

เป็นหัวหน้าของมนุษย์ทั้งปวง

หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้

ก็คงไม่ได้รับการยอมรับจากไท่ซางเหลาจื่อ และรับเป็นศิษย์

ความเร็วในการบำเพ็ญเพียรของเขาไม่แพ้หลินจู้

จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

“พี่ใหญ่พูดเกินไปแล้ว เป็นเพราะคำสั่งสอนของอาจารย์ ข้าถึงมีพลังถึงเพียงนี้”

“แต่การก้าวเข้าสู่ระดับเซียนเสวียน ยังต้องใช้เวลาอีกสักพัก

ไม่คิดว่าพี่ใหญ่จะก้าวล้ำหน้าข้าไปก่อน บรรลุถึงระดับเซียนเสวียนแล้ว”

หลินจู้ยิ้มพูด

“หนทางแห่งการบำเพ็ญเพียร เร่งรีบไม่ได้

ข้าตั้งใจจะออกท่องโลกหงหวาง”

“จุดแรกก็คือตั้งใจจะชมทิวทัศน์ของคุนหลุน

ดูลานฝึกของอาจารย์และอาจารย์อา”

“ไม่ทราบว่าน้องชายจะร่วมทางด้วยได้หรือไม่?”

เสวี่ยนตู้ได้ยินดังนั้น ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง

เขากำลังทำความเข้าใจด่านเสวียนของระดับเซียนเสวียน

มีข้อสงสัยมากมาย แต่ไท่ซางเหลาจื่อก็กำลังปิดวาจาอยู่ ไม่สะดวกที่จะถาม

ส่วนหลินจู้ได้บรรลุถึงระดับเซียนเสวียนแล้ว

ย่อมมีความเข้าใจมากมาย พอดีจะได้ถือโอกาสนี้ขอคำแนะนำ

ทันใด ทั้งสองคนก็ออกเดินทางร่วมกัน

ออกจากลานฝึกของเซียนทั้งสอง

************************************************************************************ 

(จบตอนที่ 6 ความลึกลับซ้อนลึกลับ อะไรคือเซียนแห่งความลึกลับ เสวี่ยนตู้แสวงหาคำตอบศิษย์เอกสองสำนักร่วมท่องเขาคุนหลุน!)

“ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านและสนับสนุน”

~หากชอบเนื้อหานี้อย่าลืมกด Like โปรดติดตามและแนะนำด้วยขอบคุณมากครับ~