ตอนที่แล้วตอนที่ 4 ถ้าข้าเป็นฮัวหยง ข้าจะมาคืนนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 แม่นยำ แผนตลบหลัง

ตอนที่ 5 ซุนเกี๋ยนกลัวจนเหงื่อแตก


"ไฉ่ซ่าง  ท่านหมายความว่า  คืนนี้ฮัวหยงอาจจะยกทัพมาโจมตีพวกเรา?"

ซุนเกี๋ยนถามอย่างรีบร้อน

"ไม่ใช่อาจจะ แต่ต้องใช่เเน่ๆ"   ไป๋หลี่หมิงยิ้ม  "ข้ายืนยันได้เลยว่าคืนนี้ฮัวหยงต้องยกทัพมาบุกพวกเราอย่างแน่นอน!"

ไป๋หลี่หมิงกล่าวอย่างมั่นใจ

ซุนเกี๋ยนตกตะลึง

เขาผ่านสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วน  รู้ดีว่าสถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ถึงแม้จะเป็นยอดขุนพล  ก็ทำได้แค่คาดเดา

แต่ไป๋หลี่หมิงกลับใช้คำว่า"อย่างแน่นอน"

เห็นได้ชัดว่าไป๋หลี่หมิงมั่นใจในสิ่งที่เขาอนุมานมาก

แค่เห็นสารท้ารบ ไป๋หลี่หมิงก็สามารถอนุมานเรื่องราวได้มากมายขนาดนี้เลยรึ?

เป็นไปได้อย่างไร?

ซุนเกี๋ยนกำลังจะเอ่ยปากถาม  แต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของซูเหมาเสียก่อน

"เหอะๆ   เจ้าหนู..."

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ซูเหมาก็นึกขึ้นได้ว่าซุนเกี๋ยนให้เกียรติไป๋หลี่หมิงมาก  จึงรีบเปลี่ยนคำพูด

"ไฉ่ซ่าง ช่างน่าขันยิ่งนัก"  ซูเหมายิ้มเยาะ

"ท่านยังไม่ทันได้พบกับท่านแม่ทัพใหญ่  ก็บอกว่าท่านแม่ทัพใหญ่กำลังจะมีเคราะห์เลือด ตอนนี้ฮัวหยงส่งสารท้ารบมา ท่านก็บอกว่าคืนนี้ฮัวหยงจะต้องยกทัพมาบุก  ?"

"ดูเหมือนว่า ทุกอย่างในโลกนี้  มันจะบังเอิญไปหมด อะไรที่ท่านพูด มันต้องเป็นไปตามนั้นสินะ?"

น้ำเสียงของซูเหมาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม  เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อ

"ต้าหรง!"  ซุนเกี๋ยนจ้องซูเหมาด้วยสายตาไม่พอใจ

ซูเหมาไม่สนใจ  แกล้งทำเป็นไม่เห็น

ซุนเกี๋ยนกำลังจะเอ็ด ไป๋หลี่หมิงก็พูดขึ้นเสียก่อน

"ท่านแม่ทัพ  ท่านถามได้ดีมาก!"

ไป๋หลี่หมิงเห็นว่าเหล่าแม่ทัพมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร  ก็รู้ทันทีว่าเขาทำเหล่าแม่ทัพขุ่นเคือง

พวกเขาเป็นถึงแม่ทัพ  ผ่านสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วน  จะยอมรับเด็กหนุ่มอย่างเขาง่ายๆ ได้อย่างไร?

แต่แบบนี้ก็ดี เขาจะใช้โอกาสนี้สั่งสอนคนพวกนี้เสียหน่อย

"ท่านแม่ทัพเข้าใจผิดไปสองเรื่อง  เรื่องแรกที่ข้าบอกว่าท่านแม่ทัพมีเคราะห์เลือด  ไม่ใช่หลังจากที่ข้ามาถึงที่นี่  แต่เป็นก่อนที่ข้าจะมาถึงที่นี่ต่างหาก"

"ส่วนเรื่องที่ว่าฮัวหยงจะยกทัพมาคืนนี้  นั่นเป็นแค่การคาดเดา แต่หลังจากที่ข้าได้เห็นสารท้ารบ ข้าก็มั่นใจว่าคืนนี้ฮัวหยงต้องยกทัพมาบุกอย่างแน่นอน"

"เหตุผลที่ข้ามั่นใจว่าคืนนี้ฮัวหยงจะต้องยกทัพมาก็เพราะว่า ถ้าหากคืนนี้ฮัวหยงยกทัพมา ฮัวหยงจะได้เปรียบ ส่วนท่านแม่ทัพ  จะเสียเปรียบ"

"โอ้?  ได้เปรียบ  เสียเปรียบ  อย่างไร?"   ซุนเกี๋ยนถามอย่างรีบร้อน

"ขอไฉ่ซ่างโปรดอธิบาย"

เหล่าแม่ทัพที่ยืนอยู่ด้านล่างต่างก็เงียบ ตั้งใจฟัง แม้แต่ซูเหมาก็ยังกลั้นหายใจฟังอย่างตั้งใจ

ไป๋หลี่หมิงยิ้มเล็กน้อย

"เอาเรื่องที่ท่านแม่ทัพเสียเปรียบก่อนก็แล้วกัน"

"ก่อนที่ข้าจะมาที่นี่ ข้าได้ยินมาว่ากองทัพของท่านแม่ทัพเอาชนะข้าศึกมาโดยตลอด นับเป็นวีรบุรุษแห่งยุค”

"แต่อย่างที่ข้าได้กล่าวไป  กองทัพที่ชอบดูถูกผู้อื่นมักจะพ่ายแพ้”

"ท่านแม่ทัพเอาชนะข้าศึกมาโดยตลอด ทำให้เหล่าทหารเกิดความยโสโอหัง นี่คือข้อเสียเปรียบประการแรก ท่านแม่ทัพคิดว่าอย่างไร?"

"ถูกต้อง" ซุนเกี๋ยนพยักหน้า เห็นด้วยกับไป๋หลี่หมิง

เหล่าแม่ทัพที่ยืนอยู่ด้านล่างได้ยินดังนั้น ต่างก็พากันตกใจ

ที่แท้คำพูดของไป๋หลี่หมิงหมายถึงพวกเขานี่เอง!

มีเพียงซูเหมาเท่านั้นที่มองไป๋หลี่หมิงด้วยสายตาเหยียดหยาม

ถ้าหากพวกเขารู้ตัวว่ากำลังยโสโอหัง  พวกเขาก็จะไม่ยโสโอหังอีกต่อไป

มีแต่คนที่ไม่รู้ตัวเท่านั้น  ถึงจะเป็นกองทัพที่ชอบดูถูกผู้อื่น

สิ่งที่ไป๋หลี่หมิงพูดมา ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่

ไป๋หลี่หมิงมองซูเหมา และยิ้ม

"ส่วนข้อเสียเปรียบประการที่สองก็คือ  ท่านแม่ทัพไม่ชำนาญภูมิประเทศ ไม่ได้เปรียบในเรื่องชัยภูมิ!"

"ก่อนที่ข้าจะลงมาจากเขา  ข้าได้สังเกตเห็นว่าค่ายของท่านแม่ทัพ  ตั้งอยู่ในจุดที่ด้านหลังมีภูเขาล้อมรอบ ดูเหมือนว่าจะปลอดภัย  แต่ความจริงแล้วกลับอันตรายมาก เพราะที่ภูเขาด้านหลัง   มีทางเล็กๆ ที่สามารถทะลุมาถึงด้านหลังค่ายได้  แต่กลับไม่มีทหารประจำการอยู่เลย เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?"

"ถ้าหากข้าศึกส่งกองกำลัง ลอบเข้ามาทางด้านหลังแล้วโจมตี  ท่านแม่ทัพจะรับมืออย่างไร?"

"อะ  อะไรนะ?   ที่ท่านพูด  เป็นเรื่องจริงหรือ?"    ซุนเกี๋ยนเบิกตากว้าง

"ที่ภูเขาด้านหลัง  มีทางเล็กๆ  จริงๆ  รึ?"

เฉิงผู่เป็นคนจัดหาสถานที่สำหรับการตั้งค่าย ถ้าหากด้านหลังค่ายมีทางเล็กๆ  จริง  นั่นหมายความว่าค่ายของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย

"ท่านแม่ทัพ  เรื่องนี้  "  เฉิงผู่  ทำหน้างง เขาไม่เคยได้รับรายงานเรื่องนี้มาก่อน

"ท่าน รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?"  เฉิงผู่ถาม

ไป๋หลี่หมิงไม่สะทกสะท้านกับคำถามนี้ ก่อนที่เขาจะมาถึง เขาได้สำรวจเส้นทาง  และภูมิประเทศโดยรอบเป็นอย่างดี

"ที่หุบเขา ด้านหลังค่ายไปสองลี้  มีทางเล็กๆ  ที่สามารถทะลุไปยังเส้นทางหลักของด่านโสหุยได้ ถ้าหากท่านแม่ทัพไม่เชื่อส่งคนไปตรวจสอบดูก็ได้"

"นี่..."  เฉิงผู่  ตกตะลึง

หรือว่าที่ไป๋หลี่หมิงพูดจะเป็นเรื่องจริง?

เฉิงผู่แค่ตกใจ  แต่ซุนเกี๋ยนร้อนใจกว่า

ถ้าหากด้านหลังค่ายมีทางเล็กๆ จริง  กองทัพของเขาอาจจะถูกโจมตีได้ทุกเมื่อ

"รีบไปตรวจสอบ  เดี๋ยวนี้! ”  ซุนเกี๋ยน ตะโกนเสียงดัง

"ขอรับ!"  เฉิงผู่ ไม่กล้าขัดคำสั่ง  รีบออกไปจากกระโจม  เพื่อจัดคนไปตรวจสอบ

ไป๋หลี่หมิง  หัวเราะเบาๆ   "ส่วนข้อเสียเปรียบประการที่สามก็คือกองทัพขาดแคลนเสบียงอาหาร!"

"ถ้าหากข้าเดาไม่ผิด  ตอนนี้กองทัพของท่านแม่ทัพคงจะขาดแคลนเสบียงอาหาร  ไม่พอใช้"

"กองทัพขาดแคลนเสบียงอาหาร  ขวัญกำลังใจของทหารย่อมตกต่ำแบบนี้  จะเอาชนะข้าศึกได้อย่างไร?"

ซุนเกี๋ยนและเหล่าแม่ทัพ  ต่างก็พากันตกใจ

ถ้าหากสองเรื่องแรกเป็นสิ่งที่คนภายนอกสามารถมองเห็นได้ แต่เรื่องเสบียงอาหารเป็นความลับ!

มีแต่เขาและเหล่าแม่ทัพเท่านั้นที่รู้

ไป๋หลี่หมิงรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

"นี่เจ้า!   เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากองทัพของเราขาดแคลนเสบียงอาหาร?  หรือว่าฮัวหยส่งสายลับ มาที่นี่” ซูเหมาโพล่งออกมา

"ถ้าท่านแม่ทัพพูดเช่นนั้นก็หมายความว่าข้าเดาถูกสินะ"  ไป๋หลี่หมิงยิ้ม   "แบบนี้ก็ครบสามประการแล้ว"

"เจ้า!"   ซูเหมาพูดไม่ออก

"ไฉ่ซ่างรู้ได้อย่างไรว่ากองทัพของเราขาดแคลนเสบียง?"  ซุนเกี๋ยน ถามอย่างสงสัย

"เรื่องนี้ไม่ใช่ข้าอนุมานจากกองทัพของท่านแม่ทัพ  แต่ข้าอนุมานจากสถานการณ์โดยรวมต่างหาก"  ไป๋หลี่หมิงอธิบาย

"ท่านแม่ทัพยกทัพมาในครั้งนี้  สังหารหวังรุ่ยและเตียวโป๋และเข้าร่วมกับหยวนซู  ดังนั้นทุกคนจึงคิดว่าท่านแม่ทัพอยู่ใต้อาณัติของหยวนซู  เสบียงอาหารล้วนมาจากหยวนซูทั้งสิ้น"

"ไม้ใหญ่มักโดนลมแรง กองทัพของท่านแม่ทัพเป็นกองหน้าเอาชนะข้าศึกมาโดยตลอด"

"ส่วนกองทัพอื่นๆ กลับไม่ได้เรื่อง  ไม่ได้ความ   พวกเขาต้องกริ่งเกรงท่านแม่ทัพ อย่างแน่นอน  หยวนซูเป็นคนใจแคบคงไม่ยอมให้กองทัพของท่านแม่ทัพบุกเข้าไปในเมืองหลวงก่อนเป็นแน่ ดังนั้น เขาจึงไม่ยอมส่งเสบียงอาหารให้ เพื่อสกัดกั้นท่านแม่ทัพ"

"ดังนั้น ข้าจึงมั่นใจว่ากองทัพของท่านแม่ทัพต้องขาดแคลนเสบียงอาหารอย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่ตอนนี้ แต่อนาคตก็คงจะลำบาก"

"นี่ไม่ใช่  ความพ่ายแพ้ของท่านแม่ทัพ  แต่เป็นความพ่ายแพ้ของเหล่าผู้นำที่ขาดความสามัคคี"

"ตอนนี้   ท่านแม่ทัพเสียเปรียบทั้งเวลา สถานที่ และผู้คน แบบนี้จะเอาชนะข้าศึกได้อย่างไร? "

"เมื่อท่านแม่ทัพเสียเปรียบ  ฮัวหยงก็ย่อมได้เปรียบ”

"ถ้าข้าเป็นฮัวหยง ข้าจะส่งสารท้ารบ หลอกล่อให้ท่านแม่ทัพเตรียมตัวสำหรับการสู้รบในวันพรุ่งนี้”

"หลังจากที่ท่านแม่ทัพ นอนหลับสนิท  ข้าก็จะยกทัพมาโจมตี   เผาค่าย  "

"ถึงตอนนั้น  ท่านแม่ทัพจะทำอย่างไร?"

"ดังนั้น หลังจากที่ได้เห็นสารท้ารบ  ข้าจึงมั่นใจว่าคืนนี้ฮัวหยงต้องยกทัพมาบุกอย่างแน่นอน และท่านแม่ทัพจะต้องพ่ายแพ้!”

ไป๋หลี่หมิง พูดจบก็มองซุนเกี๋ยนโดยไม่พูดอะไร

ซุนเกี๋ยนหน้าซีดเผือด

ก่อนที่ไป๋หลี่หมิงจะมาถึง  เขาคิดว่าสถานการณ์ดีมาก

ถึงแม้จะขาดแคลนเสบียงอาหาร  แต่ถ้าหากร้องขอไป หยวนซูคงไม่ใจร้ายใจดำ  ไม่ยอมส่งเสบียงอาหารให้

แต่ตอนนี้   หลังจากที่ได้ฟังไป๋หลี่หมิงวิเคราะห์แล้ว เขาถึงได้รู้ว่าสถานการณ์ของเขาอันตรายมาก

สามเรื่องที่ไป๋หลี่หมิงพูดมา ล้วนเป็นความจริง

ส่วนการกระทำของฮัวหยง  ก็เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน

ถ้าหากฮัวหยงไม่รู้ว่ากองทัพของเขาขาดแคลนเสบียงอาหาร  หลังจากที่พ่ายแพ้ไปเมื่อวานนี้ ทำไมวันนี้ฮัวหยงถึงส่งสารท้ารบมา?

นี่เป็นสัญญาณ บ่งบอกว่าฮัวหยงกำลังจะลงมือ!

ถ้าเป็นแบบนี้ คืนนี้เขาคงต้องเผชิญหน้ากับเคราะห์เลือดอย่างแน่นอน

เมื่อคิดถึงตรงนี้  เขาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เหงื่อเย็นผุดพรายไปทั่วร่าง!

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด