ตอนที่แล้วตอนที่ 275 ความคิดเล็กๆ ของ ซู หนิงซวง, ตอนที่ 276 ปิ๊งไอเดีย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 278 รางวัลท้าทายที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ด้วยเงิน

ตอนที่ 277 พรุ่งนี้... ยังจะมาอีกเหรอ?


เย่เฉิน เปิดกล่องอาหารออกมา ดวงตาเบิกกว้างทันที เพราะหน้าตาของมันดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว

“หนิงซวง นี่คุณทำทั้งหมดนี้เองเหรอ?”

เย่เฉิน ถามด้วยความประหลาดใจ

ดูจากหน้าตา และกลิ่นหอมแล้ว สองเมนูที่ หนิงซวง ทำออกมาดูดีมาก

“แน่นอน เธอลองชิมดูสิ”

ซู หนิงซวง พูดด้วยท่าทางภูมิใจ

ซู หนิงซวง พลันมอง เย่เฉิน ด้วยดวงตากลมโตใสปิ๊งของเธอ เธอคาดหวังกับคำติชมของ เย่เฉิน มาก

“โอเค งั้นผมจะลองชิมดู”

เย่เฉิน ก็คาดหวังเช่นกัน เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วลองชิมเมนูมะเขือเทศผัดไข่เป็นอย่างแรก

ทันใดนั้น สีหน้าของ เย่เฉิน ก็เปลี่ยนไป เขารีบก้มหน้าลงแล้วคีบข้าวคำใหญ่เขาปากไปทันที

เมื่อเห็นแบบนี้ ซู หนิงซวง ก็ดูตื่นเต้นมาก ดูเหมือนว่าอาหารฝีมือเธอจะถูกใจ เย่เฉิน ไม่น้อยเลย

หลังจากลองชิมเมนูมะเขือเทศผัดไข่เสร็จ เย่เฉิน ก็ลองชิมเมนูผัดมันฝรั่งเส้นเปรี้ยวเผ็ด

หลังจากทานเข้าไปเสร็จ เขาต้องรีบกินข้าวอีกสามคำใหญ่กว่าจะรู้สึกดีขึ้น

“เป็นไงบ้าง เป็นไงบ้าง?”

ซู หนิงซวง รีบถามอย่างกระตือรือร้น

“หนิงซวง คุณใส่พริกลงไปในเมนูผัดมันฝรั่งเส้นเปรี้ยวเผ็ดไปเท่าไหร่?”

เย่เฉิน ถามอย่างอ้อมๆ แบบมีไหวพริบ

“อ๋า เผ็ดเหรอ? ฉันไม่ได้ใส่เยอะเลย แค่ใส่ไปหนึ่งกำมือเดียวเท่านั้น”

ซู หนิงซวง ตอบอย่างอายๆ ราวกับรู้สึกผิดที่ทำพลาด

ใส่ไปแค่…หนึ่งกำมือเหรอ?

นี่มันเยอะไปแล้วนะ

ใครจะไปรู้ว่า ‘หนึ่งกำมือ’ ในความหมายของ หนิงซวง คือเท่าไหร่?

สามสี่เม็ดมันก็ถือเป็นหนึ่งกำมือ สิบสามสิบสี่เม็ดมันก็ถือเป็นหนึ่งกำมือ ..เช่นกัน

“ขอโทษนะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำ ดังนั้น..จึงยังไม่ค่อยชำนาญ”

ซู หนิงซวง พึมพำเบาๆ อย่างเขินอาย

“นี่เป็นครั้งแรกที่ทำเหรอ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณทำ?”

เมื่อได้ยิน ซู หนิงซวง พูดแบบนี้ เย่เฉิน ก็ดูประหลาดใจแล้ว

“ม-ไม่เลว ไม่เผ็ดเกินไป อีกอย่างผมชอบอาหารรสจัดนะ”

เย่เฉิน รีบเปลี่ยนคำพูด

นี่เป็นครั้งแรกที่ หนิงซวง ทำ เขาจึงไม่อยากทำลายความมั่นใจของเธอ

พูดตามตรง เมนูผัดมันฝรั่งเส้นเปรี้ยวเผ็ดของ หนิงซวง ไม่ได้แค่เผ็ดเท่านั้น แต่เผ็ดมากๆ!

“จริงๆ เหรอ งั้นฉันก็โล่งใจแล้ว”

เมื่อได้ยินคำชมของ เย่เฉิน ซู หนิงซวง ก็ดูตื่นเต้นมาก

“แล้วมะเขือเทศผัดไข่ล่ะ?”

ซู หนิงซวง ถามอีกครั้ง

“ก็ไม่เลวเหมือนกัน”

เย่เฉิน ตอบด้วยรอยยิ้มฝืนๆ

เขาสงสัยว่าเธอใส่เกลือไปมากขนาดไหนกันในมะเขือเทศผัดไข่

หน้าตาของอาหารที่ หนิงซวง ทำนั้นไม่เลวเลย แต่รสชาตินี่มัน...

“ทั้งหมดไม่เลวเลย ดีจัง งั้นรีบกินสิ เดี๋ยวจะเย็นชืดหมด”

ซู หนิงซวง เร่งเร้า

จู่ๆ เย่เฉิน ก็รู้สึกหนักใจขึ้นมาในทันที แต่เขาไม่อยากทำลายความรู้สึกของ หนิงซวง ดังนั้นเขาจึงฝืนกินมันเข้าไป

สุดท้าย เย่เฉิน ก็ทานอาหารทั้งสองเมนูจนหมด

โชคดีที่กล่องข้าวไม่ใหญ่ ไม่อย่างนั้น เย่เฉิน คงจะเดินออกจากโรงอาหารไม่ได้ในวันนี้

เมื่อเห็น เย่เฉิน กินข้าวจนเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่เม็ดเดียว ซู หนิงซวง ก็ยิ่งรู้สึกพอใจมาก

มันจบลงแล้ว ในที่สุดมันก็จบลง…

ขณะที่ เย่เฉิน เพิ่งถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แต่แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินประโยคต่อไปของ ซู หนิงซวง

“ในเมื่อรสชาติดี งั้น..พรุ่งนี้ฉันจะทำให้เธออีกนะ”

ซู หนิงซวง กล่าวขึ้นด้วยความกระตือรือร้น

พรุ่งนี้...ยังจะมาอีกเหรอ?

เย่เฉิน ถึงกับพูดไม่ออก จู่ๆ ร่างกายของเขาก็รู้สึกเย็นวาบขึ้นมาทั้งตัว

การกินอาหารมื้อนี้ ..ทำให้ เย่เฉิน ต้องพักฟื้นไปอีกนาน ถ้าพรุ่งนี้ต้องกินอีกเขาจะมีชีวิตรอดไหมเนี่ย?!!!

“ไม่เป็นไรหรอก หนิงซวง ทำอาหารมันเหนื่อย และไม่ดีต่อมือคุณด้วย…”

เย่เฉิน รีบหาข้ออ้าง และในที่สุดก็สามารถโน้มน้าวให้ ซู หนิงซวง ไม่ทำอาหารมาให้ในวันพรุ่งนี้ได้

วันนี้ หนิงซวง ไม่มีเรียน หลังจากอยู่กับ เย่เฉิน สักพักเธอก็จากไป

เย่เฉิน มองตามหลัง ซู หนิงซวง จนเธอเดินหายลับไปไกลแล้วจึงถอนหายใจยาวออกมา

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เย่เฉิน ไม่รู้ว่า ซู หนิงซวง กำลังคิดอะไรอยู่

“ถ้าไม่ทำพรุ่งนี้ งั้นมะรืนนี้ฉันจะทำให้เขาอีกก็ได้~”

ซู หนิงซวง ฮัมเพลงอย่างมีความสุขในใจ

บ่ายวันนั้น เย่เฉิน ต้องดื่มน้ำไปหลายขวดเพราะ ‘อาหารกลางวันแห่งความรัก’ ของ หนิงซวง

หลังจากเรียนจบในตอนบ่าย เมื่อ เย่เฉิน กำลังเตรียมตัวกลับบ้าน จ้าว อี้ลั่ว ก็เข้ามาหา

“รุ่นน้อง เย่ เธอมีเวลาว่างไหม ฉันจะพาเธอไปที่แห่งหนึ่ง”

จ้าว อี้ลั่ว ถามด้วยท่าทีลึกลับ

“ครับ”

เย่เฉิน พยักหน้าตอบรับ

เจ็ดถึงแปดนาทีต่อมา จ้าว อี้ลั่ว พา เย่เฉิน มาถึงห้องทำงานในภาควิชาภาษาจีน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

จ้าว อี้ลั่ว เคาะประตู

“เข้ามา”

เสียงชายชราดังขึ้น

หลังจากนั้น จ้าว อี้ลั่ว ก็พา เย่เฉิน เข้าไปในห้องทำงาน

“รุ่นน้อง เย่ นี่คือศาสตราจารย์เฉิน จงหมิง ศาสตราจารย์เฉิน เป็นกรรมการของสมาคมอักษรศาสตร์แห่งประเทศด้วย และท่านชื่นชอบผลงาน ‘เชิญร่ำสุรา’ ของเธอเป็นพิเศษ”

จ้าว อี้ลั่ว แนะนำ เย่เฉิน

ศาสตราจารย์เฉิน อยากพบ เย่เฉิน มาก และบังเอิญที่เขารู้จัก จ้าว อี้ลั่ว ดังนั้นเขาจึงขอให้เธอเชิญ เย่เฉิน มา

ในขณะนี้นอกจาก ศาสตราจารย์เฉิน แล้ว ยังมีชายวัยกลางคนอีกคนอยู่ในห้องทำงาน

เย่เฉิน มองไปที่ชายคนนั้นแล้วรู้สึกคุ้นเคย แต่ในตอนนั้นเขายังนึกไม่ออกว่าชายคนนั้นคือใคร

“สวัสดีครับ ศาสตราจารย์เฉิน”

เย่เฉิน ทักทายอย่างสุภาพ

“เพื่อนนักเรียน เย่ สวัสดี”

ศาสตราจารย์เฉิน ทักทายด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น

“เพื่อนนักเรียน เย่ ฉันเองก็ชื่นชอบการเขียนพู่กันจีน วันนี้ฉันเชิญเธอมาเพราะอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเขียนพู่กันจีน และพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้”

ศาสตราจารย์เฉิน พูดด้วยท่าทีที่เป็นกันเอง ไม่ได้วางตัวสูงส่ง แค่ต้องการเรียนรู้ซึ่งกัน และกันเหมือนเพื่อน

เมื่อได้ยิน ศาสตราจารย์เฉิน พูดเช่นนี้ ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้

“เพื่อนนักเรียน เย่ เธอช่วยเขียนอักษรให้ฉันดูหน่อยได้ไหม?”

ศาสตราจารย์เฉิน ถามอย่างสุภาพ

“ได้ครับ”

ศาสตราจารย์เฉิน สุภาพมากขนาดนี้ เย่เฉิน จึงไม่สามารถปฏิเสธคำขอของเขาได้

พู่กัน, หมึก, กระดาษ และแท่นหมึก ได้ถูกเตรียมไว้แล้วในห้องทำงานของ ศาสตราจารย์เฉิน

วินาทีต่อมา ภายใต้สายตาของ ศาสตราจารย์เฉิน ชายวัยกลางคน และจ้าว อี้ลั่ว เย่เฉิน ก็หยิบพู่กันขึ้นมา

บนกระดาษขนาดใหญ่ เย่เฉิน เริ่มเขียนประโยคแรกของ ‘หลันถิงซวี่(兰亭序)’ – พลับพลากล้วยไม้ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นลายฝีพู่กันตัวอักษรจีนที่สวยงามที่สุดในใต้หล้าของ หวัง ซีจือ(王羲之) ว่า – ‘หย่งเหอปีที่เก้า ปีแห่งกุ่ยโฉว(癸丑) ในตอนต้นของพลบค่ำฤดูใบไม้ผลิ พวกเราได้มารวมตัวกันที่ศาลาหลานถิง เมืองซานหยิน…(永和九年,岁在癸丑,暮春之初,会于会稽山阴之兰亭.........)

เมื่อเห็นลายเส้นพู่กันที่พริ้วไหวดั่งมังกรทะยานของ เย่เฉิน ศาสตราจารย์เฉิน ถึงกับตะลึงอย่างยิ่ง

ก่อนหน้านี้เขาเห็นเพียงงานเขียนปากกาของ เย่เฉิน แต่ตอนนี้ที่ได้เห็น เย่เฉิน เขียนด้วยตาตัวเองต่อหน้า ศาสตราจารย์เฉิน ถึงกับประหลาดใจอย่างที่สุดจนพูดไม่ออก

เขาเข้าใจผิดที่ประเมิน เพื่อนนักเรียน เย่ คนนี้ต่ำไป

นี่มันราวกับว่าตำนานการเขียนพู่กันอย่าง หวัง ซีจือ ได้กลับชาติมาเกิดใหม่!

(กุ่ยโฉว(癸丑) - เป็นหนึ่งในรอบปีในปฏิทินจีนโบราณ ซึ่งประกอบด้วยรอบสิบสองสัตว์ และรอบสิบหลัก มีความหมายถึงปีหนึ่งในวัฏจักรของปฏิทินจีน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด