ตอนที่แล้วตอนที่ 16 รับใช้เพียงหนึ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 เหล่าองค์ชายตกใจ

ตอนที่ 17 รายงานจากกองทัพซุนเกี๋ยน


หลังจากจัดแจงให้ไป๋หลี่หมิงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางทหาร ซุนเกี๋ยนก็อดใจรอไม่ไหว  จึงถามถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่าควรจะไล่ตามชัยชนะและโจมตีลั่วหยางเลยหรือไม่

ไป๋หลี่หมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า

"ถึงแม้ว่าตั๋งโต๊ะจะพ่ายแพ้  แต่กองทัพของเขายังคงแข็งแกร่ง  มีทหารหลายแสนนาย  "

"ตอนนี้ ด่านโสหุยแตก  ตั๋งโต๊ะต้องส่งกำลังเสริมมาอย่างแน่นอน ถ้าหากพวกเรารีบบุกไปลั่วหยาง  พวกเราก็จะตกเป็นเป้าหมาย  "

"ประการที่สอง  ตอนนี้กองทัพพันธมิตรยังคงอยู่ที่ซัวจ่าว กองทัพทั้งหมดถูกปิดล้อมอยู่ที่ด่านหู่เหลา ถ้าหากพวกเรายกทัพไปลั่วหยาง  แล้วอ๋องคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร?   "

"สู้เรารายงานเรื่องนี้ให้อ้วนเสี้ยว(หยวนเซ่า)ก่อน ขอให้เขานำทัพมาสมทบที่นี่"

"อย่างแรก  ถ้าหากกองทัพพันธมิตรมาถึง  พวกเราก็ไม่ต้องกลัวกองทัพตั๋งโต๊ะ  "

"อย่างที่สอง รายงานความดีความชอบ ขอรับรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารทั้งสามกองทัพ”

“ช่วงนี้ กองทัพเราสามารถรับเชลยศึก  พักฟื้น  และวางแผนหลังจากที่กองกำลังผสมมาถึง!”

ซุนเกี๋ยนฟังแล้วก็เงียบ

ถึงแม้ว่าเขาอยากจะบุกไปลั่วหยาง  แต่คำพูดของไป๋หลี่หมิงก็มีเหตุผล

กองทัพของเขามีทหารสี่หมื่นนาย

แต่มันก็ยังน้อยเกินไป  ถ้าเทียบกับกองทัพของตั๋งโต๊ะ

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ทำตามคำแนะนำของไป๋หลี่หมิง ส่งจดหมายไปหาอ้วนเสี้ยว ขอให้เขารีบส่งกำลังเสริมมาโดยเร็ว

ในขณะเดียวกัน  เขาก็สั่งให้แม่ทัพฝึกฝนทหารและรับเชลยศึกจากซีเหลียงทั้งหมด ตอนนี้กำลังรบของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก!

......

เฉินหลิว ซัวจ่าว ค่ายพันธมิตร

ในขณะที่กองทัพของซุนเกี๋ยนแข็งแกร่งขึ้น

บรรยากาศในค่ายพันธมิตรกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ไม่มีเหตุผลอะไรอื่น  นอกจากกองทัพพันธมิตรเพิ่งจะพ่ายแพ้

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน

หลังจากที่ซุนเกี๋ยนยกทัพ  ฝ่ายพันธมิตรก็มีองค์ชายคนหนึ่งชื่อว่าเปาซิ่น

เพราะเขากลัวว่าซุนเกี๋ยนจะได้รับความดีความชอบไป  จึงแอบส่งเปาจง น้องชายนำทหารสามพันนายไปยึดด่านโสหุย

แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกฮัวหยงนำทหารม้าห้าร้อยนายมาต้าน

ไม่เพียงแต่  กองทัพของเขาจะถูกทำลาย  แม้แต่เปาจงก็ยังถูกฆ่าตาย

แม้ว่าความพ่ายแพ้นี้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย  แต่มันก็ทำให้ฝ่ายพันธมิตรตระหนักถึงความแข็งแกร่งของกองทัพตั๋งโต๊ะ

"ตอนนี้ ซูหยงตั้งรับอยู่ที่ด่านหู่เหลา กองทัพของเราไม่สามารถรุกคืบได้ สู้รบกันมาหลายครั้ง ก็ยังไม่มีใครชนะ"อ้วนเสี้ยวนั่งอยู่บนบัลลังก์ขมวดคิ้ว

"เมื่อวานซืน น้องชายของแม่ทัพเปาฝ่าฝืนคำสั่ง  และยกทัพโดยพลการ สุดท้ายก็ถูกฮัวหยงฆ่าตายและเสียทหารไปมากมาย"

"ตอนนี้  กองทัพของเราถูกขัดขวางทหารเริ่มหมดขวัญกำลังใจ  พวกท่านว่าเราควรทำอย่างไรดี?   "

พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็พากันเงียบ

กองทัพถูกปิดล้อม ปัญหานี้ไม่เล็กไม่ใหญ่

มองในแง่ดี  อย่างน้อยก็ไม่มีใครตาย

แต่มองในแง่ร้าย เสบียงอาหารก็ร่อยหรอลงทุกวัน

กองทัพพันธมิตรมีทหารเกือบสามแสนนาย  อาหารที่กินในแต่ละวัน  มันมากมายมหาศาล

ต่อให้รวยแค่ไหน ก็คงจะเลี้ยงได้ไม่เกินสองเดือน

ถ้าหากภายในสองเดือน ยังไม่สามารถบุกไปถึงลั่วหยางได้  ความพยายามทั้งหมดก็จะสูญเปล่า!

อ้วนเสี้ยวมองไปรอบๆ  เห็นคนสามคน ยืนอยู่ข้างหลังกงซุนจ้าน แต่ละคนดูไม่ธรรมดา เขาก็อดสงสัยไม่ได้  "คนที่อยู่ข้างหลังท่านคือใคร?"

"นี่คือสหายร่วมเรียนของข้า  เล่าปี่(หลิวเป่ย) ผู้สำเร็จราชการแห่งผิงหยวน  "  กงซุนจ้านรีบแนะนำ

"หรือท่านคือเล่าเสียนเต๋อ  ผู้ปราบโจรโพกผ้าเหลือง? " โจโฉรีบถาม

"ใช่แล้ว!" กงซุนจ้านพยักหน้า รีบบอกพวกเล่าปี่ให้ก้าวมาข้างหน้าและอธิบาย

อ้วนเสี้ยวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง  ก็พยักหน้าและพูดว่า"ในเมื่อพวกท่าน  เป็นขุนนางของราชวงศ์ฮั่น เชิญนั่งก่อนเถอะ"

หลังจากเล่าปี่ขอบคุณและนั่งลง เขาก็มองไปรอบๆแล้วขมวดคิ้ว"พวกท่าน "  เล่าปี่ขมวดคิ้ว

"ไม่มีแผนอะไรเลยรึ?"

ทุกคนมองหน้ากันและเงียบอีกครั้ง

"ท่านพี่ ข้าว่าซุนเกี๋ยนกล้าหาญ  เราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆ ก็ได้  "  โจโฉทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นพูด

"หืม?" อ้วนเสี้ยว

"รอดูสถานการณ์?   "

"ข้าก็อยากจะรอดูสถานการณ์หรอกนะ  "

"แต่น่าเสียดาย  ที่บางคนไม่ต้องการ!"

"บอกตามตรง  เมื่อวาน  ข้าได้รับข่าวว่า กองทัพของซุนเกี๋ยนปะทะกับกองทัพตั๋งโต๊ะที่ด่านโสหุย  "

"ซุนเกี๋ยน  ฆ่าหูเจินแม่ทัพของตั๋งโต๊ะ  "

"และทำลายทหารม้าห้าพันนาย!"

"นี่...   นั่นมันข่าวดีนี่!" โจโฉดีใจมาก  "เหตุใด   "

"ทำไมท่านไม่รีบบอกพวกเรา  "

ทุกคนดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น

พวกเขาคิดว่ากองทัพทั้งสองสายไร้ประโยชน์

ไม่คิดเลยว่ากองทัพของซุนเกี๋ยนจะเป็นฝ่ายบุกทะลวงได้ก่อน

"ดีใจได้ไม่นานหรอก  "  อ้วนเสี้ยวกลับไม่รู้สึกดีใจ

"เมื่อวาน  ซุนเกี๋ยนไม่เพียงแต่ส่งจดหมายรายงาน  แต่ยังส่งจดหมายขอเสบียงอีกด้วย!"

"ตอนนี้กองทัพของซุนเกี๋ยน  เหลือเสบียงอีกแค่วันเดียว!"

"ข้าเร่งให้ส่งเสบียงไปให้เขาหลายครั้ง  "

"แต่จนถึงตอนนี้  ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครส่งไป  "

"ไม่มีเสบียงอาหาร  แล้วจะให้เขารบอย่างไร?   "

พูดไปถึงตรงนี้  เขาก็ได้เปิดเผยเจตนาแท้จริงแล้วและมองอ้วนสุดที่นั่งทางซ้ายด้วยแววตาเย็นชา  "หยวนกงลู่ หยวนกงลู่ เจ้าทำบ้าอะไร?”(หยวนกงลู่คือชื่อรองของอ้วนสุด ชื่อจีนกลางคือหยวนซู อ้วนเสี้ยวเป็นพี่ชายของอ้วนสุด เลยเรียกน้องด้วยชื่อรอง)

พอทุกคนได้ยินแบบนั้น   ก็ตกใจมาก

มิน่าล่ะอ้วนเสี้ยวถึงดูโกรธ  ที่แท้  ก็เป็นเพราะเรื่องนี้เอง!

ทุกคนมองไปที่อ้วนสุดด้วยแววตาไม่พอใจ

พวกเขาไม่สนใจหรอกนะว่าพี่น้องจะทะเลาะกัน

แต่อย่าลืมว่าตอนนี้พวกเขากำลังทำศึกอยู่

ไม่ส่งเสบียงให้ซุนเกี๋ยน  มันใช่เรื่องหรือไง?

ถ้าหาก ซุนเกี๋ยนแพ้  ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ?

ชั่วขณะ  ทุกสายตาในค่ายต่างก็จับจ้องไปที่อ้วนสุด

"ทำไมต้องมองข้าแบบนั้น?"   อ้วนสุด

"หรือพวกท่านคิดว่า  ข้าไม่อยากให้?   "

"ความจริง  เสบียงอาหารในค่าย มันเหลือน้อยเต็มทีแล้ว  "

"ตอนนี้  ใกล้จะถึงฤดูใบไม้ผลิ  "

"ชาวบ้านต่างก็ยุ่งอยู่กับการเพาะปลูก   ต่อให้จะขนเสบียง  ก็ไม่มีคนขน  "

"ถ้าหาก  ข้าไม่วางแผนให้ดีพวกท่านจะเอาอะไรกิน?   "

"ข้ารู้ว่า กองทัพของซุนเกี๋ยนขาดแคลนเสบียง  "

"แต่อีกแค่วันสองวันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร!"

ไอ้คนหน้าด้าน!

พวกเขาอยากจะด่าออกมาดังๆ

เสบียงอาหารขาดแคลนแค่ 1-2 วัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่?

อย่าว่าแต่หนึ่งวันเลย แค่มื้อเดียว ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว

การต่อสู้ เป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลังมาก

ยิ่งไปกว่านั้น  ตอนนี้  กองทัพซุนเกี๋ยนไม่มีอะไรกินแล้ว!

มิน่าล่ะ อ้วนเสี้ยวถึงโกรธ

ถ้าไม่ติดว่าอ้วนสุดมีอำนาจ  พวกเขาคงลุกขึ้นด่าไปแล้ว!

"ถ้าหากเจ้าไม่อยากเป็นคนดูแลเสบียง   ก็เปลี่ยนคนอื่น  "   อ้วนเสี้ยวมองอ้วนสุด

"ไม่เห็นต้องมาพูดอ้อมค้อม!"

"หึ!"  อ้วนสุด

"เปลี่ยนก็เปลี่ยน ใครอยากเป็น  ก็เชิญ!"

"...."   โจโฉเห็นบรรยากาศไม่ดีจึงรีบลุกขึ้น

"ท่านอ้วนเสี้ยว ท่านแม่ทัพอ้วนสุด ใจเย็นๆ ก่อน  "

"ต่อให้จะเปลี่ยนคนก็ต้องใช้เวลา  "

"ตอนนี้  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรีบส่งเสบียงไปให้กองทัพของซุนเกี๋ยนก่อน   "

"ท่านซุนเกี๋ยนเป็นกำลังสำคัญในการตีด่านโสหุย  ถ้าหากเขาไม่มีเสบียงก็แย่แน่!  "

อ้วนเสี้ยวแค่นเสียง เบือนหน้าหนี

ส่วนอ้วนสุดก็ทำท่าทางใจกว้าง

"เอาล่ะ  ข้าจะไม่ถือสาพวกเจ้าก็แล้วกัน  "

"ซุนเกี๋ยนขาดแคลนเสบียงใช่ไหม?"

"ในกองทัพ  ไม่มีเสบียงเหลือแล้ว  "

"พวกเจ้าก็อดทนอีกสัก 2-3 วัน  แล้วข้าจะรีบส่งไปให้!   "

พูดจบเขาก็แกล้งทำเป็นสั่งให้ทหารไปเตรียมเสบียง

ทุกคนขมวดคิ้ว   ถ้าหากส่งไปวันนี้กว่าจะถึงก็คงเป็นพรุ่งนี้

แบบนี้ทหารของซุนเกี๋ยนคงจะอดตายกันหมดแล้ว!

"รายงาน! ท่านแม่ทัพ  มีรายงานด่วนจากกองทัพซุนเกี๋ยนขอรับ!   "

จดหมายรายงาน?

ทุกคนตกใจ   ไม่ใช่จดหมายขอเสบียง  แต่เป็นจดหมายรายงาน?

หรือว่าซุนเกี๋ยนจะพ่ายแพ้แล้ว?

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด