ตอนที่ 17 รายงานจากกองทัพซุนเกี๋ยน
หลังจากจัดแจงให้ไป๋หลี่หมิงดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางทหาร ซุนเกี๋ยนก็อดใจรอไม่ไหว จึงถามถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่าควรจะไล่ตามชัยชนะและโจมตีลั่วหยางเลยหรือไม่
ไป๋หลี่หมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า
"ถึงแม้ว่าตั๋งโต๊ะจะพ่ายแพ้ แต่กองทัพของเขายังคงแข็งแกร่ง มีทหารหลายแสนนาย "
"ตอนนี้ ด่านโสหุยแตก ตั๋งโต๊ะต้องส่งกำลังเสริมมาอย่างแน่นอน ถ้าหากพวกเรารีบบุกไปลั่วหยาง พวกเราก็จะตกเป็นเป้าหมาย "
"ประการที่สอง ตอนนี้กองทัพพันธมิตรยังคงอยู่ที่ซัวจ่าว กองทัพทั้งหมดถูกปิดล้อมอยู่ที่ด่านหู่เหลา ถ้าหากพวกเรายกทัพไปลั่วหยาง แล้วอ๋องคนอื่นๆ จะคิดอย่างไร? "
"สู้เรารายงานเรื่องนี้ให้อ้วนเสี้ยว(หยวนเซ่า)ก่อน ขอให้เขานำทัพมาสมทบที่นี่"
"อย่างแรก ถ้าหากกองทัพพันธมิตรมาถึง พวกเราก็ไม่ต้องกลัวกองทัพตั๋งโต๊ะ "
"อย่างที่สอง รายงานความดีความชอบ ขอรับรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารทั้งสามกองทัพ”
“ช่วงนี้ กองทัพเราสามารถรับเชลยศึก พักฟื้น และวางแผนหลังจากที่กองกำลังผสมมาถึง!”
ซุนเกี๋ยนฟังแล้วก็เงียบ
ถึงแม้ว่าเขาอยากจะบุกไปลั่วหยาง แต่คำพูดของไป๋หลี่หมิงก็มีเหตุผล
กองทัพของเขามีทหารสี่หมื่นนาย
แต่มันก็ยังน้อยเกินไป ถ้าเทียบกับกองทัพของตั๋งโต๊ะ
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ทำตามคำแนะนำของไป๋หลี่หมิง ส่งจดหมายไปหาอ้วนเสี้ยว ขอให้เขารีบส่งกำลังเสริมมาโดยเร็ว
ในขณะเดียวกัน เขาก็สั่งให้แม่ทัพฝึกฝนทหารและรับเชลยศึกจากซีเหลียงทั้งหมด ตอนนี้กำลังรบของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก!
......
เฉินหลิว ซัวจ่าว ค่ายพันธมิตร
ในขณะที่กองทัพของซุนเกี๋ยนแข็งแกร่งขึ้น
บรรยากาศในค่ายพันธมิตรกลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ไม่มีเหตุผลอะไรอื่น นอกจากกองทัพพันธมิตรเพิ่งจะพ่ายแพ้
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน
หลังจากที่ซุนเกี๋ยนยกทัพ ฝ่ายพันธมิตรก็มีองค์ชายคนหนึ่งชื่อว่าเปาซิ่น
เพราะเขากลัวว่าซุนเกี๋ยนจะได้รับความดีความชอบไป จึงแอบส่งเปาจง น้องชายนำทหารสามพันนายไปยึดด่านโสหุย
แต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกฮัวหยงนำทหารม้าห้าร้อยนายมาต้าน
ไม่เพียงแต่ กองทัพของเขาจะถูกทำลาย แม้แต่เปาจงก็ยังถูกฆ่าตาย
แม้ว่าความพ่ายแพ้นี้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้ฝ่ายพันธมิตรตระหนักถึงความแข็งแกร่งของกองทัพตั๋งโต๊ะ
"ตอนนี้ ซูหยงตั้งรับอยู่ที่ด่านหู่เหลา กองทัพของเราไม่สามารถรุกคืบได้ สู้รบกันมาหลายครั้ง ก็ยังไม่มีใครชนะ"อ้วนเสี้ยวนั่งอยู่บนบัลลังก์ขมวดคิ้ว
"เมื่อวานซืน น้องชายของแม่ทัพเปาฝ่าฝืนคำสั่ง และยกทัพโดยพลการ สุดท้ายก็ถูกฮัวหยงฆ่าตายและเสียทหารไปมากมาย"
"ตอนนี้ กองทัพของเราถูกขัดขวางทหารเริ่มหมดขวัญกำลังใจ พวกท่านว่าเราควรทำอย่างไรดี? "
พอได้ยินแบบนั้น ทุกคนก็พากันเงียบ
กองทัพถูกปิดล้อม ปัญหานี้ไม่เล็กไม่ใหญ่
มองในแง่ดี อย่างน้อยก็ไม่มีใครตาย
แต่มองในแง่ร้าย เสบียงอาหารก็ร่อยหรอลงทุกวัน
กองทัพพันธมิตรมีทหารเกือบสามแสนนาย อาหารที่กินในแต่ละวัน มันมากมายมหาศาล
ต่อให้รวยแค่ไหน ก็คงจะเลี้ยงได้ไม่เกินสองเดือน
ถ้าหากภายในสองเดือน ยังไม่สามารถบุกไปถึงลั่วหยางได้ ความพยายามทั้งหมดก็จะสูญเปล่า!
อ้วนเสี้ยวมองไปรอบๆ เห็นคนสามคน ยืนอยู่ข้างหลังกงซุนจ้าน แต่ละคนดูไม่ธรรมดา เขาก็อดสงสัยไม่ได้ "คนที่อยู่ข้างหลังท่านคือใคร?"
"นี่คือสหายร่วมเรียนของข้า เล่าปี่(หลิวเป่ย) ผู้สำเร็จราชการแห่งผิงหยวน " กงซุนจ้านรีบแนะนำ
"หรือท่านคือเล่าเสียนเต๋อ ผู้ปราบโจรโพกผ้าเหลือง? " โจโฉรีบถาม
"ใช่แล้ว!" กงซุนจ้านพยักหน้า รีบบอกพวกเล่าปี่ให้ก้าวมาข้างหน้าและอธิบาย
อ้วนเสี้ยวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าและพูดว่า"ในเมื่อพวกท่าน เป็นขุนนางของราชวงศ์ฮั่น เชิญนั่งก่อนเถอะ"
หลังจากเล่าปี่ขอบคุณและนั่งลง เขาก็มองไปรอบๆแล้วขมวดคิ้ว"พวกท่าน " เล่าปี่ขมวดคิ้ว
"ไม่มีแผนอะไรเลยรึ?"
ทุกคนมองหน้ากันและเงียบอีกครั้ง
"ท่านพี่ ข้าว่าซุนเกี๋ยนกล้าหาญ เราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆ ก็ได้ " โจโฉทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นพูด
"หืม?" อ้วนเสี้ยว
"รอดูสถานการณ์? "
"ข้าก็อยากจะรอดูสถานการณ์หรอกนะ "
"แต่น่าเสียดาย ที่บางคนไม่ต้องการ!"
"บอกตามตรง เมื่อวาน ข้าได้รับข่าวว่า กองทัพของซุนเกี๋ยนปะทะกับกองทัพตั๋งโต๊ะที่ด่านโสหุย "
"ซุนเกี๋ยน ฆ่าหูเจินแม่ทัพของตั๋งโต๊ะ "
"และทำลายทหารม้าห้าพันนาย!"
"นี่... นั่นมันข่าวดีนี่!" โจโฉดีใจมาก "เหตุใด "
"ทำไมท่านไม่รีบบอกพวกเรา "
ทุกคนดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น
พวกเขาคิดว่ากองทัพทั้งสองสายไร้ประโยชน์
ไม่คิดเลยว่ากองทัพของซุนเกี๋ยนจะเป็นฝ่ายบุกทะลวงได้ก่อน
"ดีใจได้ไม่นานหรอก " อ้วนเสี้ยวกลับไม่รู้สึกดีใจ
"เมื่อวาน ซุนเกี๋ยนไม่เพียงแต่ส่งจดหมายรายงาน แต่ยังส่งจดหมายขอเสบียงอีกด้วย!"
"ตอนนี้กองทัพของซุนเกี๋ยน เหลือเสบียงอีกแค่วันเดียว!"
"ข้าเร่งให้ส่งเสบียงไปให้เขาหลายครั้ง "
"แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครส่งไป "
"ไม่มีเสบียงอาหาร แล้วจะให้เขารบอย่างไร? "
พูดไปถึงตรงนี้ เขาก็ได้เปิดเผยเจตนาแท้จริงแล้วและมองอ้วนสุดที่นั่งทางซ้ายด้วยแววตาเย็นชา "หยวนกงลู่ หยวนกงลู่ เจ้าทำบ้าอะไร?”(หยวนกงลู่คือชื่อรองของอ้วนสุด ชื่อจีนกลางคือหยวนซู อ้วนเสี้ยวเป็นพี่ชายของอ้วนสุด เลยเรียกน้องด้วยชื่อรอง)
พอทุกคนได้ยินแบบนั้น ก็ตกใจมาก
มิน่าล่ะอ้วนเสี้ยวถึงดูโกรธ ที่แท้ ก็เป็นเพราะเรื่องนี้เอง!
ทุกคนมองไปที่อ้วนสุดด้วยแววตาไม่พอใจ
พวกเขาไม่สนใจหรอกนะว่าพี่น้องจะทะเลาะกัน
แต่อย่าลืมว่าตอนนี้พวกเขากำลังทำศึกอยู่
ไม่ส่งเสบียงให้ซุนเกี๋ยน มันใช่เรื่องหรือไง?
ถ้าหาก ซุนเกี๋ยนแพ้ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ?
ชั่วขณะ ทุกสายตาในค่ายต่างก็จับจ้องไปที่อ้วนสุด
"ทำไมต้องมองข้าแบบนั้น?" อ้วนสุด
"หรือพวกท่านคิดว่า ข้าไม่อยากให้? "
"ความจริง เสบียงอาหารในค่าย มันเหลือน้อยเต็มทีแล้ว "
"ตอนนี้ ใกล้จะถึงฤดูใบไม้ผลิ "
"ชาวบ้านต่างก็ยุ่งอยู่กับการเพาะปลูก ต่อให้จะขนเสบียง ก็ไม่มีคนขน "
"ถ้าหาก ข้าไม่วางแผนให้ดีพวกท่านจะเอาอะไรกิน? "
"ข้ารู้ว่า กองทัพของซุนเกี๋ยนขาดแคลนเสบียง "
"แต่อีกแค่วันสองวันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร!"
ไอ้คนหน้าด้าน!
พวกเขาอยากจะด่าออกมาดังๆ
เสบียงอาหารขาดแคลนแค่ 1-2 วัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่?
อย่าว่าแต่หนึ่งวันเลย แค่มื้อเดียว ก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว
การต่อสู้ เป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลังมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ กองทัพซุนเกี๋ยนไม่มีอะไรกินแล้ว!
มิน่าล่ะ อ้วนเสี้ยวถึงโกรธ
ถ้าไม่ติดว่าอ้วนสุดมีอำนาจ พวกเขาคงลุกขึ้นด่าไปแล้ว!
"ถ้าหากเจ้าไม่อยากเป็นคนดูแลเสบียง ก็เปลี่ยนคนอื่น " อ้วนเสี้ยวมองอ้วนสุด
"ไม่เห็นต้องมาพูดอ้อมค้อม!"
"หึ!" อ้วนสุด
"เปลี่ยนก็เปลี่ยน ใครอยากเป็น ก็เชิญ!"
"...." โจโฉเห็นบรรยากาศไม่ดีจึงรีบลุกขึ้น
"ท่านอ้วนเสี้ยว ท่านแม่ทัพอ้วนสุด ใจเย็นๆ ก่อน "
"ต่อให้จะเปลี่ยนคนก็ต้องใช้เวลา "
"ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรีบส่งเสบียงไปให้กองทัพของซุนเกี๋ยนก่อน "
"ท่านซุนเกี๋ยนเป็นกำลังสำคัญในการตีด่านโสหุย ถ้าหากเขาไม่มีเสบียงก็แย่แน่! "
อ้วนเสี้ยวแค่นเสียง เบือนหน้าหนี
ส่วนอ้วนสุดก็ทำท่าทางใจกว้าง
"เอาล่ะ ข้าจะไม่ถือสาพวกเจ้าก็แล้วกัน "
"ซุนเกี๋ยนขาดแคลนเสบียงใช่ไหม?"
"ในกองทัพ ไม่มีเสบียงเหลือแล้ว "
"พวกเจ้าก็อดทนอีกสัก 2-3 วัน แล้วข้าจะรีบส่งไปให้! "
พูดจบเขาก็แกล้งทำเป็นสั่งให้ทหารไปเตรียมเสบียง
ทุกคนขมวดคิ้ว ถ้าหากส่งไปวันนี้กว่าจะถึงก็คงเป็นพรุ่งนี้
แบบนี้ทหารของซุนเกี๋ยนคงจะอดตายกันหมดแล้ว!
"รายงาน! ท่านแม่ทัพ มีรายงานด่วนจากกองทัพซุนเกี๋ยนขอรับ! "
จดหมายรายงาน?
ทุกคนตกใจ ไม่ใช่จดหมายขอเสบียง แต่เป็นจดหมายรายงาน?
หรือว่าซุนเกี๋ยนจะพ่ายแพ้แล้ว?