ตอนที่แล้วตอนที่ 14 ชัยชนะอันยิ่งใหญ่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 รับใช้เพียงหนึ่ง

ตอนที่ 15 โปรดออกมาช่วยข้าปราบกบฎ


"เจ้าคือจ้าวเซิน?"

หลังจากซุนเกี๋ยนจัดการธุระต่าง ๆ ภายในด่าน สั่งให้แม่ทัพผลัดกันเข้าเวรยาม และหลังจากรวบรวมเชลยแล้ว เขาก็มาที่ห้องโถงภายในด่าน

จ้าวเซินคุกเข่าอยู่บนพื้น พอได้ยินแบบนั้น เขาก็โค้งคำนับและพูดว่า

"ขุนพลผู้พ่ายแพ้ จ้าวเซิน ขอคารวะท่านแม่ทัพ!"

"ท่านแม่ทัพ  ลุกขึ้นเถิด"ซุนเกี๋ยนรีบลุกขึ้นประคองเขา

"ท่านเป็นคนดี  ทำไมต้องมากพิธี?  "

"ขุนพลผู้พ่ายแพ้ ไร้ซึ่งคุณงามความดี  "  จ้าวเซินกล่าวอย่างละอายใจ

"ข้าเพียงหวังว่าท่านแม่ทัพจะไม่รังเกียจ  และเต็มใจให้ข้านำม้าและแส้ภายใต้บัญชาของท่าน!”

"ท่านแม่ทัพ  ทำไมถึงพูดเช่นนี้"   ซุนเกี๋ยนหัวเราะ

"ท่านเป็นคนมองการณ์ไกล   รู้ว่าสิ่งใดควร  สิ่งใดไม่ควร ทอดทิ้งความมืด เลือกเข้าร่วมกับแสงสว่าง เฝ้าคลังและป้องกันก่ารสูญเสีย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จแล้ว "

"ตอนนี้  กองทัพของข้าขาดแคลนคนมีความสามารถและ กำลังต้องการคนมีความสามารถเช่นท่าน  "

"แต่ข้าสงสัยเรื่องหนึ่ง หวังว่าท่านจะช่วยข้าไขข้อสงสัยได้ "

จ้าวเซินดีใจมากที่ซุนเกี๋ยนเต็มใจจะใช้เขา

"ท่านแม่ทัพ โปรด  "

"ไม่มีอะไรมาก  ข้าแค่สงสัยว่า  ตอนที่กองทัพของเรารุกเข้าด่าน  ในด่านยังมีทหารอีกตั้งสองหมื่นกว่านาย  ทำไมท่านไม่หนีไปกับหลี่ซู?  "  ซุนเกี๋ยนถาม

"ทำไมถึงอยู่ที่นี่และทรยศเขา?   "

พอโดนถามแบบนี้  จ้าวเซินก็รู้สึกอาย

หนี?

เขาอยากหนีจะแย่!

ในบรรดาแม่ทัพทั้งสี่ที่ตั๋งโต๊ะส่งมา  เขามียศต่ำที่สุด

หูเจินก็ถูกซุนเกี๋ยนฆ่าตายไปแล้ว

ส่วนฮัวหยงก็ตายในศึกเมื่อคืน

เหลือแค่เขากับหลี่ซู

เมื่อวาน ตอนที่เขาดูแลด่าน  เขากังวลว่าฮัวหยงจะตำหนิ จึงคอยคะยั้นคะยอให้หลี่ซูเปิดประตูเมือง   สุดท้ายจึงพ่ายแพ้ยับเยิน

ถ้าเขากับหลี่ซูกลับไปหาตั๋งโต๊ะ  หลี่ซูต้องโยนความผิดทั้งหมดให้เขาอย่างแน่นอน

เขาไม่รู้ว่าหลี่ซูจะตายหรือไม่  แต่เขาต้องตายแน่!

ตั๋งโต๊ะมีคนมากมาย ฆ่าเขาทิ้ง  ก็ไม่แปลก

แทนที่จะหนีไปตาย  สู้ยอมสวามิภักดิ์กับซุนเกี๋ยนดีกว่า

ในเมื่อตอนนี้  ซุนเกี๋ยนยึดด่านโสหุยได้แล้ว

เขาก็ทำได้แค่  ปกป้องคลังสมบัติไว้

พูดง่ายๆก็คือ   ไม่มีทางเลือก

แต่ในเมื่อซุนเกี๋ยนถาม เขาคงไม่พูดความจริง จึงทำได้แค่พูดอย่างชอบธรรมว่า

"ตั๋งโต๊ะ   มันเป็นกบฏแผ่นดิน!   "

"ตั้งแต่  มันก่อความวุ่นวาย  ทำลายราชสำนัก   ข้าก็เกลียดมันเข้ากระดูกดำ  "

"โชคดีที่  พวกท่านยกทัพมาปราบกบฏ  ข้าอยากจะเข้าร่วมกับพวกท่านมานานแล้ว  แต่น่าเสียดายที่ข้ามียศต่ำไม่มีโอกาสและมีทหารน้อย "

"โชคดี นายท่านกล้าหาญและชนะมาหลายศึก สุดท้ายก็พิชิตโสหุยได้”

“พอเห็นกองทัพอันชอบธรรมของท่านต่อหน้าแล้ว ข้าจะยังเข้าร่วมกับกบฎตั๋งโต๊ะได้อย่างไร!”

“นัน่ทำให้ข้านำกองทัพมาเข้าร่วมกับท่าน!”

“ข้าซาบซึ้งใจมากที่ท่านไม่ทิ้งข้า โปรดรับความเคารพจากข้าอีกครั้ง”

พูดจบ  จ้าวเซินก็คุกเข่าลงอีกครั้ง

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า   ท่านแม่ทัพ  ลุกขึ้นเถิด  "  ซุนเกี๋ยนหัวเราะ  แต่ก็ยังช่วยพยุงจ้าวเซินขึ้น

ถึงแม้ว่าคำพูดของจ้าวเซินจะฟังดูชอบธรรม

แต่เขาก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมด

"ในเมื่อท่านแม่ทัพ มีความภักดี  ข้าจะนั่งเฉยไม่ทำอะไรได้ไง?”

"ท่านมียศอะไร?  บังคับบัญชาทหารกี่นาย? "  ซุนเกี๋ยนถาม

"เรียนท่านแม่ทัพ  ข้าเคยเป็นผู้นำกองทหารม้าภายใต้บังคับบัญชาของตั๋งโต๊ะ เป็นรองแม่ทัพของหูเจิน  บังคับบัญชาทหารราบสามพันนาย และทหารม้าสองพันนาย  "

บังคับบัญชาทหารม้าได้?

ซุนเกี๋ยนหรี่ตาลง  บังเอิญว่า  เขากำลังจะจัดตั้งกองทัพม้าพอดี

ในเมื่อ  จ้าวเซินบังคับบัญชาทหารม้าเป็น

เขาก็มีประโยชน์!

"ในเมื่อท่านเคยเป็นผู้บัญชาการทหารม้า  ข้าจะให้ท่านเป็นแม่ทัพทหารม้า ตอนนี้ ข้าต้องการจัดตั้งกองทัพทหารม้าแปดพันนายพอดี ท่านไหวไหม? "  ซุนเกี๋ยน  ถาม

"เรื่องนี้...ข้าเกรงว่าจะยากไปสำหรับข้า! "  จ้าวเซินลังเลและไม่กล้ารับ

เขารู้ดีว่าตัวเองมีน้ำหนักเท่าไหร่

การบังคับบัญชาทหารราบก็ยังพอไหว  แต่ถ้าให้บังคับบัญชาทหารม้า  เขาก็ยังไม่มั่นใจ

ในฐานะแม่ทัพที่ยอมสวามิภักดิ์  เขาไม่กล้ารับปาก!

ซุนเกี๋ยนขมวดคิ้ว  ดูเหมือนว่าตำแหน่งแม่ทัพทหารม้า   มันจะหาคนยากจริงๆ  !

แต่ตอนนี้ เขาไม่มีแม่ทัพทหารม้า  ถึงแม้ว่าหันต๋งและเฉิงผู่จะเป็นขุนพลจากทางเหนือ  แต่พวกเขาก็ไม่เคยบังคับบัญชาทหารม้า

"เอาอย่างนี้  ตอนนี้ข้าให้ท่านเป็นแม่ทัพทหารม้าไปก่อน   "

"ถ้าหากวันข้างหน้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง  ค่อยว่ากันอีกที   "

"ขอรับ!  "   ในเมื่อซุนเกี๋ยนพูดแบบนี้แล้ว จ้าวเซินก็ทำได้แค่ตอบตกลง

ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่  ซูเหมาก็เดินเข้ามาพร้อมกับสีหน้าดีใจ

"ท่านแม่ทัพ  ท่านไป๋หลี่มาถึงแล้วขอรับ  "

"โอ้? ท่านไป๋หลี่  "   ซุนเกี๋ยนดีใจมาก

"ท่านไป๋หลี่ อยู่ที่ไหน? ข้าจะไปพบเดี๋ยวนี้!   "

“อยู่ตำหนักข้างหลังขอรับ!”

"อืม! " ซุนเกี๋ยนพยักหน้า แล้วชี้ไปที่จ้าวเซิน"นี่คือจ้าวเซิน ตอนนี้เขาเป็นแม่ทัพทหารม้าชั่วคราว ต้าหรง เจ้าพาเขาไปทำความคุ้นเคยกับกองทัพของเรา"

พูดจบ  เขาก็รีบเดินออกไปโดยไม่รอการตอบรับของซูเหมา

ทิ้งให้จ้าวเซินกับซูเหมายืนมองหน้ากัน

"ท่านแม่ทัพ  เชิญ" สักพักซูเหมาก็พาจ้าวเซินออกไป

ระหว่างทาง  ซูเหมาไม่ได้ดูถูกจ้าวเซินเพราะเขาเป็นขุนพลที่ยอมสวามิภักดิ์

"ท่านแม่ทัพซู ท่านไป๋หลี่เป็นใครกันแน่?   " จ้าวเซินถามขึ้นมา

"ทำไมนายท่านถึงให้ความเคารพเขานัก?   "

"ท่านไป๋หลี่  หรือ?   "ซูเหมายิ้ม

"ถ้าหากไม่มีท่านไป๋หลี่  พวกเราก็คงจะยึดด่านโสหุยไม่ได้  "

"ท่านไป๋หลี่   คือเทพเจ้าของพวกเรา  "

"...."   จ้าวเซิน

ดูเหมือนว่าที่หลี่ซูวิเคราะห์จะเป็นเรื่องจริง!

กองทัพของซุนเกี๋ยน  มียอดคนอยู่เบื้องหลังจริงๆ!

ท่านไป๋หลี่?

ช่างเป็นบุคคลที่น่าเหลือเชื่อ!

......

"ท่านไป๋หลี่  ทำไมท่านถึงมาช้าเช่นนี้?  ข้ารอท่านมานานแล้ว  "

ตอนที่จ้าวเซินกำลังพูดถึงไป๋หลี่หมิง

ซุนเกี๋ยนก็พาเตียวเลี้ยวและทหารที่แบกหีบสมบัติเข้ามาในตำหนักของไป๋หลี่หมิง

ตำหนักนี้ แม้จะไม่ใหญ่ แต่ก็ถือว่าใหญ่มากในด่าน มันเงียบสงบ!

ไป๋หลี่หมิงกำลังงีบหลับในห้องสมุด หลังได้ยิน เขาก็ยืนและเดินออกไป พลางหัวเราะ

"ท่านแม่ทัพ   เป็นยอดคนจริงๆ ยังเต็มไปด้วยเรี่ยวแรงแม้จะสู้รบมาทั้งคืน "   ไป๋หลี่หมิงหัวเราะ

ซุนเกี๋ยนมองไป๋หลี่หมิงเดินออกมาและรู้สึกมีความสุขกว่าเดิม เขายิ้ม

"ศึกครั้งนี้  ได้ผลตอบแทนมากมาย"  ซุนเกี๋ยนยิ้ม “ข้าตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ”

"ดูจากสีหน้า  ท่านแม่ทัพแล้วคงจะได้ผลประโยชน์มากมายสินะ  "  ไป๋หลี่หมิง  ยิ้ม

"เล่าให้ข้าฟังบ้างสิ  "

"เรื่องนั้น   เอาไว้ทีหลังค่อยคุย  ตอนนี้  ข้ามีธุระสำคัญสองเรื่อง  "  ซุนเกี๋ยนยิ้ม

จากนั้นก็สั่งให้ทหารวางหีบสมบัติลง

พอเปิดหีบออก ก็พบว่าข้างในเต็มไปด้วยทองคำ

แสงสีทองส่องประกาย  ทำให้ทั้งห้องดูหรูหรา

"ท่านแม่ทัพ  ท่านหมายความว่าอย่างไร?   "   ไป๋หลี่หมิงมอง

"ที่นี่มีทองคำสองพันตำลึง  " ซุนเกี๋ยน กล่าว

"เป็นของที่ข้ายึดมาได้จากด่านโสหุย  วันนี้ข้ามอบให้ท่านเพื่อเป็นการขอบคุณที่ท่านช่วยเหลือข้า  "

"ท่านแม่ทัพ  ข้าว่ามันมากเกินไป "  ไป๋หลี่หมิงส่ายหัว

"เมื่อวาน ข้าขอแค่ร้อยตำลึง แต่นี่เพิ่มมาเป็นยี่สิบเท่า มันมากเกินไปจริงๆ  "

"ไม่มากหรอก  "  ซุนเกี๋ยนส่ายหัว

"ถ้าหากไม่มีท่าน พวกเราก็คงจะยึดด่านโสหุยไม่ได้  "

"ถ้าหากท่านไม่รับ  ข้าคงจะอับอายขายหน้า  "

"เอาล่ะ " ไป๋หลี่หมิงยิ้ม

"ในเมื่อท่านแม่ทัพ  ตั้งใจมอบให้  ข้าก็ขอรับไว้   "

"ว่าแต่ เรื่องที่สองที่ท่านพูดถึงคือเรื่องอะไร?   "

พอเห็นว่าไป๋หลี่หมิงไม่ปฏิเสธ ซุนเกี๋ยนก็ดีใจ

แต่พอได้ยินประโยคที่สอง เขาก็ทำสีหน้าลำบากใจ

จากนั้น  เขาก็สั่งให้ทุกคนออกไป  เหลือแค่เตียวเลี้ยว  ที่ยังคงยืนอยู่ข้างหลังเขา

ไป๋หลี่หมิงหรี่ตาลงตอนเห็นสีหน้าของซุนเกี๋ยนและถาม

"ท่านแม่ทัพ  มีอะไรรึเปล่า?  "  ไป๋หลี่หมิง  หรี่ตาลงเล็กน้อย

แต่พอเขาพูดจบ เขาก็เห็นซุนเกี๋ยนก้าวมาข้างหน้า มาข้างโต๊ะ และนั่งลงตรงข้ามไป๋หลี่หมิง

"เรื่องที่สอง  ข้าอยากจะขอให้ท่านออกมาช่วยข้าปราบกบฏ" ซุนเกี๋ยน

พูดจบ  เขาก็ก้มลงคำนับไป๋หลี่หมิงอย่างนอบน้อม

แสดงให้เห็นว่า  เขาจริงใจมากแค่ไหน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด